ลูกเขยมังกร

บทที่ 425 เจ้าสามหวังทะลวงตอนนอนหลับ



บทที่ 425 เจ้าสามหวังทะลวงตอนนอนหลับ

“ขอประทานโทษ? ” เขียว วรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ท่าทีของผู้ จัดการหวงนี้ ต้องต้อยต่ำขนาดนี้เลยหรอ ทําไมถึงทำอย่างกับ ตัวเองเป็นปีศาจที่บ้าอำนาจล่ะ

“คุณเชียว คุณเฉิน ก่อนหน้านี้ผมก็ถูกกวนนั้นข่มขู่ เลย ทำท่าทีที่โง่เขลาแบบนั้น คุณเชียว คุณเฉิน พวกคุณสองคนเป็น บุคคลใหญ่คนโตก็ย่อมมีใจที่กว้างขวาง ได้โปรดเห็นแก่ผมที่ยัง ต้องเลี้ยงคนแก่และเด็ก อภัยให้ผมสักครั้งเถอะ ผมสัญญา วัน ข้างหน้าจะไม่……..” ผู้จัดการหวงพูดไปๆ น้ำเสียงก็เคล้าด้วย อาการร้องไห้

เขียวรั่วจึงทำตัวไม่ถูกทันที เธอเพิ่งจะได้สติกลับมา ผู้จัดการ หวงทำแบบนี้ คือกลัวว่าเงินเฟิงจะเอาเรื่องที่ก่อนหน้านี้เขาให้ บอดี้การ์ดเจียงหมั่นโลลงไม้ลงมือ กลัวว่าเฉินเพิ่งจะคิดบัญชี กับเขา หลัง

“พอเถอะๆ ผู้จัดการหวง อย่าพูดอีกเลย ฉันไม่เช็คบิลก็ได้ พอใจหรือยัง? ” เซียวรั้วขัดจังหวะผู้จัดการหวงอย่างประหม่า เล็กน้อย เธอกลัวว่าถ้าปล่อยให้ผู้จัดการห่วงพูดต่อไป เขาที่เป็น ผู้ชายคนหนึ่ง เกรงว่าคงจะร้องไห้ออกมาแน่นอน

“ขอบคุณคุณเชียวมากครับ! ”

“ขอบคุณคุณเฉินมากครับ! ”
ผู้จัดการเขียวรู้สึกดีใจจนจะร้องให้ความหมายคำพูดของ เขียวรั่วชัดเจนมาก ว่าจะไม่เอาเรื่องเขา

นี่มันมีความหมายว่า ภัยครั้งนี้ เขาหลุดพ้นแล้ว

ภายในหนึ่งนาทีสั้นๆ ผู้จัดการหวงก็ทำสีหน้าที่เปลี่ยนเหมือน กำลังเล่นละคร เขาเปลี่ยนสีหน้าไปหลายแบบ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น นี้ แน่นอนว่าต้องถูกเฉินเพิ่งมองเข้ามาในสายตาอยู่แล้ว

สำหรับเรื่องนี้ เฉินเฟิงกลับไม่รู้สึกตลก เฉินเฟิงแค่รู้สึกอารมณ์ ความรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย

เขาสามารถเข้าใจได้ว่าความรู้สึกของผู้จัดการที่เหมือนดังนั่ง อยู่บนรถไฟเหาะ ในสายตาของผู้จัดการหวง บุคคลอย่างเช่นเขา สามารถตัดสินความเป็นความตายของคนธรรมดาคนหนึ่งได้

ถึงแม้ผู้จัดหวงจะเป็นผู้จัดการในเจียงหมั่นโล ถ้าเอาไปเทียบ เทียมในสังคม ก็ถือเป็นธุรกิจระดับกลาง ต่อหน้าคนที่ทำให้ก่อน คุกเข่าร้องขอการให้อภัย เขาผู้จัดการหวง ก็ถือว่าเป็นคำพูด ที่ตลก

หรือพูดอย่างไม่เว่อร์วังเกินจริง หากเฉินเฟิงอยากให้เขาตาย ในยามสาม เขาไม่มีทางมีชีวิตรอดถึงยามห้าแน่นอน

นี่เป็นความโศกเศร้าของบุคคลกระจอก คุณก็ไม่มีวันรู้ พรุ่งนี้ กับอุบัติเหตุ อันไหนจะมาก่อน

เฉินเฟิงถอนหายใจ ในสายตาของเขา ผู้จัดการหวงก็แค่ บุคคลต่ำต้อยที่ไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง
ทว่าในสายตาของคนบางคน เขาเงินเฟิง จะไม่ใช่บุคคลต้อย ต่ำที่ไม่มีคำพอที่จะเอ่ยถึงได้ยังไง?

หลังจากออกจากเจียงหมั่น โล่ เฉินเฟิงยกข้อมือขึ้น แล้วมอง นาฬิกาเพียงพริบตาเดียว ก็เห็นว่าเวลา ในตอนนี้ก็ถึงสี่ทุ่มแล้ว

“ผมส่งพวกคุณกลับโรงเรียนเถอะ” เฉินเพิ่งหยุดชะงักไปแล้ว เอ่ยพูด อีกป่านนี้ ให้เขียวรั่วกับหูเซอร์หยวน ผู้หญิงไม่กี่คนกลับ ไปตามลำพัง เขารู้สึกไม่ค่อยวางใจ

เงินเฟิงกำลังจะโบกรถ หูเซอร์หยวนกลับคลายยิ้มบางๆ แล้ว พูดขึ้น “ไม่ต้องแล้ว พี่เฟิง ฉันขับรถมา ฉันจะส่งเขียวรั่วพวกเธอ กลับไปเอง”

หลังจากพูดจบ หูเซอร์หยวนเอากุญแจรถสีดำออกจากกระเป๋า แล้วกดเบาๆ หนึ่งที

ข้างถนน มีแลมโบกินี urusที่ป้ายทะเบียนE0000คันสีแดงมี เสียงดังขึ้น

เฉินเพิ่งพิมพ์ขึ้นเบาๆ แล้วคลายยิ้มบางๆ ทันที “ได้ งั้น รบกวนคุณหน่อยนะ”

“ไม่รบกวนเลย” หูเซอร์หยวนส่ายหน้า เหมือนจะนึกอะไรออก เธอก็คลายยิ้มแล้วพูดขึ้น “ใช่แล้ว พี่เฟิง สะดวกเพิ่มเพื่อนใน แชทหน่อยไหม? ”

“แชท? ”

เฉินเฟิงนิ่งงันไปก่อน แล้วคลายยิ้มพลางพูด “สะดวกสี ผมสแกคุณนะ”

“ได้ค่ะ” หูเซอร์หยวนพยักหน้า แล้วเอามือออกมา จากนั้นก็ เปิดคิวอาร์โค้ด

เงินเฟิงสแกน จากนั้นมือถือก็มีนามบัตรวีแชทของเซอร์ หยวนเด้งออกมา

รูปโปรคือสัตว์เลี้ยงแมวที่ธรรมดา ชื่อเรียกว่าเซเลอร์มูน ทุก อย่างเรียบง่ายไม่มีความแปลกใดๆ

แน่นอน เฉินเฟิงก็นึกไม่ถึง แค่ผ่านวีแซทก็สามารถตัดสิน ความเป็นมาของหูเซอร์หยวนอย่างคร่าวๆ

ฐานะและเป้าหมายที่แท้จริงของหรือหยวน ก็ยังต้องให้เขา เองที่จะลงมือไปสืบค้นอย่างลึกซึ้ง

แค่มองจากข้อความตรงหน้า สามารถตัดสินได้ว่าหูเซอร์ หยวนมีที่มาที่ไปที่ดีหรือเลว

หลังจากใช้สายตาส่งหูเซอร์หยวนและเซียวรั่วเสร็จ เฉินเฟิงก็ เรียกรถกลับโรงแรม

เพิ่งจะถึงหน้าประตูโรงแรม เฉินเฟิงก็เห็นใบหน้าที่ปลื้มปริ่ม ของเฉินจื่อหลี่

“อาจารย์อาเฉิน ท่านกลับมาได้สักทีนะ!” พอเห็นเฉินเฟิง ใบหน้าที่เคล้าด้วยความปลื้มปริ่มของเฉินจื่อหลีจึงเข้มข้นกว่า

เติม
“ทําไม? มีเรื่องน่ายินดีอะไรเกิดขึ้นหรือ? ” เฉินเฟิงคลายยิ้ม

บางๆ

อาจารย์อาเงิน มีเรื่องน่ายินดี! ”

“เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก! ” เฉินจื้อหลีตื่นเต้นดีใจจนกระโดด โลดเต้น

“เรื่องที่น่ายินดีมาก? ” เฉินเฟิงตกตะลึงเล็กน้อย สีหน้ากลับ กลายเป็นแปลกพิลึก “ไม่ใช่บอกว่า……เจ้าสามหวงทะลวงแล้ว หรอ? ”

“อาจารย์อาเฉิน ท่านรู้ได้ยังไง? ” เฉินจื้อหลีทำสีหน้าที่สงสัย

เฉินเฟิงกลับทําสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แปลกพิลึก เขาแค่ พูดไปงั้นๆ นึกไม่ถึงว่าเจ้าสามห่วงจะสามารถทะลวงจริงๆ

“ตอนนี้เจ้าสามห่วงอยู่ไหน? ” เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะถาม เจ้า สามหวงทะลวง แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องน่ายินดี ในขณะเดียวกัน ก็เป็นเรื่องใหญ่

หัวจิ้งและอ้านจิ้ง เป็นสองแดนเลยนะ

จอมยุทธ์ก้าวเข้าสู่หัวจิ้ง จะถูกเรียกว่าเป็นปรมาจารย์ศิลปะ การต่อสู้ ศิลปะการต่อสู้มหาปรมาจารย์นี้ไม่ได้แสดงยุคสมัย อย่างชัดเจน ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ ก็คือจุดสูงสุดของบน โลกอย่างถ่องแท้
“ตอนนี้อาจารย์กำลังปรับตัวกับแดนอยู่ชั้นบน” เฉินจื่อหลีพูด ขึ้น หัวจิ้งและอ้านจึงมีแดนสองแดนที่แตกต่างกันออกไป เจ้า สามหวงเพิ่งจะทะลวงหัวจิ้ง แน่นอนว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่งมา ปรับตัว

เงินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย “พาฉันขึ้นไป

“ครับ”

จากหลังไม่กี่นาที เฉินเฟิงก็ถึงห้องชุดของเจ้าสามห่วง

วินาทีที่เฉินเฟิงผลักประตูเข้าไป เจ้าสามหวงก็ลืมตา ทำให้ เห็นอย่างชัดเจน ตอนนี้เจ้าสามหวง ดูหนุ่มขึ้นไม่น้อย เมื่อเทียบ กับเจ้าสามหวงในแต่ก่อน หนึ่งในนั้นที่ชัดเจนที่สุดคือเส้นผม ก่อนหน้านี้เส้นผมของเจ้าสามห่วงคือสีขาวเต็มหัว ตอนนี้เส้นผม ของเจ้าสามหวงกลับเป็นสีดำสนิท ดูๆ แล้วใกล้เคียงกับชายวัย กลางคนที่บำรุงร่างกายเป็นอย่างดี

“เหอะๆ ไอ้เด็กเปรต กูทะลวงแล้ว” พอเห็นเฉินเฟิง เจ้าสาม หวงก็เผยยิ้มร้ายแรงที่ดูคุ้นเคย นี่ทำให้เงินเฟิงอดถอนหายใจ ไม่ได้ ดูๆ แล้วนิสัยของเจ้าสามหวงไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

จอมยุทธ์บางคนหากทะลวงจากบ้านจึงเป็นหัวจิ้ง ท่าทาง จิตใจจะเปลี่ยนไปมาก แม้แต่นิสัยและอารมณ์ก็จะเปลี่ยนไปมาก เจ้าสามหวงกลับได้รับการยกเว้น

“ทะลวงยังไงตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทะลวงยังไง? ” เฉินเฟิงไม่ได้ สนใจความสง่าผ่าเผยของเจ้าสามหาง ทว่ากลับถามติดต่อกัน สามคําถาม ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ใต้ตึก สีหน้าของเขาดูแปลกพิลึกแบบนั้น ก็เพราะว่าเขานึกไม่ถึงว่าเจ้าสามห่วงจะทะลวงได้เร็ว ขนาดนี้ อีกอย่างไม่ส่งสัญญาณ และไม่เกิดสถานการณ์ เคลื่อนไหวเลยสักนิด ทั้งหมดนี้ไม่เข้ากับกฎระเบียบการทะลวง ของจอมยุทธ์เลย

ต้องรู้ หัวจิ้งเป็นธรณีประตูใหญ่ตรงหน้าจอมยุทธ์ทั้งหมด โดย ปกติแล้ว จอมยุทธ์ทะลวงหัวจิ้ง อย่างน้อยก็ต้องเตรียมตัวเป็น เวลาสิบกว่าวัน แล้วต้องปรับการหายใจให้ดีที่สุด ทำให้ความมี ชีวิตชีวาเข้าสู่สภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด ถึงจะสามารถเตรียมขั้น ตอนการทะลวงได้

ตอนที่ทะลวง ทางที่ดีที่สุดข้างๆ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยพิทักษ์ มีเพียงแบบนี้ จอมยุทธ์จึงจะรักษาความนิ่งสงบ แล้วสามารถ ทะลวงได้อย่างสุดพลัง

ทว่าเจ้าสามหวง ไหนๆ ก็ไม่ได้เตรียมตัวก่อน แต่ไม่มีใครเป็น ผู้พิทักษ์ให้เขา เขากลับสามารถทะลวงแบบนี้ ทำให้เฉินเพิ่งรู้สึก ไม่ตกใจไม่ได้

เหมือนรู้ว่าภายในใจของเฉินเฟิงกำลังคิดอะไร เจ้าสามหวง จึงยิ้มเหอะๆ แล้วเอ่ยพูด “ถ้ากูบอกว่า ตอนบ่ายแค่หลับไป จากนั้นพอตื่นมาก็ทะลวงแล้ว ไอ้เด็กน้อยจะเชื่อไหม? ”

พอเห็นเจ้าสามหวงทำท่าทางที่จัญไร เงินเฟิงจึงรู้สึกสุดค่า บรรยายทันที

เขากลับไม่อยากเชื่อ ทว่าเจ้าสามหวงทำหน้าที่จัญไรขนาดนี้ ทําให้เขาไม่เชื่อไม่ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ