ลูกเขยมังกร

บทที่ 407 นักดาบ



บทที่ 407 นักดาบ

จู่ๆลมหายใจที่โหดเหี้ยมเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ทำให้ทุกคน ตรงนั้นต่างก็ตกตะลึงแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปมาก

ประธานหว่างที่เผชิญหน้ากับลมหายใจที่โหดเหี้ยมของ เงินเฟิง ก็ยิ่งตกตะลึงแม้แต่เก้าอี้นั่งไม่ติดแล้ว

บนตัวของไอ้เศษสวะคนนี้ ทำไมถึงได้มีลมหายใจที่โหดร้าย อย่างนี้? !

ผู้คนตรงนั้นที่ได้เห็นต่างก็พากันตกอกตกใจ เฉินเฟิงก็ ตระหนักได้ว่าตัวเองตั้งสติไม่อยู่จนทำเรื่องที่เสื่อมเสียแล้ว

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อารมณ์ของเฉินเฟิงก็สงบลง

แล้ว

“เมิ่งเหยา ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย หากคุณสมัครใจที่จะนัด บอดเขาเอง ก็นั่งตรงนี้ไม่ต้องขยับ ดูตัวต่อไป

“ถ้าหากว่าคุณไม่สมัครใจที่จะดูตัว คุณก็ลุกขึ้นยืน แล้วไป

พร้อมกับผม”

เมื่อพูดประโยคนี้จบแล้ว เงินเฟิงก็ยื่นมือออกไปตรงหน้าเสีย เพิ่งเหยา รอเสียเพิ่งเหยาตอบสนองกลับอย่างเงียบๆ เต็มที่คิด ว่าเลี้ยเพิ่งเหยาจะยื่นมือออกมาอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย แล้วไป พร้อมกับเขา
แต่ หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที……..

สามวินาทีผ่านไปแล้ว ท่าทางของเสียเพิ่งเหยากลับยังคงสงบ เช่นเดิม ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆทั้งสิ้น

เฉินเฟิงหัวเราะให้ตัวเอง ทันใดนั้นก็ดึงมือกลับเข้ามา เขาเข้าใจแล้ว เขาเข้าใจความคิดของเสียเพิ่งเหยาแล้ว การนัดบอดครั้งนี้ เธอยินยอมเอง ไม่ได้มีใครมาบีบบังคับเธอ

เลย

ที่ตัวเองรู้สึกว่าโดนบังคับ ก็เป็นเพียงตัวเองที่คิดเข้าข้างตัว เองฝ่ายเดียว

“ขอโทษนะ รบกวนแล้ว…….

เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งหันหลังกลับทันที เดิน

ไปที่ประตูเพียงลำพัง

เขาคิดว่าความรักแข็งแกร่งกว่าทองคำ ก็คงจะเป็นเพียงแค่ เรื่องตลกขบขันเท่านั้น

บนโลกใบนี้ ไม่มีความรักไหนแข็งแกร่งไปกว่าทองคำ

มีเพียงแค่นกที่ดีจะรู้จักเลือกกิ่งไม้พำนักนอน

ตอนที่เสี้ยเพิ่งเหยาอยู่กับเขา เขาไม่เพียงแค่ไม่สามารถมอบ ความสุขให้กับเสี้ยเพิ่งเหยาได้ แถมยังทำให้เสียเพิ่งเหยาวิตก กังวลอยู่ตลอด สามารถเสียชีวิตได้ทุกเมื่อด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จากตระกูลเฉิน
ดังนั้นเสี้ยเพิ่งเหยาจึงมีสิทธิ์ที่จะเลือกคนอื่น เขาก็ไม่มีเหตุผล อะไรต้องไปว่ากล่าว ตำหนิ

เมื่อเห็นเงินเพิ่งเดินออกไปอย่างอกสั่นขวัญหาย หลินหลับ และหลินเล่นภาคภูมิใจอย่างมาก……..

หลินหวั่น วก็เดินตามไปด้วยท่าทางที่เป็นกังวล

หลังจากที่ออกมากจากฮเยคลับ ข้างนอกอันกว้างใหญ่ ไพศาลจนมองไม่เห็นขอบเขต แม่น้ำหวงผู่ที่ไหลเชี่ยว

น้ำไหลจ๊อกๆ!

แสงไฟสีขาวที่สาดส่อง เปิดคลายท้องฟ้าที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน

มีเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องตามมา เม็ดฝนเม็ดใหญ่เทลงมาอย่าง

กระหน่ำ

เฉินเฟิงกลับว่าไม่ได้กางร่ม แถมไม่เรียกแท็กซี่ด้วย ปล่อยให้ เม็ดฝนที่เยือกเย็นตกกระทบมาที่ตัว

“พี่เฉินเฟิง!

หลินหวั่น วรีบตามออกมาอย่างร้อนใจ นี้เป็นครั้งแรกที่เธอ เห็นเฉินเพิ่งขวัญหนีดีฝ่อ เธอก็รู้สึกปวดใจอย่างไม่มีเหตุผล

“หวั่นว คุณกลับไปเถอะ ผมอยากอยู่เงียบๆคนเดียว เงินเฟิงหยุดย่างก้าวไปชั่วขณะ หันหน้ากลับมามองหลินหวั่นชีว

หลินหวั่น วส่ายหน้า น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย : “พี่เฉินเฟิง ขอโทษนะ เป็นเพราะฉันเอง ถ้าหากไม่มีฉัน พี่กับพี่ สะใภ้…………….

“ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” เฉินเฟิงพูดตัดบทหลินหวั่นชีว “ฉันหย่ากับเพิ่งเหยา เป็นเพราะเรื่องอื่น

เมื่อพูดจบแล้ว เฉินเฟิงก็หันหลังเดินออกไปทันที

หลินหวั่นชีวกลับไม่ฟังคำพูดของเฉินเพิ่งพร้อมเดินออกไป เดินตามหลังเฉินเฟิงไปทีละก้าวอย่างเชื่องช้า

ทั้งสองคนต่างก็เดินเปียกปอนอยู่ท่ามกลางสายฝน หลังจากนั้นไม่นาน แลนด์โรเวอร์กันกระสุนสีดำก็ปรากฏตัว ออกมาท่ามกลางสายฝนแล้ว

แลนด์โรเวอร์กันกระสุนสีดำคันนี้ ขับมาอย่างช้าๆ เหมือนกับ วิญญาณยังไงอย่างนั้น ขับตามหลังเฉินเฟิงและหลินหวั่นว คอย รักษาระยะห่างความปลอดภัยประมาณ 100 เมตรจากตัว เฉินเฟิง ไม่ไกล และก็ไม่ใกล้

เฉินเพิ่งที่กำลังขวัญหนีดีฝ่อกลับไม่เห็นถึงการมีอยู่ของแลนด์ โรเวอร์กันกระสุนคันนี้เลย ยังคงต่างคนต่างเดินอยู่เช่นเคย หลังจากนั้นไม่กี่นาที เฉินเฟิงก็เดินขึ้นสะพานใหญ่

ในเวลานี้ แลนด์โรเวอร์กันกระสุนสีดำก็เร่งความเร็วขึ้นทันที อย่างกับสัตว์ร้ายที่ออกจากกรงยังไงอย่างนั้น พุ่งออกมาจาก ท่ามกลางสายฝนทันที กระแทกไปที่เงินเฟิงเลย
ระยะห่างกว่า 100 เมตร หายไปในพริบตา!

และเฉินเฟิงในเวลานี้ หมดสติไปทันที!

กลับเป็นว่าหลินหวั่นซิ่ว เหมือนว่ามีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่อง อันตราย ก็เริ่มที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองก่อน

หลังจากที่เห็นแสงเจิดจ้าเข้ามาใกล้ ก็ไม่ได้พูดจาอะไร หลิน หวั่น วก็ผลักเฉินเฟิงที่ยังคงมึนงงออกไป

ร่างอันบอบบางก็ลอยออกไปอย่างอ่อนช้อย กระแทกลงบน พื้นอย่างหนักทันที

จนถึงเวลานี้ เฉินเฟิงถึงจะมีสติกลับมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ทันใดนั้น ระเบิดความโกรธออกมาอย่างมาก แลนด์โรเวอร์สีดำโจมตีไม่สำเร็จ ทันใดนั้นหันหัวรถกลับมา พุ่งเข้ามาแทกเฉินเฟิงอีกครั้ง!

เสียงคำรามราวกับฟ้าร้อง พุ่งเข้ามาอย่างกับม้าโกรธ!

เฉินเฟิงยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ตั้งใจจะหลบแต่อย่างใด แถม ยังกำหมัดแน่น ปล่อยลมหายใจที่แสนโหดเหี้ยมออกมาจากทุก ส่วนของร่างกาย

สุดท้ายแล้ว แลนด์โรเวอร์กันกระสุนสีดำพุ่งชนเข้ามาตามที่ คาดการณ์

และเฉินเฟิง ในเวลานี้กลับเงยหน้าขึ้นมาทันที ออกหมัดระเบิดไปแล้ว!

ราวกับดาวอังคารชน โลกยังไงอย่างนั้น แลนด์โรเวอร์กัน กระสุนสีดา อยู่ภายใต้หมัดของเฉินเฟิง แตกเป็นเสี่ยงๆไป แล้ว!

ทันใดนั้น แสงเพลิงไฟลุกโชนเต็มไปทั่วท้องฟ้า แต่นี้ ยังไม่สิ้นสุด!

เงาร่างที่แข็งแรงและปราดเปรียวสวมใส่ชุดซามูไรสีดำ พุ่ง ออกมาฆ่าจากแสงของเพลิงไฟที่ลุกโชน

ที่แปลกประหลาดไปกว่านั้นก็คือ หลังจากที่พุ่งออกมาฆ่าจาก เพลิงไฟที่ลุกโซน เงาร่างที่แข็งแกร่งและปราดเปรียว ทันใดนั้นก็ แบ่งออกเป็นสามร่างทันที!

ท่ามกลางเวหา เงาร่างดำทั้งสาม ต่างก็ถือดาบซามูไรสีเงิน เฉือนเข้ามาที่เฉิงเฟิงจากมุมที่ต่างกัน

“วิชาดาบชานหลิว! ”

รูม่านตาของเฉินเฟิงหรี่เล็กลง วิชาดาบซานหลิว มันเป็น เทคนิคลับเฉพาะของหลิ่วเชิงอนักดาบระดับปรมาจารย์ของ ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ?

ทําไมถึงมาโผล่ที่นี่ได้ละ?

หรือว่าเราตรงหน้านี้ คือสาวกของหลิ่วเชิง?!
เฉินเฟิงระงับความสงสัยในใจไว้ ออกหมดทันที

แต่ว่าหมัดของเขา กลับไม่ไปทางเงาร่างที่ถือดาบซามูไรทั้ง สามแม้แต่ร่างเดียว แถมยังออกหมดไปทางอากาศด้านหลัง

หากมีใครชมการต่อสู้อยู่ในตอนนี้ ต้องตกใจกับกลอุบายที่ น่าทึ่งของเฉินเฟิงจนพูดไม่ออกเป็นแน่ คงคิดว่าเฉินเฟิงบ้าไป แล้วแน่ๆ ดาบซามูไรสามเล่มอยู่ใกล้แค่เอื้อม วินาทีต่อมา ก็จะ เฉือนมาที่ตัวของเฉินเฟิงแล้ว เฉินเพิ่งกลับว่าไม่สนใจใยดี หัน หลังไปปล่อยหมัดในอากาศ ถ้าไม่บ้าแล้วมันคืออะไร?

เฉินเฟิงบ้าไปแล้วเหรอ?

ไม่ได้บ้าอย่างแน่นอน!

เขารู้ดี เงาร่างที่ถือดาบทั้งสามนั้น เป็นของปลอมทั้งหมด

เลย!

พวกเขาคือภาพลวงตา เป็นการหลอกลวง!

นักดาบที่แท้จริง ย้อนกลับไปตอนที่รถกันกระสุนแลนด์โรเวอร์ ระเบิด ก็ได้ซ่อนตัวในความมืดแล้ว

รอโอกาสที่จะโจมตีให้เขาได้รับบาดเจ็บปางตาย!

ดังนั้นหมัดของเฉินเฟิง ดูเหมือนกำลังปล่อยออกไปในอากาศ แท้ที่จริงคือการบีบบังคับให้นักดาบเคลื่อนที่

“จะเป็นไปได้ยังไงกัน? |

เสียงที่น่าเหลือเชื่อแพร่ท่านออกมาจากกลางเวหาอากาศตามหลังมาด้วย การออกหมัดไปข้างหน้าระยะสามฟุตของ เงินเฟิง เงาร่างสีดำก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางอากาศ

“ตูม”

หมดนี้ของเฉินเฟิง ฟาดเข้าไปยังหน้าอกของเงาร่างนี้อย่าง

“แกรก”

เสียงกระดูกหักอย่างหนักหน่วง ร่างสีดำลอยออกไป อย่างกับ ว่าวที่โดนตัดสายยังไงอย่างนั้น ลอยออกไปไกลกว่า7-8เมตร ถึงจะตกลงบนพื้นอย่างรุนแรง

“พรวด”

คนทั้งคนเพิ่งจะตกลงบนพื้น ก็กระอักเลือดออกมาเยอะมาก

“คุณ…คุณคือปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้?! “เงาร่างสีดำ คลานขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ แววตาที่มองไปยังเฉินเฟิง เต็มไป ด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ

เฉันเพิ่งกลับว่าไม่สนใจเงาร่างดำ พร้อมเดินไปยังหลินหวั่นว ดูสีหน้าที่เฉยเมย อุ้มยกหลินหวั่นวขึ้นจากพื้น

หลินหวั่นวในตอนนั้น หมดสติไปตั้งนานแล้ว ใบหน้างดงาม ที่ซีดขาว ไม่มีเลือดฝาดแม้แต่นิดเดียว แต่ว่ามุมปากยังคงค้าง รอยยิ้มที่มีความสุขไว้ กลับแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอ ไม่ได้รู้สึก เสียใจภายหลังกับการกระทำก่อนหน้าของตัวเอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ