บทที่184 ให้บทเรียนกับเธอสักที
เฉินเฟิงมองเสี้ยห้าวไปอย่างเย็นชา ตัวเองเป็นลูกพี่ลูก น้องของเสี้ยเพิ่งเหยา เมื่อกี้นี้ในตอนที่หวังยุนน่าคิดรังแก เสี้ยเมิ่งเหยา เสี้ยห้าวไม่ก้าวออกมา แต่ตอนนี้พอเห็นเขา รังแกหวังยุนน่า เสี้ยห้าวกลับก้าวออกมาอย่างมุ่งมั่นกว่า ใครเพื่อน
เสี้ยห้าวก็ยังคงเป็นไอ้งั่งเหมือนเคย!
เฉินเฟิงสบสายตาไปตรง ๆด้วยสายตาเย็นชา ภายในใจ ของเสี้ยห้าวก็เกิดอาการขลาดกลัวขึ้นมาทันที เขาเคยถูก เฉินเฟิงต่อยมาหลากหลายครั้ง ดังนั้นแล้วจึงรู้ดีว่าฝีมือ ของเฉินเฟิงนั้นมันน่ากลัวมากแค่ไหน ถ้าเขาต้องเผชิญ หน้ากับเฉินเฟิงตรง ๆนั้น เขาจะต้องถูกจัดการจนเกือบ ตายอย่างแน่นอน
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหวังยุนน่าแล้วนั้น เสี้ยห้าวเองก็ไม่ทาง ยอมแพ้ออกไป ทำได้เพียงหยิบยกเสี้ยเมิ่งเหยาขึ้นมาขู่
“เฉินเฟิง ฉันบอกแกเอาไว้เลยว่า เสี้ยเมิ่งเหยาเธอ ยักยอกเงินบริษัทไป ก็ต้องได้รับผิดชอบทางกฎหมาย! ถ้า แกไม่อยากเห็นเธอเข้าคุก ตอนนี้แกก็รีบปล่อยหยุนน่า แล้วขอโทษหยุนน่าซะ!” เสี้ยห้าวเอ่ยเสียงเข้มออกไปทั้งที่
ภายในใจนั้นกลับขี้ขลาดตาขาว
“ถ้าฉันไม่ทำล่ะ?” ทันใดนั้นเฉินเฟิงก็ยกยิ้มเย็นออกมา “งั้นแกก็อยู่รอให้เสี้ยเมิ่งเหยาติดคุกตลอดชีวิตไปแล้ว กัน” เสี้ยห้าวขู่ออกมาอย่างร้ายกาจ
เฉินเฟิงหลุดหัวเราะออกมา ไอ้โง่เอ๊ย!
เห็นเฉินเฟิงยังคงดึงดันออกมา เสี้ยห้าวทนไม่ไหวขึ้นมา ทันที
“เฉินเฟิง แกอย่ามาท่าเป็นไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีหน่อยเลย ฉันได้ไว้หน้าแกแล้วนะ ถ้าฉันไม่เห็นแก่หน้าของแก ฉันได้ เอาหลักฐานที่เลี้ยเพิ่งเหยายักยอกเงินส่งให้ศาลไปนาน แล้ว”
“งั้นฉันก็ต้องขอบคุณนายงั้นสิ?” เฉินเฟิงยิ้มเสียดสีออก
มา
“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก” เสี้ยห้าวนั้นกลับฟังไม่ออก เลยว่าในคำพูดนั้นของเฉินเฟิงได้แฝงไปด้วยการ เหน็บแนม ยังคงเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจใคร “ขอเพียงแค่ แกยกรถKoenigseggค้นนี้ให้บริษัท เรื่องทั้งหมดระหว่าง เราก่อนหน้านั้นก็จะจบลง ฉันเองก็จะไม่คิดเล็กคิดน้อย เรื่องที่เสี้ยเพิ่งเหยายักยอกเงินบริษัทไป”
เฉินเฟิงยิ้มเย็นออกมา นึกไม่ถึงว่าไอ้งั่งเสี้ยห้าวผู้นี้จะยัง กล้าออกอุบายกับรถของเขาอีก การมอบให้กับบริษัทไป มันต่างอะไรกับการเอาให้เขาเสี้ยห้าวไปล่ะ
เสี้ยห้าวยังคงพูดกับเฉินเฟิงด้วยเหตุผล ส่วนหวังยุนน่า นั้นกลับทนไม่ไหวอีกต่อไป “เสี้ยห้าว ไอ้เศษสวะคนนี้มันมี อะไรให้ต้องพูดดีด้วย จัดการลงมือสั่งสอนมันสิคะ”
สั่งสอนเฉินเฟิง? มุมปากของเสี้ยห้าวแสยะออกมาเล็ก น้อย เธอลองไปสั่งสอนมันดูสิ
เมื่อเห็นว่าเสี้ยห้าวยังคงทำเป็นทองไม่รู้ร้อน หวังยุนน่าก็ เดือดขึ้นมาจนยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ทันที พร้อมทั้งพูด ต่อว่าออกไป “เสี้ยห้าว ฉันแม่งตาบอดไปแล้วจริงๆ ถึงได้ มองไอ้คนขี้ขลาดตาขาวไร้น้ำยาอย่างนาย”
“หยุนน่า เธอฟังฉันพูด…” เสี้ยห้าวพยายามพูดอธิบายคอ เป็นเอ็นออกมา แต่กลับถูกหวังยุนน่าพูดขัดออกมาเสีย ก่อน “ขี้ขลาดก็คือขี้ขลาด อย่ามาหาคำแก้ตัวกับมารดาอยู่ เลย มารดายังกล้าตบนังแพศยาเสี้ยเมิ่งเหยาคนนี้เลย แต่ นายกลับไม่กล้าจัดการกับไอ้เศษสวะอย่างเฉินเฟิงนี้เสีย อย่างนั้น นายนี่มันขยะเสียจริง!”
“เธอเคยตบเมิ่งเหยา?” สีหน้าของเฉินเฟิงเยือกเย็นออก มาทันใด เมื่อตอนอยู่ที่ยู่ฉวนซาน เขาเห็นหน้าของเสี้ยเมิ่ง เหยาดูผิดแปลกออกไป แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไร มากมาย แต่ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว เกรงว่าเสี้ยเมิ่งเหยาเคย โดนผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ตบมาจริงๆ
“มารดาตบนังแพศยาคนนี้เอง แล้วไง? ไอ้เศษสวะอย่าง แกคิดจะแก้แค้นแทนมันรีไง?” หวังยุนน่าเอ่ยหยามออกมา เธอไม่กลัวหรอกว่าเฉินเฟิงจะทำอะไรเธอ เพราะด้านหลัง ของเธอ ไม่เพียงมีเสี้ยห้าวผู้ชายคนนี้อยู่คนเดียว
“ใช้มือข้างไหนตบ?” จู่ๆน้ำเสียงของเฉินเฟิงนิ่งเรียบลง ทันที
คนที่คุ้นเคยกับเฉินเฟิง ทุกคนต่างรู้ดีว่ายิ่งเฉินเฟิงนิ่ง เงียบนั้น ก็ยิ่งแสดงว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยวอย่างมาก “แกต้องสนด้วยหรอว่ามารดาใช้มือข้างไหนตบ?” หวังยุ นน่าแค่นเสียงเย็นออกมา
เฉินเฟิงยิ้มออกมาเล็กน้อย “ในเมื่อเธอไม่พูด งั้นฉันจะ ถือเสียว่าเธอใช้ทั้งสองมือตบแล้วกัน”
“แกคิดจะทำอะไร?” หวังยุนน่าเหลือบมองเฉินเฟิงอย่าง แวดระวัง รอยยิ้มของเฉินเฟิงทำเอาเธอรู้สึกขนลุกกลัวขึ้น มา
“ไม่ได้ทำอะไร” เฉินเฟิงส่ายหน้าออกไป นิ่งไปสักพัก แล้วเอ่ยออกมาอีกครั้งว่า “ก็แค่ อยากให้บทเรียนเธอสัก หน่อย”
“บทเรียน?” หวังยุนน่ายกยิ้มเหยียดออกมา “แกมันก็แค่ เศษสวะไร้ค่าคนนึง ยังคิดจะมาให้บท..”
“กรอบ”
ในที่ตรงนั้นมีเสียงกระดูกแตกดังกร็อบดังออกมา
หวังยุนน่ายังไม่ทันได้พูดคำว่าเรียนออกมาจู่ๆก็มีเสียง ร้องโหยหวนเหมือนหมูถูกเชือดดังออกมาแทน ร่างของเธอ ทรุดลงโดยมีขาข้างนึงคุกลงกับพื้น
เมื่อเห็นหวังยุนน่าที่ทรุดนั่งคุกเข่าข้างนึงแล้วร้อง โหยหวนอยู่บนพื้น ทุกคนในที่แห่งนั้นก็หันไปมองหน้ากัน อย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หวังยุนน่าเป็นอะไรไป? ทำไมถึงได้ทรุดลงไปคุกเข่าอยู่ อย่างนั้น?
“ไม่สิ! พวกเธอดูที่มือของหัวหน้าหวังสิ!” สุดท้ายก็มีคน ตาดีพบเห็นความผิดปกติได้สักที
สายตาของทุกคนเลื่อนมองไปยังมือของหวังยุนน่า จาก นั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความช็อกตกใจกันออกมา
สองมือของหวังยุนน่า หักไปแล้ว!
หักจากตรงบริเวณข้อมือ! เหมือนกับว่าถูกคนหักมันไป อย่างแรงยังไงอย่างนั้น ถึงขนาดที่สามารถเห็นเศษกระดูก ที่แตกออกจากกันกองกันอยู่ที่บริเวณข้อมืออย่างชัดเจน!
ผู้คนต่างตกใจกลัวจนแข็งค้างไปทั้งร่าง นี่เป็นฝีมือของ เฉินเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่ ตกลงเขาทำได้ยังไงกันแน่?
ผู้คนในเหตุการณ์ตรงนั้น ไม่มีใครเห็นการลงมือของ เฉินเฟิงกันชัดๆเลยสักคน!
รู้เพียงแค่หวังยุนน่าที่กำลังพูดอยู่นั้น ได้ลงไปคุกอยู่กับ พื้นเสียแล้ว
ถึงขนาดที่แม้แต่ตัวหวังยุนน่าเอง ก็ไม่แน่ว่าจะรู้ว่า เฉินเฟิงหักข้อมือของเธอได้ยังไงเหมือนกัน จวบจนในตอน ที่บริเวณข้อมือเกิดอาการเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจออก มา เธอถึงได้มีสติกลับมา
พูดได้แค่เพียงว่า ความเร็วของเฉินเฟิงนั้นมันรวดเร็ว อย่างมาก! “บทเรียนนี้ เธอพอใจหรือเปล่า?” เฉินเฟิงเอ่ยถามเสียง เรียบออกไป สำหรับคนที่กล้ามาแตะต้องเกล็ดใต้คอมังกร ของเขานั้น เขาไม่มีทางเบามือให้แน่
หวังยุนน่าที่คุกเข่าข้างนึงอยู่กับพื้น ทั้งร่างก็สั่นออกมา เนื่องจากสาเหตุที่มาจากความเจ็บปวดที่มากเกินที่เธอจะ รับไหว บนหน้าผากของเธอได้เปียกชื้นเต็มไปด้วยเหงื่อ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เธอก็ยังมองเฉินเฟิงอย่าง อาฆาตแค้นสุดขีดออกมา พร้อมทั้งเอ่ยออกไปด้วยน้ำ เสียงแหบแห้ง “ฉัน…ฉันจะฆ่าแก!”
“เอา ฉันจะรอเธอมาฆ่าฉัน” เฉินเฟิงยิ้มเรียบออกมา คน ที่อยากฆ่าเขา สามารถเรียงแถวจากเมืองทางใต้ไปจนถึง เมืองทางเหนือได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาก็ยังมีชีวิตดีอยู่ เลย
“เฉินเฟิง แก…แกมันเกินไปแล้ว!” เสี้ยห้าวที่ได้แต่ข่ม กลั้นอยู่นาน กว่าจะกลั้นใจเอ่ยคำพูดนั้นออกไปได้ แต่ถึง แม้ว่าปากจะพูดตำหนิเฉินเฟิงว่าเขาทำเกินไป แต่ตัว ร่างกายของเสี้ยห้าวกลับซื่อสัตย์อย่างมาก เขาในตอนนี้ อยู่ห่างจากเฉินเฟิงออกมาประมาณเกือบจะสิบเมตร ถ้า ไม่ใช่เพราะกลุ่มคนเบียดเสียดกันเข้ามาจนแน่น เขาก็ คงจะถอยห่างออกมามากกว่านี้อีกหน่อย
“นายจะออกหน้าแทนเธอ?” เฉินเฟิงชำเลืองมองเสี้ยห้าว เล็กน้อย เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา
ถูกเฉินเฟิงท้าทายต่อหน้าผู้คนมากมายอย่างนี้ ถ้าเป็น เสี้ยห้าวเมื่อก่อนหน้านี้ จะต้องทนไม่ไหวอย่างแน่นอน แต่ เสี้ยห้าวในตอนนี้ กลับอดทนเก่งเสียอย่างกับเต่านินจาเสีย ยังไงอย่างนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าจะข่มกลั้นอดทนได้เก่ง ขนาดนี้ เพียงแต่บนใบหน้าได้แสดงความอับอายออกมา หลายส่วน
ในตอนนั้นเอง ก็มีรถยี่ห้อแลนด์โรเวอร์เข้ามาจอดตรง กลางถนน
ประตูรถเปิดออก เสี้ยหยุนเส็งถือไม้เท้าลงมาจากรถ
“รีบหลบไปๆ!”
“ท่านประธานมาแล้ว!”
ทันทีที่เสี่ยหยุนเส็งปรากฏตัว คนตระกูลเสี้ยทั้งหมดก็มี อาการเหมือนกับหาบุคคลที่เป็นที่พึ่งหลักเจอไม่มีผิด ใบหน้ากลับมาสดใสกันขึ้นมาทันที
“คุณปู่”
สีหน้าของเสี้ยห้าวเองก็มีความยินดีออกมาเช่นเดียวกัน รีบก้าวเข้าไปตรงด้านหน้าของเสี้ยหยุนเส็ง เตรียมที่จะรีบ ฟ้องออกไปก่อน
“คุณปู่ เฉินเฟิงมัน..” เสี้ยห้าวแสร้งทำเป็นเอ่ยออกมา อย่างโกรธแค้น แต่คำพูดของเขานั้นยังไม่ทันได้พูดออก ไปจนจบ ก็มีเสียงตวาดออกมาอย่างรุนแรงดังเข้ามาในหู
“คุกเข่าลง!” คนที่พูดคำนี้ แน่นอนว่าเป็นเสี้ยหยุนเสิ้ง นั่นเอง เสี้ยหยุนเส็งในตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนคนป่วย ออดๆแอดๆ แต่ร่างของเขากลับมีความน่าเกรงขามออกมา อย่างแจ่มชัด
“คุณปู่?” เสี้ยหยุนเสิ้งไม่รู้หรือไงว่าคนที่ต้องคุกเข่าต้อง เป็นไอ้เศษสวะอย่างเฉินเฟิงผู้นั้นสิ ทำไมคุณปู่ถึงสั่งให้เขา คุกเข่ากัน
“ฉันสั่งให้แกคุกเข่าลง หูแกหนวกหรือไง!” ใบหน้าของ เสี่ยหยุนเสิ่งเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ไม้เท้าในมือเคาะ ลงไปบนพื้นอย่างแรง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ