ลูกเขยมังกร

บทที่417 หูเซอร์หยวน



บทที่417 หูเซอร์หยวน

เพราะถ้าเขาพูดออกมา จนเจียงก็จะฆ่าปิดปากเขาทันที

“เอาแบบนี้ เสือ พี่กระจายข่าวออกไปด้านนอก พูดไป ” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเพิ่งคลายยิ้มบางๆ สื่อ โฟจุนที่อยู่ปลายสาย ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา

สถานที่ที่นัดเจอกับเซียวรั่วคือเจียงหมั่นโล

เจียงหมั่นโล ถึงแม้ชื่อจะมีคำว่าเจียง แต่ร้านอาหารแห่งนี้ กลับไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่น้ำ ร้านอาหารแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้น ติดกับแม่น้ำ แต่อยู่ในตัวเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ตอนที่เฉินเฟิงมาถึงเจียงหมั่นโล เป็นเวลากินข้าวพอดี

ดังนั้นตรงหน้าประตูเจียงหมั่นโล จึงมีคนมากมาย

มีหญิงสาวคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดเดรสยาวสีดำ สง่างามและ มีเสน่ห์

ใบหน้าของเธอไม่ได้แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง แต่กลับสวย จนทำให้คนหัวใจหวั่นไหว

เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็เป็นจุดเด่นท่ามกลางผู้คนแล้ว

หญิงสาวคนนี้คือเขียวรั่ว ตอนที่เงินเฟิงมองดูเซียวรั่ว เขียวรั่วเองก็กำลังมองหาเงินเฟิง จากฝูงชน
เธอมองเห็นเฉินเพิ่งอย่างรวดเร็ว ตอนที่เห็นเฉินเฟิง ดวงตาคู่ สวยของเซียวรั่วเปล่งประกาย

“พี่เฟิง ทางนี้ค่ะ! “เซียวรั่ว โบกมือด้วยความดีใจ

เฉินเฟิงยิ้ม เดินไปตรงหน้าเซียว วท่ามกลางสายตาอิจฉาของ ทุกคน

“ทําไมมีแค่เราคนเดียวละ? เพื่อนๆของเราล่ะ?” เฉินเพ่งมอง เซียวรั่วแล้วเอ่ยถาม ตอนเย็น เซียวรั่วบอกกับเขาว่าจะพาเพื่อน มาด้วย แต่ว่าตอนนี้ กลับมีแค่เซียวรั่วคนเดียวที่รอเขา

“อยู่ข้างในค่ะ” เซียวรั่วชี้ไปที่ประตูใหญ่ของเจียงหมั่นโล่ จาก นั้นเธอก็พูดเสริม:”พี่เฟิง เพื่อนของฉันรอพี่ข้างในค่ะ”

“ตอนแรกพวกเธอก็อยากจะยืนรอพี่ด้านนอกกับฉัน แต่พวก เธอแต่ละคนเป็นคนสวยๆทั้งนั้น คนสวยๆอย่างพวกหนูยืนอยู่ ด้วยกัน คนที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกหนูเป็นพนักงานต้อนรับของเชียง หมั่นโล ดังนั้นฉันก็เลยให้พวกเพื่อนเข้าไปรอด้านในค่ะ” เขียว รั่ว โกหกหน้าตาย ความเป็นจริง ไม่ได้เป็นเพราะพวกเธอเหมือน พนักงานต้อนรับ เธอจึงให้เพื่อนๆเข้าไปด้านใน

แต่เป็นเพราะเมื่อกี้พวกเธอแค่ยืนตรงหน้าประตูประมาณสิบ นาทีเท่านั้น ก็มีผู้ชายประมาณเจ็ดถึงแปดคนที่แสนขี้อวดมาขอ แชทพวกเธอ อีกทั้งยังมีคนหนึ่งที่รวยมากๆ เขาเดินมาแล้วเสนอ เงินหนึ่งล้านหยวนเพื่อเอาพวกเธอไปเลี้ยงดู

อย่างไม่ต้องสงสัย คนรวยคนนี้ถูกเพื่อนๆของเธอพูดตอบ กลับอย่างน่าสงสาร ถึงขั้นลงไม้ลงมือ สุดท้ายถึงขั้นต้องให้ผู้จัดการของเจียงหมั่นไล่ออกมาจัดการ

ถ้าไม่มีผู้จัดการของเจียงหมั่นโล่ วันนี้คนรวยคนนั้นจะได้เดิน ออกไปจากเจียงหมั่นไล่หรือไม่ยังเป็นปัญหา

เรื่องพวกนี้ เขียวรั่วให้เงินเฟิงรู้ไม่ได้เด็ดขาด เธอกลัวว่าถ้า เฉินเพิ่งรู้ว่าเพื่อนของเธอนิสัยดุร้ายกันขนาดนี้ เขาจะตั้งแง่กับ เพื่อนของเธอ

“อั้ม พวกเราเข้าไปกันเถอะ อย่าให้พวกเธอรอนานเลย” เฉินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก ความเป็นจริง เขาเองก็ไม่อยากให้ผู้ หญิงสวยๆมายืนตรงหน้าประตูเพื่อรอเขา แค่เซียวรั่วคนเดียว ก็ ทำให้สายตาอิจฉานับสิบคู่มองมาที่เขาแล้ว ถ้าหากว่าผู้หญิง เป็นกลุ่ม จะไหวหรอ?

ห้องที่เซียวรั่วจองเอาไว้อยู่ชั้นสาม ตอนที่เฉินเพิ่งเดินมาถึง หน้าประตูห้อง เขาได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากด้านใน คล้ายว่า เป็นเสียงผู้หญิงกำลังพูดคุยหยอกล้อกัน

“อะแฮ่มๆ”

เซียวรั่วหน้าดำคร่ำเครียด เธอกระแอมไอไปสองครั้ง เสียงพูด คุยในห้องเงียบลงทันที

หลังจากที่ในห้องเงียบลง ใบหน้าของเซียวรั่วกลับมามีรอย ยิ้มอีกครั้ง เธอยื่นมือออกไปผลักประตู จากนั้นยืนอยู่ด้านข้าง “พี่เฟิง เชิญเข้าค่ะ”

เงินเฟิงพยักหน้าแล้วยิ้ม จากนั้นเดินเข้าไป
“พี่เฟิงสวัสดีค่ะ!

เพิ่งเดินเข้าไปด้านใน หูของเขาก็ได้ยินเสียงใสเหมือนนกขมิ้น ดังขึ้น

เสียงนี้ทำให้เงินเฟิงตัวแข็งทื่อ เขาอึ้งเล็กน้อย มาไม้ไหนกันเนี่ย?

“พี่เฟิง ไม่ต้องสนใจพวกเธอหรอกค่ะ พวกเธอเป็นแค่คนบ้า เท่านั้น” เซียวรั่วหน้าด่าคร่ำเครียดหลอมละลายความประหม่า เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเพื่อนของเธอต้องทําแบบนี้ คนที่ไม่รู้ คงนึก ว่าพวกเธอกำลังเจอกับหัวหน้ามาเฟีย

เมื่อเห็นท่าทีของเฉินเฟิงเหมือนตกใจ เพื่อนๆ ของเซียวรั่วรู้สึก เกรงใจขึ้นมาทันที พวกเธอเพียงแค่อยากให้เฉินเฟิงสัมผัสได้ว่า เฉินเฟิงสำคัญกับพวกเธอมาก แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะออกมาเป็น แบบนี้

“พี่เฟิง ฉันแนะนำให้รู้จักนะคะ คนนี้ชื่อหูเซอร์หยวน เธอเป็น แฟนคลับเบอร์ต้นๆของพี่ หลายวันมานี้เธอเป็นคนที่ขยันวิ่งมาที่ หอพักของพวกเราที่สุดค่ะ” เซียวรั่วเริ่มแนะนำเพื่อนให้เงินเฟิง

รู้จัก

“พี่เฟิง สวัสดีค่ะ”

หูเซอร์หยวนที่ถูกแนะนำตัวยืนขึ้น เธอยิ้มแล้วยื่นมือไปหา เฉินเฟิง

เฉินเฟิงเองก็ยิ้มแล้วยื่นมือออกมา เขาจับมือกับหูเซอร์หยวนผู้หญิงคนนี้ที่ชื่อหูเซอร์หยวน ไม่ธรรมดา

หลังจากแนะตัวหูเซอร์หยวนจบลงแล้ว เซียวรั่วก็แนะนำผู้หญิง ที่เหลืออีกสี่คน

ผู้หญิงที่เหลืออีกสี่คนไม่มีอะไรน่าสงสัย นอกจากหน้าตาที่ สวยแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็เป็นปกติดี

ตอนกินข้าว เป็นเครื่องยืนยันสิ่งที่เงินเฟิงคาดเดาเอาไว้

ทั้งห้องอาหารกลายเป็นหูเซอร์หยวนที่เหมือนเจ้าภาพ ทั้งหมดล้วนเป็นหูเซอร์หยวนคนเดียวที่พูดคุยอย่างเป็น ธรรมชาติ คอยสร้างบรรยากาศ

ในทางกลับกันเจ้าภาพอย่างเซียวรั่ว แทบไม่มีโอกาสพูด แทรกเลย

ตอนแรกเฉินเฟิงคิดว่า คนอื่นๆคงจะไม่พอใจกับการกระทำ ของหูเซอร์หยวนไม่มากก็น้อย

แต่สีหน้าของทุกคนกลับแสดงให้เห็นว่า เฉินเฟิงคิดมากไป แล้ว

พวกเธอไม่ได้รู้สึกไม่พอใจหูเซอร์หยวนแม้แต่น้อย อีกทั้งยัง รู้สึกรับได้กับสิ่งที่หูเซอร์หยวนทำ

เฉินเฟิงหรี่ตาลง มองดูอย่างพิจารณา เขาสังเกตเห็นอะไรบาง อย่างที่ซ่อนเร้นเอาไว้

ถึงแม้หูเซอร์หยวนจะน่าสงสัยว่าเธอต้องการมีครอบงำทุกคนแต่สิ่งที่เธอทํามีระดับมาก เวลาที่เธอพูด เธอคอยสังเกตความ รู้สึกของคนอื่น เมื่อเห็นว่ามีใครรู้สึกไม่พอใจ เธอก็จะหันไปหา คนคนนั้น ให้โอกาสคนนั้นได้พูด เพื่อคลายความไม่พอใจ

ความใส่ใจในรายละเอียด รู้จักดูสีหน้าของคนอื่น อีกทั้งยัง รู้จักควบคุมใจคน

เฉินเฟิงให้ประเมินหูเซอร์หยวนอีกครั้ง

ผู้หญิงคนนี้ นอกจากจะเป็นนักศึกษาแล้ว เธอต้องมีตัวตนอีก อย่างแน่นอน

เธอไม่ใช่คนที่ชื่นชมเขาอย่างที่เซียวรั้วบอก วันนี้เธอมาที่นี่ คงมีเป้าหมายอย่างอื่น เฉินเฟิงเก็บความระมัดระวังตัวเอาไว้ในใจ

“จริงด้วย พี่เฟิง พี่ไม่ใช่คนจงไม่ใช่ไหมคะ” เวลานี้ หูเซอร์ หยวนเปลี่ยนบทสนทนามาที่เฉินเฟิง ใบหน้าของเธอที่มองมา ทางเฉินเฟิงแต้มไปด้วยรอยยิ้ม คล้ายว่าอยากมองอะไรบาง อย่างจากสีหน้าของเฉินเฟิง

“อั้ม พี่ไม่ใช่คนจงไห่” เฉินเฟิงคลายยิ้มบางๆ แล้ววางแก้ว เหล้าในมือลง

“แล้วพี่เฟิงเป็นคนที่ไหนคะ?” หญิงสาวหน้าตาใสซื่อเรียบร้อย อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

“ยันเจียงครับ” เฉินเฟิงยิ้มแล้วพูดออกมาสองคำ ในเวลาเดียวเขามองหูเซอร์หยวนสูงขึ้นอีกระดับ ฝีมือของหูเซอ หยวน ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

เธออยากลองเชิงตน แต่กลับไม่พูดเอง ทว่าใช้วิธีโยนกรวด ล่อหยอก ให้คนอื่นช่วยถามแทนเธอ

“ยันเจียง?”

เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินเฟิง เซียว วตกใจเล็กน้อย ก่อนหน้า นี้หลินหวั่นวบอกว่า เฉินเฟิงมาจากเมืองซางโจวไม่ใช่หรอ ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นยังเจียงได้ละ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ