ลูกเขยมังกร

บทที่ 305 ตัวซวย



บทที่ 305 ตัวซวย

หลินเยนพยักหน้า: “งั้นพวกเรารอหน่อยละกัน

“คุณน้า ไม่ต้องรอหรอกครับ ประธานหลินของเราไม่ชอบ ให้คนอื่นรอ เขามักจะปรากฏตัวตอนที่คนอื่นสั่งอาหาร เรียบร้อยแล้ว” เพิ่งห้าวพูด

“คุณน้า พวกเราสั่งอาหารกันเถอะ ” เก๋งห้าวหยิบเมนูออก

มาสั่งอาหาร

“เก๋งห้าว จะให้เราสั่งได้ไงล่ะ วันนี้น้ากับรั่วเสงี่ยนเลี้ยงนะ ให้พวกเราสั่งเถอะ” หลินเย่นพูดตามมารยาทกับเก๋งห้าว

“งั้นได้ครับ คุณน้า คุณน้าสั่งละกัน” เพิ่งห้าวยื่นเมนูให้หลิน เย่นด้วยรอยยิ้ม

รอยยิ้มของหลินเย่นค้างแข็ง เธอเหมือนจะลืมไปเรื่องหนึ่ง คือ สมองของเก๋งห้าวไม่มีอะไรเท่าไหร่

ถ้าเป็นคนอื่น เธอพูดอย่างมีมารยาทขนาดนี้แล้ว อีกฝ่าย ให้เกียรติ ก็จะไม่ให้เธอสั่งอาหารแน่นอน

แต่พอมาถึงเก๋งห้าว กลับไม่คิดอะไรมากมาย

คุณว่ายังไงก็ตามนั้น

“ได้ น้าสั่ง น้าสั่งละกัน” หลินเย่นฝืนยิ้มรับเมนูมา เธออยาก ตบหน้าตัวเองนัก ทำไมต้องปากเบาด้วย อาหารมื้อหนึ่งของ หงส์ขาวนะอย่างน้อยต้องสามสี่หมื่นแน่ะ

เธอปากเบาหน่อยเดียว เสียเงินสามสี่หมื่นในพริบตา

ไม่นาน หลินเล่นก็สั่งอาหารแนะนำของร้านอาหารหงส์ขาว

มาสองสามอย่าง

พนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหารขึ้นโต๊ะ

ตอนนี้หลินเช่นกลับรู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง เธอกะลุกไปเข้า

ห้องน้ำ

พอหมุนตัว กลับชนกับพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่ง

“บิ๊ก”

พนักงานคนนั้นทรงตัวไม่อยู่ อาหารบนถาดกระฉอกใส่

หลินเย่น

หลินเล่นร้องเหมือนหมูโดนเชือด เห็นได้ชัดว่าโดนลวกไม่

น้อย

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ”

พนักงานร่างเล็กรีบละล่ำละลักขอโทษ

แต่หลินเย่นไม่ฟังสักนิด เธอตบไปที่หน้าพนักงานเต็มๆหนึ่ง

ฉาด จนปรากฏรอยนิ้วห้านิ้ว “แกทำบ้าอะไรเนี่ย ตาบอดหรือไงหะ!”

หลินเย่นด่าเสียงแหลม วันนี้เธอใส่ชุดราตรีผ้าลูกไม้ ไม่มี ซับใน แปลว่าน้ำแกงของพนักงานลวกเข้าไปในเนื้อเธอเต็มๆ

รสชาตินี้ คนเคยลวกเท่านั้นถึงจะรู้

“ขอโทษ ขอโทษ คุณน้า ฉันไม่เห็นจริงๆ” หลินหวั่นชีวก้ม หน้าขอโทษขอโพย น้ำเสียงแหบเครือ เธอไม่คิดเลยว่า ออก มาหางานพาร์ททาร์มทำครั้งแรกก็เกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้น

“ขอโทษมีประโยชน์หรือไง?! ยัยโสโครก!”

หลินเล่นด่ากราด ตบไปที่หน้าหลินหวั่นชีวอีกที จนเธอลง ไปกองที่พื้น

ทำไมเป็นยัยตัวซวยอีก?”

ตอนนี้ถางรั่วเสงี่ยนขมวดคิ้วลุกขึ้น ความจำเธอดีมาก ดัง นั้นเลยจำได้ในแวบแรกว่า คนที่ใส่ชุดพนักงานตรงหน้าเป็น ลูกสาวผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นที่ชนนถหลินเล่นถลอกเมื่อ วาน

“แก?!”

หลินเย่นจ๋หลินหวั่นชีวเหมือนกัน ทันใดนั้นเธอเดือดเลือด พล่านในอกขึ้นมา

เธอหยิบเก้าอี้จากพื้นขึ้นมาฟาดใส่หลินหวั่นชีวเต็มแรง “อ๊า”

หลินหวั่น วร้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด

แต่หลินเย่นยังไม่หนำใจ ยกเก้าอี้ขึ้นฟาดอีก ฟาดไปด่าไป

“ทำไมที่ไหนๆก็มีคนโสโครกอย่างแกหะ!”

“เมื่อวานแม่โสโครกของแกก็ทำรถฉันพัง วันนี้แกก็ทำเสื้อ

ฉันสกปรกอีก!”

“แกจงใจเป็นศัตรูกับฉันใช่ไหม!

หลินเย่นฟาดไปสามสี่ครั้ง จนไม่มีแรงยกเก้าอี้แล้ว เธอถึง หอบหายใจและหยุดมือ

แต่ร่างเล็กน้อยของหลินหวั่นชีวก็นอนขดเป็นกุ้งด้วยความ เจ็บปวดอยู่ที่พื้น

เสียงโวยวายทางนี้ดึงความสนใจของพนักงานร้านหงส์ขาว ทั้งหมด มีผู้ชายในขุดสูทราวกับผู้จัดการเดินเข้ามา

“คุณผู้หญิงครับ เกิดอะไรขึ้นครับ?”

“แกตาบอดหรือไง? เกิดอะไรแกดูเองไม่เป็นหรอ?” หลิน เย่นด่ากราด ท่าทีเป็นแม่ค้าปากตลาดเอามากๆ

“พนักงานของพวกคุณสาดน้ำแกงใส่แม่ฉัน” ถางรั่วเสวี่ย นพูดด้วยสีหน้าเย็นชา และโยนความผิดทั้งหมดให้หลินหวั่น

ชีว “ขอโทษกับการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับคุณนะครับ เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของทางเราเองครับ” ผู้จัดการวัย กลางคนก้มโค้งแสดงความขอโทษ หลินเล่นกับถางรั่วเสงี่ยน ดูก็รู้ว่าไม่ควรหาเรื่อง

ส่วนหลินหวั่นชีวกลับพึ่งทำงานวันนี้วันแรก แถมยังเป็นพาร์ ททาร์ม จะอยู่ข้างไหน แค่ดูก็รู้แล้ว

“ขอโทษ? ขอโทษคำเดียวแล้วจบหรือไงหะ?! พวกแกรู้ไหม ว่าเสื้อผ้าฉันชุดนี้ราคาเท่าไหร่? พวกแกรู้ไหมว่าวันนี้ฉันนัด ใครมาคุยธุรกิจอะไร? ทำฉันเสียเวลาขนาดนี้ คิดจะขอโทษคำ เดียวก็จบหรือไง?”

“ฉันจะบอกให้ ไม่มีทาง! ” หลินเย่นเดือดจัด โดนหลินหวั่น ชีวทำแบบนี้ เธอจะมีหน้าพบหลินจงเหว่ยยังไง

“คุณผู้หญิงท่านนี้ คุณเข้าใจผิดแล้ว ความเสียหายทั้งหมด ที่หลินหวั่นชีวา ทางเราจะให้เธอชดใช้ให้คุณตามจำนวนเอง ครับ” ผู้จัดการยิ้มแหย

“ชดใช้? มันมีปัญหาชดใช้หรอ? แกรู้ไหมว่าเสื้อผ้าฉันชุดนี้ ราคาเท่าไหร่? หนึ่งแสนเก้าหมื่น! หมื่น่าดีไซน์เนอร์จากอิตาลี ออกแบบให้ฉันโดยเฉพาะ คนธรรมดาอย่างมัน ต่อให้ ขายตัวเองยังซื้อกระดุมชุดนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” หลินเย่นไม่ลดรา วาศอก ความหมายของ ผู้จัดการที่ชัดอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นความ ผิดของหลินหวั่นชีวคนเดียว ไม่เกี่ยวอะไรกับร้านหงส์ขาว ร้าน หงส์ขาวจะไม่ออกเงินชดใช้ให้แม้แต่บาทเดียว” “เสี่ยวหลิน ลุกขึ้น!”

ผู้จัดการมองหลินหวั่นชีวที่พื้นด้วยสายตาเย็นเยียบ และพูด อย่างไร้อารมณ์ว่า: “เสื้อผ้าของคุณผู้หญิงท่านนี้ราคาหนึ่ง แสนเก้าหมื่น เธอรีบชดใช้ให้คุณเขาเดี๋ยวนี้เลย ห้ามขาด แม้แต่สตางค์แดงเดียว”

“ผู้จัดการจาง คุณน้าคนนี้ชนฉันก่อนนะคะ น้ำแกงของฉัน ถึงหกรดตัวเธอ” หลินหวั่นชีวอธิบายทั้งน้ำตา ตอนเธอยกน้ำ แกงมา เดินตามทางที่ร้านหงส์ขาวจัดแจงไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ พอหลินเย่นลุกขึ้น กลับชนเธออย่างจังโดยไม่ดูเลยสักนิด

พูดตามจริงแล้ว คนผิดคือหลินเย่น ไม่ใช่เธอ

“แกว่าไงนะ?!”

หลินเย่นสีหน้าเย็นชา และถีบใส่หลินหวั่นชีวหนึ่งทีทันที

“ยัยโสโครก นี่แกยังกล้ากล่าวหาฉัน?! อะไรเรียกว่าฉันชน แก แกอยากแก้แค้นฉัน เลยเอาน้ำแกงราดฉันต่างหาก!

“ฉันเปล่านะคะ!” หลินหวั่นชีวพูดอย่างน้อยใจ งานเสิร์ฟ ร้านอาหารหงส์ขาวเป็นงานพาร์ททาร์ทแรกของเธอ เธอจะ กล้าทําเรื่องแบบนี้ได้ยังไง

“เปล่า? แกเห็นว่าฉันโง่หรือไง?” หลินเย่นยิ้มเย็น

“เมื่อวานคนขับรถของฉันชนแม่โสโครกของแก ดังนั้นแก เลยแค้นฉัน วันนี้เห็นฉันมาทานอาหารที่นี่ แกเลยจงใจยกน้ำ แกงมาข้างหน้าฉัน อาศัยตอนฉันเผลอ และเทน้ำแกงราดฉัน คิดว่าฉันดูลูกไม้ตื้นๆของแกไม่ออกหรือไง?”

“ฮือๆ ฉันไม่ได้ทำจริงๆนะคะ คุณน้า…”

“พอได้แล้ว!”

ผู้จัดการจางตะคอกอย่างโมโห สีหน้าซีดขาวจนน่ากลัว “เสี่ยวหลิน ตอนนี้หลักฐานมัดตัวแน่นหนาขนาดนี้ คือเธอ จงใจราดน้ำแกงใส่คุณผู้หญิงท่านนี้

“อายุแค่นี้ ทำไมจิตใจร้ายกาจแบบนี้เนี่ย!”

“เธอรู้ไหมว่าทำแบบนี้แล้วมันทำร้ายคุณผู้หญิงท่านนี้ขนาด ไหน?”

เธอรู้ไหมว่าทำแบบนี้มันส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงร้านหงส์ ขาวของเราขนาดไหน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ