ลูกเขยมังกร

บทที่ 452 บัตรเชิญของคุณล่ะ



บทที่ 452 บัตรเชิญของคุณล่ะ

“ไอ้คนนี้มันกินตะกละตะกลามมูมมามมาก สถานที่คฤหาสน์ แบบนี้ ยังกล้าในหน้าต่างแอบเข้ามาได้อีก

สายตาทุกคนต่างจับจ้องไปทางหลี่เล่อและหลีสื้อผง

สีหน้าของหลี่เล่อไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ยังคงทำหน้าทตาปกติ เช่นเดิม

ส่วนทางหลี่ซื้อผิงนั้นทำหน้าพอใจมาก ก่อนที่จะเข้ามาในงาน นั้น เขายังคิดหาหนทางว่าจะทำยังไงดีที่จะกลายเป็นจุดเด่นใน งานได้ ไม่คิดเลยว่าแค่เผลอประเดี๋ยว หลี่เล่อก็เป็นคนหยิบยื่น โอกาสครั้งนี้ให้ตรงหน้าเขาเอง

“เฉินเฟิงเป็นคนพาแกเข้ามาใช่ไหม?” สายตาหลีสื้อผงฉาย แววตาร้ายกาจออกมา เขาไม่ได้มีความเคียดแค้นมากมายใหญ่ หลวงกับหลี่เล่อ แต่สำหรับเงินเฟิงแล้ว เขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่

“ฉันเป็นคนพาเข้ามาเอง

เวลานั้นเอง เฉิงเฟิงได้แต่ยิ้มแล้วเดินเข้ามาหา เพื่อมายืน ขนาบด้านข้างหลี่เล่อ

เมื่อเห็นว่าเงินเฟิงกล้ายอมรับ สีหน้าของหอผึ้งยิ่งดีใจ ยกใหญ่ แต่ว่าต่อหน้าคนตั้งมากมายขนาดนี้ เขาก็ไม่สามารถ แสดงสีหน้าที่ดีใจขนาดนี้ออกมาได้ ได้แต่ตอบกลับอย่างนิ่งเฉย “พวกแกรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่อะไร?
“รู้สึ ที่นี่ก็คือคฤหาสน์” เฉินเฟิงอ้าปากตอบอย่างเรียบเฉย

“รู้ว่าที่นี่คือคฤหาสน์แล้วพวกแกยังกล้าแอบปีนหน้าต่างเข้า มาอีกเหรอ พวกแกนี่มันบ้าเลือดมาก แต่มันกล้าเกินไปหน่อย แล้ว” หลี่ซื้อผิงหัวเราะเย็นชาให้ครั้งหนึ่ง ในเวลานั้นเอง เขาก็ พอจะรู้ว่าเพราะเหตุใดเงินเฟิงถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ ก็คงเป็น เพราะว่าเมื่อเช้าได้ยินที่เขาพูดที่บริษัทว่าที่ไปงานเลี้ยงวันเกิด ของซิงฉือ จากนั้นก็เกิดอาการอิจฉาตาร้อน ดังนั้นเลยหาวิธี การในการเข้ามาในงานให้เห็นกับตา

แต่ว่าช่างน่าเสียดาย ที่นี่มันคือคฤหาสน์

คนที่จัดงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ คือตระกูล แอบเข้ามาในงานเลี้ยงวันเกิดของตระกูล มันก็เหมือนรนหา ที่ตายทั้งนั้น!

“ใครบอกว่าพวกเราแอบปีนหน้าต่างเข้ามาล่ะ?” เฉินเพิ่งได้ แค่ยิ้มให้เล็กน้อย “พวกเราก็เดินเข้ามาในงานอย่างเปิดเผย แหละ”

“มาอย่างเปิดเผย?” หลี่ซื้อยิงหัวเราะกลบ “เฉินเฟิง แกคิดว่า ทุกคนโง่เหรอ?”

“คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณ คนที่มีบัตรเชิญของ ตระกูลเท่านั้นถึงจะมีสิทธิเข้ามาในงานได้ ส่วนแกกับหลี่เล่อ ดันไม่มีบัตรเชิญของตระกูลจู่!”

“ไม่ทราบว่า พวกคุณสองคน เดินเข้ามาในงานอย่างเปิดเผยได้อย่างไร?!” หลี่อฝั่งทำหน้าเหมือนเอ่ยตอนปากถามราวกับ เป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ตนเองเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้

ภาพนั้น หวางซื่อหยวนที่ยืนอยู่ข้างตัวดวงตาประกายระยิบ ระยับ ช่างน่าหลงไหลเหลือเกิน ในใจรู้สึกไม่เสียดายผู้ชายที่เธอ เป็นคนเลือกเอง ถึงแม้ว่าจะเกิดในครอบครัวธรรมดา แต่ว่าใน งานเลี้ยงเช่นนี้ กลับกลายเป็นตัวหลักให้ใครๆ ได้พบเห็น

“ใครบอกแกว่างานเลี้ยงวันเกิดของคุณ ต้องเป็นคนที่มีบัตร เชิญของตระกูลเพียงเท่านั้นถึงมีสิทธิเข้ามาในงานได้?” มุม ปากเฉินเฟิงแสยะยิ้มอย่างหยอกล้อ เขาเองก็ไม่อยากจะคาด โทษอะไรกับหลี่ซื้อผิงมากนัก แต่ทุกครั้งหล่อผิงชอบสร้างเรื่อง ทุเรศๆ ออกมาตอกใส่หน้าเขา เพื่อให้เขาอับอาย เขาก็ยาก ลำบากใจอยู่เหมือนกัน…

“แกหมายความว่ายังไง?” หลี่ซื้อผงขมวดคิ้วเข้าหากัน ฟังคำ พูดของเฉินเฟิงแล้ว ว่างานเลี้ยงวันเกิดของอู่ซึ่งฉือ นอกจากบัตร เชิญของตระกูลฉู่แล้ว ยังมีวิธีอื่นที่สามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้ได้ อีกเหรอ?

“ไม่มีความหมายอื่นนี่ ฉันจะบอกแกให้นะ งานเลี้ยงวันเกิด ของคุณ นอกจากบัตรเชิญของตระกูลแล้ว คือการที่คุณเป็น คนเชื้อเชิญด้วยตนเอง

การที่คุณ เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเอง?!

หน้าหลีองประหลาดใจทันที ไอ้ไร้ประโยชน์คนนี้ น้ำเข้า สมองหรือไงกัน?
การที่คุณ เป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเอง คำพูดนี้ มันก็พูดออก มาจากปากได้อีกนะ?

ไม่เพียงแต่หล่อผิง แขกเหรื่อที่อยู่ในงาน ต่างทำหน้าสงสัย กันเป็นแถว

“คุณเป็นคนเชื้อเชิญด้วยตนเองเหรอ? ทำไมฉันไม่เคยได้ยิน เรื่องนี้มาก่อนเลย?”

“ฉันก็ไม่เคยได้ยิน ฉันรู้สึกว่าเขากำลังพูดโม้ไปเรื่อย

“เขาต้องพูดโม้ไปเรื่อย ทุกคนในเวลานั้น ต่างเป็นคนที่ได้รับ บัตรเชิญจากทางตระกูลเข้ามาในงานทั้งนั้น ไม่มีใครสักคนที่ คุณเป็นคนเชิญเข้ามาในงานเอง”

“พวกเขาต้องแอบปีนหน้าต่างเข้ามาแน่

“นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าคุณจะเชิญมางานเองก็ตาม ทุกคนต่าง รู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรใช่ไหม?” เริ่มมีน้ำเสียงดูถูกขึ้นมา

การแต่งกายของเฉินเฟิงกับหลเล่อนั้น ก็เหมือนกับเสื้อผ้าตาม ตลาดนัด พูดให้เสียหายหน่อยก็คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของ ทั้งสองคนเมื่อเอามารวมกัน ยังเทียบไม่ได้กับกางเกงชั้นในของ ใครสักคน ในที่นี้เลย คนพรรค์นี้ จะมีคุณสมบัติอะไรที่ให้ซึ่งถือ โปเชิญเข้ามา?

“ไม่คู่ควรแน่ๆ!”

“สองคนนี้มันก็ไอ้ขี้แพ้ทั้งคู่ ไม่รู้ว่าไปได้ยินข่าวมาจากไหนว่า คุณจะจัดงานเลี้ยง เลยแอบอาศัยจังหวะเข้ามาในงานเพื่อให้เห็นกับตา

“ฉันรู้สึกว่าเขาสองคนคงไม่ได้เข้ามาในงานเพื่อจะดูงานให้ เห็นกับตาหรอก เขาสองคนคงเข้ามาหาอะไรกิน ฮ่าๆๆ เมื่อครู่ พวกคุณคงมองไม่ทัน ว่าพวกเขาหิวแล้วกินอาหารแบบนั้น

บรรดาชนชั้นไฮโซหลายคนที่กำลังยืนอยู่ต่างหัวเราะถากถาง กันยกใหญ่ ความจริงแล้วก่อนที่หลี่ซื้อผิงจะเริ่มหาเรื่องนั้น พวก เธอก็ได้มองมาที่เฉินเฟิงกับหลี่เล่อแล้ว สำหรับคนอื่นๆ อยู่ใน งานนั้น พฤติกรรมของสองคนนั้นมันช่างโดดเด่นเหลือเกิน จน ทำให้ผู้คนไม่สนใจนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากแล้ว

คนอื่นๆ เข้ามาที่นี่เพื่อคุยธุรกิจ เพื่อหาเส้นสายในธุรกิจ ส่วน เฉินเฟิงกับหลี่เล่อนั้น มาหาของหิน เหมือนว่าเมื่อเห็นอะไรสัก อย่างก็ยัดใส่ปากไปหมด

เมื่อเห็นว่าตนเองทำให้เงินเฟิงและหลี่เลือกลายเป็นจุดสนใจ ในงานได้ หลี่ซื้อผังรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก

ยามเมื่อเขาย่างเท้าเข้ามาในงาน ก็ตกเป็นเป้าสายตาให้แก่ ผู้คนที่ยืนอยู่ “ไม่ปิดบังทุกคนเลยแล้วกัน สองคนนี้ ความจริง แล้วฉันรู้จัก เขา ชื่อว่าเฉินเฟิง ฐานะเขาก่อนหน้านี้ ก็คือลูกเขยที่ แต่งเข้าบ้าน ส่วนเขา ชื่อหลี่เล่อ ตอนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทต่าง เหม่ยกรุ๊ป แต่ว่าเป็นแค่พนักงานออกต่อยธรรมดา

“ที่พูดมาตั้งนานขนาดนี้ ก็แค่อยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า สอง คนนี้ ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องคุณได้ พวกเขาก็ ไม่มีบัตรเชิญของตระกูล อีกด้วย!
“พวกมัน ก็แค่แอบอาศัยจังหวะปะปนเข้ามา!” หล่อผิงไปที่ เงินเฟิง ท่าทางคาดโทษ

หลังจากที่หลี่ซื้อผิงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเฉินเฟิงและหลั เล่อแล้ว แขกเหรื่อที่นั่งมองในงานอยู่ไม่น้อยต่างลุกขึ้นยืนมอง ทันที

“ที่แท้ก็เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเหรอเนี่ย?!

“ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงยังกล้าหน้าด้านเข้ามาที่แบบนี้ อีก! ใครช่าง ให้ความกล้าแบบนี้กับแกได้นะ?

รีบไล่เขาออกไปซะ

“ใช่ ไสหัวเขาออกไป! งานเลี้ยงวันเกิดของคุณ ให้ไอ้ผู้ชาย ที่แต่งเข้าบ้านเข้ามาในงาน มันทำให้คุณเสียชื่อเสียง!”

“ฮ่าๆๆ ไอ้ไร้ประโยชน์ ได้ยินยัง? มีหลายสถานที่ ที่ลูกเขยที่ แต่งเข้าบ้านเข้ามาไม่ได้ พอมีคนรู้เรื่องเข้าแล้ว ก็ถูกไล่ตะเพิด ออกไป” หล่อผิงในเวลานี้ทำหน้าพอใจมาก ทําหน้าเหมือนตัว ร้ายที่ได้ใจเช่นนั้น

ในเวลานั้นเอง เฉินเฟิงกับหลี่เล่อได้แต่หัวเราะเยาะเย้ยแทน ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

ไม่นานนัก ความอึกทึกครึกโครมทางนี้ก็เรียกความสนใจให้ กับพนักงานที่กำลังบริการในห้องโถงอยู่ จากนั้นก็มีบรรดาบอดี้ การ์ด หน้าตายเดินเข้ามาหา มาหยุดอยู่ตรงหน้าเงินเฟิงและหลั
“คุณครับ กรุณา โชว์บัตรเชิญของพวกคุณด้วย

“พวกเขาไม่มีบัตรเชิญ” เฉินเฟิงกับหลี่เล่อไม่ทันได้ตอบ หลี่ สื้อผงก็ตอบอย่างสนุกปากให้แทน

ส่วนหัวหน้าบอดี้การ์ดนั้นไม่ได้สนใจหลี่ซื้อผิง แต่เป็นสายตา ไปที่เฉินเฟิงแทน

“เราไม่มีบัตรเชิญ” เฉินเฟิงเอ่ยปากพูดอย่างนิ่งๆ

“ไม่มีบัตรเชิญเหรอ?” หัวหน้าบอดี้การ์ดหน้าเย็นเฉียบทันที “งั้นพวกคุณเข้ามาในงานได้อย่างไรกัน?”

“พ่อบ้านโจว” เฉินเฟิงพูดชื่อออกไป หัวหน้าบอดี้การ์ดตก

ตะลึงทันที

“พ่อบ้านโจวเป็นคนพาพวกเราเข้ามา” เมื่อเห็นว่าบอดี้การ์ด ทำเหมือนว่าไม่เข้าใจความหมายของเฉินเฟิง หลี่เล่อเลยพูดเพิ่ม

ให้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ