ลูกเขยมังกร

บทที่ 543 เต้าเจินเจีย



บทที่ 543 เต้าเจินเจีย

“สะดวกสี มีอะไรไม่สะดวกกันละ” ฉู่เฟยหัวเราะ แล้วพูด “ต่อ ให้นายไม่ถาม ฉันก็คิดจะบอกนายเหมือนกัน”

“สมบัติล้ำค่าทั้งสองอย่างนี้ คือเงินเจี่ยสองเล่ม”

“เงินเจี่ย?” เฉินเฟิงซะงัก ทำไมฟังดูแล้วเหมือนมีพลังบาง

อย่าง

“ถูกต้อง เจินเจี่ย”

“ซึ่งชื่อเต็มก็คือเต้าเงินเจีย” ฉู่เฟยพูด

“เต้าเงินเรี่ย?! ” ม่านตาของเงินเฟิงหเล็ก ถ้าเป็นจริง อย่างที่เขาคิดเอาไว้ มูลค่าของเต้าเงินเจี่ย สูงกว่าเงินสองแสน ล้านหยวนไม่น้อย

ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินมูลค่า

“เสี่ยวเฟิง เมื่อก่อนนายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเต้าเจินเจ ยมาก่อน ใช่หรือไม่?” ฉู่เฟยถาม ฟังจากน้ำเสียงตกใจของ เฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเต้าเงินเจียชื่อนี้ เป็นครั้งแรก

“เคยได้ยินครับ” เฉินเพิ่งพยักหน้า ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยิน เซียวกั่วจงพูดถึง เต้าเจินเจียมาก่อน
เต้าเงินเจีย คำว่า ในที่นี้ หมายถึงสูงสุด

เต๋า สื่อถึงบูโต

จี้เค้ารวมกัน หมายถึงโตสูงสุด

สำหรับคำว่าเงินเจีย สามารถเข้าใจว่าเป็นพลัง หรือไม่ก็คือ ความรู้สึก

ความรู้สึกความเข้าใจที่มีต่อบูโตทองแท้ นี่ก็คือ เต้าเงิน

เจีย!

ทุกวันนี้บนโลกใบนี้ สามารถเขียนโดทองแท้มีแค่คน ประเภทเดียว ซึ่งก็คือมหาปรมาจารย์แห่งโด

อย่างไม่ต้องสงสัย เต้าเจินเจียในมือของเฟย เป็นสิ่งที่ มหาปรมาจารย์แห่งบูโดท่านหนึ่งเหลือทิ้งเอาไว้

ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นของอะไรกันแน่ ที่มี มูลค่ามากกว่าเงินสองแสนล้านหยวน

ตอนนี้เฉินเพิ่งเข้าใจแล้ว คือ เต้าเจินเจีย

คือ เต้าเจินเจี่ยที่สามารถทำให้บรรลุเป็นมหาปรมาจารย์แห่ งบูโด!

ถ้าหากปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระดับหิ้วจิ้งชั้นสูงสุดได้เต้า เจินเจียไปหนึ่งบท เขาก็จะมีแนวโน้มที่จะขึ้นระดับไปเป็นมหา

ปรมาจารย์แห่งบูโด มีมากกว่าเดิมอย่างน้อยห้าเท่า พูดได้อย่างไม่โอเวอร์ เต้าเงินเจียหนึ่งบท สามารถสร้างมหาปรมาจารย์แห่งโตขึ้นมาหนึ่งคน

ไม่แปลกที่สมาคมการค้าเซียสุ่ยและสมาคมการค้าจงให้บ้า คลั่งขนาดนี้ ถึงขั้นต้องการเอาชนะเดิมพันโดยยอมทุ่มสุดตัว

เพราะเต้าเจินเจี่ยบทนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ถ้าฝ่ายนั้นสามารถได้เต้าเจินเจียไปครอบครัว ฝ่ายนั้นก็จะมี มหาปรมาจารย์แห่งบูโตเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน

สิ่งนี้เพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อวงการศิลปะการต่อสู้ของ โลก!

“ในเมื่อนายเคยได้ยินเกี่ยวกับเต้าเฉินเจียมาก่อน ถ้าอย่าง นั้นนายน่าจะรู้ว่าเต้าเจินเจี่ยสำคัญแค่ไหน”

“พูดตามตรงอย่างไม่ปิดบังนะ เต้าเงินเงียบทนี้ที่อยู่ในมือ

ของฉัน เป็นสิ่งที่มหาปรมาจารย์หลินเหลือทิ้งเอาไว้” ฉู่เฟยพูด

เสียงเคร่งขรึม

“มหาปรมาจารย์หลิน? ” เฉินเฟิงซะงัก มีกฎอย่างไม่เป็น ทางการของวงการศิลปะการต่อสู้ในหวาเซีย ซึ่งก็คือห้ามเรียก ชื่อปรมาจารย์

แต่จากนามสกุลที่ฉียี่เฟยพูดมานั้น เฉินเฟิงสามารถวิเคราะห์ ได้ว่า มหาปรมาจารย์หลินที่เฟยพูดถึงคือใคร

หลินชิงตี้

มหาปรมาจารย์แห่งบูโดเพียงคนเดียวของเมืองจงให้
แต่ว่าเงินเฟิงไม่ได้ยินชื่อของหลินชิงมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว คิดไม่ถึง วันนี้เฟยจะพูดขึ้นมา

“อืม จากค่าเล่าลือ บอกว่า เต้าเงินเจียนี้เป็นของมหาปรมาร จารย์หลินที่เหลือทิ้งเอาไว้เมื่อสิบแปดก่อน”

“หลังจากทิ้งเต้าเงินเจี่ยเอาไว้แล้วนั้น ก็ถูกลูกศิษย์ในสํานัก แย่งชิง สุดท้าย จี้เต้าเจินเจี่ยจึงถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ ในมือของสมาคมการค้าจงได้ ส่วนอีกส่วนอยู่ในมือของสมาคม การค้าเซียสุ่ย”

ยี่เฟยเล่าเรื่องในอดีตของเต้าเงินเจียออกมาด้วยเสียง เคร่งขรึม

ภายในใจของเฉินเฟิงรู้สึกเย็นวูบขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงว่า เต้า เจินเจี่ยจะมีประวัติแบบนี้ด้วย

“พี่ใหญ่ ตอนนี้พวกพี่คิดจะทํายังไงกับเต้าเงินเงียบทนี้?” เฉินเฟิงเอ่ยถาม จี้เต้าเจินเจียมีแค่หนึ่งบท แต่ในสมาคมการค้า จงไห่ กลับมีอยู่ถึงสี่ตระกูลใหญ่

ตระกู ตระกูลวัง ตระกูลฉินและตระกูลสัง

ไม่ว่าตระกูลไหนจะเป็นฝ่ายได้เต้าเจินเจียไป อีกสามตระกูล ย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน

เพราะตระกูลที่ได้ เต้าเงินเจียไปครอบครองนั้น มีความเป็น ไปได้ที่จะใช้เต้าเจินเจียในการสร้างมหาปรมาจารย์แห่งบูโด ออกมาหนึ่งคน
มหาปรมาจารย์แห่งโตหนึ่งคน สามารถทำลายสถานะของ เมืองจงให้ในตอนนี้

เมื่อสิบแปดปีก่อน ตอนที่หลินซึ่งอยู่ในเมืองจงให้ ทั่วทั้ง เมืองจงให้ต่างเคารพนับถือหลินชิง

เวลานั้น เมืองจงให้มีแค่เสียงเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเสียงของ หลินชิงตี้

วันนี้ หากตระกูลไตตระกูลหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ได้เต้าเงิน เจียไปครอบครอง เช่น นอนาคตของเมืองจงไห่ ตระกูลนั้นพูด สิ่งใดต้องเป็นสิ่งนั้น

“ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ถึงแม้พวกเราจะได้เต้าเงินเจียมาครอบ ครองแล้ว แต่พวกเรายังไม่เจอทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน เต้าเจินเจี่ย มีแค่ทายาทของมหาปรมาจารย์หลินเท่านั้นที่จะ สามารถเปิดได้” ฉู่ยี่เฟยพูด

ถึงแม้เต้าเจินเจี่ยจะเป็นพลังเล่มหนึ่ง แต่มันกลับแตกต่าง จากพลังทั่วไป

พลังทั่วไป แค่เขียนบันทึกลงในหนังสือ ทุกคนก็สามารถ ถ่ายทอดได้

แต่เต้าเงินเจี่ย เป็นหนังสือที่มหาปรมาจารย์ใช้จิตและพลัง ในการเขียน มหาปรมาจารย์แห่งบูโดทุกคน ชีวิตนี้ทั้งชีวิต เขียน เต้าเจินเจียได้เพียงแค่บทเดียวเท่านั้น

จี้เต้าเจินเจี่ยทุกเล่ม มีการเปิดที่แตกต่างกัน
วิธีการเปิดเต้าเจินเจียหลินซึ่งเหลือทิ้งเอาไว้นั้น ซ่อนอยู่ ในตัวทายาทของเขา

ต้องหาทายาทของเขาเจอเท่านั้น จึงจะสามารถหาวิธีเปิดเต้า เจินเจียได้

อีกทั้ง แม้ว่าจะเปิดเต้าเงินเจียไต้ ก็มีแค่คนๆเดียวเท่านั้นที่ จะสามารถตระหนักรู้ได้

นี่คือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้เฉินเพิ่งถามว่าควรจะจัดการกับเต้า เงินเจียอย่างไร

เต้าเจินเจีย สามารถสร้างมหาปรมาจารย์ได้แค่คนเดียว แต่ภายในของสมาคมการค้าจงไห่ กลับมีสี่ตระกูลใหญ่ที่ไม่ ถูกกัน

“ทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน?”

เฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนที่ฉีเฟยพูด ค่านีออกมา สมองของเขากลับมีหน้าตาของหลินหวั่นวแล่น

ออกมา

หลินหวั่นว คงไม่ใช่ลูกสาวของหลินชิงหรอกมั้ง?

เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะตกใจกับความคิดของตนเอง

ที่เขาสงสัยแบบนี้ ใช่ว่าไม่มีหลักฐาน

ก่อนหน้านี้ตอนที่ลูกศิษย์ของนักบุญมีดบุกเข้ามาฆ่าเขา หลิน หวั่นชีวเข้ามารับการถูกทำร้ายแทนเขา ตอนนั้น ร่างกายของหลินหวั่นวแผ่ซ่านไปด้วยพลังระดับมหาปรมาจารย์ พลังนั้น ช่วยชีวิตหลินหวั่นตัวเอาไว้

ตอนนี้คิดดูแล้ว พลังที่อยู่ในตัวของหลินหวั่น มีโอกาสเป็น ไปได้ว่าจะเป็นพลังที่หลินซิงตี้เหลือเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรมหา ปรมาจารย์ในแดนหวาเชียมีไม่มาก มีแค่เก้าคนเท่านั้น อีกทั้ง ประจวบเหมาะที่หลินหวั่นวเองก็นามสกุลหลิน

ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ทายาทของหลินชิง แต่เกรงว่าเธอน่าจะมี ความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลินชิง

ความคิดต่างๆ แล่นเข้ามาในสมองของเฉินเฟิง แต่เฉินเฟิงไม่ ได้พูดออกไป

เรื่องแบบนี้พูดไม่ได้

หลินหวั่น ว ในตอนนี้ เป็นแค่คนธรรมดา

ถ้าเธอคือกุญแจสำคัญในการเปิดเต้าเงินเจียจริงๆ เช่นนั้น เธอก็จะกลายเป็นหมากตัวสำคัญที่ทั้งสี่ตระกูลต้องแย่งชิง เธอจะ เข้ามาเกี่ยวข้องกับอันตรายในทันที

หากไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะแตกสลายกลายเป็นผุยผง

ดังนั้น ถึงแม้เขาจะสนิทกับฉู่เฟย เขาก็ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ ออกไปได้

สันดานคน ไม่สามารถทดสอบได้

โดยเฉพาะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการบรรลุเป็นมหาปรมาจารย์ไม่ว่าใครก็พากันบ้าคลั่ง

หลังจากวางสายจาก เฟย เฉินเฟิงหนักใจขึ้นมาเล็กน้อย

เรื่องมาถึงวันนี้ เขาพอจะมั่นใจได้แล้ว หลินหวั่นชิวกับหลินชิง ที่ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ๆ

ถึงแม้ก่อนหน้านี้หลินหวั่นชีวจะอยู่ที่เมืองซางโจวมาโดย ตลอด ไม่เคยมาที่เมืองจงให้

แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าหลินชิงเคยไปเมืองชางโจวมาก่อน การที่เขากับแม่หลินมีลูกด้วยกันแล้วคลอดหลินหวั่นชีวออก มาไม่ใช่เรื่องยาก

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินเพิ่งตัดสินใจโทรหาหลิน หวั่น ว เพื่อถามถึงสถานการณ์ต่างๆ

ทว่ากลับคิดไม่ถึง เพิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็มีคนโทรเข้ามา คนที่โทรเข้ามาคือเงินจื่อหลี!

ม่านตาของเฉินเฟิงหดเล็ก ทำไมเฉินจื้อหลีถึงโทรมาตอนนี้ หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลินหวั่น ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ