บทที่ 170 แพะรับบาป
เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ที่จะบอกว่าจะจัด การเยไห่ถังไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ถ้าว่าเธอเป็นสัตว์ประหลาด สามารถมองเห็น การไกล ก็ว่าได้
แต่เธอเป็นเพียงหญิงสาววัยเพียงยี่สิบปี ดูออก ได้ว่าเด็กวัยนี้ เป็นเด็กที่มีเสน่ห์ที่สุด เฉินเฟิงพูด อย่างเคลิบเคลิ้ม
แม้แต่เฉินเฟิง ยังต้องระมัดระวัง
ถึงแม้ว่าเขาจะมีพลังกำลังมหาศาลอยู่ แต่เมื่อ ต้องรับมือกับผู้หญิงชั่วร้าย มีพลังกำลังภายใน บางทีก็กลายภาระหนักที่ต้องแบกรับ
เมื่อเห็นหน้าเฉินเฟิงเต็มไปด้วยความกระตือรือ ร้อน หานหลงอดไม่ได้จะถอนหายใจ เขารู้ดีว่า เฉินเฟิงไม่ใช่เซียน ดูเหมือนว่าครั้งนี้ การปะทะของ เขาและเยไห่ถังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แต่ คุณชายเฉิน แม้เยไห่ถังไม่ได้พัฒนาอำนาจ ของตระกูลเย่ แต่หลายปีมานี้ พี่ชายทั้งสอง แอบอ้าง ชื่อเสียงตระกูลเย่ รวบรวมคนได้ไม่น้อย”
“เพราะตอนนั้น เย่ไห่ถัง ตัดขาทั้งสองทิ้ง ตอนนี้ ทั้งสองเคียดแค้น เย่ไห่ถัง มาก ตอนนี้ย้อนกลับมา เพื่อแก้แค้นเย่ไห่ถัง”
“คุณชายเฉิน ถ้าอยากลงมือกับ เย่ไห่ถัง สามารถเริ่มได้จากสองคนนี้” หานหลงกล่าวตาม ความจริง
เฉินเฟิงส่ายหัว กล่าวขึ้น:” สองคนนี้เป็นเพียงแค่ แพะรับบาปแทนเย่ไห่ถัง ถ้าอยากลงมือกับ เย่ไห่ถัง อย่าเพิ่งเข้าหาเขาทั้งสองคน”
“แพะรับบาป?” ทั้งสามพร้อมกัน เป็นไปได้ไงว่า สองคนนี้เป็นแพะรับบาป
เฉินเฟิงยิ้ม แต่ก็ไม่อธิบาย
ถ้าเขาเดาไม่ผิด ตอนนั้นคือเย่ไห่ถังตั้งใจตัดขา พวกเขาสองคนคนล่ะข้าง แล้วไล่ทั้งสองออกจาก ตระกูล เพื่อให้ทั้งสองคนรวบรวมกองกำลัง มันเป็น แผนของ เย่ไห่ถัง
ส่วนจุดประสงค์? นั่นง่ายมาก
ตัดขาทั้งสองคน เพื่อเบี่ยงเบนว่าเธอกับเขาทั้ง สองไม่ได้ซ้อมรบ แล้วทั้งสองที่ถูกตัดขาก็จะเกลียด แค้นโดยปฏิญาณหลังจากนั้นจะหาทางหนทางแก้ แค้น และคิดวิธีแก้แค้นด้วยตัว โดยการรวบรวมกองกำลัง
ในเวลานั้น เยไห่ถังใช้ประโยชน์จาก เขาทั้งสอง คน ยื่นมือตัวเองเข้าไป ช่วยทั้งสองคนสร้างกอง กำลัง
แต่พวกเขาสองคนไม่รู้ว่า ยิ่งรวบรวมคนได้มาก ขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็จะตายเร็วขึ้น
นั่นก็เพราะ ถ้าศัตรูของเบตงเสี้ยวมาแก้แค้น เขา จะมุ่งความสนใจไปที่คนโง่สองคนนี้ แต่ไม่ใช่กับเย่ ไห่ถังที่อ่อนน้อมถอมตน
แม้ว่าศัตรูของ เยไห่ถัง ไม่มาแก้แค้น ถ้าทั้งสอง คนต้องการแก้นแค้นเย่ไห่ถัง มันเป็นเรื่องที่โง่เขลา เพราะมันเป็นไปไม่ได้
ไม่พูดไม่ได้ เย่ไห่ถังผู้หญิงคนนี้ สามารถคาด เดา ธรรมชาติของมนุษย์ได้เฉียบขาด
ถ้าไม่จำเป็น เฉินเฟิงก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับผู้ หญิงแบบนี้
แน่นอนว่า เฉินเฟิงกับ เย่ไห่ถังไม่จำเป็นต้องเป็น ศัตรูกัน ยังมีความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกัน แต่ขึ้นอยู่ กับเย่ไห่ถังที่จะเห็นด้วยมั้ย
“คุณชายเฉินแล้ว จะจัดการเยไห่ถังยังไง ครับ?”หานหลงอดไม่ได้ที่จะถาม ถ้าไม่ใช้พี่ชายทั้งสองของ เย่ไห่ถัง ช่วย แต่จะจัดการกับ เย่ไห่ถัง โดยตรง คงจะยากกว่าการปีนขึ้นบนฟ้า เพราะในมือ เยไหถังนั่นมีหน่วยลับของตระกูลเย่ นี่คือกองกำลัง ที่สุดยอดที่ เย่ตงเสี้ยว เหลือทิ้งไว้ และในนั้นก็มีจอม ยุทธ์ไม่น้อย
เย่ไห่ถัง เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง พวกนายไม่ต้อง กังวล หน้าที่ของพวกนายคือ จัดการกับกองกำลัง เล็กๆน้อยๆที่กระจายอยู่ในเขตอำนาจของพวกนาย ก็พอ ในการทำเช่นนี้ จะเป็นการเพิ่มอำนาจให้ตัวเอง “เฉินเฟิงพูด เย่ไห่ถังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหานหลง กู้ตง เชินและจางตงเฉิน ทั้งสามคนเป็นแน่ จะจัดการกับ เยไห่ถัง เขาจะเป็นคนจัดการเอง
“รับทราบครับ คุณชายเฉิน “ทั้งสามพยักหน้า พร้อมกัน แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่า เฉินเฟิงจะจัดการกับ เยไห่ถังยังไง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะฝ่าฝืนคำสั่ง ของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงเหล่ตามองไปข้างนอก นอกจาก เย่ไห่ ถัง แล้วยังมีตระกูลหลี่ และตระกูลเสื่น
ทั้งสองตระกูลใหญ่นี้ ไม่มีตระกูลไหนที่ จะ จัดการได้ง่ายๆ
เขาไม่ได้ติดต่อกับตระหลี่มานาน จึงไม่รู้ความ เคลื่อนภายใน
แต่เฟิ่นหงชังเป็นพวกของเขา อย่างน้อยเขาก็ ต้องทำความเข้าใจไม่มากก็น้อย
แบบฉบับสุนัขจิ้งจอก!
เสี่ยหงชังมองออกความสัมพันธ์ของเขากับตระ กูลเฉินออกแต่แรก
ดังนั้นเขา คงไม่อยู่ฝั่งเดียวกันแน่ ยิ่งถ้า ตระกูล เฉินแข็งแกร่งขึ้น เขาอาจไปอยู่ฝั่งเดียวกับตระกูล เฉิน
แต่ตอนนี้ เฉินเฟิงยังไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้ สิ่ง ที่สำคัญที่สุด ตอนนี้คือฝ่าฟันอุปสรรคอย่างเย่ไห่ถัง ได้ยังไง
อีกด้านหนึ่ง เสี้ยห้าวอออกมาจากโรงแรมจุนเสิ้ง แล้วขับไปที่คลับแห่งหนึ่ง
ภายใต้การต้อนรับจากพนักงานหญิง เสี้ยห้าว เดินเข้าไปห้องคาราโอเกะสุดหรู
ภายในห้องหรู มีผู้ชายใส่สูท อายุเพียงสามสิบ ต้นๆอยู่ยืมเอามือไขว้หลัง
เห็นเสี้ยห้าวเข้ามา มุมปากเย้ยหยันของชาย หนุ่มก็พูดขึ้น “คิดดีหรือยัง?”
เสี้ยห้าวพยักหน้าแล้วยิ้มพูด: “อึม ฉันคิดดีแล้ว
ผู้จัดการเย”
“คือ คุณควรจะคิดเรื่องนี้ได้นานแล้ว ฉันจะบอก ความจริงให้กับคุณ พื้นที่ของเมืองชางโจวหนึ่งใน สาม ถ้าหากว่าตระกูลเย่ ไม่ยอม โครงการที่อยู่ในมือ ของนาย ก็ขายไม่ออก”ผู้จัดการเย่ตะคอกอย่างเย็น ชา
“ครับ ครับ ใช่ครับ ผู้จัดการเย่ คุณพูดถูก เมื่อ ผมไม่ฉลาดเอง….”ใบหน้าเสี้ยห้าวยิ้ม แต่ในใจกลับ ตะโกนด่าผู้จัดการเย่ ไอ้โง่ ถ้าจู่ๆเฉินเฟิงไม่กลับมา เขาไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง เขาก็คงไม่โยนโครงการ ออกไปอย่างรีบร้อน
“ถ้าเช่นนั้น ก็เซ็นสัญญากัน เจ็ดโครงการในมือ นาย ฉันซื้อเลยยี่สิบล้าน”ผู้จัดการเย่กล่าวด้วยสีหน้า หยิ่ง ความจริงแล้ว เยไห่ตง ให้เขามา สามสิบล้าน แต่คุยธุรกิจกับคนโง่อย่างเสี้ยห้าว ยี่สิบล้านก็พอ ประหยัดไปสิบล้าน เขาสามารถนำไปเลี้ยงผู้หญิงอีก หลายคนได้สบาย
“ผู้จัดการเย่ ยี่สิบล้าน ราคานี้น้อยไปแล้วมั้ง ครับ”เสี้ยห้าวอดไม่ได้ที่จะพูด เขารู้ว่าโครงการนี้ ทำให้หัวใจเขาตอนนี้กำลังตกเลือด วันก่อน เขาขาย โครงที่ยู่ฉวนซานไปสามโครงการ ทุกโครงการเริ่มที่ ห้าล้าน สำหรับเจ็ดโครงการที่เหลือ เขาคิดว่าจะขาย อย่างน้อยแปดล้าน
แต่นึกไม่ถึง จู่ๆเฉินเฟิงก็กลับมา ทำให้ผิดแผน เดิมของเขาไป
เมื่อเฉินเฟิงกลับมานั่นหมายความว่าเสี้ยเมิ่ง เหยาสามารถเข้ามาดูแลยู่ฉวนซานได้อีกครั้งและ โครงการเหล่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
อย่าว่าแต่แปดล้านเลย ต่อให้แปดแสน เขาก็ไม่ ได้ ดังนั้นเขาเลยรีบร้อนที่จะขายโครงการนี้ออกไป
พอกับ เย่หมิงเหวิน คนที่ยืนตรงหน้าเขาติดต่อ ซื้อบ้านกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ราคาที่ เย่หมิงเห วินเสนอมาตอนนั้นต่ำเกิน โครงการล่ะ สามล้านห้า ดังนั้นวันก่อนเขาถึงปฏิเสธ เย่หมิงเหวิน ไป
แต่ตอนนี้ เย่หมิงเหวิน กลายเป็นผู้ซื้อที่เหมาะ สมที่สุด เพราะ เย่หมิงเหวิน สามารถซื้อทีเดียวทั้ง เจ็ดโครงการ เพราะเบื้องหลังของ เย่หมิงเหวิน ก็มี ตระกูลเย่ เป็นผู้สนับสนุน หลินจงเหว่ยยังไม่กล้ายุ่ง
เสี้ยห้าวเขาคิดไว้ก่อนแล้ว แต่คิดไม่ถึง ตอนนี้ เย่หมิงเหวิน กลับเปลี่ยนใจ ใช้เงินยี่สิบล้านซื้อ โครงการทั้งเจ็ดของเขา เฉลี่ยลงมาตกอยู่โครงการ ล่ะไม่ถึงสามล้าน
แบนนี่เขาจะรับได้ยังไง?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ