ลูกเขยมังกร

บทที่247 ลุงสามมาแล้ว



บทที่247 ลุงสามมาแล้ว

“ไม่เกี่ยวอะไรกับนาย แต่กับเขา เกี่ยวข้องแน่นอน” หลินตงเล่นหู เล่นตามองไปที่เฉินเฟิง

เฉินเฟิงขมวดคิ้วแน่น

“หลินตง นายหมายความว่ายังไง? ! ” จูกว่างฉวนโกรธเป็นฟืนเป็น

ไฟ

“ไม่ได้หมายความว่ายังไง เสี่ยวหยัน นายบอกกับทุกคนไปซิ นาฬิกาโรเล็กซ์ของนายหายได้อย่างไร” หลินตงเหลือบมองชายหนุ่ม ใส่แว่นตาสีทองที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความเกียจคร้าน

ชายหนุ่มคนนั้นโต้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว หลินตงเพิ่งจะพูดจบ ประโยค ก็ชี้ไปที่เฉินเฟิงพร้อมเอ่ยพูดด้วยความโกรธ : “คือเขา เมื่อ ตะกี้ตอนที่เข้ามาในห้องโถง ชนกับฉัน หลังจากนั้นนาฬิกาโรเล็กซ์บน ข้อมือฉันก็หายไปแล้ว”

“หะ? ”

กลุ่มคนเกิดความโกลาหลขึ้นทันที

“เดิมที่คิดว่าไอ้หนุ่มคนนี้มาแค่กินข้าวฟรี คิดไม่ถึงว่ายังจะเป็นหัว

ขโมยอีกด้วย”

“แม่งเอ้ย จะขโมยของทั้งทีก็ดันมาขโมยที่นี่ รนหาที่ตายแท้ๆ”

“แล้วอีกอย่างที่ขโมยไปยังเป็นนาฬิกาโรเล็กซ์ นาฬิกาโรเล็กซ์ของ เสียวหยัน ราคากว่าสามแสนหยวนเลยแหละ”

“ทุกคนมาช่วยกัน ตีไอ้หัวขโมยคนนี้ให้ตาย!

กลุ่มคนแห่กันเข้ามา อยากจะตีหัวขโมยกันอย่างคึกคัก

กลุ่มคนพากันห้อมล้อมเฉินเฟิงและจูกว่างฉวนไว้ตรงกลางพร้อม

มองด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร “หลินตงนายเล่นสกปรกอะไร? ! “จูกว่างฉวนกัดฟันเอี้ยดอ๊าด เขา คิดไม่ถึงว่า หลินตงจะกล้าโยนความผิดให้คนอื่นต่อหน้าผู้คนมากมาย อย่างไม่ละอายใจขนาดนี้

“ไอ้ซากศพหมู ถึงพูดอะไร? กฟังไม่เข้าใจ”

หลินตงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้สนใจจูกว่างฉวนเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อจูกว่างฉวนและเฉินเฟิงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน งั้นเขาก็เลย ทำให้เฉินเฟิงกลายมาเป็นหัวขโมยสะเลย

สรุปได้ว่า ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามแต่หากสามารถทำให้จูกว่างฉวน อับอายได้ เขาก็ยอมที่จะทำ

“เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นมา เอาตัวสองหนุ่มนี้ไปส่งที่ สถานีตำรวจ” หลินตงพูดเบาๆ ราวกับว่าทุกสิ่งอย่างอยู่ในการควบคุม ไว้หมดแล้ว

“ทุกคนสำรวจดูบนตัวของตัวเองยังมีสิ่งของอื่นๆ หายไปอีกหรือ เปล่า ถึงอย่างไรคนที่ชอบขโมยไปที่ไหนก็ต้องขโมย ของที่คนนี้ขโมย ไป คงไม่ใช่แค่นาฬิกาโรเล็กซ์เรือนเดียว” เสี่ยวหยันยิ้มพร้อมพูดเตือน

“จริงด้วย ทุกคนรีบสำรวจดู”

“สร้อยคอของฉันล่ะ? ”

“กระเป๋าเงินของฉันด้วย! ”

“พระหยกของฉันก็หายไปแล้ว! ”

กลุ่มแก๊งเพื่อนชั่วๆของหลินตงต่างพากันเอ่ยปากพูดอย่างตื่น

ตระหนก

“เกินไปแล้ว”

นี้คือ เสียงที่เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดออกมาอย่างเนิบๆ เขาแสดงท่าทาง ที่สงบนิ่ง มองไม่ออกว่าดีใจหรือกำลังโกรธ

“เกินไปเหรอ? ” หลินตงยกมุมปากขึ้น : “คุณหัวขโมย ถีงกำลังคุย

อยู่กับกูเหรอ? ” เฉินเฟิงกลับไม่ได้โต้ตอบอะไร ได้แต่ย้อนถามอย่างนึ่งๆ: “นายคง อยากรู้ใช่ไหมว่าจุดจบของการใส่ร้ายฉันคืออะไร?

“จุดจบ? ฮาฮาฮาฮา” หลินตงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะจน น้ำตาไหลออกมาแล้ว เขาชี้ไปที่สันจมูกของเฉินเฟิง; “มึงก็แค่ไอ้หัว ขโมย ถึงกล้ามาพูดเรื่องจุดจบกับกู? ”

“ถึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร? ”

“กูชื่อหลินตง! ลุงของกู มีชื่อว่าหลินจ้าวจง เขาเป็นทายาทของ

ตระกูลหลิน!

“ตระกูลหลิน? ตระกูลหลินรู้จักไหม? คนบ้านนอก! ”

“ไม่รู้จัก” เฉินเฟิงสายหน้าอย่างนิ่งๆ

“ไม่รู้จัก ฮาฮาฮา แม้แต่ตระกูลหลินก็ไม่รู้จัก? ! ” หลินตงขำจน ท้องแข็ง ราวกับว่าการไม่รู้จักตระกูลหลินเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อยังไง อย่างนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน เขาถึงจะหุบยิ้ม

“ก็จริง คนบ้านนอกแบบถึง ไม่รู้จักตระกูลหลินมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่ แล้ว”

“แต่ว่าในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลิน ฉันก็มีความจำเป็น ต้องบอกให้ถึงรู้ ตระกูลหลินทำเกี่ยวกับอะไร” นัยน์ตาของหลินตงส่อง ประกายความโหดร้ายออกมา พูดพร้อม ยกมือของเขาขึ้นมา

แต่ในเวลานี้ กลับมีเสียงโห่ร้องต้อนรับแขกผู้มีเกียรติดังเข้ามาจาก

หน้าประตู

“ลุงสามมาถึงแล้ว!

เสียงฮือฮาไปทั้งห้องโถง

หลินตงที่ง้างมือขึ้นมา ก็ค้างไว้กลางอากาศ จากนั้นเขาก็ดีใจอย่าง

เป็นบ้าเป็นหลัง

ในที่สุดลุงสามก็มาแล้ว? ! ในตอนนี้ หลินตงก็ไม่สนใจที่จะไปตอบโต้อะไรกับเฉินเฟิงและจู

กว่างฉวน

พร้อมก้าวเท้าอย่างรวดเร็วเดินตรงไปที่ประตู เพื่อต้อนรับลุงสาม

ด้วยตัวเอง

“หลินตงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก เขาแต่งงานลุงสามก็มาร่วมงาน

ด้วย”

“ลุงสามรักและโอ๋หลินตงมาก แม้ว่าหลินตงจะเป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูก น้องของเขาที่อยู่ห่างไกล แต่ว่าทุกปี ลุงสามก็จะมาเยี่ยมเยียนเพื่อเป็น กำลังใจให้กับหลินตง”

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว อดไม่ได้ที่จะมองไปที่หน้าประตูแวบหนึ่ง เขา อยากจะรู้ ลุงสามผู้ที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นคือใคร ทำไมถึงใหญ่โต ขนาดนี้

หลังจากที่มองไปเห็นชายหัวล้านที่มีใบหน้าที่คุ้นเคยคนนั้น เฉินเฟิ

งก็อดไม่ได้ที่ตะตกลง

ชายหัวล้านคนนี้ ไม่ใช่คนเมื่อกี่วันก่อนที่โดนชดใช้เงินจำนวนห้า ร้อยล้านหยวนให้กับหลินหลันที่ยู่ฉวนซานเหรอ?

เหมือนจะเรียกว่าหลิน….หลินจ้าวจง?

ทันใดนั้นเฉินเฟิง ก็เพิ่งจะคิดขึ้นได้ เมื่อกี้หลินตงเพิ่งจะพูดชื่อนี้ เขา ในตอนนั้นก็รู้สึกคุ้นๆ แต่กลับจับต้นชนปลายไม่ถูก

ตอนนี้ได้เห็นชายหัวล้านคนนั้นกับตา เฉิงเฟิงก็เข้าใจแล้ว แท้ที่จริง ทายาทของตระกูลหลินที่หลินตงพูดมานั้น ก็คือหลินจ้าวจง

“ยินดีต้อนรับลุงสามที่มาร่วมงานผมขอโทษที่ไม่ได้ออกไปรอรับ ด้วยตัวเอง” ต่อหน้าของหลินจ้าวจง หลินตงก็อ่อนโยนเหมือนกับ กระต่ายตัวนึงยังไงอย่างนั้น ไม่ได้หยิ่งผยองเหมือนก่อนหน้านี้แม้แต่ น้อย

ถึงแม้ว่าเขาพูดกับภายนอกว่าเขาเป็นคนของตระกูลหลิน แต่มีเพียงเขาเองที่รู้ดี เขาก็เป็นเพียงญาติห่างๆของหลินจ้าวจง ความเกี่ยวข้องสิ่งเดียวกับตระกูลหลิน ก็คือเขามีนามสกุลหลินเหมือน กัน

ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมาได้ทำดีกับหลินจ้าวจง สร้าง ความประทับใจที่ดีไว้ให้กับหลินจ้าวจง เขาก็ไม่มีความสัมพันธ์ที่ เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลหลินเลย

“ฮาฮาฮา เสี่ยวตง วันนี้ที่ลุงสามมา คงไม่ใช่เพื่อมาฟังคำพูดเกรงอก เกรงใจของนายนะ ลุงสามมาเพื่อร่วมฉลองงานแต่งงาน” หลินจ้าวจง ยิ้มพร้อมตบๆไปที่ไหล่ของหลินตง เขาในวันนี้ ใบหน้ากลมแดงก่ำ ดู แล้วอารมณ์ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

“เสี่ยวตง น้าและลุงสาม รีบที่จะมาร่วมงาน ก็เลยไม่ได้เตรียมของ ขวัญดีๆอะไรมาให้ นาฬิกาเรือนนี้ นายเก็บไว้น่ะ ถือว่าเป็นของขวัญวัน แต่งงานของนาย” หลินฟางยิ้มพร้อมหยิบนาฬิกาออกมา

กลุ่มคนก็เกิดความโกลาหลทันที

นาฬิกาที่หลินฟางมอบให้แท้ที่จริงแล้วคือ Vacheron Constantin ราคาในตลาดของนาฬิกาเรือนนี้พุ่งสูงถึง1.99ล้านหยวน!

หลินจ้าวจงและหลินฟาง ความหมายที่แฝงอยู่ของการมอบนาฬิกา เรือนนี้ให้กับหลินตงในงานวันนี้ ได้ปรากฏออกมาชัดเจนแล้ว

ก็คือหวังว่าหลินตงและเน่เชี่ยน จะรักกันชั่วนิจนิรันดร์!

หลินตงค่อนข้างตกใจเล็กน้อย : “ลุงสาม ป้าสาม ท่านทั้งสองมา ร่วมงานได้ เสี่ยวตงก็พอใจมากแล้ว สิ่งของที่มีมูลค่าขนาดนี้ เสี่ยวตง ไม่กล้ารับไว้อย่างเด็ดขาด”

“เสี่ยวตง” หลินจ้าวจงสีหน้าเคร่งขรึม จงใจแสร้งพูดอย่างโมโห “พูดอย่างนี้ได้ยังไง? ก็แค่นาฬิกาเรือนเดียว มีค่าอะไรขนาดนั้น นาย แต่งงานครั้งเดียวในชีวิต ลุงสามมอบนาฬิกาให้ มันจะทำไมกัน?

“รับไปสะ หากนายยังไม่รับไว้อีก ลุงสามจะออกไปตอนนี้เลย”

“ขอบคุณครับลุงสาม” หลินตงแววตาที่มีความสุข รับนาฬิกาเรือน นั้นไป เห็นถึงสายตาที่อิจฉาของเพื่อนสมัยเรียนและญาติๆ หลินตงก็ รู้สึกหน้าบานเปล่งปลั่ง คนทั้งคนเหมือนจะลอยไปบนฟ้าแล้ว จริงๆแล้วนาฬิกาเรือนนี้ กลับไม่ได้สำคัญอะไร

สิ่งที่สำคัญก็คือ นาฬิกาเรือนนี้หลินจ้าวจงเป็นคนมอบให้

นี้ก็หมายความว่า หลินจ้าวจงเห็นความสำคัญและให้เกียรติเขา! เขาคือหลินตง ต่อไปก็มีหวังที่จะได้เข้าสู่ตระกูลหลิน กลายเป็นคน ชนชั้นสูงที่แท้จริงในเมืองชางโจว!

“ลุงสาม ป้าสาม ขอเชิญสองท่านมาทางนี้” หลินตงโค้งคำนับ ตั้งใจ ให้หลินจ้าวจงและหลินฟางนั่งในตำแหน่งที่มีเกียรติ

“ได้” หลินจ้าวจงยิ้มพร้อมเอ่ยปาก เตรียมจะย่างก้าว เส้นสายตา กลับสะท้อนไปเห็นร่างที่คุ้นเคย

ทันใดนั้น รูม่านตาของหลินจ้าวจงก็หรี่ลง

เมื่อเห็นว่าหลินจ้าวจงหยุดย่างก้าว หลินตงอดไม่ได้ที่จะสงสัย มอง ตามสายตาของหลินจ้าวจงไป กลับเห็นเฉินเฟิงและจูกว่างฉวนยืนอยู่ ตรงนั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ