ลูกเขยมังกร

ตอนที่187 สบายใจ



ตอนที่187 สบายใจ

“ดื่มกินฟรีมาสามปี?” เฉินเฟิงแสยะยิ้มเหยียดออกมา หนัง หน้าของคนตระกูลเสี้ยพวกนี้หนากว่ากำแพงเสียอีก แม้แต่ คำพูดพวกนี้ก็ยังพูดออกมาได้ อย่าว่าแต่สามปีมานี้ที่เขานั้น ไม่ได้ดื่มกินฟรีอะไรเลย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะดื่มกินฟรี เขาก็กิน ของเสี้ยเมิ่งเหยา ไม่ได้กินของตระกูลเสี้ยเสียหน่อย

“หรือว่าไม่ใช่กันล่ะ?” เห็นเฉินเฟิงกล้าเอ่ยเหน็บแนมออก มา ก็มีคนเกิดอาการไม่พอใจกันขึ้นมาทันที

“คุณว่าใช่ก็คงจะใช่ล่ะมั้ง” เฉินเฟิงยิ้มจางๆออกมา เขาเกียจไปแก้ตัวกับพวกคนโง่อย่างนี้

“เฮอะ ในเมื่อใช่ งั้นแกก็ควรร่วมอุทิศตนเพื่อตระกูลเสี้ยเสีย หน่อยสิ” มีคนแค่นเสียงเย็นพร้อมทั้งเอ่ยออกมา

“ไปขอร้องหลินจงเหว่ย! ถ้าเรื่องนี้สามารถทำสำเร็จลงได้ แกก็จะสามารถเข้ากราบไหว้บรรพบุรุษตระกูลเสี้ยได้” เสียง ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลเสี้ยเอ่ยเสียงเย็นออกมา ในน้ำ เสียงแฝงไปด้วยความรู้สึกราวกับกำลังทำบุญทำทาน

“กราบไหว้บรรพบุรุษตระกูลเสี้ย?” เฉินเฟิงส่ายหน้า มุม ปากก็แสยะยิ้มเหยียดออกมามากขึ้น

“ทำไม แกยังไม่พอใจ?” ผู้อาวุโสที่ได้พูดออกมาด้วยน้ำ เสียงที่เหมือนราวกับกำลังทำบุญทำทานเมื่อสักครู่เลิกคิ้ว แล้วรู้สึกไม่พอใจต่อตัวเฉินเฟิงอย่างมาก

เฉินเฟิงไม่ได้ตอบกลับไป แต่กลับเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้า ของเสี้ยหยุนเสิ่งแทน สบตากับเสี่ยหยุนเส็งไปตรงๆแล้วเอ่ย ออกไปว่า “โครงการที่ยู่ฉวนซานพวกนั้น ผมสามารถช่วยเอา คืนกลับมาให้พวกคุณได้”

“แต่ผมมีข้อแม้อยู่ข้อนึงหลังจากนิ่งไปแป๊บนึง เฉินเฟิงก็ เอ่ยออกมาอีกครั้ง

“ข้อแม้อะไร?” เสี้ยหยุนเส็งเอ่ยด้วยเสียงนิ่งขรึม เขารู้ดีว่า เฉินเฟิงนั้นไม่ใช่คนประเภทพูดอะไรเรื่อยเปื่อย คำพูดที่เขา พูดออกมา เกรงว่าเขาก็คงมีความมั่นใจว่าจะสามารถพูดกับ หลินจงเหว่ยได้จริงๆ

“ฉันต้องการแบ่ง! แยก! ตระกูล! เสี้ย!” เฉินเฟิงพูดออกมาที

ละคำๆ

“บังอาจ!”

“ไม่มีทาง”

“สามหาว!”

“แกมันก็แค่คนที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงคนนึง มีสิทธิ์อะไรมา

แบ่งตระกูลเสี้ย!”

ทันทีที่คำพูดนี้ของเฉินเฟิงหลุดออกไป เสี้ยหยุนเสิ้งยัง ไม่ทันได้พูดอะไรออกมา พวกคนหัวโบราณของตระกูลเสี้ยก็ ได้ชิงเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน การสืบทอดขนบธรรมเนียมเดิมของตระกูลนั้นเป็นสิ่งที่ สำคัญอย่างมาก ในความคิดของพวกเขา การแบ่งตระกูลเสี้ย ที่เฉินเฟิงพูดออกมานั้น ก็คือการแยกเสี้ยเพิ่งเหยาออกไปตั้ง ตระกูลเสี้ยเล็กๆเพิ่มขึ้นมา

และชัดเจนอย่างมากว่า ตระกูลเสี้ยเล็กๆที่แยกย่อยออกไป นี้จะต้องมีเฉินเฟิงเป็นผู้นำตระกูล ไม่ใช่เสี้ยเมิ่งเหยาแน่ๆ ถ้าเฉินเฟิงเป็นคนที่มีตำแหน่งสถานะที่มีหน้ามีตาก็แล้วไป ถ้าเขาปกครองตระกูลเสี้ย ตระกูลเสี้ยสายหลักก็จะพลอย หน้ามีตาไปด้วย

แต่เฉินเฟิงกลับเป็นเพียงแค่คนที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงคอย เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่ง คนที่มีสถานะอย่างนี้ ถ้าอยู่ในสมัย โบราณ นั่นก็คงเป็นพวกที่แม้แต่โต๊ะอาหารก็ยังไม่มีปัญญา ขึ้นไปนั่งได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมัยนี้ การให้เขาปกครอง ตระกูลเสี้ยสายย่อยนั้น ตระกูลเสี้ยสายหลักจะยังมีหน้าทำ อะไรได้อีก

เฉินเฟิงไม่ได้สนใจพวกคนหัวโบราณเหล่านี้เลย ทั้งยังเบน สายตาจ้องมองไปยังร่างของเสี้ยหยุนเส็ง ตระกูลเสี้ย ท้ายที่สุดยังไงก็ยังคงเป็นเสี้ยหยุนเสิ่งที่ทำ

หน้าที่เป็นผู้นำของตระกูล

“ทำไมแกถึงอยากแยกตระกูลเสี้ย?” เสี้ยหยุนเสิ่งเอ่ยถาม ออกมา ข้อเรียกร้องของเฉินเฟิงข้อนี้เป็นสิ่งที่เขานึกไม่ถึง เลยแม้แต่น้อย

เฉินเฟิงยกยิ้มเหยียดออกมา จากนั้นก็เอ่ยถามออกไป “ถ้า ผมไม่แยกตระกูลเสี้ย คุณสามารถมอบตระกูลเสี้ยให้เสี้ยเมิ่ง เหยาได้หรือเปล่าล่ะ?”

แววตาของเสี้ยหยุนเส็งนิ่งแข็งออกมาเล็กน้อย แน่นอนว่า เขาไม่อาจมอบตระกูลเสี้ยให้กับเสี้ยเพิ่งเหยาได้ แต่ถึงแม้ว่า จะเป็นอย่างนี้ เฉินเฟิงก็ไม่เห็นจะต้องแยกตระกูลเสี้ยเลยนี่ เขายังคงคิดว่า การที่เฉินเฟิงแยกตระกูลเสี้ยออกไปนั้น ยังมี เหตุผลอื่นอีก “คิดเพ้อเจ้อฝันลมๆแล้งๆ แล้วยังกล้าวางแผนร้ายกับตระ กูลเสี้ยอีก!”

“หยุนเสิ้ง อย่าไปตอบตกลงไอ้คนแบบนี้เด็ดขาด!”

“ไอ้คนคดในข้อ งอในกระดูกอย่างนี้ ควรขับไล่ออกจาก ตระกูลเสี้ย เพื่อเป็นตัวอย่างไม่ให้คนอื่นได้ทำตามไปเสีย!”

พวกคนหัวโบราณของตระกูลเสี้ยพวกนั้นโกรธจนยั้ง อารมณ์ไว้ไม่ได้ ให้เสี้ยหยุนเสิ้งมอบตระกูลเสี้ยให้กับเสี้ยเมิ่ง เหยา นั่นมันต่างอะไรกับการมอบให้เฉินเฟิงกัน ถึงอย่างไร ลูกที่เกิดมาในอนาคตของเสี้ยเพิ่งเหยาก็เป็นสายเลือดของ เฉินเฟิง

เฉินเฟิงยิ้มออกมาแต่ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป ที่แท้พวกคน แก่ๆพวกนี้ก็คิดว่าเขาหมายตาตระกูลเสี้ยอยู่งั้นหรอ

คิดอะไรตื้นๆ!

ตัวเขาเฉินเฟิงนั้น แม้แต่ตระกูลเฉินที่เป็นตระกูลอันดับต้นๆ ในหวาเซี่ย ก็ยังไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย

แล้วตระกูลเล็กๆตระกูลหนึ่งอย่างตระกูลเสี้ย แม้ว่าจะให้ ฟรีเขาก็ยังไม่เอาเลย

ที่เขาต้องการแยกตระกูลนั้นความจริงมันก็มาจากหลาย สาเหตุด้วยกัน

ด้านหนึ่งก็เพื่อตระกูลเสี้ยในตอนนี้ พวกคนโง่อย่างเสี้ยห้าว เสี้ยจื่อหลันมันมากเกินไป แต่ละคนเอาแต่สนแต่ผล ประโยชน์ของตัวเอง ตระกูลเสี้ยได้เน่าเละไปถึงแกนหลัก แล้ว ถ้าเสี้ยเพิ่งเหยายังอยู่ตระกูลเสี้ยต่อไป ไม่ช้าก็เร็วก็คง ถูกพวกคนโง่เหล่านี้ทำให้โกรธจนแทบจะตายเสียให้ได้แน่ ส่วนในอีกด้านนึงนั้นกลับเป็นเพราะว่าเขาอยากสร้าง อำนาจที่เป็นของเสี้ยเพิ่งเหยาเองให้กับเธอ เพื่อให้เสี้ยเมิ่ง เหยามีกำลังในการปกป้องตัวเองได้

เนื่องจากอาจจะมีสงครามระหว่างเขากับตระกูลเฉินนั้นเกิด ขึ้นในไม่ช้าก็เร็วนี้แน่

ผลของสงครามในครั้งนี้ เขาเองก็ไม่อาจคาดเดาได้

ถ้าสักวันหนึ่ง เขาแพ้ หรือไม่ก็ออกไปจากชางโจว เสี้ยเมิ่ง เหยาที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวและลำบากยากแค้น จะต้องถูก คนรังแกอย่างแน่นอน

เฉินเฟิงไม่มีทางยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นมาแน่! เขาไม่อยากปกป้องเสียเพิ่งเหยาแค่สามปี ถ้าหากเป็นไปได้

ล่ะก็ เขากลับอยากปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยาไปทั้งชีวิตเลยด้วยซ้ำ

เสี้ยหยุนเส็งสูดหายใจเข้าลึกๆ “เงื่อนไขของแก ฉันตกลง” ผู้คนในที่แห่งนั้นนิ่งเงียบ จากนั้นก็เกิดแตกตื่นกันขึ้นมา ทันที!

“หยุนเส็ง! ทำไมนายถึงเสียสติไปได้ถึงขนาดนี้”

“ให้ไอ้คนที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงมาแบ่งแยกตระกูลเสี้ย ถ้า เรื่องนี้แพร่ออกไป คนตระกูลเสี้ยอย่างฉันจะเอาหน้าไปไว้ ที่ไหน! ฉันขอค้าน!”

“ฉันก็ขอค้านเหมือนกัน! จะให้ไอ้เศษสวะไร้ค่านี่มาแบ่ง แยกตระกูลเสี้ยไม่ได้เด็ดขาด!”

เสียงของพวกคนหัวโบราณจำนวนมากของตระกูลเสี้ยกระ ทึบเท้าอย่างไม่พอใจกันเซ็งแซ่ เสี้ยหยุนเสิ้งทอดถอนหายใจออกมา ความจริงเขาเองก็ไม่ อยากตกลง แต่สถานการณ์ของตระกูลเสี้ยในตอนนี้นั้นก็คือ ได้ลงทุนกับยู่ฉวนซานไปเยอะมาก ถึงขั้นที่แทบจะทุ่มไปจน หมดตัวเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้โครงการพวกนั้นกลับมา ไม่เกิน สองปี ตระกูลเสี้ยจะต้องล้มละลายแน่ เมื่อถึงตอนนั้น คนตระ กูลเสี้ยหลายสิบคนพวกนี้ ใครจะมาหาเลี้ยงชีพ?

“เอาล่ะ เรื่องนี้ตกลงกันตามนี้ ถ้าใครยังอยากคัดค้าน งั้น คนนั้นก็ไปเอาโครงการพวกนั้นจากตระกูลเย่เองแล้วกัน” เสี้ยหยุนเส็งแค่นเสียงเย็นออกไป พวกคนหัวโบราณพวกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นญาติพี่น้องรุ่นเดียวกับเขาทั้งนั้น ในวันปกติก็ เอาแต่กินหุ้นลมกับเงินปันผลของบริษัทไปวันๆ จึงไม่ได้รับรู้ ถึงปัญหาของบริษัทเลยสักนิด

หน้าตา? ของพวกนั้นสำคัญสู้กับการกินอิ่มท้องได้มั้ย?

เมื่อคำพูดนี้ของเสี้ยหยุนเส็งหลุดออกมา พวกคนหัวโบราณ กลุ่มนั้นก็เงียบเสียงลงทันที ถ้าพวกเขามีความสามารถที่จะ แย่งมาจากปากของตระกูลเยได้จริงๆ พวกเขาก็คงไม่มายืน กระทืบเท้าอย่างไม่พอใจอยู่ตรงนี้หรอก

สิ่งที่ต่างจากคนรุ่นก่อนของตระกูลเสี้ยก็คือลูกหลานรุ่น หลังๆของตระกูลเสี้ยจำนวนมากนั้นกลับยกมือยกเท้าแสดง ความเห็นด้วยกับเรื่องนี้ออกมา พวกเขาไม่ได้มีแนวคิดเกี่ยว กับเรื่องการรักษาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของตระกูลอะไร พวกนี้อยู่แล้ว

กลับกัน พวกเขานั้นพวกเขากลับดีใจที่เห็นเฉินเฟิงแยก ออกไป อย่างนี้พวกเขาก็จะได้รอดูเรื่องน่าขันของเฉินเฟิงกัน ดูสิว่าเสี้ยเมิ่งเหยาและเฉินเฟิงที่ไม่มีตระกูลเสี้ยคอยหนุน จะน่าสังเวชกันขนาดไหน

แน่นอนว่าคำพูดเหล่านี้พวกเขาทำได้แค่เพียงคิดอยู่ภายใน ใจ ให้พวกเขาพูดออกไปต่อหน้าคนหัวโบราณมากมายเหล่า นี้ พวกเขากลับไม่มีความกล้านั้น

เฉินเฟิงเดินไปหยุดตรงหน้าของเสี้ยเพิ่งเหยา จากนั้นก็กุม มือของเสี่ยเพิ่งเหยาเอาไว้

“ไปกันเถอะ” เฉินเฟิงยิ้มออกไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ชาง โจวแห่งนี้จะมีตระกูลเสี้ยเพิ่มมาอีกหนึ่ง ตระกูลเสี้ยที่เพิ่งตั้ง มาใหม่ๆ

“อิม” เสี้ยเมิ่งเหยาพยักหน้าออกมาเบาๆ เธอรู้อยู่แล้วว่าการ ที่เฉินเฟิงแบ่งแยกตระกูลเสี้ย ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเอง แต่ก็เพื่อ ให้เธอได้เป็นอิสระจากสังคมที่เลวร้ายในตระกูลเสี้ยทั้งหลาย

เหล่านี้

ต้องพูดเลยว่าค่าใช้จ่ายในการทำอย่างนี้ของเฉินเฟิงนั้น ค่อนข้างที่จะสูง โครงการในโปรเจคยู่ฉวนซานพวกนั้น มี มูลค่าอย่างน้อยๆก็น่าจะประมาณห้าร้อยกว่าล้าน การมอบให้ ตระกูลเสี้ยก็เท่ากับการสูญเสียห้าร้อยกว่าล้านนั้นไปโดย เปล่าประโยชน์

เฉินเฟิงจะไม่มอบให้ได้หรือเปล่า? แน่นอนว่าได้ เพียงแค่ เขาแสดงสถานะทายาทตระกูลเฉินของตัวเองออกไป เพียง แค่ยืมความกล้าของตระกูลเสี้ยมาสักหมื่นนึง ตระกูลเสี้ยก็ไม่ กล้ามาเอาโครงการพวกนั้นไปจากเฉินเฟิงแน่

แต่เฉินเฟิงไม่ทำอย่างนั้น

เสี้ยเมิ่งเหยารู้ดีว่าเฉินเฟิงท่าอย่างนี้ก็เพื่อให้เธอสบายใจ เพราะถึงยังไงเธอก็ถูกตระกูลเสี้ยอบรมเลี้ยงดูมายี่สิบกว่าปี ถ้าให้เธอต้องมาเห็นตระกูลเสี้ยพังไปกับตาโดยที่เธอไม่ได้ ทำอะไร ในใจของเธอเองก็คงจะรู้สึกไม่ดีขึ้นมาไม่น้อย

สามารถพูดได้เลยว่าเฉินเฟิงใช้ห้าร้อยกว่าล้านนี้เพื่อซื้อ ความสบายใจให้เธอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ