ลูกเขยมังกร

บทที่ 650 เอาชีวิตแกตอนแกป่วย



บทที่ 650 เอาชีวิตแกตอนแกป่วย

หลังจากวิ่งเถิงสลายการโจมตีของเฉินเฟิงเสร็จ เข้าระยะประชิด ด้วยความโกรธ จู่โจมอย่างดุดันเล็กน้อย ตอนนี้อยากหลบหนีก ไม่ทันแล้ว ได้แต่กางสองแขนกั้นไว้

ปิ้ง—เฉินเฟิงถีบแขนจึงเถิงเข้าอย่างจัง พลังภายในสองฝ่าย แผ่ซ่านออกมาพร้อมกัน

พลั่ก!

ครั้งนี้จึงเถิงออกท่าป้องกันอย่างรีบร้อน ไม่สามารถยืมพลัง ต้านพลังได้ และแทบจะเรียกพลังต้านทานไม่ได้เลย ทำให้พลัง ภายในไหลเข้าร่างกายจนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เลือดลมเดิน ปั่นป่วน กาบเรือใต้เท้ายิ่งแตกกระจายเกิดเสียงดังและเหลือรอย เท้าหนักแน่นติดพื้นไว้สองรอย

ส่วนเฉินเฟิงสะเทือนหลัง เขาหมุนตัวลงมายืนที่พื้นอย่างมั่นคง

พอลงพื้น เฉินเฟิงไม่หยุดนิ่ง แต่อาศัยตอนเลือดลมในตัวจึง เถิงปั่นป่วน พลังภายในยังสับสนอยู่ พุ่งจู่โจมเข้าหาจึงเถิงทันที

เอาชีวิตแกตอนแกป่วย!

เฉินเฟิงตัดสินใจไม่ให้โอกาสจึงเถิงปรับลมปราณมาจู่โจม

กลับ!
พลักพลิกพลั่ก…

ไม่นานเสียงหมัดเท้าประสานรวมกันดังขึ้นอีกครั้ง ประหนึ่ง ดาบมีดสอดประสาน เสียงน่ากลัวมาก

บนกาบเรือ เฉินเฟิงใช้ทุกวิชาราวกับปีศาจ พุ่งโจมตีฉิ่งเถิง อย่างบ้าคลั่ง ทั้งคู่ประมือกันด้วยความเร็วสูงสุด จนทำให้ นอกจากคนที่เป็นระดับปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ขึ้นไปแล้ว คน อื่นมองท่วงท่าของพวกเขาไม่ทันเลย คลับคล้ายว่าเห็นเฉินเฟิง โจมตีไม่หยุด ส่วนจิ่งเถิงก็คอยหลบหลีกและป้องกันไม่หยุด เหมือนกัน

กดดัน!

นับตั้งแต่เริ่มประลอง เฉินเฟิงงัดเอาประสบการณ์การต่อสู้ ผ่านความเป็นความตายแสดงออกมาจนหมดเปลือก ออร่าเขา กดดันจึงเถิงอยู่ตลอด ไม่ให้โอกาสจึงเถิงตอบโต้กลับเลย เรียก ว่าอัดกระหน่ำใส่จึงเถิงอยู่ฝ่ายเดียว!

“เฉินเฟิงกระหน่ำกดดันจึงเถิงจนไม่มีโอกาสตอบโต้เลยได้ยัง ไงกันเนี่ย?”

พอเห็นฉากนี้ บรรดาศิษย์สำนักน้อยใหญ่ที่อยู่บนเรือลำที่หนึ่ง ต่างตะลึงมองตาค้างอยู่กับที่ พวกเขาต่างมีข้อกังขาแบบนี้อยู่ใน ใจกันทั้งนั้น

เป็นไปได้ยังไง?

“ดีมาก!
“ซัดมันให้ตายเลย!”

สิ่งที่ตอบรับพวกเขามีแต่เสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้น

บนเรือล่าที่สาม พวกหมู่เหวินโปเห็นเฉินเฟิงกดดันรัวหมัดใส่ จิ่งเถิง แต่ละคนตื่นเต้นเหมือนไก่ตีปีก พากันโห่ร้องเสียงดัง เรียกได้ว่าตื่นเต้นกันสุดๆ

คําโบราณกล่าวไว้ คนนอกเห็นสนุก คนในเห็นวิชา พวกหมู่เห วินโป๊เห็นแค่เฉินเฟิงกดดันรัวหมัดใส่จึงเถิง พวกปรมาจารย์ด้าน การต่อสู้กลับเห็นเคล็ดลับถึงทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันอย่างดุ เดือด แต่เฉินเฟิงก็แค่ได้เปรียบด้านออร่า ไม่ได้ทำร้ายอะไรจึง เถิงได้จริงจัง

จากนั้น—ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ก็เพียงพอที่จะเหนือความ คาดเดาของคนมากมายแล้ว มีปรมาจารย์ด้านการต่อสู้คนหนึ่ง ทนไม่ไหวพูดออกมาว่า “ผู้สืบทอดตระกูลจึงไม่ได้เก่งอย่างที่เขา ลือกันนี่นา”

“ไม่เพียงแค่ผู้สืบทอดตระกูลลิ่ง เฉินเฟิงเองก็ด้วย—จาก ความสามารถที่แท้จริงที่เฉินเฟิงแสดงออกมาตอนนี้ เขาน่าจะไม่ สามารถฆ่าล้างบางนินจาชั้นสูงสองคนนั้นของญี่ปุ่นได้นี่นา” บาง คนเริ่มเห็นด้วย และแสดงความคิดเห็นที่ต่างออกไป

“นั่นเป็นเพราะว่าเฉินเฟิงยังไม่ได้ใช้ความสามารถที่แท้จริง ออกมาทั้งหมด”

ก่วนหนานเทียนเอ่ยปากแล้ว เขาเคยเห็นคลิปวิดีโอที่เฉินเฟิง ไล่ฆ่านินจาชั้นสูงสองคนนั้นที่สำนักใหญ่ขวัญนินจา รู้และเข้าใจความสามารถที่แท้จริงของเฉินเฟิงดี

ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเฉินเฟิงใช้วิธีอะไรเก็บความสามารถที่แท้จริง ของตัวเองไว้ แต่เขามองออกว่า เฉินเพิ่งเปลี่ยนใจกะทันหัน และ ไม่ได้ควักเอาความสามารถส่วนที่แกร่งที่สุดออกมา เหมือน กำลังประลองฝีมือกับสิ่งเก๋ง

“เอ๋..”

พอได้ยินคำพูดนี้ของก่วนหนานเทียน ปรมาจารย์ด้านการ ต่อสู้ที่อยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์คงเหมิง ปรมาจารย์จาง จ้าวอู๋เต้าและเฉียวอู่โต รวมถึงจึงหยุนเฟิงและวิ่งเซอเหมิงสอง คน และคนอื่นต่างพากันอึ้ง

“หมัดหยินหยางสืบทอดมายาวนาน ก็แค่นี้เอง!

ในตอนนี้เอง เฉินเฟิงกับนิ่งเถิงแยกกัน เขาไม่ได้ลงมืออีก แต่ กลับยืนอยู่กับที่ และจู่ๆก็เอ่ยปากออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วย ความหยามหยัน!

เหมือนที่ส่วนหนานเทียนสรุปเป๊ะ เฉินเฟิงไม่ได้ใช้ความ สามารถที่แท้จริงออกมาทั้งหมด

ช่วงนี้เขาศึกษาพลางผสมผสานข้อดีของวิทยายุทธ์ต่างๆเข้า กับสภาพร่างกายตัวเอง เกิดเป็นวิชาเฉพาะของเขา ตอนนี้เป็นก ระบวนท่าที่สองหลังจากหักแม่น้ำ แต่ยังไม่ถึงขั้นสร้างวิทยายุทธ์ แบบใหม่ทั้งเซ็ตออกมาได้

เดิมทีเฉินเฟิงชกหมัดหนึ่งทำจึงเถิงล่าถอย เขาเลือกที่จะจู่โจมก่อน คิดจะกระหน่ำอัดจึงเถิงต่อหน้าทุกคน แต่เปลี่ยนใจ กะทันหัน หลังจากจึงเถิงใช้หมัดหยินหยางเพิ่มพูดความสามารถ ขึ้น รับรุกพร้อมเพรียง ทำให้เขารู้สึกว่าวิชานี้มีจุดพิเศษอยู่

เมื่อกี้เขากระหน่ำจู่โจมจิ่งเถิงสิบกระบวนท่า ถึงแม้ทำร้ายจึง เถิงไม่ได้ แต่ก็ทำให้เขารับรู้ได้ถึงลักษณะพิเศษของหมัดหยิน หยางได้

“เอ๋”

จู่ๆได้ยินเฉินเฟิงพูดแบบนี้ ทุกคนอดอึ้งไม่ได้

นับแต่โบราณมา หมัดหยินหยางมีชื่อเสียงในวงการศิลปะ การต่อสู้ของหวาเซียมาช้านาน ไม่เคยมีใครกล้าดูเบา ตรงกัน ข้าม ทุกครั้งที่คนตระกูลจึงออกสู่โลกภายนอกจะต้องสะเทือน วงการศิลปะการต่อสู้ทุกที

ส่วนครั้งนี้จึงเถิง ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลจึงออกสู่ยุทธภพ ใช้ หมัดหยินหยางประลองเป็นตายกับเฉินเฟิง ไม่เพียงตกเป็นรอง แถมยังโดนเฉินเฟิงกระหน่ำอัดไม่ยั้ง แถมยังโดนเฉินเฟิงหยาม หยันเข้าให้ แบบนี้จะไม่ทำให้ทุกคนตกตะลึงได้ยังไง?

“เสี่ยวเถิง ให้มันรู้จักหมัดหยินหยางที่แท้จริงเลย!”

ในตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึง จึงหยุนเฟิงที่เงียบอยู่นานพูด ออกมาแล้ว ความโกรธ ในน้ำเสียงเขาเต็มเปี่ยม ยังไม่เคยมีใคร กล้าเหยียดหยามหมัดหยินหยาง เฉินเฟิงเป็นคนแรก!

“ครับ คุณปู่!”
ตั้งแต่เริ่มประลองจนตอนนี้ จึงเถิงตกอยู่ในสถานะด้อยกว่า ก่อน เมื่อกี้ยังมาโดนเฉินเฟิงหยามหยันเข้าให้ โกรธจนแทบตับ แลบแล้ว ตอนนี้พอได้ยินจึงหยุนเฟิงบอก เลยรับคำในทันที และ จ้องมองเฉินเฟิงอย่างแตกดันระคนโกรธขึ้ง “ไอ้หมอ ไม่นานฉัน จะทําให้แกได้รู้ว่า แกมันโง่มากแค่ไหน!” พอพูดจบ พลังในร่าง จิ่งเถิงก็ปะทุดุงภูเขาไฟระเบิดฉับพลัน

หือ?

นอกจากคนที่ค่อนข้างเข้าใจหมัดหยินหยางอย่างพวกส่วน หนานเทียนแล้ว รวมถึงพวกปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ คนอื่นที่รับ รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของจึงเถิงต่างพากันอึ้ง

“นี่มันอะไรกัน?”

“นี่เขาคิดจะบรรลุระดับกลางหัวจึงต่อหน้าทุกคนเลยหรอ?” นอกจากตกใจแล้ว มีคนถามสิ่งที่สงสัยออกมา หนึ่งในนั้นเป็น ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้

พอได้ยินปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ท่านนั้นพูด แทบทุกคนหัน

ไปมองส่วนหนานเทียน

ส่วนหนานเทียน ในฐานะประธานสมาคมการต่อสู้ของหวาเซีย เป็นผู้อาวุโสที่สุดในที่นี้ และมีความรู้มากที่สุดด้วย

พวกเขารอคอยก่วนหนานเทียน ให้คำอธิบาย

“จุดเด่นของหมัดหยินหยางคือการปรับเปลี่ยนหยินหยาง หยินและหยางประคองกัน เตรียมพร้อมทั้งรุกและรับ และเป็นได้ทั้งหยินและหยาง รับและรุก เมื่อใดที่ผู้ฝึกหมัดหยินหยางล้มเลิก จู่โจมหรือตั้งรับ พลังในด้านใดด้านหนึ่งจะเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว

เขารับรู้ได้ถึงความสงสัยของทุกคน ส่วนหนานเทียนอธิบาย เนิบช้า เฉลยข้อสงสัย แกล้งพูดให้ดังขึ้น พอที่จะทำให้เงินเฟิง ได้ยินชัดเจน และเป็นการเตือนให้เฉินเฟิงระมัดระวังตัวไปในตัว ด้วย

“หมัดหยินหยางประหลาดอย่างนี้เลย มิน่าถึงได้รับการ ยกย่องเป็นหนึ่งในวิชาลับสุดยอดของหวาเชี่ย!”

“เมื่อกี้ถึงเฉินเฟิงจะได้เปรียบ แต่เป็นเพราะอาศัย ประสบการณ์การต่อสู้ผ่านความเป็นความตายมา แถมยังไม่ได้ ทำร้ายจึงเถิงได้ ถ้าเป็นไปตามที่ประมุขส่วนพูดจริงๆ งั้นต่อมา เฉินเฟิงน่าจะอันตรายแล้วล่ะ!

คำพูดของส่วนหนานเทียนทำให้คนที่ไม่รู้จักหมัดหยินหยาง เข้าใจ และพากันหันไปมองเฉินเฟิงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ