ลูกเขยมังกร

บทที่ 162 จุดอ่อน



บทที่ 162 จุดอ่อน

ตอนนั้นถึงแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยยอมแต่งานกับ เฉินเฟิง แต่ถ้าเฉินเฟิงต้องการที่จะมีอะไรกับเธอ เธอ ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะว่าเธอก็เป็นภรรยาของเขา ต้อง ปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในฐานะภรรยาของเฉินเฟิง

แต่การแต่งงานสามปีที่ผ่ามา เฉินเฟิงไม่เคยพูด เลยสักครั้งว่า ต้องการเธอ

นั่นทำให้เสี้ยเมิ่งเหยาเคืองใจมาก และคิดว่าเป็น เพราะว่า ไอ้นั่นของเขามีปัญหา แต่ภายหลังถึงได้ว่า ความจริง แล้วคือไอ้นั่นของเขาไม่ได้มีปัญหาเลย

สุดท้ายแล้ว เสี้ยเมิ่งเหยาถึงได้รู้ว่า เฉินเฟิงเป็น คนที่จิตใจดี ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องอย่างว่า

หลังจากที่ เสี้ยเมิ่งเหยาสงบสติอารมณ์ของเธอ

ได้

หลังจากการเติมเครื่องสำอางเสร็จ เสี้ยเมิ่งเหยา ถึงมั่นใจกล้าออกมาจากห้องน้ำ

ออกมา ก็เจอกับเฉินเฟิงพร้อมด้วยรอยยิ้ม ที่ยืน พิงประตูมองมาที่ตัวเอง

IMK SOLS
“มองฉันอะไร?” เสี้ยเมิ่งเหยาถาม ด้วยใบหน้าที่

แดง

“ก็เธอเป็นเมียฉันนะ ฉันมองเมียตัวเอง แค่นี้ก็ มองไม่ได้เหรอ?” เฉินเฟิงพูดอย่างหยอกล้อ

“ไม่ได้นะ! ห้ามมอง!” เสี้ยเมิ่งเหยาพูดด้วยน้ำ เสียงที่สั่นเครือ เพิ่งจะมารู้ตัวเหรอว่าฉันเป็นภรรยา ของนาย? แต่งงานมาสามปีจับมือก็ยังไม่จับจูบครั้ง แรกก็ยัง เป็นฉันที่เริ่มก่อน นายนี่มันเป็นสามีแบบไห นกันเนี่ย

แน่นอน ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาแอบคิดในใจ ถ้าจะให้ เธอพูดออกมา เธอเองก็ไม่กล้าพูดเช่นนั้น

“ก็ได้ ก็ได้ ไม่มอง ก็ไม่มอง”เฉินเฟิงหัวเราะ แล้ว พูดขึ้น “ถ้าเธอไม่ให้ฉันมองเธอ ฉันไปมองสาวๆ สวยๆคนอื่น เธอโอเคไหม?”

“นายกล้าเหรอ!” เสี้ยเมิ่งเหยากัดฟันพูด ชายคน นี้ ยิ่งอยู่ยิ่งกล้าขึ้น กล้าพูดถึงผู้หญิงคนอื่นต่อหน้า เธอได้ยังไง

อีกหน่อยเธอคงต้องระมัดระวัง ไม่ให้ผู้หญิงอื่นมี โอกาสมาเข้าใกล้

ตระกูลเสี้ยมีคนตาบอด แต่ตาเธอไม่ได้ตาบอด เธอรู้ดีว่า เฉินเฟิงดูดีมากขนาดไหน
ถ้าตัดเรื่องการมีครอบครัวไป แค่รูปร่างที่ดูดี ของเขา ก็สามารถดึงดูดหญิงสาวร้อยทั้งร้อยให้มา หลงใหล

ถ้าเฉินเฟิงยอมที่จะออกสื่ออย่างเปิดเผย เธอรู้ เลยได้ว่าตัวเองต้องมีคู่นั้นต้องมีคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น มากมาย และคู่แข่งก็คง จะดูดีไม่น้อยไปกว่าเธอ

“ถ้านายกล้ามองหญิงอื่น ฉันจะทิ่มตานายให้ บอดเลย”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดขู่ขวัญขึ้นอย่างร้ายๆ

“เธอไม่ให้ฉันมองเธอ แล้วยังไม่ให้ฉันไปมองผู้ หญิงคนอื่นอีก จะให้ฉันไปมองผู้ชายเหรอ”เฉินเฟิง หยอกล้อ

“ใช่งั้นนายก็ไปมองผู้ชายซะ ฉันโอเค”เสี้ยเมิ่ง เหยายิ้มมุมปาก จะให้เธอไปแย่งเฉินเฟิงจากหญิงอื่น เธอก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ถ้าแย่งมาจากผู้ชาย เธอ ยังแย่งเขาไม่ได้ ก็คงต้องหาเต้าหูสักก้อนมาทุบหัว ตัวเองให้ตาย

“แต่ฉันไม่โอเค” เฉินเฟิงแปลกใจ เสี้ยเมิ่งเหยา กล้า ที่ต่อล้อต่อเถียงกับตัวเอง

“อิอิ”เสี้ยเมิ่งเหยาหัวเราะ พร้อมกะพริบตาแล้ว เรียกเฉินเฟิงว่าสามีอีกครั้ง “คุณสามีค่ะ พาฉันไปดู ส่วนอื่นๆของบ้านหน่อยซิคะ”
“ก็ได้” เฉินเองใช้นิ้วชี้ลูบไปที่จมูกของเสี้ยเมิ่ง เหยาด้วยความเอ็นดู เขาชอบเวลาที่อยู่กับเธอแบบนี้ จัง และทั้งสองก็นับวันยิ่งอยู่ก็ยิ่งดูเหมือนสามีภรรยา มากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากที่เสี้ยเพิ่งเหยาเดิมชมส่วนๆอื่นๆของ คฤหาสน์เสร็จ เสี้ยเมิ่งเหยาก็หยิบมือถือออกมา เพื่อ จดบันทึกรายการสิ่งของที่ยังขาด ถึงแม้ว่า เฟอร์นิเจอร์ในคฤหาสน์หลังนี้จะครบครันพร้อมอยู่ แต่ก็มีสิ่งของที่จำเป็นสำหรับในชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆก็ยังขาดอยู่

เห็นได้ว่า เสี้ยเมิ่งเหยานั่นดูตั้งใจ จะทำให้ที่นี่ให้ เป็นบ้านที่น่าอยู่

เฉินเฟิงเองก็สับสน สามปีก่อน เขาออกจากตระ กูลเฉินพร้อมกับความตาย แต่คิดไม่ถึง เขาจะได้มา เจอกับเสี่ยเมิ่งเหย้าที่เมืองชางโจว และยังได้ แต่งงานกับเสี้ยเพิ่งเหยา

เสี้ยเมิ่งเหยา สำหรับเขา คือแรงบันดาลใจ !

หรือจะเป็น…พันธนาการ!

เพราะมันทำให้เขาอยากปกป้องเสี้ยเมิ่งเหยา

จากอันตรายที่เกิดขึ้นในวันข้างหน้า ตลอดสามปีมา นี้ ที่เฉินเฟิงอยู่กับตระกูลเสี้ย เขาได้เริ่มฝึกจาก อ้าน

จิ้งขั้นกลาง ถึงขั้น กัวจิ้งขั้นต้น
มีความว่องไวในการต่อสู้ในโลกแห่งศิลปะการ ต่อสู้ เป็นไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!

แม้แต่คนที่มีพรสวรรค์ความสามารถ ที่มีจะฝึก อ้านจิ้งขั้นกลาง ถึงขั้นหั้วจิ้งขั้นต้น ยังต้องใช้เวลา ระยะเวลาสิบห้าปี! ความว่องไวในการฝึกฝนที่น่า กลัวเช่นนี้ ไม่เคยมีมา ในประวัติศาสตร์ในโลกศิลปะ การต่อสู้

แต่เฉินเฟิง กลับใช้เวลาเพียงสามปีเท่านั้น! เขาใช้ระยะเวลาไปเพียงแค่เศษสี่ส่วนห้า ทั้งนี้ ไม่สามารถตัดขาดจากเสี้ยเพิ่งเหยาได้ แต่แม้เขาฝึกขั้น กั้วจิ้งขั้นต้น ก็ไม่แน่ใจที่จะ ต่อกรกับตระกูลเฉิน

เฉินเฟิงรู้ดีว่า ที่เขายังไม่ตายเป็นเพราะว่า ในตัว ของเขามีบางสิ่งบางอย่าง ที่เฉินเจิ้นหนานต้องการ

เรื่องนี้มันต้องสำคัญมาก สำคัญมากมีค่า มากกว่าตระกูลเฉินหลายร้อยเท่าด้วยซ้ำ!

เฉินเฟิงนั่งคิดหลายครั้ง ว่ามีอะไรในตัวเขา หรืออาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปอย่างลึกลับ ของพ่อเขา! หรือว่า สิ่งนั้น คือตัวของเขาเอง

“แม่น่าจะรู้”ดวงตาของเฉินเฟิงหรี่ลงเล็กน้อยเขานึกถึง สามปีก่อนตอนที่แม่ป่วยหนัก แม่บอกเขา ให้ออกจากตระกูลเฉินไป ตอนนั้นแม่อาจรู้เรื่องอะไร บางอย่าง แต่แม่ยอมไม่บอกเขา

ท่านน่าจะรู้ว่า ตระกูลเฉินจะส่งคนมาไล่ฆ่าเขา เพราะงั้นแม่ก็ยัง ส่งคนมาค่อยปกป้องเขา

ที่เขารอดชีวิตมาได้ เป็นเพราะคนเหล่านั้น ปกป้องเขา

มีเรื่องราวมากมาย ก่อนหน้านั่นที่เขาไม่ได้คิด อย่างละเอียด

แต่ตอนนี้ เขาต้องมานั่งคิดหนัก

เฉินเจิ้นหนาน คงไม่นิ่งนอนใจปล่อยเขายิ่งใหญ่ แบบง่ายๆแน่

การปรากฏตัวของ เฉินอิงโร นั้นคือกับดัก!

“เฉินเฟิง นายกำลังคิดอะไรอยู่?”

“เฉินเฟิง?!”

เสี้ยเพิ่งเหยาตกใจไม่น้อย เพราะเฉินเฟิงไม่เคย คิดมากจนเหม่อลอย เรียกเขาไปหลายครั้ง เขาก็ยัง ไม่ได้ยิน

“มีอะไรเหรอ?” เฉินเฟิงในสุดดึงสติกลับมา “เฉินเฟิง เธอกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ? ถึงได้เหม่อลอย?” เสี้ยเมิ่งเหยาอดไม่ได้ที่จะถาม

เฉินเฟิงยิ้ม แล้วส่ายหัว: “ไม่มีอะไร ฉันกำลังคิด ว่าอีกหน่อยเราจะมีลูกกันกี่คนดี”

“บ้าเหรอ!” เสี้ยเพิ่งเหยาหน้าแดงแล้วแดงอีก

ตอบกลับ “ใครจะไปมีลูกกับนาย”

“ไม่อยากมีลูกก็ไม่ต้องมี งั้นเราไปรับเด็กมา เลี้ยงก็ได้” เฉินเฟิงยังคงมีรอยยิ้มอยู่ แต่ในใจก็มี ความกังวลอยู่ไม่น้อย

เฉินเจิ้งหนาน…จะยอมให้เขากับเสี้ยเพิ่งเหยา อยู่ด้วยจริง

ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงคิดไม่ออกเลยว่า ทำไมเฉิน เจิ้นหนานถึงกล้ามั่นใจยอมมอบตระกูลเฉินให้เขา ราวกับว่า เขาที่พร้อมจะทำลายตระกูลเฉินได้อย่าง ง่ายดาย

ตอนนั้น เฉินเฟิงคิดว่า เฉินเจิ้นหนานมีความ แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในตัวเองมากพอที่ ปราบ ปรามตัวเองได้

แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงรู้สึกว่า เฉินเจิ้นหนานจะรู้จุด อ่อนของเขาแล้ว

เสี้ยเมิ่งเหยา!

ถ้าเกิดเฉินเจิ้นหนาน จะทำร้ายเขาโดยใช้เสี้ยเมิ่งเหยาเป็นเครื่องมือ! เขาควรทำยังไงดี? เฉินเฟิง

ไม่กล้าคิดเลย

“เฉินเฟิง คฤหาสน์หลังนี้ เธอเสียเงินซื้อไปเท่า ไหร่เหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาถาม เธอเคยได้ยินราคา บ้านคฤหาสน์ ที่ยู่ฉวนซานนั้น ราคาต่ำสุดคือ ห้า แสนหยวนต่อตารางเมตร คฤหาสน์ที่เธออยู่ ตอนนี้ เกือบจะดีที่สุดในบรรดาสิบหลังที่อยู่บนยอดเขา หลังนี้นึ่ง ราคาน่าจะมากกว่าครึ่งร้อยล้านหยวน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ