ลูกเขยมังกร

บทที่ 700 ความโมโหของข่ายซ่า



บทที่ 700 ความโมโหของข่ายซ่า

เวลานี้ข่ายซ่าก็แค่รู้สึกร่างกายแผ่วเบา เวลานี้เขารู้สึกเหมือนฝัน แค่ว่าฝันนี้ เป็นฝันร้าย

เขาตั้งใจส่งสายตาไปยังเฉินเฟิง คนประเทศหวาที่ต้อยต่ำ ใน สายตาของเขา ตอนนี้ในสายตาของเขากลับดูลึกลับอย่างเทียบ เทียนไม่ได้

เขากับองค์หญิงแอนนี่มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้ องค์หญิงแอนนี่ไม่เห็นครอบครัว โรโปร์ในสายตา

มีความสัมพันธ์อะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้องค์หญิงแอนนี่พูดจา เหยียดหยามเขาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้

“ทําไม? ”

ตอนนี้ขายซาคิดยังไงก็คิดไม่ออก ทันใดนั้นเรือนร่างของ เฉินเฟิง ก็ได้กลายเป็นสิ่งที่อยู่ในสายตาของเขาทั้งหมด

นี่ไม่เพียงแต่เป็นข้อสงสัยของข่ายซ่า ภายในใจของทุกคนที่ อยู่ในงานก็คิดแบบนี้ ทว่าไม่ว่าผลสรุปจะเป็นอย่างไร ทายาท สืบทอดครอบครัว โรโปรท่านนี้ หลังจากที่ข่ายซ่าจบจากงาน เลี้ยงนี้ ก็จะกลายเป็นที่นินทาในปากของทุกคน

สถานที่บางแห่งในลอนดอน ในวิลล่าแห่งหนึ่ง

“กลับเป็นเขา! ”
ซูซานรู้สึกว่าเงินเฟิงคุ้นตา ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเห็น รายงานหนึ่งหน้าที่เกี่ยวกับเฉินเฟิง

แค่ว่าปกติเธอมัวยุ่งกับอย่างอื่น ไม่ได้สังเกตมอง อีกอย่างที่ แรกเธอก็นึกว่าพวกเขาก็ไม่มีทางคบหากับเงินเฟิงอยู่แล้ว

ตอนนี้เขาก็ได้เห็นรายงานหน้านั้น โดยไม่ได้ตั้งใจ เฉินเฟิงฆ่า นินจาประเทศญี่ปุ่นมากมาย แม้กระทั่งอันดับเทพที่สิบแปดและ สามสิบแปดที่เป็นผู้แกร่งกาจก็ยังตายในมือของเขา

ซูซานจับหนังสือพิมพ์ไว้ สองมือสั่นเทา “เฉินเฟิง คนๆ นี้ อันตรายเกินไป ยังไงก็บอกคุณชายขายซาก่อนจะดีกว่า! ”

เธออดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึงตอนที่อยู่สนามบิน พวกเขากับ เฉินเฟิงมีเรื่องกันเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ทว่ายังไงก็ รู้สึกไม่พอใจกันอยู่บ้าง ซูซานรู้ตัวว่าต้องบอกข่ายซ่าหน่อย จึง ตัดสินใจเอามือถือออกมาแล้วโทรเบอร์ของชายชา

“ตุ๊ด! ตุ๊ด! ตุ๊ด! ”

หอคอยลอนดอน ในปราสาท ทีแรกนี่ก็เป็นงานวันเกิดที่ ครึกครื้น ทว่าตอนนี้ในงานเลี้ยงกลับเงียบกริบอย่างผิดปกติ ไม่มีใครพูด บรรยากาศน่าแปลกมาก

“ติ้งๆๆ! ”

เสียงโทรเข้าอันหนวกหูดังขึ้น ทำให้ทำลายบรรยากาศที่ อึดอัด ทุกคนต่างก็มองไป ก็เห็นมือถือของข่ายซ่า

ข่ายชาควักมือถือออกมา แล้วกดรับสายด้วยสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“คุณชายข่ายซ่า ฉันคือซูซาน ฉันเพิ่งจะสืบประวัติของคน ประเทศหวาคนนั้นมา! ”

เพิ่งจะรับสาย ซูซานก็พูดขึ้นโดยตรง

“อะไรนะ? ทำไมเธอถึงรู้ว่าฉันกำลังจะให้เธอไปสืบประวัติของ เขาล่ะ! ”

ข่ายซ่านิ่งงัน เรื่องนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน ต่อให้การกระจาย ข่าวจะว่องไว ตอนนี้ซูซานก็ไม่มีทางรู้เร็วขนาดนี้

“คือว่า…….”

ซูซานนิ่งเงียบไปสักพัก ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง

ทีแรกเธอรู้สึกว่าก่อนหน้านี้เฉินเฟิงคุ้นตาเล็กน้อย ทว่าตอนที่ เธอเห็นหนังสือพิมพ์ ก็สะดุ้งตกใจจนทั้งเรือนร่างเต็มไปด้วย เหงื่อเย็น กลัวว่าข่ายซ่าจะผิดใจกับฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจึงได้ ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าต้องบอกเขาหน่อย นึกไม่ถึงว่าตอนนี้ขาย ช่ากลับให้เธอไปสืบเฉินเฟิง

“คุณชายข่ายซ่า ทำไมหรอ หรือว่าท่านกับคนประเทศหวาเกิด ปัญหากัน? ”

ภายในใจของซูซานจึงมีความคิดที่ไม่อัศจรรย์ ทว่าเธอเข้าใจ ดีในนิสัยของข่ายซ่า ดังนั้นไม่กล้าถามโดยตรง จึงได้แอบพูด โดยทางอ้อม “เมื่อครู่ฉันไปเจอข่าวที่รายงานเกี่ยวกับประเทศ หวา โดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้นเลยอยากจะรายงานกับท่านหน่อยค่ะ

“เธอว่ามา ไอ้สารเลวนั่นมีฐานะอะไร! ” ตอนนี้ขายซากำลัง เคร่งเครียด จึงพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

คือแบบนี้…..……..ซานบอกข่าวที่เธอออก

ชายชาฟัง

มา แล้วพูดให้

หลังจากที่ข่ายซ่าวางสายก็ลังเลไปสักพัก จากนั้นก็กำลังจะ ขอโทษองค์หญิงแอนนี่ สำหรับเงินเฟิง ในสายตาของเขาก็ยังไม่ สมควรที่จะได้รับการขอโทษจากตัวเอง

“องค์หญิงแอนนี่ ขอโทษด้วยครับ วันนี้ผมเองที่บ้าบิน! ”

ครั้งนี้ข่ายซ่ากลับมา ก็เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์ หญิงแอนนี่ ถึงแม้จะมาถึงจุดๆ นี้ ทว่าเขาก็อยากจะกู้คืนหน่อย

“ท่านข่ายซ่า เมื่อกี้ท่านยังไม่ได้ยินอย่างชัดเจนหรอ? ”

องค์หญิงแอนนี่ตอนนี้ยังไม่ได้รู้สึกหาย โมโห แน่นอนว่าต้อง ไม่ให้สีหน้าที่ดีกับฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว

สีหน้าของข่ายซ่าแปรเปลี่ยนไม่หยุด เหมือนภายในใจกำลัง ต่อสู้กันอยู่ เขาเพิ่งจะบอกว่าเฉินเฟิงเป็นคนป่าเถื่อนที่มี วิวัฒนาการที่ไม่สําเร็จ และยังบอกให้ไล่ฝ่ายตรงข้ามออก ทว่า ตอนนี้สถานการณ์กลับสลับกันอย่างสิ้นเชิง

ถ้าตัวเองขอโทษฝ่ายตรงข้ามด้วยตัวเอง แบบนั้นตำแหน่งที่ เขาอยู่ในสังคมชั้นสูงในอังกฤษ ก็จะหายไปอย่างสิ้นเชิง อีก อย่างเพราะว่าเรื่องนี้ เขาอาจจะกลายเป็นที่เย้ยหยันของคนอื่น
อีกอย่าง เขาคือทายาทผู้สืบทอดครอบครัวโรโปร์ แล้วจะ ขอโทษคนประเทศหวาได้ยังไง

“องค์หญิงแอนนี่ เมื่อครูผมมีปัญหากับคนๆ นี้ ดังนั้นตอนนี้จึง ไม่สามารถขอโทษเขาได้! ”

ข่ายซ่าลังเลไปสักพัก แล้วยังแสดงท่าทางออกมาอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าไม่อยากเสียโอกาสที่ดีในการคบหาแอนนี่ ทว่าตอนนี้ก็ ทำให้เขากลายเป็นที่ตลกของอังกฤษ ก็ต้องสูญเสียสิ่งทดแทนที่ ใหญ่เกินไป

“ได้ งั้นก็เชิญคุณกลับไปเถอะ! ”

องค์หญิงแอนนี่ก็ไม่ได้เกรงใจ จึงรีบรับสั่งให้ไล่แขก โดยทันที

ตอนนี้อารมณ์ของข่ายซ่าไม่สามารถบรรยายออกมา ความ อัดอั้นใจ ความโมโห เขาอดไม่ได้ที่ตะโกนออกมาอย่างเสียงดัง ยังมีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ของเขาดีหน่อย จึง สามารถอดทนกับความโมโห จากนั้นก็ได้ทำความเคารพองค์ หญิงแอนนี่

“องค์หญิงแอนนี่ที่เคารพ เคารพ ขอให้สุขสันต์เนื่องในวันเกิด! ”

ข่ายชาจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างฝืนทน แล้วพูดกับองค์หญิงแอน นี่ หลังจากพูดจบ ก็ไม่หยุดอยู่ที่เดิม แล้วหันหลังจากไปทันที ทุก นาทีทุกวินาทีของเขาต่างก็ไม่ยอมอยู่ต่อที่นี่ เขารู้ว่าองค์หญิงแอ นนี่เป็นคนที่ใจแข็ง และไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆ

ดูเรือนร่างที่มาและจากไปของข่ายซ่า ทุกคนในตอนนี้ต่างก็ค่อนข้างตอบสนองกลับมาไม่ได้ ไหนๆ ฉากๆ นี้ก็ทำให้คนรู้สึก ตกตะลึง หากไม่ใช่เพราะเห็นกับตา พวกเขาต้องไม่เชื่อแน่นอน

องค์หญิงแอนนี่กลับเพื่อคนประเทศหาคนหนึ่ง แล้วไม่สนใจ ทายาทสืบทอดครอบครัว โรโปร์ เรื่องนี้ เชื่อว่าต้องใช้เวลาไม่ นานก็ต้องถูกลือไปทั่วทุกที่ในโลก

ถึงแม้เป็นแบบนี้ ทว่าพวกเขาคิดว่าข่ายซ่าถูกข่มเหงแบบนี้ ต้องไม่ปล่อยเงินเฟิงไปง่ายๆ แน่นอน

ดั่งที่คาดไม่มีผิด ตอนที่ข่ายซ่าเดินไปถึงประตู จู่ๆ ก็หยุดฝีเท้า ลง แล้วหันไปมองเฉินเฟิง นัยน์ตาเผยความโมโห และความ อาฆาตออกมา ความรู้สึกแบบนั้นกำลังบอกเฉินเฟิง ตัวเองไม่มี ทางปล่อยเขาไปเด็ดขาด

สำหรับเฉินเฟิงที่ยังคงสีหน้าแล้วยืนอยู่ตรงนั้น สำหรับการ ข่มขู่ของข่ายซ่า เขาไม่ไว้วางใจเลยสักนิด การข่มขู่ของเขาช่าง ไม่มีความสำคัญอะไรเลย

เฉินเฟิงเหมือนมองไม่เห็นท่าทีของข่ายซ่า ทำให้ภายในใจ ของข่ายซ่ายิ่งรู้สึกโมโห ทีแรกก็นึกว่าฝ่ายตรงข้ามถูกไล่ออกไป นึกไม่ถึงว่าตนเองกลับถูกไล่ออกไป ทุกอย่างนี้ก็เพราะว่าเฉินเฟิง

ตอนนี้ขายซาอดไม่ได้ที่จะกลืนกินเฉินเฟิงตัวเป็นๆ ทว่าสมอง ของเขาบอกเขาว่า ไม่สามารถสร้างเรื่อง นั่นมีเพียงจะทำให้องค์ หญิงแอนนี่จะมองตัวเองไม่ดีมากกว่าเดิม

ข่ายซ่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆ ปรับอารมณ์โมโห จากนั้นก็หันหลังออกจากตำหนัก
“ไอ้ของที่สมควรตาย ไอ้คนป่าเถื่อน! ”

ข่ายชาเพิ่งจะเดินออกจากงานเลี้ยง ก็อดไม่ได้ที่กันด่าออกมา ตั้งแต่ที่เขาเกิดมา ยังไม่เคยได้รับการไม่เป็นธรรมใหญ่ขนาดนี้ มาก่อน เรื่องนี้สําหรับเขาแล้วเป็นจู่โจมที่ใหญ่หลวงเกินไป หาก ไม่แก้แค้นเฉินเฟิง งั้นก็แสดงว่าไม่ใช่ข่ายซ่า

ข่ายซ่าเอามือถือออกมา แล้วซูซานก็โทรมา

และตอนนี้ หลังจากข่ายซ่าจากไป ในงานเลี้ยงก็ดำเนินไป อย่างปกติโดยที่ไม่ถูกรบกวนใดๆ แขกทุกคนกลับจากสภาวะที่ ตกตะลึง แล้วต่างก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาแล้วเอ่ยถามองค์หญิงแอน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ