ลูกเขยมังกร

บทที่ 455 ซงเต่าเฟิง



บทที่ 455 ซงเต่าเฟิง

เดิมคิดว่าการที่ชงเต่าเฟิงส่งของขวัญที่แพงหูฉีขนาดนี้ ซึ่งถือ จะต้องพูดขอบคุณอีกครั้งด้วยความซาบซึ้งแน่ๆ ใครจะไปรู้ว่า ซึ่งฉือได้แค่ยิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็รับกุญแจมา แล้วยื่นส่งให้ พ่อบ้านใจว

“ขอบคุณของขวัญของคุณชายซงเต่า” หลังจากที่เอากุญแจ ใส่มือพ่อบ้านโจวแล้ว ซึ่งถือก็พูดด้วยอารมณ์ปกติไม่ทุกข์ร้อน ใดๆ กับซงเต่าเฟิง

ดูจากท่าทางของเธอแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีคนคิดว่าเธอรับของขวัญ ที่มีราคาแค่หนึ่งร้อยหยวนหรือไม่ แต่ทั้งๆ ที่ราคาเรือสำราญมัน ตั้งพันล้าน

“คุณเกรงใจไปแล้ว” มุมปากซงเต่าเพิ่งฉีกยิ้ม ในเวลา เดียวกันก็ไม่คิดว่าของขวัญที่มีรามามากกว่าพันล้านนั้นจะแลก กับการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้ของผู้ซึ่งถือ

“อ้อ ใช่สิ คุณ ท่านนี้คือ… ” ชงเต่าเพิ่งเบนสายตามาที่ เฉินเฟิง ความจริงแล้วก่อนที่จะเดินเข้ามานั้น หล่อก็บอกเขาถึง สถานะของเฉินเฟิงแล้ว การที่เขาถามซึ่งถือตรงๆ ก็แต่เป็นการ แสดงเท่านั้นเอง

“เฉินเฟิง เป็นเพื่อนของซึ่งฉือ” ไม่รอให้ ซึ่งถือเอ่ยปากตอบ เงินเฟิงก็พูดฐานะของตนเองออกมาทันที
“ที่แท้ก็เป็นคุณเฉินเฟิง สวัสดีครับ สวัสดี คุณเฉินเฟิง ผมชื่อ ซึ่งเต่าเพิ่ง” ซึ่งเต่าเพิ่งยิ้มให้พร้อมทั้งยื่นออกไปทางเงินเฟิง หาทางอย่างเป็นมิตร

“สวัสดี” เฉินเฟิงยิ้มให้เล็กน้อย พลางยื่นมือออกไป จับมือกับ งเก่าเฟิง

ซึ่งเต่าเพิ่งที่อยู่ตรงหน้าคนนี้นั้น ถึงแม้ว่าหน้าตาจะอัปลักษณ์ ไปหน่อย รูปร่างอวบอ้วน แต่ว่าฐานะของเขาก็เห็นได้ชัดว่าไม่ ธรรมดา ไม่งั้นก็คงไม่ออกมาแสดงตัว จนทำให้บรรยากาศ อึดอัดจนหายใจไม่ทั่วท้อง

“คุณเฉินเฟิง หล่อบอกว่า ฐานจะของคุณก่อนหน้านี้ เป็น ลูกเขย แต่งเข้าบ้านเหรอ?”

ซึ่งเต่าเพิ่งหรี่ตามองออกครั้ง สายตาของเขานั้น ฉายแวว

ความกระแทกกระทั้นเอาไว้แวบหนึ่ง

สีหน้าแขกเหรื่อที่อยู่ในสถานการณ์นั้น สีหน้าแปรเปลี่ยน แปลกประหลาดขึ้นมาแทน ซึ่งเต่าเพิ่งทำแบบนี้ กำลังหาเรื่อง เฉินเฟิงอยู่ เรื่องที่ไม่ควรพูดแต่กลับเจาะจงถกเรื่องนั้นขึ้นมาพูด

เดิมทีทุกคนต่างคิดว่า เฉินเพิ่งจะตอบคำถามนี้อย่างไม่ค่อย เต็มใจ ใครจะไปรู้ว่าเฉินเฟิงนั้นยิ้มให้เล็กน้อย จากนั้นก็ตอบไป ตรงๆ เลย

“ไม่ผิดหรอก ฐานะของฉันก่อนหน้านี้ เป็นลูกเขยที่แต่งเข้า บ้านจริงๆ”
สีหน้าของซงเต่าเพิ่งตะลึง ราวกลับไม่คิดว่าเป็นเพิ่งจะยอมรับ ตรงๆ เลย

ทว่าไม่นานนัก เขาก็เริ่มหาหัวข้ออื่นขึ้นมาพูด “คุณเฉินเฟิง คุณน่าจะมองออกว่า ซึ่งเต่าเป็นคนญี่ปุ่น ดังนั้นเรื่องวัฒนธรรม ของประเทศหวานไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ ฟังจากที่พวกเขา พูดมานั้น ในประเทศหวา การเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง นั้นไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่…

“พวกเขาพูดถูก ในประเทศหวา การเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ฝ่ายหญิงนั้นไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่

ไม่ทันรอให้ซุงเต่าเพิ่งพูดจบ เฉินเฟิงก็พูดเติมคำพูดที่กำลังหา เรื่องของชงเต่าเฟิงซะงั้น

ซึ่งเต่าเพิ่งถูกตอกหน้าจนทำอะไรไม่ถูกอีกครั้ง สําหรับเขาแล้ว ในฐานะที่เป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงนั้น เพราะว่านั่นน่า จะเป็นรอยแผลเป็นของเฉินเฟิงแล้ว คนธรรมดาทั่วไป การถูกคน อื่นๆ เริ่มเน้นย้ำบาดแผลนั้นต่อหน้าทุกคนขึ้นมาอีกครั้ง พฤติกรรมของเขาไม่ใช่ว่าต้องโกรธเคืองหรือว่ารู้สึกไม่เป็นตัว ของตัวเองไม่ใช่เหรอ?

แต่พอมาเป็นเงินเฟิงนั้น ความรู้สึกเช่นนี้ก็จะไม่น่าจะเห็นได้

อีกอย่างเมื่อเห็นท่าทางของเฉินเฟิงแล้ว เหมือนว่าจะพูดตรงๆ หรือ ?

“ถึงแม้ว่าคุณเฉินเพิ่งทราบว่าการเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านนั้น ในประเทศหวาเหมือนไม่ค่อยได้รับความเห็นชอบสักเท่าไหร่ทำไมคุณเฉินเพิ่งไปเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านล่ะ?” ซึ่งเต่าเพิ่ง ถามไถ่ต่อ เหมือนว่าเป็นการถามจนอยากจะรู้ให้ได้

“เพราะว่าความรัก” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย

“ความรักเหรอ?” น้ำเสียงของชงเต่าเฟิง ถึงแม้ว่าไม่คิดว่า เงินเพิ่งจะตอบคำถามเช่นนี้

“คุณยังมีอะไรต้องการถามต่อไหม?”

เฉินเฟิงมองมาที่ชงเต่าเพิ่งอยู่แวบหนึ่ง ที่ซึ่งเต่าเฟิงตั้งใจ จงใจถามเขานั้น อาจเป็นเพราะว่าหล่อมาเป่าหูให้เขาฟังก่อน หน้านี้ หรือเป็นเพราะว่าซุงเต่าเพิ่งต้องการหาวิธีให้ ซึ่งฉือ ดัง นั้นเลยตั้งแง่ว่าเขาเป็นศัตรู

“ไม่มีแล้ว” ซงเต่าเพิ่งส่ายหน้าไปมา แล้วยิ้มพร้อมกับถาม กลับ “คุณเฉินเฟิง คุณนช่างน่าสนใจมาก ฉันรู้สึกว่าพวกเราจะ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

“เพื่อนเหรอ?” เฉินเฟิงยิ้มให้อย่างหยอกล้อ “ถ้าคุณรู้ฐานะ ที่แท้จริงของผม เกรงว่าคุณคงเสียใจที่พูดคำนี้ออกมา

ซงเต่าเพิ่งตกใจเล็กน้อย “คุณเฉินเฟิง คุณหมายความว่ายัง ไง?”

“เปล่า พูดไปเรื่อย” เฉินเฟิงโบกมือปฏิเสธ เรื่องมาถึงขั้นนี้ แล้ว ตัวจริงของชงเต่าเพิ่งเขามองออกหรือว่ามองออกบอกบ้าง ส่วนรายละเอียดนั้นไม่รู้มากมายนัก แต่ประมาณการได้ว่าต้อง เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักทูตประเทศญี่ปุ่นแน่นอน
ถ้าซงเต่าเฟิงเป็นคนในกลุ่มนักทูตแล้วละก็ งั้นถ้าเขารู้ว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์ของเขียวถั่วจง คงต้องเสียใจที่หลุดปากพูด คํานั้นออกมา

“หลุดปากพูดงั้นเหรอ?” ซึ่งเต่าเพิ่งเหมือนพูดกับตนเอง นัยน์ตาทอประกายอยู่แสบหนึ่ง

หลังจากที่ซงเต่าเพิ่งส่งเรือสำราญเป็นของขวัญให้แล้ว แขก เหยื่อคนอื่นที่อยู่ในงาน ต่างมาที่ด้านหน้าของอู่ชิงฉือ แล้วเริ่ม จัดการส่งของขวัญให้

แรกเริ่มมีเพียงไม่กี่คน ซึ่งถือยังรับไว้ พอตอนหลัง ซึ่งถือ ให้พ่อบ้านโจวเป็นรับแทน

หลังจากที่เหนื่อยล้าในการรับของขวัญแล้ว ตนเองก็ลาก เฉินเฟิงมาที่ห้องประชุมเอาไว้รับแขกอีกห้องหนึ่ง

หลังจากที่มาถึงห้องประชุมที่เอาไว้รับแขกแล้ว เฉินเฟิงถึงได้ พบว่า หน้าต่างจรดพื้นให้ห้องประชุมที่เอาไว้รับแขกนั้น มีคนรูป ร่างสูงสง่า ผู้ชายที่ท่าทางอายุสามสิบกว่ากำลังยืนมือไพล่หลัง มองด้านนอกกระจก

“พี่ใหญ่ ฉันพาตัวเฉินเพิ่งมาแล้ว” หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว ซึ่งถือพลันเรียกผู้ชายคนนั้นพร้อมทั้งยิ้มแย้มแจ่มใส ให้กับ ผู้ชายคนนั้น

เมื่อได้ยินเสียงซึ่งฉือ ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มให้พร้อมทั้งส่ายหน้า ไปมาอย่างเหนื่อยล้า จากนั้นก็หันตัวกลับมา จากนั้นก็เดินไปหา แล้วยืนอยู่ด้านหน้าเงินเฟิง พลันยิ้มให้แล้วยื่นฝ่ามือหนาๆ ออกมา “คุณเฉินเฟิง สวัสดี ฉันเป็นพี่ใหญ่ของซิงฉือ ฉู่เฟย”

“พี่จู่ สวัสดี”

เงินเฟิง นฝ่ามือหนาออกไปจับมือกับคู่เฟย ตอนที่กำลัง เดินทางมา ซึ่งถือก็บอกแล้วถึงสถานะของเฟย

นอกจากจะเป็นพี่ชายของซึ่งถือแล้ว ในวันนี้เฟยเป็นผู้ สืบทอดอันดับสามของตระกูล ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ฉู่เฟยจะ เป็นผู้ควบคุมอำนาจทั้งหมดของตระกูล ถึงเวลานั้น ตำแหน่ง ของเขาในเมืองจงให้ ก็ถือว่าเป็นคนระดับสูงส่งที่สุด

“ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเฉินเฟิงมานาน วันนี้ได้เจอกันสัก ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ” เฟยพูดไปตามปกติ หลายวันมานี้ เขา ได้ยินชื่อนที่ ซึ่งถือบ่นถึงมากที่สุด ก็คือเงินเฟิง ดังนั้น เขาก็เลย จงใจตรวจสอบเรื่องราวของเฉินเฟิงมาแล้วครั้งหนึ่ง

ไม่พูดเลยว่า หลังจากรู้เรื่องราวของเฉินเฟิงทุกเรื่องแล้ว ทั้งๆ ที่เขาเป็นทายาทผู้สืบทอดตระกูลแล้ว ก็ไม่สามารถพูดได้เลย ว่า ว่าการที่เฉินเพิ่งผ่านเรื่องราวมานั้นมันก็ไม่เหมือนคนธรรมดา ทั่วไปเลย

เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง เรื่องที่กล้าทะเลาะกับตระกูลเฉิน เรื่องนี้ ก็ทําให้เขาถึงกับต้องคารวะเลยทีเดียว

พี่ก็พูดเกินไป ผมก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนหนึ่งเท่านั้น เอง จะมีชื่อเสียงโด่งดังได้ไง” เฉินเพิ่งยิ้มอย่างขมขื่น คำพูดของ ฉีเฟยบางทีอาจจะออกมาปากที่จริงใจ ทว่าเขาในเวลานี้ ก็ เหมือนปลาที่รอความตายอยู่บนเชียงเท่านั้นเอง เรื่องที่ชื่อเสียงโด่งดังนั้น ไม่สามารถรับได้จริงๆ

“ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน?” ฉู่เฟยตะลึง พลางเอ่ยถาม “คุณ เฉินเพิ่งหย่ากับคุณเสียแล้วไม่ใช่เหรอ?”

สำหรับตระกูลฉนั้น การที่อยากจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง เฉินเฟิงกับเสียเพิ่งเหยา นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร

“ฉันหย่ากับเมิ่งเหยาแล้ว แต่ว่าในใจของฉันนั้น เธอก็คงยัง เป็นภรรยาของผมเช่นเดิม” เฉินเฟิงเน้นทีละค

“คุณเฉินช่างซื่อสัตย์กับคุณเสียจริงๆ คุณเสียสามารถหา ลูกเขยที่ดีเช่นคุณเฉินเฟิงนั้น ก็ถือว่าชีวิตนี้สมบูรณ์แบบมีความ สุขมากแล้ว” ฉู่ยี่เฟยพูดโดยภาพรวม เดิมเขาคิดว่า เฉินเพิ่งไปที่ เมืองชางโจวไปเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ก็เพื่อให้ตระกูลเฉิน ยอมปล่อยวางในการคุ้มกันเขา แต่ในเวลานี้ เฉินเฟิงนั้นมีความ เกรงกลัวจนต้องทำเพื่อเลี้ยเพิ่งเหยาถึงได้แต่งเข้าไปอยู่ในตระ กูลเสีย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ