ลูกเขยมังกร

บทที่ 414 ความคิดตื้นๆของหลินหลิน



บทที่ 414 ความคิดตื้นๆของหลินหลิน

หลังจากที่เงียบอยู่นานครู่หนึ่ง ในที่สุดเฉินเฟิงก็เอ่ยปากพูด “ผมไม่เป็นไร”

ถึงแม้เสี้ยเมิ่งเหยาจะไม่ได้พูดออกมาชัดเจน แต่เฉินเฟิงกลับรู้ ดี สิ่งที่เสียเพิ่งเหยาถามก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่สะพานใน เชียง

“แล้วเธอละคะ?” เสี้ยเพิ่งเหยาถามอีกประโยค เงินเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง “เธอก็ไม่เป็นไร

“ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ” เสี้ยเพิ่งเหยาพยักหน้าเบาๆ สีหน้าของ เธอเปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมา สำหรับหลินหวั่นว เธอมีความ รู้สึกหนึ่งที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้

จะบอกว่าเกลียด เธอก็ไม่ได้เกลียด

เพราะถึงยังไง ในช่วงเวลาคับขัน หลินหวั่นชีวยอมสละชีวิต ของตนเองเพื่อช่วยเฉินเฟิง

แค่ข้อนี้ เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะเกลียดหลินหวั่นวแล้ว

ผู้หญิงคนนี้ รักเฉินเฟิงมากเหมือนเธอ

แต่จะบอกว่า เธอก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้

เพราะถึงอย่างไรการปรากฏตัวของหลินหวั่นว ทำให้ความ สัมพันธ์ของเธอกับเงินเฟิง อยู่ในอันตรายเป็นครั้งแรก
เฉินเฟิงไม่รู้ว่าตอนนี้เสี้ยเพิ่งเหยากำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาพอ จะเดาได้บ้างเล็กน้อย

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงบอกกับเสี่ยเพิ่งเหยาไปแล้ว ระหว่าง เขากับหลินหวั่นชีว ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน

แต่เวลานี้ เขากลับพูดไม่ออก

เขาถามใจตนเองแล้วรู้สึกละอาย ผ่านเรื่องแบบนี้ เป็นไปได้ยังไงที่ในใจของเขาจะไม่มีหลินหวั่น

ข่า?

เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา เขาไม่ใช่เทพ หัวใจของเขาไม่ได้

ทําจากเหล็ก

ในช่วงเวลาคับขัน หลินหวั่น วผลักเขาทิ้ง โดยไม่สนใจอะไร ทั้งนั้น ภาพที่เธอเผชิญหน้ากับรถแลนด์โรเวอร์ สลักอยู่ในใจเขา ไปชั่วนิรันดร์แล้ว

เมื่อก่อน เฉินเฟิงสามารถพูดได้อย่างชัดเจน ในใจของเขา ไม่มีหลินหวั่น ว

แต่หลังจากผ่านเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หัวใจของเขา กลับเปิด ประตูให้หลินหวั่นชีว

หลังจากเงียบอยู่นานครู่หนึ่ง เสี้ยเพิ่งเหยาพูดขึ้นก่อน : “เรื่อง นัดบอร์ดวันนี้ แม่ของฉันหลอกฉันไปค่ะ ฉันเองก็เพิ่งรู้ตอนที่ไป ถึง แม่กับหลินเย่นนัดแนะเรื่องนัดบอร์ดให้ฉัน
“ขอโทษด้วย ที่ผมเข้าใจคุณผิด

เฉินเฟิงพูดอย่างรู้สึกผิด ความเป็นจริงตอนที่อยู่ที่ฮงเยคลับ เขาดูออกตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เสี้ยเพิ่งเหยาไม่ได้มานัดบอร์ดด้วย ความยินยอม

ตอนนั้นที่เสี้ยเพิ่งเหยาไม่ยอมไปกับเขา สาเหตุหลักๆเป็นเพ ราะอู่จื้อเคอเรียกหลินหวั่นชีวว่าพี่สะใภ้

ไม่ได้เป็นเพราะเขาเข้าใจผิดว่าเสียเพิ่งเหยาตั้งใจออกมานัด บอร์ด

“ไม่เป็นไรค่ะ” เสี้ยเพิ่งเหยาตอบเสียงเรียบ เธอเองก็ไม่รู้ว่า ทําไมตนเองต้องเป็นคนยอมเสียหน้าเพื่ออธิบายด้วย คงเป็น เพราะไม่อยากให้ในใจของเฉินเฟิงต้องรู้สึกข้องใจ และมีความ เป็นไปได้เพราะอยากพิสูจน์ตนเอง ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เปลี่ยน ใจง่าย หรืออาจจะเป็นเพราะ…..การปรากฏตัวของหลินหวั่นชีว ทำให้เธอรู้สึกอยู่ในอันตราย

“จริงด้วย เรื่องหลิวเส้า ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นฝีมือของคุณ ใช่ไหมคะ?” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเสียเพิ่งเหยาตัดสิน ใจถามคําถามนี้ออกไป เธอสงสัยตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว คนที่ ทำให้หลิวเส้า หายไปอย่างไร้ร่องรอยคือเฉินเฟิง วันนี้หลังจาก ที่รู้จากหลินหลันว่าเฉินเฟิงมาที่จงให้ได้ระยะหนึ่งแล้ว เธอก็ยิ่ง สงสัยมากกว่าเดิม”

“ใช่ฝีมือผมเอง”

เงินเฟิงไม่ได้ปิดบัง แต่เขายอมรับอย่างตรงไปตรงมา
เรื่องแบบนี้ ไม่จําเป็นต้องปิดบัง ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงแค่เสีย เพิ่งเหยาสืบรายชื่อพนักงานที่เข้ามาในบริษัทช่วงนี้ เธอก็ สามารถรู้ได้ทันทีว่าเป็นฝีมือเขา

“ขอบคุณนะคะ” จิตใจของเสียเพิ่งเหยาสับสนเล็กน้อย ที่แท้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ เฉินเฟิงคอยจับตาดูเธอมาโดยตลอด

“คุ้นชินกับการทํางานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปไหมครับ?”

เฉินเฟิงถาม บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นซึ่ง

มีมูลค่าเกือบสามร้อยล้านหยวน แตกต่างจากบริษัทเล็กๆของ

ตระกูลเสีย บริษัทขนาดใหญ่อย่างบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป ต้องการ

ที่จะควบคุมดูแล จำเป็นต้องพิจารณาหลายด้าน

การโยกย้ายบุคลากร ธุรกรรมทางการเงิน อีกทั้งยังมีความ เท่าเทียมระหว่างแผนก…..เรื่องพวกนี้เสียเพิ่งเหยาต้องลงมือท่า ด้วยตนเอง

แต่เสี้ยเพิ่งเหยาไม่ได้มีประสบการณ์มากเท่าไหร่ในการ ควบคุมดูแลบริษัทขนาดใหญ่ จู่ๆ มาทำแบบนี้ มีความเป็นไป ใต้ที่เธอต้องเผชิญกับแรงกดดัน

หากระยะยาว เฉินเฟิงเป็นห่วง กลัวว่าเสียเพิ่งเหยาจะเหนื่อย

“ซินแล้วค่ะ” เหมือนรู้ว่าเงินเฟิงกำลังคิดอะไร น้ำเสียงของ เสี้ยเมิ่งเหยาเปลี่ยนเป็นรวดเร็วขึ้นมา

“น้าฉันสอนฉันหลายอย่างเลยค่ะ อีกทั้งฉันยังมีกลุ่มคนระดับ หัวกะทิที่คอยวางแผนธุรกิจให้ฉัน ฉันรู้สึกว่าการดูแลบริหาร บริษัทต่างเหมยกรุ๊ปสบายกว่าบริหารบริษัทเดิมของตระกูลเยอะมากค่ะ”

“สบายก็ดีแล้ว” เฉินเฟิงหลายยิ้มบางๆ เสียเพิ่งเหยาพูดแบบ นี้เพื่อปลอบประโลมเขา แรงกดดันในการบริหารบริษัทคางเหม่ ยกรุ๊ป มีมากกว่าแรงกดดันตอนที่บริษัท บริษัทตระกูลมาก

ทั้งสองบริษัทไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน หลงจากพูดคุยกับเสี้ยเพิ่งเหยาอีกสักพักหนึ่ง เฉินเฟิงก็วาง

สาย

การคุยโทรศัพท์กันครั้งนี้ ทำให้ความรู้สึกห่างหายของคน สองคนที่หย่าร้างกันจางหายไปมากขึ้น

แต่ช่องว่างระหว่างทั้งสองคน ยังคงมีอยู่ หลังจากกลับไปที่รถ สีหน้าของเสียเพิ่งเหยากลับมานิ่งสงบอีก ครั้ง จากสีหน้าของเธอไม่มีใครดูออกว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร

“ประธานเสี้ยคะ ตอนนี้พวกเรา……”

“กลับบริษัท”

หลังจากออกคำสั่ง เสี้ยเพิ่งเหยาจึงตัวลงบนเบาะ เธอหลับตา

ลง

หลินหลินเองก็ปิดปากเงียบอย่างรู้ตัว เพราะเสียเพิ่งเหยาใน ตอนนี้ ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ถึงแม้เธอจะไม่ได้ศึกษาเรื่องรถหรู แต่เธอก็รู้ว่า รถคันที่เธอกำลังนั่งอยู่ตอนนี้ เป็นมาเซราติรุ่นพรีเมี่ ยม
ราคาในประเทศ สูงถึงหกล้านหยวน

อีกทั้ง นอกจากรถยนต์มาเซราติแล้ว ยังมีฟางหย่าซึ่งเป็นผู้ หญิงแกร่ง เธอบอกว่าตนเองเป็นเลขาของเสี้ยเพิ่งเหยา ทั้งยัง เรียกเธอว่าประธานเลี้ย

ทั้งหมดนี้อธิบายได้ว่า เสี่ยเพิ่งเหยาในตอนนี้ สูงศักดิ์มาก!

ไม่ได้ด้อยไปกว่าหวางเต่อคนก่อนหน้านี้

ฐานะระดับนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของเสียเพิ่งเหยาก็ไม่กล้าเสีย มารยาทกับเสี้ยเพิ่งเหยา

หลินเล่นที่ก่อนหน้านี้เสียมารยาทกับเธอ ถูกเสี้ยเพิ่งเหยาตบ

ไปหนึ่งฉากแล้ว

แต่ว่า ถึงแม้ไม่สามารถเสียมารยาทกับเสี้ยเพิ่งหยาได้ แต่ผล ประโยชน์ที่ต้องได้รับ ก็ต้องหาวิธีเอามาให้ได้ ดวงตาของหลิน หลันหมุนติ้ว เริ่มคิดอะไรในใจขึ้นมา……

เช้าวันที่สอง เฉินเฟิงมาทำงานที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตาม ปกติ

ถึงแม้เมื่อวานจะเกิดเรื่องขึ้น แต่เงินเฟิงไม่ได้คิดจะลาออก จากบริษัทคางเหม่อ

หนึ่งเป็นเพราะเสียเพิ่งเหยาอยู่ที่นี่ อีกทั้งที่นี่ยังไม่มั่นคง สองเป็นเพราะช่วงที่อยู่ที่จงให้ เขาจำเป็นต้องมีตัวตนที่ชัดเจน ไม่มีตัวตนไหน ที่จะไม่แตะสายตาใครได้เท่ากับพนักงานทั่วไปของบริษัท างเหม่ยกรุ๊ป

หลังจากมาถึงบริษัท คนแรกที่เงินเพิ่งเห็นคือหลีสอง

หลีสื้อผงอดทนอดกลั้นเก่งจริงๆ ถึงแม้งานเลี้ยงอาหารค่ำของ ตระกูลหวางเมื่อคืน จะถูกเฉินเพิ่งทำให้อับอาย แต่วันนี้พอได้ เจอกับเงินเฟิง เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงยิ้มร่า ราวกับว่าไม่ได้เก็บเรื่องเมื่อคืนมาใส่ใจ

ตามด้วย เฉินเฟิงเจอกับหวางซื่อหยวน

โดยไม่ต้องสงสัย ท่าทีของหวางซื่อหยวนที่มีต่อเฉินเฟิงร้าย ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า

ถ้าจะบอกว่าเมื่อก่อนหวางซื่อหยวน รังเกียจเฉินเฟิงที่เป็นคน บ้านนอกและยังเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้าน หวางซื่อหยวน ในตอนนี้ รู้สึกเกลียดคนอย่างเฉินเฟิงจากก้นบึ้งของหัวใจ

โลภจนน่ารังเกียจ เห็นแก่ตัว ไม่รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควร

คําศัพท์ต่างๆ ที่มีไว้สำหรับบรรยายสิ่งที่น่ารังเกียจ ล้วน สามารถเอามาบรรยายตัวเฉินเฟิงได้ เงินเฟิงคือคางคก ในน้ำที่เหม็นเน่า แค่เธอเห็นก็รู้สึกรังเกียจแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ