ลูกเขยมังกร

บทที่ 340 ดาบเดียวหยุดศัตรูนับร้อย



บทที่ 340 ดาบเดียวหยุดศัตรูนับร้อย

ผู้อันดับสูงสุดของสหพันธ์สงคราม?

สื่อโพงเบิกตากว้าง สะท้านเฮือกสูดลมหายใจหลายครั้ง เจ้าสามหวงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม

อาจารย์ของเจ้าหนุ่มตรงหน้านี่คือผู้อันดับสูงสุดของ

สหพันธ์สงคราม??!

โกหกละมั้ง?!

ผู้อันดับสูงสุดของสหพันธ์สงคราม นั่นเป็นบุคคลระดับ ทํานานอย่างแท้จริง

เขาผุดขึ้นมาในตอนยุคมืดของหวาเซียเริ่มต้น

วันที่บรรลุมหาปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้วันนั้น เคยใช้ ดาบเดียวเปิดฟ้าที่ริมแม่น้ำหวงผู่

ทําลายเรือรบเจ็ดนําของคนต่างชาติรวด!

ทำให้แม่น้ำหวงผู่ย้อมไปด้วยเลือด

ท่าศัตรูนับพันสะท้านไปตามๆกัน

วันนั้นคนต่างชาติที่เข้ามารุกรานหวาเซียต่างจดจำชื่อห หนึ่งไว้ได้ขึ้นใจ
เขียวถั่วจง!

เซียวถั่วจง เทพสงครามผู้พิทักษ์หวาเซีย

บุคคลที่สามารถใช้ดาบเดียวหยุดศัตรูนับร้อยจริงๆ

หลังสงครามแม่น้ำหวงผู่เขียวถั่วจงก่อตั้งสหพันธ์ สงคราม เป็นประมุขสหพันธ์สงครามคนแรก

ในวันที่ขึ้นเป็นประมุข เซียวถั่วจงนำทัพไปคุมชายแดน

ไปดุมครั้งนี้คือสิบปี!

ในสิบปีนั้นชายแดนหวาเซียไม่เคยเสียดินแดนแม้เพียง กระผีก!

ภายในสิบปีนั้นศัตรูที่มารุกรานเหลือเพียงเถ้ากระดูก เท่านั้น!

สหพันธ์สงครามอยู่ ประเทศรอด!

สหพันธ์สงครามม้วย ประเทศราบ!

นี่คือเซียวถั่วจง

เซียวถั่วจง เทพสงครามผู้พิทักษ์หวาเซีย

ในหวาเซีย เขียวถั่วจงคือตำนาน คือเทพที่มีชีวิตจริง

เป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของศิษย์สหพันธ์สงครามทุกคน

สื่อโฟนกำหมัดแน่น รู้สึกเลือดลมพลุกพล่าน เป็นไปได้ยังไง?! เป็นไปได้ยังไง?

ชายหนุ่มข้างหน้าที่เป็นลูกศิษย์ของ ผู้อาวุโส

ในใจสื่อโฟนกู่ก้องร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เขายากที่จะ เชื่อได้จริงๆว่า เฉินเฟิงจะเป็นลูกศิษย์ของเดียวกั่วจง แต่เขารู้ ดีว่า เจ้าสามหวงไม่มีทางเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นแน่

และดูจากความสนิทสนมของเขากับเจ้าสามหวง เจ้าสาม หางยิ่งไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น

ดังนั้นเฉินเฟิงที่ยืนตรงหน้าเขาเป็นไปได้มากว่าจะเป็นลูก ศิษย์ของเซียวกั่วจงจริงๆ

ลูกศิษย์ผู้อาวุโส

เขาเป็นลูกศิษย์ผู้อาวุโส

เขาเป็นถึงลูกศิษย์ของผู้อาวุโส

“บิ๊ก” ดังขึ้น

สื่อโฟนถึงกับคุกเข่าลงข้างหนึ่งกับพื้น น้ำตาคลอเบ้า “เฉินเฟิง กรุณารับการคารวะจากโฟนด้วย!

เจ้าสามหวงเบิกตากว้าง ไม่เชื่อสายตาตัวเอง เสียวสือโก วทำอะไรเนี่ย ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรก็คุกเข่าลงเลย?

“ผมือ ทำอะไรเนี่ย? รีบลุกขึ้น!” เฉินเฟิงก็ตกใจเหมือนกัน เขารับยื่นมือพยุงสือโฟนขึ้นมา ปฏิกิริยาของสื่อโฟนอยู่เหนือความคาดหมายของเขามาก

เขาคิดถึงปฏิกิริยาของสื่อไฟจนร้อยแปดพันเก้า แต่กลับ ไม่เคยคิดเลยว่า สื่อโพนจะคุกเข่าให้เขาดื้อๆ

แต่เห็นท่าทีตื่นเต้นของสือโฟนแล้ว เฉินเพิ่งได้สติกลับ

มา คือโฟนคุกเข่าลง ไม่ใช่คุกเข่าให้เขา แต่คุกเข่าให้เขียว กั่วจง!

เห็นได้ชัดว่าสือโฟน ให้ความเคารพและภักดีกับเซียวถั่ว จงมาก ความเคารพภักดีนี้สามารถทำได้ถึงขั้นเสียเลือดเสีย เนื้อเพื่อเซียวกั่วจงได้เลยทีเดียว!

ถึงเขาจะเป็นแค่ลูกศิษย์ของเซียวถั่วจง แต่ในสายตาสือ โฟน เขาเปรียบเสมือนครึ่งหนึ่งของเซียวถั่วจง!

ถึงได้คุกเข่าให้

พริบตานั้น เฉินเฟิงรู้สึกเคารพขึ้นมาทันที

หนึ่งคือเคารพอาจารย์เขียวถั่วจง เขาคิดไม่ออกจริงๆว่า ในยุคมืดนั่นเขียวถั่วจงทำเรื่องสะท้านฟ้าสะเทือนดินอะไรไป บ้าง ถึงทำให้ศิษย์สหพันธ์สงครามยังคงจดจําขึ้นใจมาก สิบปีจากนั้นได้

สองคือเคารพสือไฟจุนที่อยู่ตรงหน้าเขา

ลือโซ่จนตรงหน้าเขา ถึงมีวรยุทธ์แค่ระดับล้านจึงชั้นกลาง ในสายตาเงินเฟิงไม่มีความหมายเลย แต่ความจงรักภักดีของสอโฟน ความดุเดือดเลือดพล่านนี้ กลับเป็นสิ่งที่ เงินเฟิงชาตินี้ไม่สามารถไปถึงได้

สหพันธ์สงครามถึงสามารถรักษาดินแดนป้องกันศัตรู รุกรานมาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะมีคนอย่างสื่อโฟน

“เฉิน… ผู้อาวุโสได้เข้าสู่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แล้วจริง หรือ?” หลังจากเฉินเฟิงพยุงเขาขึ้นมา อารมณ์ของสือโฟน ยังคงตื่นเต้นอยู่ ตอนนี้เขาไม่กล้าสงสัยแล้วว่าเฉินเฟิงเป็น ลูกศิษย์เขียวถั่วจงจริงไหม เพราะลูกศิษย์ของเซียวถั่วจง ใช่ ว่าใครจะกล้าแอบอ้าง และไม่มีใครกล้าแอบอ้าง

ตอนนี้เขาอยากรู้แต่ว่า เฉินเฟิงได้บรรลุปรมาจารย์ศิลปะ การต่อสู้ตามที่เจ้าสามหางบอกจริงไหม

“พี่สือ อย่าเรียกผมผู้อาวุโสเลย ผมบอกแล้วไง ระหว่าง ผมกับพี่ ให้นับเป็นพี่น้องกันใช่ไหม?” เฉินเฟิงยิ้มเหนื่อย พอ รู้ว่าเขาเป็นลูกศิษย์เซียวถั่วจง ท่าทีของสือโฟจุนที่มีต่อเขา เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เว้นระยะห่างชัดเจน เฉินเฟิงไม่ ชอบระยะห่างนี้เลย

“ส่วนเรื่องระดับชั้นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ เมื่อสาม เดือนก่อนผมก็ได้เป็นแล้ว” หลังจากเงียบอยู่นาน เงินเฟิง ตัดสินใจบอกสื่อโพนตามจริง หนึ่งคือสือโฟฉุนควรค่าแก่ การเชื่อใจ เฉินเพิ่งเชื่อว่า สือโฟนจะไม่มีทางบอกใครง่ายๆ เรื่องที่เขาบรรลุปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แน่
สองคือเจ้าสามหวงตั้งใจจะดึงสือโฟนมาเป็นพวกเขา ถ้า ไม่งั้นคงไม่เปิดเผยความลับที่ว่าเขาเป็นลูกศิษย์เซียวถั่วจง ไปบอก อโฟนแน่ ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขากับเชียวว จงเปิดเผยแล้ว งั้นเรื่องบรรลุขั้นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่ ยิ่งไม่จําเป็นต้องปิดบังอีก

พอได้รับคำยืนยันจากเงินเฟิง สือโฟจนรู้สึกตัวหวิวๆ เหมือนมีลมพัดเข้ามาในสมองเป็นระยะ

ถึงจะเดาได้อยู่แล้ว แต่พอได้ยินเฉินเฟิงเอ่ยยืนยันออกมา จริงๆ เขาก็ไม่กล้าเชื่ออยู่ดีว่า ตอนนี้เฉินเฟิงเป็นปรมาจารย์

ศิลปะการต่อสู้

ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ที่อายุยี่สิบหกสิบเจ็ด นี่มัน แปลว่าอะไร?

สุดยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ !

สื่อโพจนพูดได้แค่นี้จริงๆ

มิน่าเฉินเฟิงถึงได้เป็นลูกศิษย์ของเซียวถั่วจง

“ผู้อาวุโสมีผู้สืบทอดต่อแล้ว!” สื่อโฟนอดอุทานไม่ได้ สามปีก่อนหลังจากเซียวถั่วจงประกาศออกจากยุทธภพ ไม่ ยุ่งเกี่ยวเรื่องราวของโลกอีก

เติมคิดว่า ชื่อเทพสงครามผู้พิทักษ์หวาเซียคงจะได้เหลือ เพียงแค่ชื่อ ตอนนี้ดูแล้ว เฉินเฟิงคงจะรับสืบทอดชื่อนี้ต่อไป
“พี่สือ เรื่องที่ผมเป็นลูกศิษย์อาจารย์ และเรื่องที่ผมบรรลุ ขั้นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แล้ว คนมีไม่มาก ขอให้เลือ เก็บเป็นความลับให้ผมด้วย” เฉินเฟิงบอก

สีหน้าสือ โฟจนตึงเครียดขึ้นทันที เขาตบอกรับปาก เฉินเฟิง : “เฉินเฟิงสบายใจได้ พอออกจากประตูนี้ไป เรื่องที่ เราคุยกันในนี้ ผมจะไม่มีวันพูดกับคนอื่นอีก ถ้าผิดคำสาบาน นี้ ขอให้โดนฟ้าผ่าตาย!

“พี่มือไม่ต้องสาบานหรอก นิสัยพี่ผมเชื่อใจได้!” เฉินเฟิง ยิ้มน้อยๆ เขาเชื่อสายตาในการมองคนของเจ้าสามหวง และ เชื่อสายตาตัวเอง

“จริงสิ สือ ตอนผมพึ่งเข้ามา พบว่าเวลาพี่มองคน จะ ปิดบังรังสีการฆ่าในตัวไว้ไม่มีด ตันเถียนของพี่เคยได้รับ บาดเจ็บมาก่อนหรือเปล่า?” เฉินเฟิงถาม เมื่อตอนเขาเข้า มา ก็รู้สึกแล้วว่าบนตัวสือโฟนมีปัญหาแน่

ในตัวจอมยุทธ์มีรังสีการฆ่าเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะจอม ยุทธ์ที่ฆ่าฟันกับศัตรูในชายแดนของสหพันธ์สงครามมา หลายปีอย่างสื่อโฟน รังสีการฆ่าบนตัวยิ่งเข้มข้นมาก

แต่ปกติแล้ว รังสีการฆ่าบนตัวจอมยุทธ์จะสามารถควบคุม ใต้ และปล่อยออกมาตอนเจอศัตรูเท่านั้น

แต่สือไพ่จุนไม่ใช่ เห็นได้ชัดว่าเขาควบคุมรังสีการฆ่าไม่ ได้เลย ปัญหานี้ตอนเฉินเพิ่งเข้ามาก็เห็นแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ