บทที่192 เหตุการณ์คลี่คลายถึงสุดท้ายแล้ว
“เจ้าหนู ถ้าแกรู้จักเอาตัวรอด ถือโอกาสตอนที่ยังไม่สายไสหัวไป ซะ ฉันบอกแกตามตรงนะ ผู้หญิงคนนี้ คืนนี้ฉันจองแล้ว ถึงแม้อยู่ต่อ หน้าสามีสวะคนนั้นของเธอ ฉันก็จะยังพูดคำนี้อยู่!” เย่หมิงเหวินมองอา เหาด้วยสีหน้ามืดครึ้ม มีความหมายข่มขู่อย่างเห็นได้ชัดมาก
ถ้าอาเหารู้จักเอาตัวรอดก็ยังดี ทว่าถ้าไม่รู้จักเอาตัวรอด นั้นบอดี้ การ์ดสิบกว่าคนด้านนอกของเขานั้น ก็ไม่ใช่พวกไก่อ่อน!
“ปัง”
ในเวลานี้ มีเสียงดังลอยมาจากหน้าประตู
เย่หมิงเหวินกับคังไห่โปตกใจขึ้นมา มองไปทางหน้าประตู กลับ เห็นเพียงประตูไม้แข็งแรงที่ปิดสนิทโดนคนถีบจนเปิดออก ชายหนุ่มที่ ก้าวย่างอย่างมั่นคงเดินเข้ามาด้วยท่าทางไร้ความรู้สึก
แม่งเอ๊ย ใครวะ?
“ใครให้แกเข้ามา?” เย่หมิงเหวินหน้ามืดครึ้มตวาดใส่ประโยคหนึ่ง เขาไม่รู้จักเฉินเฟิง ยังคิดว่าเฉินเฟิง เป็นแขกในวิลล่าที่จงใจมาหาเรื่อง เฉินเฟิงไม่ได้สนใจเย่ หมิงเหวิน แต่ทว่าเดินไปข้างกายเสี้ยเมิ่ง
เหยา ค่อยๆ หยิบแก้วเหล้าในมือของเสี้ยเพิ่งเหยาลง เอ่ยปากเสียง
ละมุน ไม่ต้องดื่มแล้ว”
“ซื้อๆ ที่รัก ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เรื่องเลย” เห็นคนที่มาคือเฉินเฟิง ชั่วขณะนั้นในดวงตางดงามที่เลือนรางของเสี้ยเมิ่งเหยาก็ปรากฏไอ หมอกชั้นหนึ่งออกมา และควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่อยู่ กอดไปที่ เอวของเฉินเฟิง ร้องไห้โวยวายขึ้นมาแล้ว
เฉินเฟิงถอนหายใจที่หนึ่ง “เด็กโง่ มาพูดขอโทษกับฉันทำไม เธอ ทำดีมากแล้ว ถ้าจะบอกขอโทษ ก็เป็นฉันที่ต้องขอโทษเธอ….”
“แต่ว่า….ฉันอยากช่วยนายมากจริงๆ….”
ก่ำ พูดสะอึกสะอื้น
“ เสี้ยเมิ่งเหยาดวงตาแดง
“ช่วยกับผีน่ะสิ!” เย่หมิงเหวินต่าออกมาประโยคหนึ่งอย่าง เดือดดาล ยังคิดว่าคนที่ถีบประตูเข้ามาเป็นพวกตัวร้ายอะไร ที่แท้เป็น สามีสวะของเสี้ยเพิ่งเหยานี่เอง คนขี้ขลาดตาขาว ใครให้ความกล้ากับ เขาถีบประตูกัน?
“ไสหัวออกไป! ฉันให้เวลาแกสามวินาที!” เย่หมิงเหวินถลึงตาใส่ เฉินเฟิง ตะคอกพลางชี้ไปทางหน้าประตู ท้องน้อยของเขาร้อนรุ่มแทบ ไม่ไหว ตามองเห็นว่ากำลังจะจัดการเสียเมิ่งเหยาได้แล้ว ผลลัพธ์กลับ ถูกคนมาขัดจังหวะติดต่อกัน ทำให้ไฟโกรธของเขาโหมขึ้นอย่างอดไม่ ได้
“ให้ฉันไสหัวออกไป?” เฉินเฟิงมองเย่หมิงเหวินด้วยหน้าตาไร้ อารมณ์แวบหนึ่ง
“ทำไม จะไม่ยอม” เย่หมิงเหวินหัวเราะเจ้าเล่ห์ บอกว่า “ถ้าไม่ยอม งั้นฉันก็จะเล่นเมียแกต่อหน้าแกเลยไงไอ้สวะ”
เหตุการณ์คลี่คลายจนถึงสุดท้าย ข้อเท็จจริงก็เผยออกมา!
เปหมิงเหวินขี้เกียจมาเสแสร้งกับเฉินเฟิงอีก ในเมื่อหน้าประตูยังมี ลูกน้องสิบกว่าคน ขอเพียงเขาสั่งคำเดียว นักเลงสิบคนนั้นสามารถพุ่ง เข้ามาได้ทันที ปราบเฉินเฟิงกับอาเหาให้เชื่องเอง
ถึงตอนนั้นเขาก็สามารถย่ำยีเสี้ยเมิ่งเหยาต่อหน้าเฉินเฟิงได้โดย สิ้นเชิง สวมเขาให้เฉินเฟิงไปอย่างโหดเหี้ยม!
“ผู้จัดการเย่ ถ้าให้ผมพูดนะ ท่านไม่ต้องให้เจ้าสวะนี้ออกไปหรอก ให้เขาอยู่ในนี้นี่แหละ จากนั้นให้เห็นกับตาว่าผู้หญิงที่เขาแต่งงานมา สามปี ซึ่งไม่เคยได้แตะต้องสักนิด กำลังอยู่ข้างล่างตัวท่าน ครวญคราง หอบอ่อนแรง!คังไหโปพูดยุยงอย่างสนุก บนหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม โรคจิต ในช่วงปกติเขาเคยเที่ยวเล่นกับสาวตระกูลผู้ดีมากมาย แต่ยัง ไม่เคยมีสักคนที่เล่นต่อหน้าสามีของสาวเจ้าแบบนี้
ความรู้สึกแบบนั้น จะต้องเร้าใจมากแน่!
“ได้! ฉันจะฟังแก ในเมื่อไอ้สวะนี้ไม่คิดจะออกไป งั้นวันนี้ฉันจะให้ มันดูได้พอดีว่าเมียมันยั่วยวนแค่ไหน!” เย่หมิงเหวินเลียๆ ริมฝีปากอย่าง ตื่นเต้น คังไห่โปเจ้าหมอนี้เล่นเป็นจริงๆ วิธีแบบนี้ยังสามารถคิดออกมา ได้ “เข้ามาให้หมดเดี๋ยวนี้” เปหมิงเหวินสั่งไปทีหนึ่ง ลูกน้องที่หน้า ประตูสิบกว่าคนกรูกันเข้ามาชั่วขณะนั้น สายตาที่ไม่เป็นมิตรพุ่งไปทางเฉินเฟิงอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เฉินเฟิงเข้ามานั้น เขาบอกว่ารู้จักกับเย่หมิงเหวิน ดังนั้นพวก เขาจึงไม่ได้ขัดขวาง นึกไม่ถึงว่าพริบตาเดียวเฉินเฟิงจะถีบประตูออก และทำเอาพวกเขาตกใจไม่เบา หลายคนล้วนทำใจเตรียมถูกเยหมิงเห วินด่าอย่างถึงอกถึงใจแล้ว
แต่เห็นลักษณะของเยหมิงเหวินในตอนนี้ กลับไม่ได้โกรธแค้นแต่ อย่างใด ชั่วขณะนั้นหลายคนโล่งอกไปที่หนึ่ง
แต่ว่าเฉินเฟิงยังต้องถูกจัดการสักยก!
“จะคุกเข่าเองหรือว่าให้คนของฉันช่วยพวกแกคุกเข่าลง?” เย่หมิง เหวินยิ้มเจ้าเล่ห์มองทางเฉินเฟิงและอาเหา ในสายตาของเขา ถ้า เฉินเฟิงและอาเหารู้จักเอาตัวรอด ควรจะรีบคุกเข่าลงในตอนนี้ คำนับ ทางเขาสองสามที
“ไม่รู้จักที่ตาย!”
อาเหาตะคอกใส่ ก้าวมาตรงหน้าของเย่หมิงเหวินทันที ในช่วงที่ เย่หมิงเหวินสายตาตื่นตระหนก ก็ปับคอของเย่หมิงเหวินไว้ เหมือนกับ ยกไก่ตัวหนึ่ง ยกเย่หมิงเหวินขึ้นมาอย่างไม่มีมูล !
“ปล่อยผู้จัดการเย่ออกนะ!”
ชั่วขณะนั้นลูกน้องสิบกว่าคนโกรธแค้นจนดวงตาแทบแตก ควัก กริชออกแล้วล้อมเข้ามาด้วยความเดือดดาล
“ปัง”
อาเหาโยนเย่หมิงเหวินไปบนผนังราวกับโยนขยะ และจากนั้นก็เหมือนเสือเข้าฝูงแกะ พุ่งไปทางนักเลงสิบกว่าคนนั้น
หลังจากตะลุมบอนกันพักหนึ่ง นักเลงสิบกว่าคนนั้นเหมือนพวก อ่อนแอลุกขึ้นมาไม่ได้ ไม่มีสักคนยืนขึ้นอีก!
ทุกอย่างนี้พูดมาแล้วดูช้ามาก ทว่าตั้งแต่อาเหายกเยหมิงเหวินขึ้น จนถึงพวกนักเลงสิบกว่าคนล้มลงฟื้น ทั้งขั้นตอนยังไม่ถึงสามสิบวินาที
เลย!
นักเลงที่เย่หมิงเหวินจ้างมาโดนอาเหาบดขยี้ไปโดยตรง ไม่มีแรง ตอบโต้กลับสักนิด
ตั้งๆ!
ภายใต้ห้องอาหารที่เงียบสงบ เสียงเหงื่อบนหน้าผากหยดลงพื้น ของคังไหโปกับหวังฉีซานได้ยินอย่างชัดเจน
เย่หมิงเหวินดวงตาเบิกโต ความตื่นตระหนกบนหน้าไม่มีทางใช้คำ พูดอธิบายได้ เขาใช้เงินหนึ่งล้านกว่าจ้างนักเลงมืออาชีพมา แม้แต่เวลา สามสิบวินาทีก็ยังสู้ไม่ไหว?
นี่เป็นปีศาจซาตานอะไรกันแน่?
มีเพียงเฉินเฟิงที่ไม่ได้เงยขึ้นสักนิดตั้งแต่หน้าจนถึงหนังตา เขา เป็นคนที่รู้ฝีมืออาเหาดีที่สุด เขาไปถึงระดับขอบของจอมยุทธ์หมิงจิ้ง ขั้นกลาง ถ้าแม้แต่คนธรรมดาไม่กี่คนยังรับมือไม่ไหว แบบนั้นคงจะ ขายหน้าของจริง
“จะคุกเข่าเองหรือว่าให้ฉันช่วยพวกนายคุกเข่า?” อาเหามองทาง เย่หมิงเหวินและคังไห่โปหวังฉีซานสามคนนี้ พวกกำเริบเสิบสานทั้งสาม นี้ คาดไม่ถึงกล้าให้เฉินเฟิงคุกเข่าลง ไม่รู้คำว่าตายเขียนว่าอย่างไรเสีย
แล้ว
“เข้าใจผิด เข้าใจผิด…..คังไห่หวังฉีซานสั่นเทาทันที คนฉลาด ย่อมไม่สู้ทั้งที่รู้ว่าสู้ไม่ได้ ฝีมือของอาเหาแสดงให้เห็นอยู่ตรงนั้นแล้ว แม้แต่นักเลงสิบกว่าคนของเย่หมิงเหวินยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาเหา ขึ้น พวกเขาเข้าไป คงถูกอาเหาเห็นเป็นหุ่นกระสอบทรายแล้วชกต่อยสัก บกอย่างแน่นอน
ดังนั้นเวลานี้ยอมแพ้จึงเป็นทางเลือกดีที่สุด แต่จะให้พวกเขา คุกเข่าให้เฉินเฟิงพวกสวะนี้ นั่นเป็นเรื่องที่เดิมทีเป็นไปไม่ได้
“ไม่คุกเข่างั้นเหรอ?” อาเหายักคิ้วขึ้น
คังไหโปกับหวังฉีซานยังอยากอธิบาย แต่อาเหากลับไม่ให้โอกาส ทั้งสองคนเลย เดินเข้ามาตรงหน้าทั้งสองก้าวหนึ่ง แล้วเตะมาสองที อย่างเฉียบพลัน
กุกกัก!
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งสองคนร้องโหยหวน ขาอ่อนลง ชั่วขณะนั้นก็คุกเข่าลงที่พื้น บน
ตัวยิ่งเจ็บจนเหงื่อตกไปหมด
จากนั้นอาเหาก็เดินมาที่ด้านหน้าเปหมิงเหวิน
“ฉันเป็นคนของตระกูลเย่ ถ้านายกล้าแตะต้องฉัน ตระกูลเย่ สังหารพวกแกยกครัวแน่!” เย่หมิงเหวินข่มขู่อย่างแข็งนอกอ่อนในตอน นี้เขาทำได้เพียงพึ่งความหวังว่าเฉินเฟิงจะหวาดกลัวชื่อเสียงของตระ กูลเย่ โดยเฉพาะเทียบกับตระกูลเสี้ยแล้ว ตระกูลเย่ก็คือภูเขาใหญ่ที่ ทำเลยเถิดไม่ได้
“ป้าบ”
สังหารยกครัว? อาเหาหัวเราะเยาะ ไม่ได้เกรงใจต่อเย็หมิงเหวิน ตบไปตรงๆ อย่างแรง สะบัดบนหน้าของเป่หมิงเหวินแล้ว
ตบจนฟันมีเลือดออกมาหลายซี่
เฉินเฟิงจะกลัวตระกูลเย่หรือ? ไม่เคยเลยต่างหาก!
ตระกูลเยไม่กลัวเฉินเฟิงก็ไม่ผิด
คนอื่นอาจจะไม่รู้จักเฉินเฟิง แต่อาเหายังรู้จักอยู่บ้าง อาเหารู้ดีมาก เดิมที่เฉินเฟิงไม่ได้มีตระกูลเย่อยู่ในสายตาเลย ยิ่ง ไปกว่านั้นเบื้องหลังของเย่หมิงเหวินก็เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดของตระกูล เย่เท่านั้น ตระกูลเย่ที่แท้จริง เป็นที่เย่ไห่ถังควบคุม
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ