ลูกเขยมังกร

บทที่ 360 ไสหัวไปซะ



บทที่ 360 ไสหัวไปซะ

ถ้าเรื่องเกี่ยวพันถึงจอมยุทธ์ เขาต้อง ทบทวนให้ดีแล้ว

คนในวงการอย่างเขารู้ดีว่าคำว่าจอม ยุทธ์หมายถึงอะไร นอกจากตัวเองจะมีความ สามารถที่น่ากลัวแล้ว ฐานะเบื้องหลังจอม ยุทธ์ยังไม่มีทางอ่อนด้อยแน่

ลูกคุณหนูอย่างออเคอ ที่บ้านมีคน ระดับเจ้าหน้าที่กระทรวง ฐานะของเขาใน สายตาคนธรรมดาอาจจะเรียกว่าใหญ่มาก

แต่ในสายตาจอมยุทธ์ คนระดับเจ้า หน้าที่กระทรวงไม่กี่คนไม่มีค่าอะไรเลย

ต่อให้ อโหจนทําออเดอพิการจริง คน ทางบ้านอู่จื้อเคอไม่แน่ว่าจะทำอะไรสือโฟจุน

ได้

ดังนั้นเขาเลยห้ามปรามอู่ อเคอไว้ก่อน ที่จะออกหมัด ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้บานปลายไป ใหญ่ สุดท้ายเขาเองก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย

เขาต้องคลี่คลายเรื่องนี้ก่อน

“เพื่อนคนนี้ ทำไม…” ครั้งแรกถาม

เฉินเฟิง เฉินเฟิงไม่ตอบอะไร หลัวคนถามใหม่ อย่างอารมณ์เย็น แต่ครั้งนี้เขายังพูดไม่ทันจบ สายตาเย็นชาของเฉินเฟิงสาดใส่ร่างเขา พลางว่า: “ไสหัวไปซะ!

หลิวคุนชะงักพลางยิ้มค้าง

ไสหัวไปซะ?

ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม เขาเรียกให้ฉัน ไสหัวไป?

จากนั้นหลิวคนสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามข่มกลั้นความโกรธและสีหน้า: “เพื่อน ผมไม่ได้คิดอะไรอย่างอื่น ผมแค่อยากรู้จัก…

“ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ไสหัวไปซะ!”

ปฏิกิริยาเฉินเฟิงยังเย็นชาเหมือนเดิม เพราะตอนนี้หลินหวั่นซัวยังปลอดภัยไร้กังวล ไม่งั้นเขาไม่มีทางปล่อยให้หลิวดุนยืนพูดกับ เขาแน่!

เฉินเฟิงพูดว่าไสหัวไปสองรอบติด ทําให้บรรยากาศในห้องวีไอพีเงียบกริบ แม้แต่ เข็มตกสักเล่มคงได้ยิน

เขียวรั่วกัดฟันกรอด แทบอยากพุ่ง เข้าไปหาเฉินเฟิง และกดเขาให้โค้งขอโทษ หลิวคุน

ในสายตาเธอ การกระทําของเฉินเพิ่ง เรียกว่าหาเรื่องตายชัดๆ!

หลิวคนให้เกียรติเขาขนาดนี้แล้ว เขาไม่ โอนอ่อนตาม ยังสั่งให้หลิวคุณไสหัวไป? เข้าสมองหรือไงเนี่ย?!

ในห้องวีไอพี ชายหนุ่มหญิงสาวจำนวน ไม่น้อยที่คิดแบบเดียวกับเซียวรั่ว นิสัยของ หลิวคน ทุกคนรู้ดี เย่งหยิ่งทระนง ไม่เห็นใคร ในสายตาคนปกด้อย่าว่าแต่เรียกหลิวคุณให้ ไสหัวไปเลย แค่ใช้สายตาจิกกัด หลิวคุณก็ไม่ ปล่อยคนนั้นไว้แล้ว

แล้วนับประสาอะไรกับเฉินเฟิงคนนี้ กล้า สั่งหลิวคนให้ไสหัวไปสองครั้งติด

ทุกคนคิดแบบนี้ แต่ภาพที่เกิดขึ้นถัดมา ทําให้ทุกคนเบิกตากว้าง

หลิวคุนถอยหลัง!

ระหว่างถอยไป ก็ยิ้มประจบเฉินเฟิงว่า “อย่าพึ่งโกรธนะ ผมไป ผมไปเดี๋ยวนี้แหละ

“พี่คน?”

อู่จื้อเคอเบิกตากว้าง สีหน้าเหลือเชื่อ นี่ คือหลิวคนที่เขารู้จักหรอเนี่ย?

ทําไมขี้ขลาดแบบนี้เ

คนอื่นให้เขาไสหัวไปเขาก็ไป

เฉินเฟิงหรี่ตามอง ยิ้มเย็นมุมปาก หลิวคุ นคนนี้น่าสนใจดี

น่าจะมีเรื่องราวไม่น้อย ตัวเขาเหยียดหยามหลิวกุนต่อหน้าคน มากมายแบบนี้ หลิวคนกลับสะกดกลั้นความ โกรธไว้ได้

ความอดทนอดกลั้นไม่ธรรมดาเลย

หลังจากยิ้มเย็นหนึ่งที่ เฉินเฟิงเข้าไปอุ้ม หลินหวั่นชวนมาเดินออกจากห้องวีไอพี เชื่อ ว่าพอผ่านเรื่องนี้ไป พวกหลิวคุนและอู่จื้อเคอ คงไม่กล้ามายุ่มย่ามกับหลินหวั่นชีวแล้วแน่

ถ้าจะยุ่งอีก พวกเขาต้องสืบค้นประวัติ เขาให้ดีซะก่อน

“ไอ้ขยะ ต่อไปอย่าเที่ยวพูดไปอีกล่ะว่า เคยฝึกทหารมา ขายขี้หน้าทหารหมด!” สือโฟ จนมองอู่ อเคออย่างเย็นชา พอด่าจบ เขาก็ หมุนตัวเดินจาไป

ทิ้งหลิวคุนและอู่จื้อเคอสีหน้าไม่ดีนักไว้

พอเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไป เขียว วรับ

เดินตามสื่อโฟจุนออกไป

“แม่งเอ๊ย! พอทั้งสามคนออกไป อู่ อเคอที่สีหน้า บิดเบี้ยว ง ด ด ดฝ่ามือในกําแพงห้องวีไอ พี ถึงได้ระบายอารมณ์อัดอั้นออกมา

“พี่กุน เจ้านั่นมันใหญ่มาจากไหนน่ะ?” อู่ อเคออดถามไม่ได้ ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจเลย ว่า ทำไมหลิวคุนต้องกลัวเฉินเฟิงขนาดนั้น หรือเพราะสือโล่จนดูเหมือนจอมยุทธ์?

“ฉันไม่รู้” หลิวคุนส่ายหัว สายตาเจ้าเล่ห์ เคร่งขรึม เขามองเฉินเฟิงไม่ออกจริงๆ เขาพอ เดาที่มาของสือโฟจนได้ แต่กับเฉินเฟิง เขา เดาไม่ออกจริงๆ

ไม่ว่าจะมองยังไง เฉินเฟิงก็ดูเป็นคน ธรรมดา เผลอๆก็คนธรรมดาน่ะแหละ

แต่ภายใต้คำว่าธรรมดานี่กลับแฝงรังสี อันตรายที่ทําให้หลิวคนหวาดหวั่นเอาไว้

หลิวคนมีลางสังหรณ์ว่า ถ้าเมื่อกี้เขา

ดัดสินใจลงมือกับเฉินเฟิงจริงๆ งั้นมันจะกลาย เป็นการตัดสินใจที่เขาเสียใจที่สุดในชีวิต ไม่มี อะไรเทียบได้เลย!

หลิวกุนเชื่อมั่นในเซนส์ของตัวเองเสมอ ดังนั้นครั้งนี้เขาเลือกที่จะอดกลั้นดีกว่า

“ไม่รู้?”

อู่จื้อเคอเบิกตากว้าง หลิวคนยอมให้อีก ฝ่ายหยามนํ้าหน้าตัวเองขนาดนี้ทั้งๆที่ไม่รู้ตื้น ล็กหนาบางของอีกฝ่าย?

เหมือนรู้ว่าอู่จื้อเคอคิดอะไร หลิวคุนสาย หน้า ถอนหายใจพลางว่า “จื้อเคอ ตอนนี้สิ่งที่ น่ากลัวที่สุดในสังคมพวกเราคืออะไรรู้ไหม?”

“อะไรครับ?” อู่จื้อเคออึ้ง

“คือความไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลย!” หลิวคุนพูด เสียงเรียบ

“ตั้งแต่เล็กจนโต พวกเราเคยเจอคนมา ไม่น้อย ไม่ถึงพัน ก็ต้องมีแปดร้อย บางคนเป็น ยาจก บางคนเป็นคนมีชื่อเสียงมีอำนาจ ไม่ว่า คนจําพวกไหน บนตัวพวกเขาต้องมีออร่า ความเป็นคนชนชั้นนั้นๆอยู่ “คนจน อ่อนด้อย ความรู้สึกไหว อ่อนแอ”

“คนรวย เชื่อมั่นในตัวเอง สงสัย หยิ่ง

ทระนง”

“ออร่าพวกนี้ นายมองแวบเดียวก็ดูออก และยังวิเคราะห์ได้จากออร่าพวกนี้ด้วยว่าพวก เขาเป็นคนระดับไหน นายหาเรื่องพวกเขาได้ ไหม”

“แต่เจ้าหนุ่มเมื่อกี้ ไม่มีออร่าอะไรออก มาจากตัวเลย ทั้งท่าทีภายนอกของเขาและสิ่ง ที่แสดงออกมาทำให้ดูสับสน นายมองเขาแบบ แรก จะเห็นเขาเป็นแค่คนธรรมดา ไม่มีทางดึง เขาไปรวมกับพวกคนมีชื่อเสียงและอำนาจ แน่ๆ”

“แต่พอนายคุยกับเขา กลับพบว่าเขาไม่ ธรรมดาเลยสักนิด

“ในตัวเขามีสัตว์ป่าดุร้ายซ่อนตัวอยู่”

น้ำเสียงหลิวคนดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที สัตว์ป่าดุร้าย นี่เป็นความรู้สึกที่เขามีต่อ เฉินเฟิง

ทำให้เฉินเฟิงโกรธ ก็เท่ากับทําให้สัตว์ ป่าดุร้ายโกรธ อยู่ต่อหน้าสัตว์ป่าดุร้าย ฐานะ ทางบ้านเขารํารวยแค่ไหนมันก็เท่านั้น

ดังนั้นต่อให้เมื่อกี้เขาเรียกการ์ดทั้งหมด องคลับมาได้ เขาก็ไม่เรียก

“พี่ดุน มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอ?” อู่ จื้อเคอขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่า ครั้งนี้หลิวคนกลัว ขึ้นมาจริงๆ บางทีอาจจะแค่มองพลาดไปก็ได้ เฉินเฟิงนั่น เขามองยังไงก็ไม่ดูเหมือนมีฐานะ อะไรเลย ถือโน่จุนที่ยืนข้างเขาซะอีกกลับดู น่ากลัวกว่า

“จ๋อเดอ นายไม่เข้าใจ” หลิวคนส่ายหัว

“ในโลกนี้มีคนบางคนที่พวกเราไม่ สามารถไปแตะได้ พวกเรามีเงื่อนไขที่สวรรค์ ประทานให้ และสามารถควบคุมอำนาจความ ร่ารวยที่คนธรรมดายากจะเข้าถึงได้ แต่ของ พวกนี้มันมีค่าแค่ให้พวกเราเห็นเกริมต่อหน้า คนธรรมดาได้เท่านั้น”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ