ลูกเขยมังกร

บทที่ 303 เสี้ยเว่ยถั่วฟันแล้ว



บทที่ 303 เสี้ยเว่ยถั่วฟันแล้ว

พูดจบ ถางรั่วเสงี่ยนก็ไม่สนว่าเก๋งห้าวจะว่ายังไง เธอ ตัดสายทิ้งเลย

“รั่วเสงี่ยน ลูกทําแบบนี้ เพื่อนลูกน่าจะไม่พอใจนะ” หลินเย่นบอก น้ำเสียงของถางรั่วเสงี่ยนไม่เหมือนขอร้อง คนสักนิด ออกคำสั่งชัดๆ

ถ้าท่าเก่งห้าวโกรธ เรื่องหลินจงเหว่ยก็ไม่มีหวังแล้ว

แม่ วางใจเถอะ เพื่อนหนูคนนี้นะเขาอยากให้หนูทํ แบบนี้กับเขาจะตาย” ถางรั่วเสงี่ยนยิ้มมุมปาก สําหรับเก๋ง ห้าวแล้ว เธอรู้จักดีเชียวล่ะ ลูกหมาในกํามือเนี่ยแหละ

อย่าว่าเธอใช้น้าเสียงแบบนี้เลย ต่อให้เธอด่าให้เขาไป ตายต่อหน้าเขา เขาไม่มีทางคิ้วขมวด ตรงกันข้ามกลับยิ้ม นอบน้อมกับเธอมากขึ้นด้วย

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่ว่ายังไง เกิ่งห้าวต้องนัดหลินจง เหว่ยออกมาให้แน่

ตอนนี้หลินหลันกลับไปที่โรงพยาบาลด้วยสีหน้าเดือด แค้น

มุกนี้ของหลินเย่นทำเธอรับมือไม่ทันจริงๆ เธอเคยแต่ฮุบของคนอื่น ไม่เคยมีใครกล้าฮุบของเธอ

แต่การปรากฏตัวของหลินเย่นกลับทำลายกฎนี้ พอเจอหลินเย่น หลินหลันก็เหมือนหนูเจอแมว โดนจับ ทางไว้อยู่หมัด ต่อให้เสียเปรียบก็ได้แต่กัดฟันกลืนลงท้อง

ไป

หลินหลันสะกดกลั้นความโกรธไว้เต็มท้อง กะจะไปลงที่เฉิงเฟิงที่ห้องพัก

กลับพบว่า เสี้ยเว่ยกั่วฟื้นมาตอนไหนก็ไม่รู้ว

“ที่รัก ฟื้นแล้วหรอ?”

พอเห็นเสี้ยเว่ยกั่วฟื้น อารมณ์หลินหลันดีขึ้นไม่น้อย

เสี้ยเว่ยกั๋วพยักหน้า เขาพึ่งฟื้นได้ไม่กี่นาที

“เมิ่งเหยาล่ะ เมิ่งเหยาเป็นยังไงบ้าง?” เสี้ยเว่ยกั๋วคิดถึง มากที่สุดตอนนี้คือเสี้ยเมิ่งเหยา เขาเห็นเฉินอิงโรกรีดแขน เมิ่งเหยากับตาตัวเอง เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าการกระทำแบบ นั้นจะทำให้เมิ่งเหยาเจ็บแค่ไหนกัน

“เมิ่งเหยาตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว คุณวางใจได้ อาการเธอไม่ หนักหนามาก มีแต่แผลที่มือที่หนักหน่อย แต่หมอบอกว่า รักษาหายได้” หลินหลันบอก

“คนพวกนั้นมาจากไหนกันแน่?” เสี้ยเว่ยกั่วถาม

“นี่คุณต้องถามลูกเขยตัวดีของคุณแล้วล่ะ? ” หลินหลัน พูดประชดออกมา “วันนั้นคุณไม่ได้ยินพวกนั้นบอกหรอว่า มาหาเจ้าขยะนี่น่ะ?”

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน เฉินเฟิงเข็นรถเข็นพาเสี้ยเพิ่ง เหยาเข้ามาพอดี

“ลูก เป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บมืออยู่ไหม?” เสี้ยเว่ยกั๋วเขยิบ เข้าไปถามทันที

“ไม่เจ็บแล้วค่ะพ่อ หนูดีขึ้นมากแล้ว” เสี้ยเมิ่งเหยาส่าย หน้าช้าๆ มีรอยยิ้มบางปรากฏขึ้น

“งั้นก็ดี” เสี้ยเว่ยกั่วพยักหน้า เบนสายตาไปที่เฉินเฟิง: “เฉินเฟิง คนพวกนั้นมาหาเราหรอ?”

“ครับ” เฉินเฟิงไม่ปฏิเสธ
“เป็นกลุ่มเดียวกับที่ไล่ตามฆ่าเราเมื่อสามปีก่อน?” เสี้ยเว่ยกั๋วถาม เขานึกถึงครั้งแรกที่เจอเฉินเฟิงเมื่อสามปี ก่อนขึ้นมา เฉินเฟิงตอนนั้นทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด แทบจะ ตายมิตายแหล่

“อาจจะนะครับ” เฉินเฟิงถอนหายใจอีก เขาแน่ใจได้ แค่ว่า คนที่ตามฆ่าเขาเมื่อสามปีก่อนเป็นคนของตระกูลเฉิน แต่เป็นสายไหนอันนี้เขาก็ไม่แน่ใจ

ในสิบสามสายของตระกูลเฉิน นอกจากสายแรกแล้ว สายอื่นต่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด

“อะไรเรียกว่าอาจจะ? แกจะบอกว่า นอกจากกลุ่มวัน นั้นแล้ว แกยังมีศัตรูพวกอื่นอีกหรอ? แหลมขึ้นมา ” หลินหลันถามเสียง

“พวกเขาเป็นใครกันแน่ ทำไมต้องตามฆ่าเราด้วย?” เสี้ยเว่ยกั๋วถามเสียงต่ำ ไม่รู้เรื่องนี้ให้แน่ชัด ต่อไปเขาไม่มี ทางนอนหลับสบายใจแน่

เฉินเฟิงทำหน้าลำบากใจ สำหรับเสี้ยเว่ยกั๋วแล้ว เขาไม่ อยากปิดบัง แต่เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี

เสี้ยเมิ่งเหยามาช่วยแก้ความขัดเขิน: “พ่อคะ เรื่องมัน ผ่านไปแล้ว พ่อจะถามเฉินเฟิงทำไมอีกคะ”

“พวกที่ไล่ตามฆ่าเฉินเฟิง เขาจัดการเรียบร้อยหมด แล้ว ต่อไปพวกเขาไม่กล้ามาหาเรื่องพวกเราอีก”

“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” เสี้ยเว่ยกั๋วถอนหายใจอีก เห็นได้ชัดว่า เสี้ยเมิ่งเหยาต้องรู้อะไรแน่ๆ แต่เธอไม่อยาก พูด เขาก็ถามอะไรไม่ได้อยู่ดี

“เมิ่งเหยา เราจะมาช่วยเจ้าขยะนี่ไม่ได้นะ เขาเป็น ระเบิดเวลา ไม่รู้จะระเบิดขึ้นมาตอนไหนแล้ว ทำบ้านเราเละเป็นโจ๊ก”

“ทางที่ดีลูกหาเวลาไปอำเภอหย่ากับมันให้สิ้นเรื่องสั้น ราวไป ไม่งั้นต่อไปครอบครัวเราไม่มีทางได้อยู่เป็นสุขแน่” หลินหลันยังคงพูดไม่หยุด

“เอาล่ะ แม่อย่าพูดเลยค่ะ ตอนนี้หนูไม่อยากได้ยิน เรื่องนี้” เสี้ยเมิ่งเหยาเริ่มอารมณ์เสีย ตั้งแต่ฉินเสงี่ยนหรัวมา พูดคราวนั้น ตอนนี้ในหัวเธอมีแต่เรื่องหย่ากับเฉินเฟิง

ต่อให้เธอไม่อยากแค่ไหน แต่ความจริงมันคาตาตรง หน้า

ไม่หย่า เธอต้องกลายเป็นจุดอ่อนของเขาแน่ ตระกูล เฉินไม่รู้จะอาศัยเธอทางไหนไปข่มขู่เฉินเฟิงอีก

แต่ถ้าหย่ากัน ก็แปลว่า ความรักตลอดสามปีของเธอ กับเฉินเฟิงมาถึงทางตันแล้ว

หย่ากันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครคาดเดาได้เลย

“เอาล่ะหลันหลัน พวกเรากลับบ้านกันเถอะ คืนนี้ให้ เฉินเฟิงอยู่เฝ้าเมิ่งเหยาละกัน” เสี้ยเว่ยกั่วถอนหายใจพลาง ว่า

“กลับบ้าน?” หลินหลันตะลึง ก่อนทำสีหน้า กระอักกระอ่วน

ทำไมหรอ? ที่บ้านมีปัญหาอะไร?” “

ไม่…

“หลินหลันยิ้มแหย “ที่บ้านไม่มีปัญหาอะไร แค่

ตอนนี้มีคนมาอยู่แล้ว” “ใครมาอยู่น่ะ?” เสี้ยเว่ยกั๋วถามอย่างไม่เข้าใจ

“พี่เย่นกับรั่วเสงี่ยน พวกเธอสองแม่ลูกมาชางโจวกัน วันนี้น่ะ”
“พวกเขาสองแม่ลูกคิดยังไงมาที่ซางโจวเนี่ย” สำหรับ หลินเย่น เสี้ยเว่ยกั๋วเคยเจอมาบ้าง หลายปีก่อน เขาไป อวยพรปีใหม่กับหลินเย่นที่จงไห่ ไม่ได้เข้าแม้แต่ประตูบ้าน เธอ ก็โดนเธอไล่ออกมาแล้ว

หลินเย่นดูถูกน้องเขยอย่างเขา เขารู้ดี

“มาคุยการค้า ตอนนี้พี่เย่นเป็นประธานกรรมการเครือ บริษัทจงเส็ง ครั้งนี้มาคุยการค้ากับบริษัทติ่งเฟิง”

“คุยการค้า? คุยการค้าทำไมต้องอยู่บ้านเราด้วย พวก เขารวยขนาดนั้นไปอยู่โรงแรมไม่ได้? ไม่พอใจ ” เสี้ยเว่ยกั่วถามอย่าง

“ที่รัก พูดอะไรน่ะ พี่เย่นเป็นพี่สาวฉัน นานทีปีหนจะมา บ้านเราสักที ฉันต้องต้อนรับเขาสิ จะให้เขาไปอยู่โรงแรม ได้ยังไง” หลินหลันบอก

“ต้อนรับเขา? คุณไม่อยู่บ้านต้อนรับเขา? คุณวิ่งมาโรง พยาบาลต้อนรับอะไร?” เสี้ยเว่ยกั๋วแค่นเสียงหึ

“คือ… พี่เย่นเขาชอบความสงบ ไม่ชอบให้ใครรบกวน ฉันเลยยกบ้านให้เขาอยู่สามสี่วัน” หลินหลันรู้สึกร้อนผ่าวที่ ใบหน้า ถึงเธอจะพูดอ้อมๆ แต่มันก็เปลี่ยนแปลงความจริงที่ ว่า เธอโดนหลินเย่นไล่ออกมาไม่ได้

เสี้ยเว่ยกั๋วโกรธจนหัวเราะ “หลินหลัน คุณนี่ใจกว้าง จริงนะ บ้านตัวเองตัวเองไม่อยู่ ยกให้พี่สาวอยู่

แม่คะ ป้าใหญ่ทำไมทำแบบนี้ล่ะ พวกเขามาอยู่บ้าน “ เรา แล้วแม่กับพ่อจะไปอยู่ไหนล่ะ โรงแรมหรอ? ” เสี้ยเมิ่ง เหยาเริ่มไม่พอใจ หลินเย่นกับถางรั่วเสงี่ยนทำเกินไปจริงๆ แขกยึดบ้านเจ้าของก็แย่แล้ว ยังไล่หลินหลันออกมาอีก

นี่มันญาติประเทศไหนกัน นี่มันโจรชัดๆ
“โรงแรมก็ดีนะ แม่กับพ่อไม่ได้ไปอยู่โรงแรมนานแล้ว นะ” หลินหลันพูดอ้อมแอ้ม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ