ลูกเขยมังกร

บทที่795 หลินหวั่นชิว



บทที่795 หลินหวั่นชิว

พูดมาถึงตรงนี้ จึงหยูนเพิ่งจึงถอนหายใจยาวออกมา ต่อให้ ตระกูลเฉินไม่ขอ เป็นความตายของเสี่ยวเชิง สิ่งที่พวกเราตระกูล จึงต้องทํากับเฉินเฟิงในเรื่องนี้ ก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ก็ต้องเอา มันให้ตายกันไปข้าง ต้องดูว่าเฉินเพิ่งจะตายก่อนหรือตระกูลจึง เราจะล้มก่อน”

จึงหยูนหลินผู้ที่เงียบมาตลอดจึงพูดแทรกขึ้น”พี่ใหญ่ ไอ้สวะ เฉินเฟิงเอาชนะหวาเซียขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง และได้เป็นแชมป์เปี้ยน โลกด้านศิลปะการต่อสู้ ทำให้วงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซีย ยืนขึ้นอยู่แนวหน้าของโลก มีเกียรติภูมินี้ เฉินเฟิงก็ได้รับการ พะเน้าพะนอจากวงการหวาเซียเต็มที่แล้ว ถ้าพวกเราลงมือใน ช่วงเวลาที่อ่อนไหวขนาดนี้ เท่ากับเราประกาศตัวเป็นศัตรูกับ หวาเซีย! แบบนี้ต่อให้พวกเราฆ่าเงินเฟิง ตระกูลเราจึงก็จะไม่ สามารถดำรงอยู่ได้ในหวาเซีย

จึงหยุนเพิ่งพยักหน้า มองไปที่กลุ่มคนแล้วพูดหยุนหลิน ที่พูด เมื่อกี้ฉันก็ได้เก็บไปคิด ฉันเลยเรียกทุกคนมาประชุม หวังว่าทุก คนคงจะออกความคิดให้กับนโยบายใหม่ๆได้ ฆ่าเงินเฟิง ใน เวลาเดียวกัน ก็สามารถรักษาตระกูลจิ่งของเราไว้ด้วย

“ยังมีอีก เมื่อกี้ทางเฉินโป๊ยุงก็ได้รับประกันมาว่า ขอเพียงแค่ เราฆ่าสวะเงินเฟิงนั้นได้ ตระกูลเฉินจะคุ้มครองตระกูลจึงเรา อย่างเต็มกำลัง จึงหยุนเฟิงพูดเสริม
จิ่งหยูนหลินลองถามอีกรอบ “พี่ชายใหญ่ พวกเรามีแต่ สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้เท่านั้นใช่มั้ย

“ไซ”จิ่งหยูนเฟิงรังสีสังหารท่วมท้น มันตาย ตระกูลจิ้งรอด มันอยู่ ตระกูลจึงไม่มีที่ยืน

ประตูห้องน้ำถูกเปิดดังพับ” เฉินเพิ่งใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่ เปียก เดินอย่างสบายอารมณ์ออกมาจากห้องน้ำที่เต็มไปด้วยไอ

ไม่ได้อาบน้ำสบายๆแบบนี้มานานแล้ว ในช่วงการแข่งขัน ร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาพตึงเครียด จะต้องคอยเผชิญความ เป็นความตายตลอดเวลา

ดังนั้นพอกลับมา เฉินเฟิงจึงเข้าห้องอาบน้ำเป็นอันดับแรก

แล้วอาบน้ำร้อนอย่างสบายอารมณ์

“ช่า~! “”ซา~! ”

เฉินเฟิงเพิ่งนั่งลงบนโซฟา มือถืออยู่ข้างๆ โซฟาจึงสั่นขึ้น

พอหยิบมือถือขึ้นมาดู เป็นข้อความของหลินหวั่นชิว

หลังจากที่เปิดอ่านข้อความ อิโมจิกินแตงโมก็เด้งขึ้นมาเป็น อันดับแรก ด้านล่างเป็นคำพูดของหลินหวั่นซิว”ยอดฝีมือบู๊ลิ้ม ได้ยินว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกน่าสนใจมาก ผ่าน ฉลุย ได้แชมป์เปี้ยนล่ะสิ เมื่อไหร่จะกลับหวาเซียเล่าเรื่อง วีรกรรมให้ฟังหน่อยจ๊ะ
เฉินเฟิงเห็นเนื้อหาของข้อความก็ตะลึง จากนั้นก็เข้าใจโดย

เร็ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกหลินหวั่นชิว เรื่องที่ตัวเองไปแข่งขัน ศิลปะการต่อสู้ระดับโลก แต่จากฐานะและตำแหน่งของหลินหวั่น ชิว อยากรู้เรื่องแค่นี้ไม่ยาก เฉินเฟิงจิ้มไปที่หน้าจอมือถือ แล้วตอบกลับหลินหวั่นชิวอย่าง

รวดเร็ว : ๆ วันนี้แหละ เธอทำอะไรอยู่

ยังไม่ทันรอให้เฉินเพิ่งวางมือถือลง มือถือก็สั่นอีก

บ้าเอ๊ย! ยัยนี่ตอบกลับภายในไม่กี่วินาที คงถือมือถือค้างไว้ หรอกนะ!

พอเปิดมือถืออ่าน ก็เป็นอิโมจิแมวเหมียวน้อยที่แสนน่าสงสาร สีหน้าน้อยใจ

หลินหวั่นชิว: “ทำไมกลับมาไม่บอกอ่ะ จะมาดื่มสักหน่อย

ไหม”

เฉินเฟิงคอบกลับหลินหวั่นชิว: ส่งโลเกชั่นมา จะไปเดี๋ยวนี้

แหละ

หลินหวั่นชวตอบข้อความอีกรอบ โลเกที่ส่งเป็นบาร์ที่ชื่อว่า บาร์ของเยว่เฟย

บาร์เยว่เฟย ตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองของเมืองเยี่ยนจิง โล เกชั่นพรีเมี่ยมมาก การคมนาคมสะดวก แล้วยังมีที่จอดรถส่วน ตัวด้วย

พอถึงเวลากลางคืน ที่จอดรถของบาร์บาร์เยว่เฟยก็จะไม่มีที่ว่างสําหรับจอดรถ ด้านในจะเต็มไปด้วยรถสปอร์ตหรูๆ

ความฮอทของธุรกิจไม่ต้องคิดก็รู้ว่าดีมาก

ดูไม่เหมือนกับบาร์ทั่วไปที่เราเคยเห็น บาร์บาร์เยว่เฟยเป็น บาร์ดนตรีโดยเฉพาะ มีจังหวะจะโคนอย่างมาก ชั้นหนึ่งที่บาร์ บาร์เยว่เฟย เป็นที่นั่งทั้งหมด ส่วนชั้นสองชั้นสามเป็นห้องส่วนตัว ระบบเปิด

ตอนนี้หลินหวั่นชิวกำลังนั่งอยู่ที่ที่นั่งชั้นหนึ่ง มีเพื่อนร่วมชั้นอยู่ กับเธอด้วยสามคน

วันนี้เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งของหลินหวั่นชิวเลี้ยงวันเกิด หลัง จากที่ทั้งสี่กินอาหารค่ำกันแล้ว ดูเวลาว่ายังเช้าอยู่มาก จึงตกลง ไปดื่มกันนิดหน่อยที่บาร์เยว่เฟย แล้วฟังเพลงอีกนิด

วันนี้ตอนที่พวกเธอไม่กี่คนออกจากบ้าน ต่างก็แต่งตัวกัน อย่างพิถีพิถัน แต่งหน้ากันอย่างละเอียดละออ เปลี่ยนกระโปรง แสนสวยสุดเซ็กซี่ พอเปลี่ยนลุคแล้ว ตอนนี้พวกหล่อน ยิ่งดู ยั่วยวนมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลินหว่านชิว

หล่อน ในวันนี้ สวมชุดรัดรูปสีม่วงคอทับกระโปรงตัวในที่อยู่ แสดงรูปร่างสะโอดสะองของเธอได้ดีเยี่ยม หน้าอกที่กระเพื่อมไป มา เอวที่เล็กคอด บั้นท้ายที่กระดกขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้คนความ คิดอดเตลิดเปิดเปิงไปไม่ได้ ผมยาวดำขลับแผ่สบายประบ่า แวว ตาเป็นประกาย วงคิ้วโค้งดุจใบหลิ่ว ขนตายาวงอนกระเพื่อม ผิว ขาวอมชมพู ริมฝีปากบางเฉียบราวดอกกุหลาบ
ถ้าหากว่าจะเทียบสาวๆทั้งสี่เป็นทัศนียภาพ แบบนั้นหลินหวั่น

ชิวคงเปรียบได้กับจุดชมวิวที่ดึงดูดสายตาผู้คน ในบาร์เหล้า

หลินหวั่นชิวก็เหมือนแสงเทียนในความมืด ดึงดูดใจชายให้แวะ เวียนมาเยี่ยมเยือน แล้วเชื้อเชิญให้ร่วมดื่มเหล้า แต่ก็ถูกหลินหวั่นวปฏิเสธไปจนหมด ไม่มีใครที่ไม่ถูกปิด

ประตูใส่หน้า

จู่ๆหญิงสาวคนหนึ่งเห็นหลินหวั่นชิวหยิบมือถือขึ้นมายิ้มเซ่อ ซ่า ถามขึ้น”หวั่นซิว ถูกหวยเหรอ ทำไมถึงยิ้มเซอๆ ให้มือถือแบบ นี้ล่ะ”

เด็กสาวที่เหลืออีกสองคนก็ได้สติคืน จ้องมองหลินหวั่นซิวด้วย สีหน้างุนงง หรือว่าถูกรางวัลจริงๆ

เพราะว่าตอนกินข้าวก่อนหน้า หลินหวั่นชิวดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ดูเซ็งๆ ในอารมณ์ พอเห็นบาร์เหล้า ก็สั่งไวน์แดงขวดหนึ่ง จาก นั้นก็นั่งดื่มตรงนั้น ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุย

แต่ว่าตอนนี้หลินหวั่นชิวเหมือนเปลี่ยนไปคนละคน สีหน้า ปกปิดรอยยิ้มไม่มิด หญิงสาวสามคนสนุกจนราวกับว่าหลินหวั่น ชิวยิ้มจนน้ำลายแทบจะไหล

เพื่อนของหลินหวั่นชิวยังจงใจหยิบกระดาษทิชชู่ออกมาสอง แผ่น ทำท่าเช็ดน้ำลายให้หลินหว่านชิว

“แหม ไม่ใช่นะ คือ…..คือ…..คือเพื่อนของฉันจะมาหา “หลิน หวั่นซิวมองดูแววตาประหลาดใจของพวกเขา พูดขึ้นอย่างเป็น อาย
“เฮ้ เป็นสาวแล้วสมควรออกเรือน”

“เมื่อกี้ยังทําหน้าเป็นยายแก่ขี้บ่นเลย ตอนนี้มายิ้มหน้าหวาน ซะละ พลังแห่งรักช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน!

“แหม แสดงความรักต่อหน้าฉันแบบนี้ได้ยังไง ไม่ได้ วันนี้ฉัน จะต้องสับเพื่อนชายเธอเป็นชิ้นๆ ใครใช้ให้ยึดอาหารมาเข้าปาก ฉัน”

เพื่อนสาวสามคนหยอกล้อกับหลินหวั่นชิวสนุกสนาน แต่ใน ใจกลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชายคนไหนที่ทำให้ นางสาวหลินลุ่มหลงจนเหมือนวิญญาณหลุดหายไปสามวันเจ็ด วันขนาดนี้ ตกลงเป็นใครกันแน่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ