ลูกเขยมังกร

บทที่ 782 ยายีน



บทที่ 782 ยายีน

“ฮือ? ท่านหลวงจีน ท่านพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?

ศีลสามที่อยู่ด้านข้างถามอาจารย์ฟางเจิ้นด้วยสีหน้าที่มืดมน ราวกับก้นหม้อ

“หลวงจีนน้อยไม่ต้องรีบร้อนพรสวรรค์ด้านทักษะการต่อสู้ของ ท่านถือว่ายอดเยี่ยม ถ้าหากเดินไปถูกทางความแข็งแกร่งของ ท่านจะเพิ่มพูนขึ้นเอง ดังนั้นถึงแม้ว่าพรสวรรค์จะสำคัญแต่สิ่งที่ สําคัญที่สุดคือการเลือกเดินทางที่ถูก!

อาจารย์ฟางเจิ้นพูดอธิบายให้ศิลสามฟังอย่างช้าๆ

“เดินทางที่ถูก? ท่านหลวงจีนหมายถึงตอนนี้ฉันกำลังเดินทาง ผิด?” ศีลสามขมวดคิ้วแน่นและสีหน้าของเขายิ่งมืดลง

“ไม่กล้าชี้แนะ อาจารย์ฟางเจิ้นถึงแม้ว่าผมจะเป็นผู้นำทักษะ การต่อสู้ให้กับเสี่ยวเฟิง และเช่นเดียวกันผมก็ได้สอนทักษะการ สังหารและการเอาตัวรอดด้วย ผมไม่ใช่อาจารย์ของเสี่ยวเพิ่งแต่ เป็นศิษย์ของเขา ผมเคยสอนเขาแค่เรื่องพวกนี้เท่านั้น ส่วน เรื่องวรยุทธและกระบวนท่ารวมไปถึงพลังของหัวจิ้งชั้นกลางล้วน แต่พึ่งความสามารถของเขาเองจนมาถึงจุดนี้ได้ ผมไม่ได้ช่วย อะไรเขาเลยแต่ในทางกลับกันเสี่ยวเฟิงกลับทำให้ผมต้องตกใจ ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ผมคาดไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา!”

ในขณะที่อาจารย์ฟางเป็นกำลังโต้เถียงกับศีลสาม เย่หนานเทียนไอแห้งๆ หลังจากนั้นก็นำบทสนทนากลับมาอีกครั้ง

“เห้อ ฟางเจิ้นไต้ซือฉันว่าท่านปล่อยวางเถอะ ท่านลองคิดดู สืบทอดของฉันและของท่านล้วนแต่ถือว่าใช้ได้ แต่เมื่อนำมา เทียบกับเสี่ยวเฟิงแล้วมันไม่สามารถเทียบได้เลย แต่ว่าพูดไปพูด มาในประวัติศาสตร์ศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวาคนที่มี พรสวรรค์อย่างเฉินเฟิงมีแค่กี่คน? ปล่อยให้มันเป็นไปตาม ธรรมชาติเถอะ!” จียุ่นถอนหายใจแล้วพูดอธิบายอยู่ด้านข้าง

“อืม มันก็ถูก ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ!”

ฟางเจิ้นไต้ซือพยักหน้า อู่จื่อโจว ฉางซางโป๊และทุกคนที่ นั่งอยู่ตรงนี้ล้วนแต่เข้าใจ ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ด้านวรยุทธของศีล สามจะสูงแค่ไหน แต่เมื่อเทียบกับวรยุทธที่หักดิบของเฉินเฟิงยัง มีข้อบกพร่องมากเกินไป

“ลูกศิษย์ของท่านถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทั้งๆที่อายุยังน้อยแต่ สามารถก้าวข้ามอาจารย์ของตัวเองไปได้ ถ้าหากเขาเป็นแบบนี้ ตลอดทางในอนาคตจะต้องกลายเป็นคนที่มีพลังไร้ขีดจำกัด อย่างแน่นอน!”

สายตาของอู่จื่อ โจวหันมองไปทางเยเทียนหนาน ในแววตา ของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“อืม อนาคตที่ไร้ขีดจำกัด แม้ว่าเจ้าเด็กคนนี้จะบรรลุถึงระดับ ดินแดนลึกลับขั้นเซียนฉันก็ไม่รู้สึกแปลกใจ ในทางกลับกันมัน อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว!” ชางโป๊อดไม่ได้ที่จะพูดชม ถึงแม้ว่าฟางเจิ้งไต้ซือและจีอู๋ฉางจะไม่ได้พูดอะไร แต่ตอนที่ซาง โป๊กำลังพูดพวกเขาสองคนก็พยักหน้าเห็นด้วย

*สามารถเป็นศิษย์พี่ของเขาถือว่าเป็นความภาคภูมิใจและ เกียรติของผม นี่คือโชคชะตาและโอกาสของผม!

เย่หนานเทียนพูดพร้อมกับจ้องมองเฉินเฟิงที่อยู่ภายใต้ สายตานับหมื่นคู่ ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความภาคภูมิใจ

และรอยยิ้ม

ทุกคนในประเทศหวาเกือบส่วนมากทุกคนล้วนแต่มีความสุข แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขก็มีคนเศร้าด้วย อีกด้านหนึ่ง ของสำนักหงเหมิน หงเทียนป้า กงปั่นเหยแห่งญี่ปุ่นและโซโล ใบหน้าของทั้งสามคนดูเคร่งขรึมมาก

ถ้าหากบอกว่าเดิมทีเรื่องการสังหารเฉินเฟิงยังรู้สึกลังเลอยู่ บ้าง เท่ากับว่าตอนนี้พวกเขาตัดสินใจที่จะกำจัดเฉินเฟิงหนาม ยอกอกของพวกเขาแล้ว

ถ้าหากปล่อยให้เงินเฟิงยังคงก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ มันอาจจะ ส่งผลกระทบภัยคุกคามถึงชีวิตของพวกเขา แม้กระทั่งตอนนี้ พวกเขาก็เริ่มรู้สึกถึงแรงกดดันแล้ว

อาเธอร์ที่นั่งมองอยู่บนอัฒจันทร์ตอนนี้ใบหน้าซีดขาว ในตอน นี้เขารู้สึกถึงความไร้เรี่ยวแรงปรากฏขึ้นในใจ

เดิมทีตอนที่เขาถูกเฉินเฟิงตัดแขนหนึ่งข้าง ตอนแรกเขาอยาก จะฆ่าตัวตายแต่เมื่อได้ยินพระสันตะปาปาโจ้บอกว่าเขายังสา มารถรักษาวรยุทธไว้ นี่จึงเป็นการจุดประกายความหวังของอา เธอร์อีกครั้ง
ในการแข่งขันชิงแชมป์ศิลปะการต่อสู้ในครั้งสุดท้ายนี้อาเธอร์ มาพร้อมกับความกดดัน เขาอยากจะดูว่าเฉินเพิ่งจะพ่ายแพ้ให้ กับ คุนอย่างไร

แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงก็คือจู่ๆเฉินเฟิงไม่เพียงแต่สามารถบรรลุ ขั้นหัวจิ้งชั้นกลางเท่านั้น หลังจากที่สามารถบรรลุขั้นหัวจิ้งชั้น กลางพลังของเฉินเฟิงก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างที่ไม่เคย เป็นมาก่อน และยังสามารถเอาชนะคนด้วยความแข็งแกร่ง ล้วนๆ ท้ายที่สุดสังหารคนและตัดหัวของเขาลงมา

วินาทีนี้ไฟแห่งการแก้แค้นของอาเธอร์มันมอดดับลงเหมือน กับหิ่งห้อย และเขาถึงขั้นรู้สึกว่าไม่กล้าเปิดศึกกับเฉินเฟิง ความ แข็งแกร่งของพวกเขามันห่างชั้นกันเกินไปแล้ว

“ยอดเยี่ยมมาก ฝ่าบาท ท่านเลขาดูสิ ฉันพูดไม่ผิดใช่หรือ เปล่ายังไงเฉินเฟิงแห่งประเทศหวาก็ต้องชนะ!”

“ใช่แล้ว ธิดาแห่งพรรคมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม

เลขาธิการโมดริชตอบกลับพร้อมกับยิ้มแห้งๆ

ส่วนพระสันตะปาปาโจ้ก็ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร ในแววตาของ เขากำลังครุ่นคิดแต่ไม่รู้ว่าคิดอะไร

“เฉินเฟิงผู้ชนะ!”

“เฉินเฟิงแห่งประเทศหวา

เสียงที่ตื่นเต้นของผู้ชมยังคงดังก้องอยู่ในสนามประลอง และ ในตอนนั้นเองผู้ตัดสินที่สวมชุดสีดำทั้งตัวพุ่งมายืนอยู่ที่ใจกลางสนามประลองภายในพริบตาและประกาศผลการแข่งขัน

หลังจากที่จบการแข่งขันแล้วยังมีพิธีมอบถ้วยรางวัล แต่ พิธีการแบบนี้ต้องรอให้หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน ดังนั้นผู้ ตัดสินถึงแทบจะรอไม่ไหวแล้วจึงรีบประกาศผลการแข่งขันทันที

มาจนถึงตอนนี้การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกก็ถือว่าสิ้น

สุดลง ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้คือเงินเฟิง

หลังจากที่ผู้ตัดสินประกาศผลการแข่งขัน ก็มีพนักงานของ องค์กรศิลปะการต่อสู้สองคนขึ้นมาเก็บกวาดสถานที่

“เฉินเฟิง พวกเราต้องจัดการกับศพของคนโปรดส่งหัวให้ผม ด้วย!”

พนักงานคนหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิงแล้วพูด

“หัวของเขาฉันจะเอากลับประเทศหวา!”

เฉินเฟิงมองพนักงานคนนั้นด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง หัวของคุ นมันมีความหมายมาก

“อืม เรื่องนี้ผมจะไปรายงานให้เบื้องบนทราบเอง!! พนักงาน คนนั้นพยักหน้า

เฉินเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็ยื่นหัวที่อยู่ในมือให้ พนักงาน เขารู้ดีว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงแค่พนักงาน ธรรมดาไม่มีสิทธิ์อะไรมาตัดสิน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมาพูด เปลืองน้ำลายกับเขา
หลังจากที่สนามประลองจัดการได้เกือบพอประมาณแล้ว พิธีกรคนนั้นก็กล่าวขึ้นบนสนามประลองอีกครั้ง

“ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีการแข่งขันได้สิ้นสุดลงแล้ว ทุกท่านคิดว่าเป็นการแข่งขันที่สนุกหรือเปล่า?”

หลังจากที่พิธีกรพูดจบ ก็ยื่นไมโครโฟนที่อยู่ในมือออกไปข้าง

หน้าและทำท่าเงี่ยหูฟัง

“สนุก!”

“แล้วการแข่งขันครั้งนี้ตื่นเต้นหรือเปล่า?” พิธีกรยังคงถามต่อ

“ตื่นเต้นมาก!

ผู้ชมตอบตามความเป็นจริง

“งั้นต่อไปผมจะขอเรียนเชิญท่านประธานองค์กรศิลปะการ ต่อสู้โลกหรือก็คือพระสันตะปาปาโจ้แห่งวาติกันขึ้นมาเป็นผู้ มอบรางวัล!” หลังจากที่พิธีกรพูดจบเสียงปรบมือดังก้องสนั่น ไปทั่ว

สายตาของผู้ชมส่วนใหญ่จับจ้องไปทางโซนที่นั่งแขกผู้มี เกียรติ พระสันตะปาปาโจ้ส์ลุกขึ้นอย่างช้าๆภายใต้สายตาของ ผู้คนเดินออกมาจากที่นั่ง

ที่ด้านหลังของพระสันตะปาปาโจ้ส์ยังมีพนักงานสองคนเดิน ตามด้วย โดยคนหนึ่งถือถ้วยรางวัลอีกคนถือขายืน

“หนุ่มน้อย นายคือนักสู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาทําได้ดีมาก!”

พระสันตะปาปาโจ้ เดินมาถึงข้างกายของเฉินเฟิง ในแววตา เต็มไปด้วยความนับถือและคําพูดของเขาเผยให้เห็นถึงการ ชื่นชม

“นี่คือถ้วยรางวัลของนาย นี่คือยายนเป็นรางวัลของระดับ รางวัลชนะเลิศอีกด้วย ฉันเชื่อว่านายเข้าใจวิธีการใช้ยานและ จะใช้อย่างสมเหตุสมผล!

พระสันตะปาปาโจ้ รับถ้วยรางวัลและยาขึ้นมาจากพนักงาน แล้วยื่นให้เฉินเฟิงและสุดท้ายยังไม่ลืมที่จะพูดกำชับ

ในวินาทีนี้สายตาของผู้ชมธรรมดาทั่วไปจับจ้องถ้วยรางวัลที่ อยู่ในมือของเฉินเฟิงด้วยความอิจฉา ส่วนเหล่านักสู้ที่อยู่ใน เหตุการณ์ทุกคนจับจ้องไปที่ยายืนที่อยู่ในมือของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ