บทที่ 515 การจับฉลาก

วัยรุ่นหนุ่มสาวหลายคน แต่งตัวได้คล้ายคลึงกับจางเทียนเซอ ชุดที่พวกเขาไสไม่ใช่เสื้อคลุมยาวหรือกระโปรงยาว

นอกจากเรื่องการใส่เสื้อคลุมยาวหรือกระโปรงยาวแล้ว ด้าน หลังของพวกเขายังจัดเตรียมอาวุธทุกอย่างอย่างครบครัน ไม่ว่า จะเป็นดาบยาว หรือดาบราชวงศ์ถัง

แต่ว่าสิ่งที่เฉินเฟิงคาดการณ์ไม่ถึงก็คือ กลุ่มวัยรุ่นหญิงสาวสิบ กว่าคนนี้ เด็กสาววัยรุ่น ที่เฉินเพิ่งเคยเจอก่อนหน้านี้มาแล้ว เธอเป็นพี่สาวของหมู่เหวินโป๊ ชื่อหมู่เหวินเซียน

“อีตานี้ทำไมมาอยู่ที่นี่ด้วย?”

ตอนที่เฉินเฟิงเห็นหมู่เหวินเชี่ยน ในตอนนั้น หมู่เหวินเซียนก็ เห็นเฉินเฟิง เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับท่าที่อันสงบเสงี่ยมของ เฉินเฟิงแล้ว หวู่เหวินเซี่ยนแปลกใจอยู่ไม่น้อย เธอไม่คิดเลยว่า เฉินเพิ่งจะมาปรากฏกายในการเดิมพันประลองฝีมือของทั้งสอง สมาคมนี้ได้

“ฮ่าๆ พูดถึงอยู่ก็มาหาพอดีเลย!” วังโจงหยางก็สนใจในตัว ของพวกหมู่เหวินเซียนอยู่เหมือนกัน

“เฟย พวกเขาหลายท่านเป็นคนผู้มากความสามารถในมหา ปรมาจารย์ด้านกระบี่และตั้ง…” วังโฉงหยางยิ้มแย้มให้เฟย พร้อมทั้ง แนะนำให้ฟัง
หนุ่มสาววัยรุ่นสิบกว่าคนนี้มีอยู่ทุกคนที่เข้าร่วมการเดิมพัน ประลองฝีมือในครั้งนี้ นอกจากทุกคนแล้ว คนอื่นๆ ต่างเป็นคนที่ สํานักของตนเอง ให้ออกมาศึกษาหาประสบการณ์ในการ ประลองฝีมือกันทั้งนั้น เพราะว่าการเดิมพันที่ใหญ่โตในครั้งนี้ มี ผู้ยอดมีฝีมือขั้นสูงสุดของทั้งหวาเขียและญี่ปุ่นทั้งสองประเทศเข้า ร่วมการแข่งขัน

สังเกตได้ว่าการประลองฝีมือของผู้ยอดฝีมือเหล่านี้ มันยังมี ประโยชน์มากกว่าการทำงานลับหลังเลย

สิ่งที่ทำให้เงินเฟิงรู้สึกเหนือคาดก็คือ หมู่เหวินเซียนก็เป็นหนึ่ง ในหกคนที่เข้าร่วมการแข่งขัน

เธอกับชายหนุ่มที่ท่าทางเย็นชาคนหนึ่งเข้าร่วมการแข่งขัน เดิมพันในครั้งนี้ในนามสำนักมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่

ชายหนุ่มที่ดูเย็นชาคนนี้ชื่อว่าหวังเฉียน เป็นคนที่จางเทียน เซอพูดติดปากมาตลอดว่าเป็นยอดฝีมือของสำนักมหา ปรมาจารย์ด้านกระบี่ และการเดิมพันในครั้งนี้ ก็เป็นนักฆ่าที่เก่ง ฉกาจที่สุดของสมาคมจงไม่

หน้าตาของหวังเฉียนก็ไม่ได้เป็นที่สนใจของคนสักเท่าไหร่ จน สามารถพูดได้ว่าแสนจะธรรมดามาก แต่กลิ่นอายบนตัวของเขา กลับแผ่รัศมีสันโดษออกมา จนทำให้หนุ่มสาวกว่าสิบคนนั้นถูก ลดระดับให้ าลงไปอีกขั้น

ความรู้สึกที่ให้คนสัมผัสได้ นั่นคือคมในฝัก หลังจากที่วังโจงหยางแนะนำหวังเฉียนให้รู้จักแล้ว ทางด้านเฟยก็แนะนำเงินเฟิงกับพวกของจางเทียนเซอให้รู้จัก

การแสดงออกของหวังเฉียนตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ไว้ซึ่งความรู้

กใดๆ ขนาดที่แนะนําจางเทียนเขอ ให้รู้จักในตอนนั้น หัวคิ้ว ของเขาก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนใดๆ แทบไม่มองหน้าต่างเทียนเซอ เลยสักครั้ง

แต่เป็นคนอื่นๆ นั้น เมื่อได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของจางเทียน เชอแล้ว ทุกคนต่างยิ้มให้เล็กน้อย และทักทายกับจางเทียนเซอ

ส่วนเฉินเฟิง หูฉ่ซิง หยางเสี้ยนหมิงทั้งสามคนนี้ แทบไม่ได้ อะไรมากมาย ตอนที่ เฟยแนะนำทั้งสามคนนี้ คนอื่นๆ สิบกว่า คนทํา แต่พยักหน้าให้ตามปกติ

เวลานั้นเอง เฉินเฟิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไร

คนเหล่านี้เขาไม่เก็บเอามาใส่ใจนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ ว่าสถานะของพวกเขาในตอนนี้ ก็แค่ “จอมยุทธ์ฝึกเอง

ยามเมื่อทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่ คนหนึ่งที่ใส่ชุดเครื่องแต่งกายของสหพันธ์โดเดินเข้ามาหา

“ประธานวัง ประธาน ได้เวลาเริ่มจับฉลากแล้ว”

จับฉลาก?

วังโฉงหยางกับฉู่เฟยสบตากัน จากนั้น วังโจงหยางก็พยัก หน้าให้ แล้วพูดว่า “ได้ พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้”

“ทุกคนเดินไปด้วยกันเถอะ การจับฉลากของการเดิมพันนั้นจําเป็นต้องมีพวกเราอยู่ในงานด้วย” วังโจงหยางพูดอีกครั้ง หลายนาทีผ่านไป มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาบริเวณด้านหน้า ของเวทีมวย

เมื่อเดินมาถึงสนาม เฉินเฟิงก็พบว่าจอมยุทธ์ทั้งหกนั้นมีลม หายใจที่แข็งแกร่งมาก

นิ้วจิ้ง!

จอมยุทธ์ทั้งหกคนอยู่ในขั้นหัวจิ้ง

เฉินเฟิงได้แต่หรี่ตาลงทันที จากการมองการแต่งตัวของทั้งหก คนนั้น เห็นได้ชัดว่าการเดิมพันในครั้งนี้ของทั้งหกคน ทั้งส่วน ทางการหวาเซียและญี่ปุ่นทั้งสองประเทศและทั้งสองสมาคม ธุรกิจการค้า

ทางด้านหวาเซียมีสามคนที่อยู่ในขั้นหัวจิ้ง ส่วนทางด้านญี่ปุ่น ก็มีสามคนที่อยู่ในขั้นหัวจิ้ง

ทางด้านหวาเซียนั้นอยู่ในหัวจึงขั้นกลางทั้งสามคน มีคนหนึ่ง ที่ตัวสูงใหญ่ ชายชราผู้ไม่สนใจต่อสิ่งใดแต่ทำให้เงินเฟิงสนใจ ในตัวเขา

ชายชราตัวสูงใหญ่ใส่ชุดเสื้อคลุมเต๋าสีดำของสหพันธ์โด บนตัวมีกลิ่นอายที่แผ่รัศมีจนปกคลุมให้คนทั้งสนามหวาดกลัว

หัวจิ้งชั้นสุด!

เงินเฟิงก็สามารถแยกออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ชายชราตัวสูงใหญ่ท่านนี้พลังวิทยายุทธ์ อย่างน้อยก็อยู่ในขั้น หัวจึงขั้นสุด!

ทางฝั่งของหวาเซียนั้น นอกจากชายชราตัวสูงใหญ่แล้ว ยังมี ชายชราอีกสองคน สองท่านนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นจอมยุทธ์หัวจิ้ง แต่ เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับชายชราตัวสูงใหญ่นั่นแล้ว การฝึก วิชาภายในของชายชราสองท่านนี้ยังขาดไปอีกขั้นจนเห็นได้ อย่างชัดเจน

ส่วนเรื่องการแยกสถานะของชายชราทั้งสองท่านนี้นั้น เป็นเพี งก็แยกจากการที่มองเสื้อผ้าที่ทั้งสองท่านสวมใส่อยู่

ชายชราที่สะพายกระบี่ไว้ด้านหลังหนึ่งในนั้นน่าจะเป็นผู้ คุ้มครองของคนในสำนักมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่

ส่วนชายชราที่ใส่เสื้อผ้าดูหรูหราเข้าหน่อยก็น่าจะเป็นจอม

ยุทธ์หัวจิ้งของทางด้านสมาคมการค้าจงให้

สายตาของเฉินเฟิงไม่ได้มองอยู่ที่ทั้งสามคนอยู่นาน เพราะ เฉินเฟิงคอยจับตามองจอมยุทธ์หัวจึงทั้งสามคนของทางประเทศ ญี่ปุ่นนั้น

จอมยุทธ์หัวจิ้งทั้งสามคนนี้ มีสองคนที่อายุไล่เลี้ยงกับชายชรา ตัวสูงใหญ่ ยังมีชายวัยกลางคนอีกคนที่อายุอานามยังหนุ่มยัง แน่นกว่าวังโจงหยาง

ทั้งสามคนสะพายดาบยาวไว้ทางด้านหลัง พร้อมทั้งแต่งชุด โดลักษณะเฉพาะของทางญี่ปุ่น
คนที่ทำให้เห็นเฟิงสนใจนั่นก็คือชายวัยกลางคนที่เป็นจอม ยุทธ์หัวจิ้ง ก่อนหน้านี้เฉินเพิ่งเคยเห็นรูปภาพของจอมยุทธ์หัวจิ้ง วัยกลางคนคนนี้มาก่อน

เปียนไทย!

จอมยุทธ์ วงวัยกลางคนที่พูดถึงนี้ก็คือเขียนไม่

ข่าวพูดถึงกันหนาหูว่า เปียนไม่เป็นลูกศิษย์รุ่นแรกที่เงินอื่น เขายังเป็นคนรับผิดชอบในการแข่งขันการเดิมพันในครั้งนี้ของ ทางสมาคมเชียบด้วย

ครึ่งเดือนก่อน เฉินเฟิงก็ได้ยินชื่อเปียนไปมาจากสื่อโฟน แล้ว

จากการวิเคราะห์จากสื่อโฟน การปรากฏกายในครั้งนี้ของ เปียนไทอี ก็เพื่อจะมาฆ่าเงินเฟิงให้สิ้นซาก เพื่อจะล้างแค้นให้ กับเซียวกั่วจงจากเหตุการณ์การนองเลือดที่สำนักเสิ่นหยิ่นในปี

แต่การวิเคราะห์ของสื่อโฟนก็มีปัญหา เปียนไม่มาอยู่ที่ หวาเซียตั้งสิบกว่าวันแล้ว ก็ยังไม่เคยออกมาจากโรงแรมสักก้าว เดียว ขนาดข่าวคราวร่องรอยของเฉินเฟิง เขียนไปก็ยังไม่ทำ เลย

เป้าหมายที่แท้จริงในครั้งนี้เปียนไทอี มันคืออะไรกันแน่? หรือว่าจะมาเพื่อรับผิดชอบดูและในการแข่งขันเดิมพัน ประลองฝีมือในครั้งนี้จริงๆ?
ตอนที่เงินเฟิงกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น วังโจงหยางก็เดินมาทาง ด้านหน้าของชายชราที่ใส่ชุดสีดำเครื่องแต่งกายของทางสห พันธ์บูโด พร้อมทั้งพูดด้วยความเคารพ “ท่านผู้อาวุโสกวน คน มากันครบแล้ว”

“ครบแล้วก็จับฉลากเถอะ”

ท่านผู้อาวุโส

จากนั้น เจ้าหน้าที่ที่แต่งชุดสหพันธ์โดคนหนึ่งก็ยกถาดไม้ เข้ามา

เงินเฟิงมองไปที่ถาดไม้ ก็เห็นว่าบนถาดไม้มีลูกบอลกลมวาง อยู่ยี่สิบลูก ในนั้นมีสีดำสิบลูก สีขาวสิบลูก

“ท่านผู้อาวุโสกวน”

เมื่อยกถาดไม้มาอยู่ตรงหน้าชายชราที่ตัวสูงใหญ่แล้ว เจ้า

หน้าที่ของสหพันธ์บูโดก็ก้มหัวโค้งคำนับให้

ชายชราตัวสูงใหญ่ไม่ได้ยื่นมือออกไปรับถาดไม้นั้นไว้ แต่เบน สายตามาทางจอมยุทธ์หัวจิ้งของญี่ปุ่นทั้งสามคนที่อยู่ห่างไป หลายเมตร กงปิ่น มาตรวจสอบสักหน่อยเถอะ

“ไม่ต้องแล้ว เริ่มเลยดีกว่า” หนึ่งในจอมยุทธ์หัวจิ้งของญี่ปุ่น คนหนึ่งเป็นคนพูดออกมา

ในลูกบอลยี่สิบลูกถือเป็นฉลากก่อนหน้านี้ครึ่งชั่วโมงเขากับ ก่อนหนานเทียนเป็นคนปิดผนึกเป็นอย่างดี บนลูกบอลฉลากนี้ยัง มีพลังภายในของเขาอยู่ การที่พลังภายในไม่โดนคนทำอะไรนั่นก็หมายความว่าลูกบอลฉลากพวกนี้ไม่มีคนทำอะไรไว้

“ตกลง”

กวนหนานเทียบพยักหน้าให้ จากนั้นก็มองถาดไม้บนมือเจ้า หน้าที่ของสหพันธ์บูโด แล้วพูดว่า “งั้นจะพูดเรื่องกฎให้พวกเขา ฟังสักหน่อยเถอะ

“ครับ ท่านผู้อาวุโสกวน” เจ้าหน้าที่สหพันธ์โดคนนั้นก้มหัว อย่างเคารพ จากนั้น เขาก็หันตัวกลับไปมองทุกคนที่อยู่ใน เหตุการณ์ แล้วพูดว่า “การฉลากจะเริ่มขึ้นแล้ว

“ก่อนจะมีการจับฉลากกันนั้น ฉันของพูดเรื่องกฎในการจับ ฉลากให้ทุกคนได้รับทราบ

“ตามที่ทุกท่านเห็น ที่นี่มีลูกบอลอยู่ยี่สิบลูก สีดำสืบลูก สีขาว

สิบลูก”

“ฉลากลูกบอลสดทุกลูกจะเขียนตัวเลยหนึ่งเลขเอาไว้ก็คือ เลข 1-10ไว้ด้านในทุกลูก สีขาวก็เช่นเดียวกัน