ลูกเขยมังกร

บทที่ 296 ไม่คุยโม้แล้วทำอะไรได้อีก



บทที่ 296 ไม่คุยโม้แล้วทำอะไรได้อีก

“พี่ชาย พี่ชื่ออะไรคะ?” หลินหวั่นชีวพยายามทำใจกล้าถาม

“เฉินเฟิง” เฉินเฟิงตอบโดยไม่หันกลับมา

“เฉินเฟิง…

ในใจ

” หลินหวั่นวท่องคำนี้ในใจ เหมือนจะสลักคำนี้ไว้

หลังจากที่เฉินเฟิงส่งสองแม่ลูกหวางซูเงินมาโรงพยาบาลได้ไม่ นาน ตู้เจียงก็พาป้าผมลอนและลูกสาวมาถึงโรงแรมจุนเส็ง

แต่ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ทั้งสามคนก็เดินออกมาจากล็อบบี้ โรงแรมด้วยสีหน้าถมึงทึง เหมือนโดนขัดใจอะไรบางอย่าง

พอออกจากโรงแรม ตัวลูกสาวก็กระทืบเท้าอย่างระบายอารมณ์

พลางว่า:

“แม่คะ นายหลินจงเหว่ยไม่ไว้หน้าพวกเราเลย บริษัทจงเลิ้ง ของเราเป็นหนึ่งในห้าร้อยบริษัทใหญ่ทั่วโลก เขากลับไม่ให้โอกาส ร่วมงานกับเรา แถมยังบอกให้พวกเราไสหัวไป เขาถือสิทธิ์อะไร นะ?”

แม่จะไปรู้ได้ไงล่ะ!” “

ป้าลอนผมทองกัดเขียวเคี้ยวฟัน สีหน้าขมวดแน่นแทบจะมีน้ำ ออกมา ครั้งนี้เธอพาลูกสาวมาด้วยความมั่นใจเกินร้อย แถมยังเอา หน้าต่อหน้าประธานกรรมการว่า จะต้องได้รับการร่วมงานกับ บริษัทติ้งเฟิงแน่ แต่ตอนนี้แม้แต่ประธานกรรมการของบริษัทติ้ง เฟิงเธอยังไม่ได้เจอ ก็โดนคนรับผิดชอบไล่ออกมาซะแล้ว

“แม่คะ ตอนนี้จะทำยังไงดี?

“ถ้าร่วมงานกันไม่ได้ ฐานะรองผู้จัดการของแม่คงรักษาไว้ไม่อยู่ แล้ว” ตัวลูกสาวมองแม่อย่างกังวล ในฐานะบริษัทอันดับที่ห้าร้อย ของโลก การแข่งขันภายในบริษัทจงเส็งรุนแรงมาก ตำแหน่งรองผู้ จัดการของแม่น่ะมีคนจ้องกันตาเป็นมันอยู่นานแล้ว

ถ้าครั้งนี้ไม่ได้ร่วมงานกับบริษัทติ้งเฟิง เพื่อหาทางให้บริษัทจง เส็งเข้าไปมีส่วนในฉวนซานรีสอร์ทไม่ได้ พอกลับไป แม่คงโดนไล่ ออก แถมยังจะทำให้เลขาประธานกรรมการอย่างเธอโดนหางเลข ไปด้วยแน่

ป้าผมลอนคิ้วขมวดแน่น ไม่พูดอะไร เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เธอไม่มีเส้นสายอะไรที่ชางโจวนี่เลย ต่อให้อยากเล่นเส้น ก็หาทาง ไม่เจอ

“จริงสิ แม่คะ บ้านน้าสามอยู่ช่างโจวไม่ใช่หรอ? เรื่องนี้ไม่แน่ พวกเขาอาจพอช่วยเราได้นะคะ” เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ ตัว ลูกสาวสายตาเปล่งประกายขึ้นมา

“พวกนั้น?”

ป้าผมลอนแค่นเสียงหยันออกมา “พวกนั้นไม่ขอความช่วย เหลือเราก็ถือว่าดีมากแล้ว ยังจะช่วยเราเนี่ยนะ

ทำไมจะช่วยไม่ได้ล่ะคะ? แม่ แม่บอกเองว่า ช่วงก่อนน้าสาม เขาโพสต์ข้อความประมาณว่า ลูกสาวตัวเองได้รับผิดชอบโครง การขู่ฉวนซานนี่นา?” “โครงการฉวนซานเป็นหนึ่งในธุรกิจของบริษัทติ้งเฟิง ถ้า ลูกสาวน้าสามได้รับผิดชอบโครงการจริง ไม่แน่เธออาจจะรู้จักหลิน จงเหว่ยก็ได้” ลูกสาวพูด

“รั่วเสงี่ยน คำพูดน้าสามลูกก็เชื่อหรอ?” ป้าผมลอนเหล่ลูกสาว ตัวเองหนึ่งที

“แม่กับเขาโตมาด้วยกัน นิสัยเขาเป็นยังไงแม่รู้ดี

“ในตัวมีเงินห้าเหมา ก็จะพูดเป็นห้าสิบ

“นี่โม้ว่าลูกสาวได้รับผิดชอบโครงการฉวนซาน? น่าขำจริงๆ

“ผู้รับผิดชอบโครงการฉวนซาน ลูกสาวเขาน่ะหรอคู่ควร?”

ป้าผมลอนแสยะปากยิ้มหยัน เธอกับหลินหลันเป็นพี่น้องคนละ แม่ ระหว่างพวกเธอไม่ถูกกันตั้งแต่เด็ก แข่งกันเรื่องกิน แข่งกัน เรื่องเสื้อผ้า ตั้งแต่เล็กจนโต แทบไม่มีอะไรที่พวกเธอไม่แข่งกัน

แต่สุดท้ายหลินหลันก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป

เพราะเธอแต่งเข้าตระกูลสูงของจงไห่ ส่วนหลินหลั่นกลับแต่งมา ที่ชางโจว สามีก็เป็นแค่คนธรรมดาตระกูลระดับสามที่ไม่มีความ สำคัญเท่าไหร่

เรียกได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว

ถางรั่วเสงี่ยนขมวดคิ้ว: “แม่ แม่หมายความว่าน้าสามเขาไม้

หรอ?”

“ตลกละ” หลินเย่นมองบน “เขาแต่งงานมาไม่ดีนัก ไม่คุยโม้ แล้วยังทำอะไรได้ล่ะ?”

“โม้ว่าลูกสาวตัวเองได้เป็นคนรับผิดชอบโครงการฉวนซานก็ เยอะแล้ว หลายวันก่อนยังโพสต์รูปว่า เสิ่นหงซึ่งนั่นให้บ้านราคา สิบล้านกับเขาอีกแน่ะ

“ลูกว่าน่าขำไหมล่ะ?”

“ก็น่าขำอยู่นะ” ถางรั่วเสงี่ยนถอนหายใจ ยิ่งรู้สึกแย่กับน้าสาม ที่ไม่เคยเห็นหน้านี้เข้าไปอีก

“แม่คะ ในเมื่อน้าสามช่วยอะไรเราไม่ได้ เราก็กลับจงไห่กันเถอะ

ค่ะ” ถางรั่วเสงี่ยนพูดอีก

“กลับไป? ทำไมเราต้องกลับไปด้วยล่ะ?” หลินเล่นยิ้มเย็น

“ไม่กลับ? แม่คะ แม่หมายความว่า…

“เราไปบ้านน้าสามกัน ให้เขาบอกให้ลูกสาวช่วยเรา แล้วก็ไปดู ซะหน่อยว่าบ้านราคาสี่สิบล้านน่ะมันเป็นยังไง” หลินเย่นยิ้มมุม ปากอย่างมีเลศนัย

ถางรั่วเสงี่ยนถึงบางอ้อ เข้าใจความหมายของหลินเยน หลิน เช่นคิดจะไปหยามหน้าน้าสาม เรียกความสะใจคืนให้ตัวเอง

ตอนนี้หลินหลันพึ่งตื่น เห็นตัวเองนอนข้างเตียง ส่วนเสี้ยเพิ่ง เหยาก็หลับไปแล้ว

ทำไมอยู่ดีๆแม่ก็หลับล่ะ?” หลินหลันลูบท้ายทอยอย่างสงสัย “ ตอนนี้เองมือถือเธอดังขึ้น มีคนโทรวีแชทมาหา พอเห็นคำว่าหลินเล่น หลินหลันตกใจมาก

เธอลังเลชั่วครู่ ก่อนกดรับ

ปลายสายแหวเสียงมาทันที “หลินหลัน ตอนนี้อยู่ที่ไหน? ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล” ต่อหน้าหลินเล่น หลินหลันดูด้อยไปถนัด

“ไปโรงพยาบาลท่าอะไร?”

“พอดีเพิ่งเหยา… ” หลินหลันกำลังจะบอกว่าเสียเพิ่งเหยาป่วย แต่หลินเย่นไม่ใส่ใจและตัดบทว่า “ช่างเถอะ ฉันไม่อยากรู้ว่าเธอ ไปโรงพยาบาลทำอะไร ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงแรมจุนเส็งของชางโจว รถฉันเสียด้วย เธอรีบหาคนมารับฉันที ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ หน่อย”

“พี่มาชางโจว?” หลินหลันเบิกตากว้าง บอกชัดว่าตกใจมาก

“ทำไม ไม่ต้อนรับหรือไง?

“ต้อนรับสิ ต้อนรับอยู่แล้ว พี่มาชางโจว ฉันดีใจมากนะ” หลิน หลันรีบเออออตาม วันนี้ไม่เหมือนก่อน ตอนเด็กๆเธอแข่งกับหลิน เย่นตลอด แต่ตอนนี้เธอไม่มีอะไรแข่งกับหลินเล่นได้เลย

ตรงกันข้าม เธอยังต้องประจบหลินเย็นไว้ด้วย

ตอนนี้หลินเย่นเป็นประธานกรรมการของบริษัทอันดับห้าร้อย ของโลกไม่พอ สามียังเป็นตระกูลสูงมีฐานะเป็นหลักร้อยล้านด้วย

ไม่ว่าดูจากมุมไหน เธอก็สู้หลินเล่นไม่ได้เลย

ตา “ดีใจก็รีบให้คนขับรถเธอมารับฉันสิ จำไว้นะ รถที่มารับฉันต้อง เป็นรถหรู รถราคาถูกฉันนั่งไม่สนิทใจ” หลินเย่นพูดด้วยน้ำเสียง เย่อหยิ่ง แกมออกคำสั่งหลินหลัน พอพูดจบก็ตัดสายไปเลย

หลินหลันงงๆ อยู่ดีๆเธอจะไปหารถหรูจากไหน

ตอนกำลังครุ่นคิด เฉินเพิ่งเข้ามาพอดี

พอเห็นเฉินเฟิง หลินหลันก็ตาเป็นประกายขึ้นมา เธอสาวเท้า ก้าวเข้าไปหาเขา ถามว่า: “เฉินเฟิง รถหรูคราวที่แล้วน่ะไปเช่า ที่ไหนหรอ? ตอนนี้ยังหาเช่าได้ไหม?”

“เช่ารถหรูทำไม?” เฉินเฟิงมองหลินหลั่นอย่างสงสัย หลินหลัน

คิดจะทําอะไรอีก

“รับคน พี่สาวฉันมาจากจงไห่ ตอนนี้อยู่โรงแรมจุนเส็ง จะมา บ้านเรา แกไปรับเธอหน่อย” หลินหลันบอก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ