ลูกเขยมังกร

บทที่ 468 พบเจอหลินหลันโดยบังเอิญ



บทที่ 468 พบเจอหลินหลันโดยบังเอิญ

หลังจากกลืนน้ำลายลงคอ หลี่อี้เก็บโทรศัพท์กลับ ไป เขาหมุนตัวหันหลังเดินเข้าไปในห้องของหวางซื่อ หยวน

บนเตียงขนาดใหญ่ที่น่าสนุก หวางซือหยวนนอน เปลือยตัวอยู่บนเตียงด้วยความสะลึมสะลือ

คล้ายว่าเป็นเพราะเพิ่งผ่านการทำสงครามมา ทำให้

ผิวขาวบริสุทธิ์ของหวางซือหยวนแดงระเรื่อ ภาพนี้ ทำให้หลี่อี้มีความใคร่ขึ้นมาไม่น้อย แทบจะไม่คิด หลี่อี้เดินไปที่ประตู ปิดประตูห้อง พร้อมทั้งล็อคอย่างแน่นหนา

จากนั้นเขาหายใจหอบหืดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ ออกมา วางเอาไว้ แล้วเดินไปตรงเตียง

หลังจากนั้นหนึ่งลั่วโมง หลี่ซื้อผิงปรากฏตัวที่หน้า ประตูห้องเพรสซิเดนท์สูท สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูใจ เย็นลงมากแล้ว

เมื่อเห็นว่าตรงประตูห้องไม่มีคนยืนอยู่ หลี่จื้อผิงจึง หยิบคีย์การ์ดออกมา ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าไป

ในเวลานี้เอง ประตูห้องกลับถูกเปิดออกมาก่อน “หลี่อี้? ! ”

ตอนที่เห็นหลี่อี้เดินออกมาด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ หลี่ สื้อผิงเลือดขึ้นหน้าทันที ดวงตาของเขาแดงก่ำ เขาไม่ใช่คนโง่ สภาพของหลี่อี้ที่อยู่ตรงหน้า ถ้าเขา เดาไม่ได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็มีสมองเสียเปล่า

“หลี่ซื้อผิง ฉันขอเตือนนาย อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม แฟนของนายกำลังจะตื่นแล้ว! ”

เมื่อเห็นหลี่จื้อผิงมีท่าทีจะลงไม้ลงมือ หลี่อี้จึงพูด เตือนด้วยเสียงทุ้ม

“มึงนอนกับซือหยวน?! ” ดวงตาทั้งสองข้างของหลี่ สื้อผิงเต็มไปด้วยความโมโห เขากัดฟันกรอดจนเกิด เสียง เขาคิดไม่ถึงจริงๆ หลี่อี้จะนอนกับหวางซื่อหยวน หลังจากที่ซงเต่าเฟิงออกไป

สิ่งที่เขาทำไม่เห็นตนเป็นผู้ชายเลย!

“นอนแล้วยังไง?” หลี่อี้หัวเราะในลำคอ เหมือนไม่ เห็นหลี่ซื้อผิงอยู่ในสายตา

“แก….” หลี่จื้อผิงโมโหพุ่งตัวเข้าไปจับคอเสื้อของ หลี่อี้ เขากำลังจะต่อยหลี่อี้ แต่เมื่อสบตากับสายตาเย็น ยะเยือกของหลี่อี้แล้วนั้น หลี่จื้อผิงกลับยอมแพ้

“ปล่อย”

หลี่อี้มองหลี่จื้อผิงด้วยสีหน้าเย็นชา

ถึงแม้แววตาของเขายังคงมีความโกรธ แต่มือของ หลี่จื้อผิงกลับปล่อยลงมา

“กูให้มึงเพิ่มอีกห้าแสนหยวน! ”

“บอกกับที่คุณชายซงเต่าให้หนึ่งล้านหยวน รวมเป็น หนึ่งล้านห้าแสนหยวน ราคานี้ เพียงพอที่จะได้นอนกับ ดาราระดับสองแล้ว มึงอย่าโลภมากนักเลย! “หลี่อี้ หัวเราะในลำคอ สำหรับคนขี้แพ้อย่างหลี่จื้อผิง การใช้ไม้ แข็งรวมกับไม้อ่อนเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำให้มันรู้สึกกลัวก่อน แล้วค่อยให้มันได้รับผลประโยชน์ แค่นี้มันก็ยอมศิโรราบ แล้ว

เป็นไปตามที่หลี่อี้คิดเอาไว้ หลังจากหลี่อี้พูดออกไป สีหน้าของหลี่สื้อผิงดูหดหู่ลงมา มือที่จับคอเสื้อของหลี่อี้ เอาไว้ก็ปล่อยอย่างหมดแรง

“หึ เดี๋ยวกูโอนเงินเข้าบัญชีมึงเอง” หลี่อี้หัวเราะในลำ คอ ตามด้วย เขาหันไมองหลี่จื้อผิงด้วยสีหน้าเย็นชาแล้ว พูดขึ้น: “อีกเรื่องหนึ่ง กูขอเตือนอะไรมึงหน่อย กูอัดคลิป วิดีโอเอาไว้ ถ้ามึงไม่อยากให้คนอื่นกันจนทั่วว่ามึงถูก สวมเขา มึงก็ช่วยทําตัวดีๆหน่อย!

หลังจากพูดจบ หลี่อี้เดินไปโดยไม่หันกลับมาอีก เหลือทิ้งไว้เพียงหลี่จื้อผิงที่ยังอยู่ที่เดิม เขามองไป ทางที่หลี่อี้เดินไปด้วยสายตาเกลียดแค้น จากนั้นเดิน กลับเข้าไปในห้อง…..

เช้าวันที่สอง เฉินเฟิงมาที่บริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตาม ปกติ

เพิ่งมาถึงหน้าประตูบริษัท ก็เห็นหวู่เหวินโป่ยืนตัวสั่น ท่ามกลางลมหนาว

“พี่เฟิง! ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิง สีหน้าของหวู่เหวินโป๊แปรเปลี่ยน เป็นประจบทันที แม้แต่สรรพนามที่ใช้เรียกก็เปลี่ยนเป็น พี่เฟิง

ไม่รอให้เฉินเฟิงได้พูด หวู่เหวินโป๋เดินไปตรงหน้า เฉินเฟิง : “พี่เฟิง เมื่อวานผมทำรถพี่พัง ต้องขอโทษด้วย นะครับ”

ขณะที่พูด หวู่เหวินโป๋หยิบกุญแจรถออกมาจาก กระเป๋า : “พี่เฟิง นี่คือรถที่เมื่อคืนผมให้คนไปเอามา เป็น รุ่นเดียวกับของพี่ เหมือนกับคันเดิมครับ”

“นายทำงานเร็วดีหนิ” มองดูหวู่เหวินโป๊ที่หน้าทั้ง

เขียวและบวม เฉินเฟิงพูดหยอกล้อขึ้นมา

“แน่นอนครับ ทำงานให้พี่เฟิง ไม่เร็วได้หรอครับ?” หวู่เหวินโป่ยิ้มแห้งๆ รีบพูดประจบเฉินเฟิง

จากนั้น เขาพูดขึ้นอีก : “พี่เฟิง วิลล่าหลังนั้นของผม ได้จัดการเอกสารโอนย้ายเกือบจะเรียบร้อยแล้ว เดี่ยว ผมให้คนส่งไปให้พี่ แล้วพี่ก็เซ็นชื่อนะครับ”

“ได้ ไม่มีปัญหา” เฉินเฟิงคลายยิ้มบางๆ ท่าทีของหวู่ เหวินโป๊เปลี่ยนแปลงกะทันหัน มีเพียงแค่หลักการเดียว เท่านั้น เขารู้ตัวตนที่แท้จริงของตนแล้ว

ถึงแม้ไม่รู้ว่าเขารู้ได้ยังไง แต่ไม่มีอะไรให้น่าสงสัย เขาต้องรู้แล้วอย่างแน่นอน

ไม่อย่างนั้น เขาไม่มีวันขยันขนาดนี้หรอก

“เฉินเฟิง?”

ขณะที่เฉินเฟิงกำลังคาดเดาอยู่นั้น มีเสียงร้องด้วย ความแปลกใจดังขึ้นจากด้านหลัง

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปมทันที “นายจริงๆด้วย ฉันไม่ได้ตาฝาด! ”

วินาทีต่อมา เจ้าของเสียงร้องด้วยความแปลกใจเดิน มาตรงหน้าเฉินเฟิง เธอคือหลินหลัน

“เฉินเฟิง นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ท่าทีของหลินหลันดู กระตือรือร้นมากกว่าเดิมนับแสนเท่า

ความกระตือรือร้นนี้ แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เสี้ย เมิ่งเหยาพูดเมื่อหลายวันก่อน

หลังจากที่รู้ว่าเฉินเฟิงคือลูกหลานตระกูลเฉิน หลายวันมานี้หลินหลันเอาแต่คิดอยู่ทุกวันว่าจะใช้วิธี ไหนจึงจะทำให้เฉินเฟิงกับเสี้ยเมิ่งเหยากลับมาคืนดีกัน

“เฉินเฟิง นายมาที่นี่ มาหาเมิ่งเหยาใช่ไหม?” เมื่อเห็น เฉินเฟิงขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา หลินหลันจึงพูดด้วยความ ดีใจ

“ไม่ใช่ครับ ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่นี่” เฉินเฟิงพูดเสียง เรียบ

“ทำงาน?” หลินหวันนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วคลายยิ้ม พร้อมกับพูดขึ้น : “เฉินเฟิง นายอำคนเก่งจริงๆ ฐานะ อย่างนาย ยังต้องทํางานอีกหรอ? ถ้านายอยากทํา ก็ซื้อ บริษัทของเมิ่งเหยาได้เลย แล้วให้ตนเองเป็น ประธาน…..”

พูดได้ครึ่งหนึ่ง หลินหลันหยุดพูดกะทันหัน

เพราะเฉินเฟิงหยิบป้ายชื่อพนักงานออกมาด้วย สีหน้าเรียบเฉย ในป้ายชื่อพนักงานเขียนอย่างชัดเจนว่า เป็นบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปตัวใหญ่ๆสามตัว เมื่อเห็นทั้งสามตัวอักษรนี้ หลินหลันหยุดพูดทันที ผ่านไปนานครู่หนึ่ง เธอจึงยิ้มแล้วพูด : “นายมาทำ งานจริงๆด้วย”

“ทำไมครับ มีปัญหาอะไรรึเปล่า?” เฉินเฟิงเลิกคิ้วขึ้น หลินหลันรีบส่ายหน้า : “เปล่า…..เปล่าจ๊ะ ไม่มีปัญหา อะไร”

ไม่รอให้เฉินเฟิงได้พูด หลินหลันก็คลายยิ้มแล้วพูด ขึ้นมาอีก : “เฉินเฟิง นายมาทำงานที่นี่ แม่ดีใจมาก มัน หมายความว่านายยังมีความรู้สึกดีๆต่อเมิ่งเหยา”

“ในเมื่อนายยังมีความรู้สึกดีๆกับเมิ่งเหยา ถ้าอย่าง นั้นก็ถึงเวลาที่ควรจะพูดเรื่องกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง แล้วหรือเปล่า?” ลูกตาของหลินหลันขยับไปมา ตั้งแต่รู้ ว่าเฉินเฟิงเป็นใคร หลายวันมานี้สมองของเธอเอาแต่คิด หาวิธีให้เสี้ยเมิ่งเหยากับเฉินเฟิงกลับมาแต่งงานกันอีก ครั้ง

ขอเพียงแค่เสี้ยเมิ่งเหยาและเฉินเฟิงกลับมาแต่งงาน กันอีกครั้ง เธอก็จะกลายเป็นญาติของตระกูลที่มีอำนาจ ที่สุดในหวาเซี่ย

อย่าว่าแต่ชาตินี้ ต่อให้เป็นชาติต่อๆไป เธอก็ไม่ต้อง กังวลเรื่องเสื้อผ้าอาหารการกินแล้ว

“กลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง?” เฉินเฟิงกระตุกยิ้มมุม ปาก เมื่อก่อนตอนที่ตัวตนที่แท้จริงของตนเองยังไม่ถูก เปิดเผย หลินหลันเป็นคนที่อยากให้ตนหย่าขาดกับเสี้ย เมิ่งเหยาที่สุด

ตอนนี้พอตัวตนที่แท้จริงของตนถูกเปิดเผยออกมา หลินหลันกลับกระตือรือร้น อยากให้ตนกับเสี้ยเมิ่งเหยา กลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง?

เหมือนจะดูว่ามุมปากของเฉินเฟิงกำลังหัวเราะเย้ย หยัน หลินหลันยิ้มแห้งแล้วพูดอธิบาย: “เฉินเฟิง เป็น ความผิดของแม่เอง แต่ตอนนี้ แม่รู้ตัวแล้วว่าแม่ผิด เฉินเฟิงให้โอกาสแม่อีกครั้งนะและให้โอกาสเมิ่งเหยาอีก ครั้งด้วย”

“ถึงอย่างไรพวกลูกก็รักกันมานานกว่าสามปี จบกัน แบบนี้ มันน่าเสียดายมาก.……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ