บทที่ 924 ค่าหลอกลวงจากหญิงสาว
โจวจื่อเอ๋อราวกับสามารถควบคุมน้ำตาเหล่านี้ได้เสียอย่างนั้น เพียงแค่เธอเอ้อระเหยมองไปข้างหน้า น้ำตาก็หยุดไหลออกมา ไม่ให้เห็นอีก เธอเหลือเพียงความน้อยเนื้อต่ำใจ ใครที่ได้เห็นก็ ต้องรู้สึกเห็นใจทันที
และในขณะที่พึงไปบนตัวของโจวฟาง โจวจื่อเอ๋อก็สัมผัสได้ กับบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายกับกุญแจ เพียงแค่ไม่รู้ว่าใช่ กุญแจของสถานที่แห่งนั้นหรือไม่เท่านั้น
โจวฟ่างดึงตัวโจวจื่อเอ๋อไปนั่งลงยังที่นั่งข้างๆ พร้อมกับกล่าว ปลอบใจ : “จื่อเอ่อ ลุงสี่กับเธอถึงแม้จะไม่ได้สนิทสนมกัน แต่ ยังไงเสียเธอก็เป็นหลานสาวของลุงสี่ หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ลุง สี่จะช่วยเธอแก้ปัญหาเอง
ในตอนที่จิตใจกำลังหม่นหมอง เมื่อได้ยินโจวฟางพูดแบบนี้ เธอจึงค่อยๆ แสดงท่าทีที่ดีขึ้น พร้อมตอบกลับ : “คุณลุงสี่ คุณ รู้หรือหรือเปล่าคะ ? ที่จริงแล้วหนูไปอยากแต่งงานออกไปเลย และคุณชายรองตระกูลไปคนนั้น จื่อเอ๋อก็ไม่ได้ชอบด้วย แต่ว่า คุณลุงใหญ่
เธอพูดไปพลางดูเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
แต่แล้วสีหน้าของโจวฟางก็แสดงท่าทางลำบากใจขึ้นมา : “ถ้าหากว่าเป็นเรื่องนี้ จื่อเอ๋อเธอเองก็รู้ดีว่าสถานการณ์ในตระ กูลโจวของเรา ……
ยังไม่ทันรอให้โจวฟางได้กล่าวจบ โจวจื่อเอ๋อก็แย้งขึ้นมา อย่างร้อนรน : “คุณลุงสี่ ถ้าหากคุณลุงยอมตกลงช่วยเหลือจื่อ เอ๋อ ไม่ว่าลุงสี่จะขออะไรจื่อเอ๋อก็จะยอมตกลงทั้งสิ้น”
โจวฟ่างกล่าวปลอบอย่างนุ่มนวล “จื่อเอ๋อ อันที่จริงคุณชาย รองตระกูลไปคนนี้ก็ไม่มีส่วนไหนไม่ดีเลย เธอก็ได้ยินที่พี่ใหญ่ พูดแล้วไม่ใช่หรือ เขาเป็นชายหนุ่มที่ไม่เลวคนหนึ่งเลยนะ เมื่อ เทียบกับพวกชายหนุ่มเจ้าสำราญผู้ร่ำรวยพวกนั้นแล้วถือว่าดี กว่าเป็นหลายเท่าเลย
ทันใดนั้นสีหน้าของโจวจื่อเอ๋อก็จริงจังขึ้นมา “คุณลุง ไม่ใช่ว่าคุณลุงอยากจะเป็นหัวหน้าครอบครัวตระกูลโจวหรอ คะ ? ขอเพียงคุณลุงสี่ตอบตกลงว่าจะไม่ให้หนูแต่งงานออกไป หนูก็จะช่วยให้คุณลุงได้ครองตำแหน่งหัวหน้าครอบครัว
“ใครให้เธอพูดแบบนี้กัน” โจวฟ่างที่ได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของ เขาก็แข็งกระด้างขึ้นมา : “เธอใส่ร้ายฉัน ฉันโจวฟ่างเป็นคนที่ ทําเรื่องอย่างเปิดเผยและโปร่งใสมาโดยตลอด จะมีความคิด แบบนี้ได้อย่างไรกัน
ทว่าโจวอเอ๋อยังคงแสดงท่าทีเศร้าโศก พลางตอบกลับ : “คุณลุงสี่ เรื่องแบบนี้คนตระกูลโจวต่างก็รู้ดีอยู่แล้ว ต่อให้คุณปู่ สามมักจะพูดแบบนี้ แต่ฉันกลับคิดว่าไม่มีอะไร ขอเพียงคุณลุง ยอมตอบตกลงกับจื่อเอ๋อ จื่อเอ๋อก็จะยอมช่วยคุณ รวมทั้งการ เกลี้ยกล่อมคุณปู่สามก็จะไม่ใช่ปัญหาด้วย”
โจวฟ่างอุทานออกมาอย่างเย็นชา :“เธออย่าไปฟังคนอื่นพูดจาเหลวไหล ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแค่คำพูดที่ไม่มีที่มาที่ไป
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจโจวจื่อเอ๋ออีก และยิ่ง ไม่ต้องคิดว่าจะไปสนใจท่าทางน้อยใจนั้นเธอเลยด้วย เขาหัน หลังแล้วเดินออกมาทันที
เมื่อรอจนกระทั่งมองไม่เห็นร่างของโจวฟ่างแล้ว โจวจื่อเอ๋อจึง เขี่ยบริเวณรอบดวงตา แล้วเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า จากนั้น สีหน้ากลับกลายเป็นความเยือกเย็นขึ้นมา
ตอนนี้รู้แล้วว่ากุญแจนั้นยังอยู่กับตัวเขา ต่อจากนี้ก็เหลือแค่ ต้องไปเอาสิ่งของนั้นมาไว้ในมือให้ได้
เธอลุกขึ้นยืน เมื่อคนที่เดินผ่านหันมอง ท่าทีของเธอก็เปลี่ยน อีกครั้ง กลายเป็นคนที่มีท่าทางอ่อนหวานคนนั้น
บางทีคงเป็นเพราะมัวแต่สวมใส่หน้ากากต่อหน้าคนอื่นมา
เป็นเวลานาน จึงทำให้ตัวเองได้หลงลืมไปแล้วว่าคนไหนกันแน่ที่
เป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ทางด้านโจวฟ่างที่หลังจากได้พูดคุยกับโจวจื่อเอ๋อเสร็จ เขาก็ เดินกลับไปยังลานหลังด้วยความขุ่นเคือง ภรรยาและลูกต่างไม่ อยู่ เขาจึงได้เพียงเอนตัวลงไปบนเก้าอี้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ว่าผ่านไปเพียงไม่นาน โจวจื่อเอ๋อก็เดินมาจากลานใหญ่ เข้าไปหาเขา
“เธอจะทำอะไรอีก? ” โจวฟ่างพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ตอนนี้โจวจื่อเอ๋อไม่ได้เหลือท่าทีดังเมื่อสักครู่นี้อีกแล้ว เธอพูดออกมาอย่างเรียบง่าย : “คุณลุง เรื่องเมื่อสักครู่นี้เป็นเพ
ราะจื่อเอ๋อพูดจาเหลวไหลเท่านั้น คุณลุงอย่าได้เอาไปใส่ใจเลย นะคะ” โจวฟ่างตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันไม่คิดจะโกรธ
เคืองกับเด็กอย่างเธอหรอก เธอไปเถอะ เรื่องของเธอฉันช่วยไม่
แต่ว่าโจวจื่อเอ๋อกลับยังคงยืนอยู่ตรงนั้น เธอพูดออกมาอย่าง เชื่องช้า : “จ่อเอ๋อยังมีอีกเรื่องที่อยากจะบอกกับคุณลุงสี่”
“เรื่องอะไร” โจวฟางได้เพียงกล่าวถามอย่างเฉยชา
เกี่ยวกับเรื่องของหมาป่าทะเลทรายค่ะ และแล้วโจวฟ่างเหมือนจะถูกหัวข้อนี้ดึงดูดความสนใจขึ้นมา
“เธออยากจะพูดอะไรกันแน่?
“หนูก็แค่ค้นพบว่าคุณชายเฉินคนนั้นอาจจะไม่ได้มีความ จริงใจที่จะช่วยเหลือพวกเราในการต่อกรกับหมาป่าทะเลทราย โจวจื่อเอ๋อพูดอย่างเรียบช้า
โจวฟ่างตกใจเล็กน้อย พร้อมถามกลับ : “เพราะอะไรเธอถึง คิดอย่างนั้นล่ะ ถ้าหากไม่ได้จะต่อกรกับหมาป่าทะเลทราย อย่าง นั้นเขาจะมาหาพวกเรากับตระกูลไปเพื่อทำอะไร ? ”
โจว อเอ๋อกล่าวตอบ : “คุณลุง คุณลุงไม่คิดเลยหรอคะว่า บางทีคุณชายเฉินคนนั้นอาจจะกำลังแสดงละครอยู่ ที่เป็นการ แสดงละครฉากหนึ่งกับหมาป่าทะเลทราย
ถ้าเป็นจริงอย่างที่โจวจื่อเอ๋อได้พูดออกมา อย่างนั้นทุกตระกูล ที่เข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ก็ล้วนต้องพบเจอกับความหายนะ หน่ะสิ
เขามองไปยังโจว อเอ๋ออย่างตะลึง พลางกล่าวถาม : “เธอ ไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากที่ไหนกัน? ”
โจว อเอ๋อตอบกลับอย่างเรียบเฉย : “นี่เป็นสิ่งที่ตัวเขาเปิด เผยออกมาเองค่ะ
โจวฟ่างถามอย่างแปลกใจ “นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?
โจวจื่อเอ๋อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ชายคนหนึ่งที่เพื่อผู้หญิง ที่ตนชอบไม่ว่าอะไรก็ยอมพูดออกมาทั้งนั้นแหละค่ะ “ความหมายของเธอคือคุณชายเงินคนนั้นชอบเธอ ดังนั้นถึง
ได้ยอมพูดเรื่องเหล่านี้กับเธอ” โจวฟางถึงจะพูดแบบนี้ออกไป
แต่ใช่ว่าเขาจะปักใจเชื่อโจวจื่อเอ๋อทั้งหมด
โจวจื่อเอ๋อยิ้มหวานออกมา “อันนี้ฉันเองก็ไม่รู้แล้วว่าเป็น เรื่องจริงหรือเปล่า ที่เหลือคงต้องดูการตัดสินใจของลุงสี่แล้ว เพราะอย่างไรเสียคนที่มีสิทธิ์มีเสียงในตระกูลโจวก็คือพวกคุณ ลุง”
เมื่อพูดจบ เธอก็เหมือนเพียงแค่มาที่นี่เพื่อแจ้งข้อมูลนี้ให้กับ โจวฟ่างเท่านั้น ดังนั้นจึงหันหลังหวังจะเดินออกมาทันที
ทว่าโจวฟ่างนั้นก็ไม่ได้กล่าวมื้อเอาไว้ เขานั้นกำลังครุ่นคิดอยู่ ว่าเรื่องนี้แท้จริงแล้วเป็นความจริงหรือไม่
เมื่อคิดไปคิดมา ก็ไม่สามารถที่จะปล่อยวางลงได้
เขาจึงลุกขึ้นยืนตัวตรง แล้วมุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่ลี้ภัย อย่างห้องหนังสือนั้นทันที
จากความคิดของโจวฟางก็คือ ในเมื่อไม่รู้อะไรแบบนี้ อย่างนั้น ก็ไปถามกับตัวคนต้นเรื่องเลยจะดีกว่า แบบนี้จะง่ายดายขึ้นเยอะ
กระทั่งเขาเดินมาถึงห้องหนังสือ ซึ่งโจวจื่อเอ๋อได้มีการซ่อนตัว อยู่ในที่ลับรอเขาอยู่แล้ว
เมื่อสักครู่นี้เธอได้คำนวณเอาไว้แล้ว ว่าถ้าหากจะขโมยกุญแจ ดอกหนึ่งจากชายวัยกลางคนทั้งยังเคยผ่านการฝึกฝนวิชาต่อสู้ แล้ว นั่นถือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน
และเมื่อเป็นอย่างนั้นถ้าคนอื่นไม่สามารถที่จะนำเอากุญแจนั้น เพื่อไปเปิดประตูได้ อย่างนั้นก็ให้ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นคน เปิดออก
แล้วสาเหตุที่ว่าเพราะสิ่งใดถึงทำให้โจวจื่อเอื้อมั่นใจว่า โจว ฟางจะต้องมาหาเฉินเฟิงนั้น
ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าในเมื่อโจวฟ่างเป็นคนยังเฉินเฟิง และ การที่พวกเขาสองคนไม่เคยคบค้าสมาคมกันมาก่อนเลยดังนั้นก็ มีความเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะเรื่องของหมาป่าทะเลทราย และขอ เพียงแค่ โจวจื่อเอ๋อสามารถทำให้โจวฟ่างเชื่อว่าแท้จริงแล้ว เฉินเฟิงก็เป็นคนของหมาป่าทะเลทรายเช่นกัน แบบนั้นเขาก็จะ ไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรกับเฉินเฟิงแล้ว เพราะอย่างน้อยก็ต้อง ได้รับการยืนยันแล้วถึงจะลงมือได้อย่างไม่แคลงใจ
เมื่อจ้องมองโจวฟ่างเดินเข้าไป โจวจื่อเลือกลับไม่ได้รับออก มาจากที่ซ่อนตัวในทันที
แต่หลังจากรอให้ผ่านไปสักพักแล้ว เธอจึงเดินเข้าไปยังห้อง หนังสือ กลไกในนั้นได้มีการถูกเปิดออกเรียบร้อยแล้ว คิดแล้ว
โจวฟางคงจะเข้าไปด้านล่างเรียบร้อยแล้ว
แต่ว่าโจวฟางก็ไม่โง่ถึงขั้นที่ยังไม่มีหลักฐานอะไรก็ปล่อยตัว เฉินเฟิงออกมา
ทางด้านเฉินเพิ่งที่กำลังพิงอยู่กับประตูจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคน
เรียกเขา
“คุณชายเฉิน คุณยังอยู่อยู่หรือเปล่า? ” เสียงนั้น เฉินเฟิงฟัง แล้วรู้สึกคุ้นหูอย่างมาก จนแน่ใจว่าเป็นเสียงของโจวฟ่าง ราวกับว่าเสียงนั้นกำลังอยู่ในห้องนี้เสียอย่างนั้น
เขาเดินตามเสียงนั้นไป กลับพบว่าเสียงนั้นดังออกมาจากช่อง
ระบายอากาศขนาดเล็กเหนือหัวเขาเท่านั้น ช่องนี้เล็กมาก ยังไม่ถึงขนาดของต้นขาคนเลย ยิ่งไม่ต้องคิดที่
จะหนีไปจากที่นี่เลย
“คุณมาทําอะไรอีก? ” เฉินเฟิงได้เพียงลังเล เพราะเขายัง ไม่ทันรอให้โจวจื่อเอ๋อกลับมา กลับพบว่าโจวฟ่างนั้นกลับมาอีก ครั้งแทน
“ผมก็แค่มาเพื่อถามคำถามไม่กี่อย่างกับคุณชายเงินเท่านั้น”
“คุณคิดว่าผมจะตอบคุณงั้นหรอ? ผมคิดแล้วคุณก็คงไม่มีทางปล่อยผมออกไปหรอกใช่ไหมละครับ ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไม ผมถึงต้องตอบคำถามคุณอีก” เฉินเฟิงหัวเราะเยาะเย้ย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ