บทที่ 884 คลื่นลมนิ่งสงบ
“รีบไป! ”
เมื่อเฉินเฟิงพูดจบ เขาก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีก ทั้งยังมุ่ง หน้าตรงไปยังเพิ่งอีกต่างหาก
เพิ่งที่เห็นอย่างนั้นจึงกรีดร้องออกมาด้วยหวาดกลัว พร้อม กับหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
แต่แล้วก็มีดาบเล่มหนึ่งเข้ามาขวางหน้าเฉินเฟิงเอาไว้ เขา
วาดมือตบลงไปบนดาบเล่มนั้น จนเจ้าของดาบนั้นถอยหลังไป
หลายก้าว และในเวลาเดียวกันเฉินเฟิงก็ถูกสกัดเอาไว้ ยังไม่ทันที่เฉินเพิ่งจะเข้าไปอีกครั้ง ดาบจำนวนห้าหกเล่มก็ ทะยานเข้ามาใส่เขาอีกครั้ง พร้อมกับปิดทางของเฉินเฟิงเอาไว้
และเมื่อมีเหยื่อรายใหม่เข้ามา เฉินเฟิงก็ลืมความคิดที่จะไป จัดการกับเฟิงซีไปโดยปริยาย ก่อนจะเข้าไปต่อสู้กับคนห้าหกคน นั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะใช้วิธีย้อนพลังเพื่อเสริมกำลัง แต่ เพราะตอนนี้เฉินเฟิงตัวคนเดียว ต่อให้เขาจะทุ่มกำลังมากแค่ ไหน สุดท้ายก็ไม่สามารถหลุดหนีจากการถูกควบคุมอยู่ดี
เขากรีดร้องครามออกมาราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกกักขังเอาไว้ใน กรงเหล็ก แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจาก กรงเหล็กนี้ได้สักที
ตอนนี้เวลาของเงินเฟิงเหลือไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกทั้งคนที่ ถือดาบเหล่านั้นก็ล้วนเป็นคนของตระกูลเซียนทั้งนั้น ซึ่งเมื่อพวก เขาได้เห็นเฉินเฟิงลงมือโดยไม่สนใจอะไรแบบนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ ได้มีเจตนาทำร้ายเฉินเฟิงแต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น
หลังจากที่เพิ่งหลุดพ้นจากอันตราย ในที่สุดเธอก็ทำจิตใจให้ สงบได้เสียที เธอที่เห็นเหตุการณ์ก็กลัวว่าคนของตระกูลเซียนจะ ทำให้เฉินเฟิงได้รับบาดเจ็บ จึงรีบตะโกนบอกกับพวกเขา แปด เปื้อน “ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะขาดสติ ขอเพียงแค่ผ่านครึ่ง ชั่วโมงนี้ไปได้ เขาก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
คนของตระกูลเซียนต่างไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเท็จจริงหรือไม่ จึงได้ปรึกษากันขึ้นมาระหว่างที่กำลังต่อสู้กับเฉินเฟิง
โชคดีที่เฉินเฟิงอยู่ภายใต้การล้อมของพวกเขาห้าหกคน จึง ไม่มีสิทธิ์ในการตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น แล้วผลสรุปคือพวกเขา ตัดสินใจที่จะยื้อเวลาให้ผ่านครึ่งชั่วโมงนี้ไป จากนั้นก็จะได้รู้ว่า เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเท็จสักที
ซึ่งถ้าหากผ่านครึ่งชั่วโมงไปแล้วเฉินเฟิงยังคงไม่ได้สติแบบนี้ ตอนนั้นพวกเขาค่อยจัดการกับเฉินเฟิงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เพิ่งซีที่เมื่อพูดจบก็ไม่ได้สนใจเฉินเฟิงอีก เพราะตอนนี้หลง หลินจะเป็นตายไร้ดียังไงก็ยังไม่รู้เลย เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปดูอาการ ของพี่สาวตัวเองทันที
และคงเป็นเพราะเพิ่งมาทันเวลาพอดี หลงหลินจึงเพียงแค่ หมดสติไปเท่านั้น โดยบริเวณแผลมีเลือดไหลออกมา แต่ไม่ได้สาหัสถึงขั้นชีวิต เพิ่งรีบ รักษาเธออย่างทันควัน และผ่าน ไปสักหลงหลินคงจะฟื้นขึ้นมา
ทางด้านเฉินเฟิงนั้นเขาถูกสะกดเอาไว้จนครบครึ่งชั่วโมง เมื่อหมดของวิธีย้อนพลังของเขา สติของของก็กลับคืนมาอีกครั้ง ว่าเจ็บปวดตามร่างกายนั้นยังคง แผ่ซ่านออกเรื่อยๆ
เขาไม่ว่าร่างกายตัวเองนั้นความเบาบางกว่าเมื่อ ก่อนหรือไม่ แต่ว่าตอนเขาเพียงแค่ว่าความนั้นยังคงรับมือได้ เป็นความเจ็บปวดแผ่ซ่านร่างกาย ต่างอะไรการเป็นตะคริวเลย
ซึ่งเมื่อตระกูลเซียนเห็นอย่างจึงต่างลดดาบนั้นเขาก็เจ็บปวดอย่างหนักจนหมดสติไปแล้ว
เวลาเพียงคืนเดียว ตระกูลเซียนต้องเผชิญกับเรื่องราวแล้ว ทำให้สวนเกิดความหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างมาก ทั้งกำลังเห็นอาการของนายกลับคิดไม่เลยว่าคนลอบเข้ามาทำร้ายสองพี่น้องตระกูล ฉางแบบนี้ได้
ถ้าหากว่าไม่สำเร็จก็คงไม่เป็นอะไร แต่ภายการดูแลตระกูลเซียน กลับปล่อยให้คนอื่นมาทำร้ายหลงหลินไปเสียได้ และเมื่อเช่นจะ
และยิ่งเมื่อมองไปยังเหล่ายอดฝีมือ ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ มากขึ้นไปอีกคนไม่ใครสังเกตอีกฝ่ายเข้ามาเลย
ความโกรธที่ควรมีตอนนี้ไปถูกปลดปล่อยไปจนหมดแล้ว แต่ อย่างว่าเรื่องนี้ก็ใช่ว่าจะเป็นความผิดของพวกเขาไปเสียหมด ดัง นั้นเมื่อถึงยามที่ต้องปลอบประโลม ก็ควรปลอบประโลม
“พวกเขาท่าเหมือนตระกูลเขียนเป็นเพียงทางผ่าน คิดจะมาก มา คิดจะไปก็ไปเสียดื้อๆ นี่ถือเป็นการท้าทายตระกูลเซียนอย่าง มาก ผมรู้ว่าในใจของทุกท่านก็คงจะไม่เป็นสุขเช่นกัน แต่เมื่อ ตอนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้เหยียบย่ำข้ามหัวพวกเราไป แล้ว แล้วพวกเราจะนิ่งนอนใจอย่างนี้ต่อไปได้อีกหรือ
เมื่อเขาพูดจบ แน่นอนว่าคนตระกูลเซียนย่อมเกิดความ เดือดดาลขึ้นมาเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เหมือนจะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เซียนสวนจึงกล่าวเพิ่มเติม : “หลังจากนี้ให้คุ้มกันลานเล็ก แห่งนั้นเอาไว้ให้ดี ทุกท่านไปจัดเวลาให้กับตนเอง รอให้นาย ท่านฟื้นขึ้นมาแล้วพวกเราค่อยวางแผนกันใหม่อีกครั้ง ถ้าหาก สามารถรู้ได้ว่าเขาคนนั้นคือใคร พวกเราจะได้ลบล้างความ อัปยศนี้เสียที”
หลังจากถ่ายทอดคำสั่งให้แก่คนในตระกูลเซียนเรียบร้อย ลานเล็กที่พวกเฉินเฟิงพักอาศัยอยู่นั้นก็กลายเป็นสถานที่ที่ ปลอดภัยที่สุดในตระกูลเชียนไปในทันที
เช้าตรู่วันถัดมาเฉินเฟิงก็ฟื้นขึ้นมา เขานอนพักอยู่ภายในห้อง ของตัวเอง ซึ่งในตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นข้างๆ เขาไม่มีใครอยู่เลย
เหมือนกับตอนที่ฟื้นขึ้นมาในลานหลินจือ เลย แต่แค่ในเวลานี้เฉินเฟิงแทบจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกายแล้ว
ดูแล้วสิ่งที่เพิ่งซีพูดนั้นจะไม่ผิดจริงๆ ตอนนี้เขาได้ตัดภาระที่ ต้องแบกเอาไว้ไปไม่น้อย จึงให้จากที่ต้องทนรับความเจ็บปวด เป็นเวลาเจ็ดวัน ตอนนี้ก็เหลือเพียงวันเดียวเท่านั้น และหากยัง ปรับสภาพร่างกายต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่แน่อาจจะย่นระยะเวลาเจ็บ ปวดให้น้อยลงได้
แต่ว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงความคิดของตัวเขาเท่านั้น
หลังจากที่ลุกขึ้นมา เขาก็พลันฉุกคิดถึงตอนที่ได้เห็นสภาพ ของหลงหลินขึ้นมา เธอเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงรีบ วิ่งไปยังห้องพักของหลงหลินทันที และแล้วระหว่างทางเขาก็ได้ พบเข้ากับเฟิง พอดี
“พี่สาวของคุณเป็นยังไงบ้าง? ” เฉินเฟิงถาม
เพิ่งซีในเวลานี้ดูซีดเซียวอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้รับ บาดเจ็บอะไร แต่ความน่ากลัวแบบนั้นถือเป็นครั้งแรกเลยที่เธอ ได้พบเจอ ตอนนี้แม้แต่มองดูเฉินเฟิงเธอก็มักจะแสดงสายตาต่อ ต้านออกมา
ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงตอบคำถามของเขา : “พี่ไม่ได้มี
อันตรายอะไร เพียงแค่ได้รับความตกใจเท่านั้น คงต้องใช้เวลา สักระยะถึงจะฟื้นขึ้นมา”
เฉินเฟิงที่ได้ยินว่าไม่ได้เป็นอันตรายอะไร เขาถึงวางใจลง ก่อนที่เขาจะนึกถึงเรื่องของเพิ่งซีขึ้นมาได้พร้อมกับถามด้วย ความเป็นห่วง : “แล้วคุณล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ถึงแม้ว่าผมจะจำได้ แต่นั่นไม่ใช่ความต้องการของผมจริงๆ ”
เงินเฟิงกล่าวขอโทษสำหรับการกระทำในช่วงท้ายเหตุการณ์ นั้นของตัวเอง
เพิ่งส่ายหน้าพร้อมตอบกลับ : “ฉันรู้ดี คุณไม่จําเป็นต้อง ขอโทษอะไรหรอก ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณ ฉันอาจจะเป็นแบบ เดียวกับพี่สาวไปแล้ว หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้
ท่าทีของเธอดูเศร้าหมองอย่างมาก เพราะเดิมทีในใจของเธอ หวังที่จะใช้ชีวิตกับพี่สาวในบ้านหลังเล็กๆ ไม่ต้องการที่จะออก มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายพวกนี้
แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
ในสภาพที่เศร้าหมองนั้น ทำให้ไม่สามารถเห็นความเป็นตัว เธอก่อนหน้านี้ได้อีกเลย ความสดใสที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ สีหน้านิ่งเรียบนั้นตอนนี้ราวกับถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้ใจของเฉินเฟิงไม่มีความสุขเช่นกัน – เป็นความผิดของผมเอง ทั้งที่ผมเคยให้สัญญาแล้วว่าจะ ปกป้องคุณและพี่สาวของคุณ แต่กลับปล่อยให้เธอได้รับบาดเจ็บ ไปซะได้ ผมมันไร้ประโยชน์จริงๆ ” เขากล่าวโทษตัวเอง
แต่เพิ่งยังคงส่ายหน้าอีกครั้ง : “คุณทำดีที่สุดแล้ว ฉันรู้ว่า คุณจริงใจที่จะปกป้องพวกเราสองคนจริงๆ ในตอนที่เห็นคุณ อาละวาดฉันก็รู้แล้ว ทั้งที่ความจริงนั่นควรจะเป็นตัวเลือกในตอน ที่ตัวคุณเองได้พบกับอันตรายจนจวนตัวถึงจะทำด้วยซ้ำ แต่เพื่อ ฉันและพี่สาวแล้ว คุณกลับยอมทำแบบนั้น”
เป็นอย่างที่เพิ่งพูด เฉินเพิ่งเข้าใจถึงความเจ็บปวดแบบนั้น เป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงพยายามที่จะไม่ใช้พลังจากวิธีย้อนหลัง เพื่อเสริมกำลัง แต่เมื่อวานนี้เหมือนว่าเขาจะลังเลอยู่เพียงครู เดียวเท่านั้นก็ตัดสินใจใช้ตัวเลือกนั้นอย่างเด็ดเดี่ยวเสียแล้ว
“ผม…….” เฉินเฟิงไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี
“ไปดูพี่สาวกันเถอะ” เพิ่งซีกล่าวแนะขึ้นมา
แล้วทั้งสองจึงเดินไปยังห้องพักของหลงหลินพร้อมกัน
ทันทีที่เข้าไปในห้อง กลิ่นยาสมุนไพรก็โฉยออกมา ซึ่งเป็นก ลิ่นเดียวกับที่อยู่บนตัวของหลงหลิน เพราะเพียงแค่เข้าไปใกล้ หลงหลินก็จะได้กลิ่นของยาสมุนไพรชนิดนี้อบอวลออกมาเช่นกัน
เพียงแต่ในเวลานี้เธอกลับยังนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงในอาการ หมดสติ
และด้วยผ้าห่มที่คลุมเอาไว้ เงินเฟิงจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่า บาดแผลของเธอนั้นอยู่ส่วนไหนของร่างกาย แต่แล้วเพิ่งซีก็พูด ขนมา
– “บาดแผลของพี่สาวอยู่บริเวณหัวใจ แต่นับว่ายังโชคดีที่ สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน ถ้าเกิดว่าช้ากว่านี้แล้วให้เขาคน นั้นแทงซ้ำไปอีกแผล ก็คงจะหมดหนทางช่วยชีวิตกลับมาแล้ว จริงๆ ”
เฉินเฟิงถึงกับแอบตะลึงอยู่ในใจ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ