บทที่ 153 ยอมรับไหม
อย่าเห็นว่าเขาบรรลุระดับต้นอ้านจิ้งแล้ว แต่เขา ในตอนนี้ ถ้าไปสู้กับเฉินเฟิงเมื่อสามปีก่อน ก็คงตาย เพราะนิ้วเดียวของเฉินเฟิงแน่แล้ว
แล้วยิ่งไปกว่านั้น เฉินเฟิงในตอนนี้
เฉินเฟิงในตอนนี้แค่ปล่อยพลังออกมา ก็ สามารถกดดันจนเขาโงหัวไม่ขึ้นเลย
ต่อสู้? เขามีโอกาสนั้นหรอ?
จินลิ่วอานไม่มีโอกาสจริงๆ
จอมยุทธ์หมิงจิ้ง ใช้แรงในการต่อสู้ จอมยุทธ์อ้านจิ้ง ใช้ลมปราณในการต่อสู้ จอมยุทธ์หัวจิง ใช้พลังในการต่อสู้
ใช้อะไรน่ะหรอ? พลังของฟ้าดิน! พลัง ธรรมชาติ!
ถ้าจะบอกว่า จอมยุทธ์ระหว่าง หมิงจิ้งกับอ้านจิ้ง ยังถือว่าอยู่ในขอบเขตของคน งั้นพอถึงหั้วจิง จอม ยุทธ์ได้หลุดพ้นจากขอบเขตของคนแล้ว!
เริ่มเข้าใกล้บุคคลระดับตำนานเข้าไปทุกที
จอมยุทธ์หัวจิง ปล่อยพลังออกมาจากใน ร่างกาย ก็สามารถควบคุมพลังรอบด้านได้
เหมือนเฉินเฟิงตอนนี้ ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร แต่ ที่จริงแล้ว พลังในตัวเขาได้ปล่อยออกไปแล้ว และ สลายอากาศในรัศมีหลายสิบเมตรไม่เหลือเลย เขา กางอาณาเขตเหมือนเกราะหนักพันชั่งครอบจินลิ่ว อานไว้
พันชั่งนี่เท่าไหร่หรอ?
เหมือนเอาสิ่งของที่หนักสิบตันทับไว้บนหลังจิน ลิ่วอาน
จินลิ่วอานจะไม่คุกเข่าได้ยังไง?
ถ้าจินลิ่วอานไม่ใช่จอมยุทธ์อ้านจิ้ง ตอนนี้คง ย่อยเป็นเนื้อสับแล้ว
ต่อให้จินลิ่วอานแกร่งแค่ไหน ก็โดนกดจนทั่ว ร่างแทบระเบิด
ถึงเส้นเลือดจะยังไม่ระเบิด แต่เข่าสองข้างของ จินลิ่วอานก็ทำพื้นแตกเป็นผุยผง จุดที่แตกมีเลือด ไหลออกมา
เห็นสภาพจินลิ่วอานย่ำแย่ขนาดนี้ เหล่าศิษย์ สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกัง ต่างตกใจจนตัวสั่น ไม่ กล้ามองเฉินเฟิงเลย
เมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า จินลิ่วอานที่ดู เหมือนไร้คู่ต่อสู้ในสายตาพวกเขาจะมีสภาพย่ำแย่ อย่างในตอนนี้
โดนคนกดดันให้คุกเข่า ไม่มีแม้แต่โอกาส ตอบโต้
พวกเขาคิดไม่ออกแล้วว่า เฉินเฟิงอยู่ในระดับ ไหนกันแน่
ซูเห้าหรันสีหน้าตกตะลึงและหวาดกลัว มือที่ ซ่อนอยู่ในสาบเสื้อสั่นเทาอยู่ ชาตินี้จอมยุทธ์ที่ ร้ายกาจที่สุดที่เขาเคยเจอก็คือ เจ้าสำนักสำนัก กำปั้นเทพที่เป็นระดับปลายอ้านจิ้ง แต่ต่อให้เป็นเจ้า สำนักสำนักกำปั้นเทพก็ทำถึงขนาดนี้ไม่ได้ ขนาดที่ ว่าแค่อาศัยพลังในกายก็สามารถกดจนจอมยุทธ์ ระดับต้นอ้านจิ้งคุกเข่าลงและลุกไม่ขึ้น
ดังนั้นระดับของเฉินเฟิงไม่ต้องพูดถึงแล้ว
หัวจิง!
มีแต่หัวจิงในตำนานเท่านั้น!
แต่จินหลิงมีจอมยุทธ์หั้วจิงที่หนุ่มขนาดนี้ด้วย หรอ?
ไม่ น่าจะพูดว่า ทั่วทั้งหวาเซี่ยมีจอมยุทธ์หั้วจิงที่ หนุ่มขนาดนี้ด้วยหรอ?
ซูเห้าหรันยิ้มมุมปากเศร้าสร้อย เขารู้สึกว่า เฉินเฟิงไม่ใช่หนุ่มน้อยอายุยี่สิบกว่าปีเลย แต่เป็นคน แก่อายุร้อยปีมากกว่า
หัวจิงในวัยแค่ยี่สิบกว่าปี ซูเห้าหรันไม่กล้าพูดว่า ต่อไปจะไม่มี แต่ที่แน่ๆคือไม่เคยมีมาก่อนแน่
ถ้าเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป ทั่วทั้งโลกจอมยุทธ์ หวาเซี่ยจะต้องสะเทือนแน่
ตอนนี้เอง เฉินเฟิงพูดเสียงเย็นชาว่า: “จินลิ่วอาน สำนึกผิดไหม?”
“สำนึกผิดแล้ว” จินลิ่วอานสีหน้าซังกะตาย ถ้า เวลาย้อนกลับไปได้ เขาจะไม่ยุ่งในการไล่ฆ่าครั้งนั้น แน่
“สำนึกผิด? งั้นวันนี้ผมจะทำลายวรยุทธและฆ่า คุณซะ จะยอมรับไหม?” เฉินเฟิงยกมือขึ้น ออร่า ประหนึ่งเทพบุตร
“ยอมรับ” จินลิ่วอานยอมรับอย่างสงบ ถ้าเขา กล้าบอกไม่ยอมรับ เฉินเฟิงต้องฆ่าล้างบ้านจินแน่
“ดี งั้นคุณก็ตายซะเถอะ”
สายตาเฉินเฟิงเย็นเยียบฉับพลัน พลางสะบัดมือ ตบลงที่หัวจินลิ่วอาน
“ปิ้ง”ดังขึ้น
จินลิ่วอานล้มลงพื้น ไร้ซึ่งลมหายใจ ตาปิดไม่มิด
พอจินลิ่วอานตาย เหล่าศิษย์สถานที่ฝึกวิทยา ยุทธจินกังเหมือนร่างไร้วิญญาณ ยืนยังยืนไม่อยู่ มี ศิษย์ผู้หญิงหลายคนเริ่มสะอื้นไห้ แน่นอนว่า มีศิษย์ ผู้ชายหลายคนมองเฉินเฟิงด้วยสายตาเคียดแค้น
ยังไงซะจินลิ่วอานอบรมสั่งสอนพวกเขามาสิบ กว่าปี สำหรับพวกเขาแล้วไม่ต่างอะไรกับพ่อเลย แต่ วันนี้เฉินเฟิงกลับฆ่าจินลิ่วอานต่อหน้าพวกเขา
แค้นนี้ จะไม่ขออยู่ร่วมโลกเด็ดขาด!
สบตาเคียดแค้นของศิษย์ผู้ชายหลุยคน เฉินเฟิง รับรู้ได้ แต่เขาขี้เกียจสนใจ ขนาดจินลิ่วอานเขายัง ฆ่าเลย แล้วพวกกุ้งเล็กๆพวกนี้ ถ้าพวกเขาอยู่อย่าง สงบ งั้นเฉินเฟิงก็ขี้เกียจไปสนใจพวกเขา ถ้าพวกเขา อยากแก้แค้น เขาก็ไม่ใจอ่อนแน่
นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ตัดสินใจแก้แค้น เฉินเฟิงก็ เตรียมความพร้อมที่จะฆ่าไว้แล้ว ในกลุ่มนักฆ่าเมื่อ สามปีก่อน จินลิ่วอานไม่ใช่ตัวเอง เป็นแค่ตัวประกอบ
ตัวเอกจริงๆคือพวกอ้านจิ้งหลายคนนั้น อำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาน่าจะน่าตกใจกว่า ไม่ แน่อาจจะมีหัวจิงก็ได้ ฐาน
ดังนั้นหนทางในการแก้แค้นจริงๆพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น จินลิ่วอานเป็นแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น
ส่วนตัวการที่เสนอเงินรางวัลหมื่นล้าน เฉินเฟิง คาดเดาอยู่ก่อนแล้วล่า น่าจะเป็นภายในบ้านเฉินสั่ง ลงทา
แต่ว่าไม่ใช่เฉินเจิ้นหนาน แต่เป็นคนอื่นของ ภายในตระกูลเฉิน
เพราะถ้าเฉินเจิ้นหนานเป็นคนทำ ต้องเอาที เดียวให้ตาย เขาไม่มีทางมีโอกาสรอดเลย
ทั้งตระกูลเฉิน คนที่เฉินเฟิงครั่นคร้ามมากที่สุด คือเฉินเจิ้นหนาน
ถึงตอนนี้เขาจะฝึกฝนจนถึงหัวจิงและกลายเป็น จอมยุทธ์ระดับสุดยอดแล้ว แต่ความหวั่นเกรงของ เขาที่มีต่อเฉินเจิ้นหนานก็ไม่เคยลดลงเลย มีแต่จะ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาดูเฉินเจิ้นหนานไม่ออกเลย
หลังจากเฉินเฟิงก้าวข้ามผ่านศพจินลิ่วอาน เขา ปรายตามองเหล่าศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกัง อย่างเย็นชาหนึ่งที เหล่าศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธจิ นกังต่างพากันก้มหน้าลง ถึงจะแค้นจนอยากฉีก เฉินเฟิงเป็นชิ้นๆ พวกเขาก็ไม่กล้าแสดงมันออกมา
จากนั้นเฉินเฟิงก็หันไปมองเหล่าศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธเห้าหรันหนึ่งที่ พบว่าปฏิกิริยาไม่ต่างกับ พวกเหล่าศิษย์สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังเท่าไหร่ สายตาที่มองมาที่เขาค่อนไปทางหวาดกลัว
ขนาดซูหลิงยู่ สาวน้อยที่ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ตอนนี้สีหน้าขาวซีด ไม่กล้าสบตากับเขาด้วยซ้ำ
เฉินเฟิงแอบถอนหายใจ ดูท่าตัวเองจะทำให้สาว น้อยตกใจซะแล้ว
ก็จริง คนที่เขาฆ่าคือจินลิ่วอาน ในสายตาพวก เขา จินลิ่วอานแทบจะไร้คู่ต่อสู้ พวกเขาไม่กลัวสิ แปลก
เฉินเฟิงส่ายหัว ก่อนหมุนตัวเดินจากไป
ซูหลิงยู่มองตามร่างเฉินเฟิงที่เดินออกทางประตู ใหญ่ แล้วน้ำตาไหลอาบแก้ม
ซูเห้าหรันอดถอนหายใจไม่ได้ ท่าทีแบบนี้ของ ลูกสาวมันแปลว่าอะไร คนเป็นพ่ออย่างเขาเข้าใจดี เลย
ที่จริงเขารู้มาตลอดว่า ลูกสาวเขาคนนี้ชื่นชอบผู้ กล้า ตอนเด็กยังเคยบอกไว้ว่า ต่อไปจะแต่งงานเป็น ภรรยาของจอมยุทธ์ที่เก่งกาจ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เฉินเฟิงเป็นจอมยุทธ์ที่เก่ง สุดยอดแบบนั้น
แต่เฉินเฟิงกลับไม่เหมาะสมกับซูหลิงยู่ เพราะเฉินเฟิงเก่งเกินไป เพอร์เฟคส์เกินไป
อายุแค่ยี่สิบกว่าปี ก็เป็นมหาปรมาจารย์หัวจิง ต่อให้มองไปทั่วหวาเซี่ย ก็หาอัจฉริยะที่จะต่อกรกับ เฉินเฟิงได้ยาก
คนระดับนี้ ลูกสาวตัวเองจะเอาอะไรไปคู่ควรกับ
เขา?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ