ลูกเขยมังกร

บทที่ 346 ประธานบริษัทหญิงคนใหม่



บทที่ 346 ประธานบริษัทหญิงคนใหม่

“ก็…คนในบริษัทวันนี้ใจลอยกันหมด เลย” หลี่เล่อมองเฉินเฟิงอย่างแปลกใจเล็ก น้อย เขาพบว่าตั้งแต่เฉินเฟิงนั่งลงบนเก้าอี้ สายตาก็ไม่เบนไปจากโต๊ะทำงานเลย ไม่มอง เพื่อนร่วมงานคนอื่นเลยสักนิด เหมือนกับว่า เพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่มีตัวตนยังไงยังงั้น

“ใจลอย?” เฉินเฟิงยิ้มมุมปาก: “แล้ว?”

“แล้ว? แล้ว ไม่อยากรู้หรอว่าทำไมพวก เขาใจลอยกัน?” หลี่เล่อยังคงถามต่ออย่างไม่ ยอมแพ้

“ไม่อยากรู้” เฉินเฟิงส่ายหน้า

“ก็ได้”

หลี่เล่อแอบเหนื่อย: “พี่เฟิง ที่จริงผม อยากบอกพี่ว่า วันนี้จะมีประธานคนใหม่มา ทํางานที่บริษัท”

“อืม” เฉินเฟิงพยักหน้าด้วยสีหน้าสงบ นิ่ง ประธานคนใหม่ของบริษัทไม่เกี่ยวข้อง อะไรกับเขานี่ เขามาที่นี่ อย่างมากคือมา ทํางานไปวันๆ รอให้จัดการเรื่องเจ้าสามห่วง เสร็จแล้ว เขาอาจจะกลับชางโจวเลย

“ได้ยินว่าประธานคนใหม่เป็นผู้หญิงนะ

“ผู้หญิง?” เฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นมา เขานึก ขึ้นมาได้ว่า เมื่อวานฉินเสงี่ยนหีรัวบอกเขานี้ นาวา วันนี้เสี้ยเมิ่งเหยาจะไปรับตำแหน่ง ประธานบริษัทของเธอ บริษัทที่ว่า คงไม่ใช่ บริษัทเภสัชกรรมคางเหม่ยหรอกนะ?

ในสมองเฉินเฟิงผุดความคิดที่เหลือเชื่อ นี่ออกมา

พอเห็นสีหน้าเฉินเฟิงเปลี่ยน หลี่เล่ออด ภูมิใจไม่ได้ เขานึกว่าเฉินเฟิงเป็นพวกอรหันต์ ทีละทางโลกไปแล้วซะอีก ที่แท้ก็แกล้งทำ นี่เอง

พอได้ยินว่าประธานบริษัทเป็นผู้หญิง สีหน้าก็เปลี่ยนทันที “นายรู้ไหมว่าประธานใหญ่บริษัทบริษัท เภสัชกรรมคางเหม่ยเป็นใครน่ะ?” เฉินเฟิงรับ ถาม เขาอยากรู้ว่าบริษัทเภสัชกรรมคางเหม่ย เป็นบริษัทของฉันเสงี่ยนหวหรือเปล่า ขอแค่รู้ ว่าประธานใหญ่บริษัทเภสัชกรรมคางเหม่ย เป็นใครก็ได้แล้ว

“ประธานใหญ่?” หลี่เล่อมองเฉินเฟิงอ ย่างสงสัย เขาถามเรื่องนี้ทำไม

“หลิวหยวน/งไง พี่เฟิง ถามเรื่องนี้ ทําไมน่ะ?”

“หลิวหยวน ง? แซ่ฉันหรอ?” ” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว ไม่ได้

หรือว่าเขาจะคิดมากไปนะ?

เฉินเฟิงกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมาโทร ถามฉินเสงี่ยนหีรัว ตอนนี้เองทั้งตึกเกิดการ เคลื่อนไหว น

“ประธานใหม่มาแล้ว!” มีคนร้องขึ้น

พนักงานทุกคนต่างพากันลุกขึ้นโค้งตัว ต้อนรับ

เฉินเฟิงอดมองไปทางเสียงนั้นไม่ได้

พอมองไป ก็ทำให้หัวใจเฉินเฟิงแทบ หยุดเต้น ตัวแข็งค้างเป็นหิน

ถึงจะเห็นแค่เงาแวบๆ และเลี้ยวหายเข้า มุมไป

แต่เฉินเฟิงก็จําได้อยู่ดี

เงานั่น…คือเสียเมิ่งเหยา

เฉินเฟิงรู้สึกสับสน ไม่รู้จะพูดอะไรดี เขา ไม่รู้ว่านี่เป็นพรหมลิขิต หรือเรื่องบังเอิญ

แถม…ยังเป็นเหมือนในละครอีก

เขากลายเป็นพนักงานตัวน้อยระดับล่าง ส่วนเสี้ยเพิ่งเหยากลายเป็นประธานหญิงที่อยู่ ใต้คนเพียงคนเดียวแต่อยู่เหนือคนนับพัน

เฉินเฟิงยิ้มมุมปากเศร้าๆ นี่มัน….พรหม บันดาลชีวิตคนจริงๆ

“พี่เฟิง เห็นชัดไหมว่าประธานใหม่เรา หน้าตาเป็นยังไง เธอดูเหมือนสวยมากลย หลี่เล่อดูจะตื่นเต้นเอามากๆ เพราะประธาน หญิงบริษัทตัวเองเป็นสาวสวย พูดออกไปก็น่า ฟังกว่าเป็นชายแก่ๆล่ะ

“เธอสวยมากจริงๆ ” เฉินเฟิงสูดลม หายใจเข้าปอด ก่อนเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นสงบ นึ่ง

“พี่เฟิง เราตามไปดูกันหน่อยไหม?”

เฉินเฟิงไม่พูดยังโอเค พอพูดออกมา หลี่เล่อก็คันยิบๆที่ใจ เหมือนมีแมวนับหมื่นมา เกาตรงนั้น

“ได้ ไปดูกันเถอะ” ลังเลอยู่ชั่วครู่ เฉินเฟิ งก็พยักหน้า ถึงเขาพึ่งจะห่างจากเสียเมิ่ง เหยาได้สองวัน แต่มีคำพูดหนึ่งที่ว่า ไม่เจอวัน หนึ่งเหมือนห่างกันสามปี

สองวันนี้สำหรับเฉินเฟิงแล้ว เหมือน สองปีก็ไม่ปาน

พอเสียเมิ่งเหยาเข้าบริษัท ก็ขึ้นไปห้อง ประชุมที่ชั้นบนสุดทันที

วันนี้มารับตำแหน่งวันแรก ก็เลยต้องพบ หน้าผู้บริหารระดับสูงของบริษัท

พอลิฟท์เปิดออก หลี่เล่อยืนตาค้าง หลายวินาที ก่อนยิ้มแห้งๆและกดลิฟท์ปิด สีหน้ายิ้มเจื่อนๆว่า: “พี่เฟิง คนที่คิดเหมือนเรา มีเพียบเลย

เฉินเฟิงพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร ไม่ ต้องพูดมาก ตอนนี้ลิฟท์ของบริษัทเต็มแน่นทุ กลิฟท์ คนอยากไปดูเสียเมิ่งเหยามากเกินไป แล้ว

“พี่เฟิง ไม่ดูแล้วละกัน พวกเรากลับกัน ไหม? ” หลี่เล่อลองถามดู เพราะยังมีเวลาอีก เยอะ ต่อไปโอกาสที่จะได้เห็นประธานใหม่นะ ยังมีอีกมาก ไม่ต้องรีบไปดูตอนนี้ก็ได้

“ไม่เอา” เฉินเฟิงส่ายหน้า พูดด้วยน้ำ เสียงหนักแน่น: “ไป นบันไดกัน

“หา? ขึ้นบันได? ห้องประชุมน่ะอยู่ชั้น สามสิบหกนะ! ขึ้นบันไดไม่เหนื่อยตายหรอ?” หลี่เล่อเบิกตากว้าง สีหน้าเหลือเชื่อ เฉินเฟี งบ้าไปแล้วหรอ?

เพื่อผู้หญิงคนเดียวเนี่ยนะ? ต้องขนาดนี้ เลย?

ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเป็นประธานใหม่ของ บริษัท แต่มันเกี่ยวอะไรกับ…เฉินเฟิงกันล่ะ?

ถ้าไม่มีเอ็กซิเดนท์อะไร ชาตินี้ทั้งชาติ เฉินเฟิงไม่มีทางได้เกี่ยวข้องกับประธานใหม่ แบ

หลี่เล่อยังครุ่นคิดว่าทำไมเฉินเฟิงถึงบ้า คลั่งแบบนี้ กลับเห็นเฉินเฟิงเดินก้าวเท้ายาว ไปที่บันไดแล้ว

พอเห็นอย่างนั้น หลี่เล่อได้แต่กัดฟันเดิน ตามไป

กำลังของเฉินเฟิงน่ะมีมากจริงๆ แค่ไม่ ถึงสองนาทีก็ขึ้นมาถึงชั้นสามสิบหก

สวนหลเล่อยังหอบหายใจอยู่ที่ชั้นสบ แปดเลย เขาเหนื่อยนอนแบบเหมือนหมา ตายตัวหนึ่ง

พอถึงชั้นสามสิบหา เฉินเฟิงก็พุ่งสายตา ไปที่ห้องประชุมก่อนเลย

แต่ตอนนี้ประตูห้องประชุมปิดแน่น ได้ยิน แต่เสียงปรบมือกึกก้องลอดออกมาจากในห้อง

ด้านนอกห้อง พนักงานที่ยืนอยู่เหมือน เฉินเฟิงมีไม่น้อยเลย แต่ไม่มีใครกล้าเปิด

ประตูเข้าไปเลย

พวกเขาไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง ถ้าเปิด ทะเล่อทะลาเข้าไป วันต่อมาคงโดนไล่ออกแน่

ดังนั้นทุกคนเลยได้แต่มองประตูห้อง ประชุม และสายหน้าเดินจากไป

เฉินเฟิงยิ้มเศร้า เขาจะเดินไปเปิดประตู บานนั่นได้ไหม?

ได้ส

แต่ ณ เวลานี้เขาจะเอาฐานะอะไรไปเปิด ประตู นกันล่ะ?

พนักงานระดับล่างของคางเหม่ย?

หรือสามีเก่าของเสี่ยเม็งเหยา?

เฉินเฟิงสายหัว สองฐานะนี้ไม่เหมาะสม

ทั้งคู่

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเจอเสียเมิ่งเหยา

เวลายังไม่เหมาะสม

เขาสูดลมหายใจเข้าอก เตรียมจากไป ตอนนี้หลี่เล่อหอบแฮ่กๆขึ้นมาถึงพอดี

“พี่…พี่เฟิง พี่..เป็นยอดมนุษย์หรือไง? ทําไมเร็วขนาดนี้?” หลี่เล่อหอบหายใจแฮ่กๆ พูดเว้นเป็นช่วงๆ

เฉินเฟิงยิ้ม ไม่พูดอะไร หลี่เป็นแค่คน ธรรมดา ถึงจะพูดมากไปหน่อย แต่จิตใจดี

“เห็น…เห็นประธานคนใหม่หรือยัง?” หลี่ เล่อถามทั้งหอบแฮ่กๆ “ยัง” เฉินเฟิงส่ายหน้า

“ยัง?” หลี่เล่อมองเฉินเฟิงอย่างสงสัย และได้สติกลับมาเมื่อเห็นประตูห้องประชุมปิด แน่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ