บทที่ 878 การเข้าใจผิดในห้องน้ำ
หลังจากทําการฝังเข็มให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว เพิ่งซีก็เดินจาก ไป เฉินเฟิงก็ไม่ได้รั้งเธอไว้ ร่างกายรู้สึกสดชื่นสบายตัว แต่ก็ยัง รู้สึกว่าเนื้อตัวสกปรกเหลือเกิน จึงคิดอยากจะไปหาที่อาบน้ำ ชะล้างตัวสักแห่งหนึ่ง
ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาสองวันแล้ว ก็ได้แต่ใช้น้ำแปรงฟันล้างหน้าเช็ด ตัวเท่านั้น เฉินเฟิงก็คุ้นชินกับที่นี่ไปแล้ว จงไม่จำเป็นต้อ งอาศัยเฟิง คอยชี้แนะอะไรอีกแล้ว ตัวเองจึงก็เดินออกไปโดย ลำพังมุ่งไปยังข้างหลังลานบ้านเพื่อชะล้างร่างกายให้สะอาด
หลังจากขัดสีฉวีวรรณสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามรูขุมขนทั่วทั้งตัว ออกไปจนหมดแล้ว เฉินเฟิงก็ยิ่งรู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก ราวกับได้ผึ่งแดดยามเช้าในช่วงเวลาฤดูหนาวก็ไม่ปาน รู้สึก อิสระมากยิ่งขึ้น
หลังจากชะล้างร่างกายเสร็จแล้ว ภายในห้องน้ำก็มี อ่างอาบน้ำไว้สำหรับแช่ตัว เฉินเฟิงก็เลยปล่อยน้ำอุ่นออกมา แล้วตัวเองก็เข้าไป แช่ตัวลงไปในนั้น ความอบอุ่นที่ห่อหุ้มทุกอณู ของร่างกายนั้น มันช่างเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มากยิ่งกว่าสิ่ง อื่นใด
ความรู้สึกดื่มต่ำเช่นนี้ เฉินเฟิงก็ค่อยๆเคลิ้มหลับไปอยู่ใน อ่างอาบน้ำอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
และในตอนนี้หลงหลินกำลังมุ่งมั่นในการอ่านหนังสือ โดยปกติแล้วมักจะไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรมารบกวนทําให้เธอเสีย สมาธิได้
แต่ไม่นึกเลยว่าวันนี้อ่านได้แค่ครึ่งหนึ่ง จิตใจกลับรู้สึกว้าวุ่น ก็ไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุอะไร เพียงแต่ไม่สามารถอ่านให้เข้าใจได้ เลยแม้แต่นิดเดียว จึงได้แต่นั่งถูไถอ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง เธอจึงล้มเลิกไป คิดอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอก เผื่อว่าจะ สามารถเปลี่ยนอารมณ์ตัวเองได้บ้าง
จึงเดินออกจากห้องหนังสือไป ภายนอกห้องก็มืดสนิทแล้ว ใน สถานที่ที่เปลี่ยวเช่นนี้ เมื่อถึงเวลากลางคืนก็จะไม่มีแสงไฟเลย เหลือเพียงแต่แสงจันทร์หรือไม่ก็แสงดาวที่ส่องประกายริบหรี่ เท่านั้น
แต่คืนนี้พอดีที่มีชั้นเมฆปิดบังจนท้องฟ้ามืดมิดไปหมด บนพื้น ดินจึงมืดสนิทยิ่งขึ้น
หลงหลินเดินไปไม่กี่ก้าว อาศัยตามแสงไฟสลัวบนระเบียงทาง เดินจึงมองเห็นภายในสวนได้บ้างเล็กน้อย หากเดินออกไปไกล อีกนิดเดียวก็จะมืดสนิทเช่นกัน ก็ไม่มีอะไรที่จะให้เห็นอีกแล้ว
เธอจึงเลิกล้มความตั้งใจที่จะไปเดินเล่นอีกต่อไป แล้วเดินมา ถึงห้องน้ำหลังลานบ้าน
ถึงแม้เห็นดวงไฟยังสว่างอยู่ แต่ประตูด้านนอกก็แค่แง้มไว้ยัง ไม่ได้ปิดสนิท หลงหลินจึงส่งเสียงตะโกนเรียก แต่ก็ไม่มีใคร ขานรับ จึงคิดว่ามีคนเข้าห้องน้ำแล้วลืมปิดไฟ
เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วตะโกนเรียกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีคนอยู่แล้ว จากนั้นจึงปิดประตูห้องน้ำไว้ ถอดเสื้อผ้าออกหมด จากนั้นเปิดน้ำอุ่นตรงข้างหน้าแล้วอาบ นําช่าระร่างกาย
เฉินเฟิงที่นอนหลับอยู่ในอ่างอาบน้ำนั้นได้ยินเสียงตะโกน เรียกสองครั้งก็ยังรู้สึกสะลึมสะลือ แต่ตอนนี้ได้ยินเสียงน้ำฝักบัว ดังมาจากด้านนอก จึงตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นทันที
ดูเหมือนจะมีคนอยู่ข้างนอกเหรอ? ในใจเขาก็รู้สึกตื่นตกใจ ที่ นอกจากเขาแล้วก็คือมีเพียงสองสาวพี่น้องตระกูลฉาง ส่วนคน ที่อยู่ข้างนอกนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เขาก็ไม่ควรที่จะได้มา เห็นทั้งนั้น อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้น
แต่ว่าเขาก็รู้สึกแปลกใจ จำได้ว่าตัวเองปิดประตูไว้แล้ว ไม่น่า เป็นไปได้ที่จะมีคนเข้ามาได้
แต่ว่าเสียงด้านนอกชัดเจนมาก ต้องมีคนอยู่ที่นั่นแน่นอน
ตอนนี้เฉินเฟิงก็เหมือนมดไต่บนกระทะร้อน ก็ไม่รู้จะทำ อย่างไรดี หากออกไปตอนนี้ ไม่ว่าจะเห็นหรือไม่ได้เห็นก็ตาม เขา ก็ดูไม่ดีทั้งนั้น หนำซ้ำอาจถูกกระทืบตายเพราะคิดว่าเป็นพวกบ้า กามอีกด้วย
สุดท้ายแล้ว ยังคงนั่งแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำนั้น ก็ได้แต่ภาวนา ว่าอีกฝ่ายหลังจากอาบน้ำเช็ดตัวแล้วก็จะไม่เดินเข้ามาแช่น้ำใน อ่างอาบน้ำอีก
แต่ว่าสิ่งที่ยิ่งกลัว ก็มักจะยิ่งเกิดขึ้น
คนที่อยู่ข้างนอกดูเหมือนอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลัง เตรียมตัวที่จะเข้ามา เฉินเฟิงได้ยินเสียงฝีเท้าเหยียบผิวน้ำที่ กระเด็นอยู่
เขานั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำ มองดูประตูกระจกในห้อง นี่เป็นเพียง ฉากกั้นที่ไม่มีกลอนปิด เพียงแค่เลื่อนเบาๆก็เปิดได้แล้ว
รู้สึกว่าคนนั้นจวนจะเปิดแล้ว ในใจก็ยังคิดอย่างไร้เหตุผลว่า ด้านนอกประตูนั้นจะเป็นเพิ่งหรือว่าหลงหลินกันแน่ ก็นึก จินตนาการถึงรูปร่างของสองสาวพี่น้องนั้นอย่างยากที่หักห้ามใจ
ถึงแม้ทั้งสองคนต่างก็ไม่เคยใส่ชุดที่รัดรูป แต่ไม่กี่วันมานี้ ก็ เคยได้มีการสัมผัสบ้างเล็กน้อย เฉินเฟิงก็ยังสามารถที่จะนึกภาพ ออกได้ว่า รูปร่างของสองสาวพี่น้องทรวดทรงองค์เอวอรชร อ้อนแอ้น แทบจะงามสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว เพียงแค่ขาทั้งคู่ที่ ซ่อนอยู่ใต้กางเกงขายาวหลวมกว้างนั้น ก็สามารถดึงดูดความ สนใจให้ผู้ชายทั้งหลายเฝ้าใฝ่ฝันหาแล้ว
ตอนนี้กลับไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องเช่นนี้ เฉินเฟิงยังกังวลใจ ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรดี
ประตูกระจกเลื่อนออกแล้ว ความหวังของเฉินเฟิงก็พังทลาย ลงไป ตอนนี้เขาจําเป็นจะต้องออกปากห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามา แล้ว
แต่ว่าก็ยังคงสายเกินไปบ้างเล็กน้อย ประตูกระจกได้ถูกคน เปิดออกแล้ว
ก็เหมือนกับเปิดหน้าต่างยามเช้าในช่วงฤดูหนาว หน้าต่างข้าง นอกหิมะขาวโพลน สะท้อนแสงแสบลูกตา ขาวผ่อง สว่างใส ราวกับเด็กทารกก็ไม่ปาน ถึงแม้ไม่ได้สัมผัสก็ตาม แต่ว่าสามารถ ที่จะจินตนาการออกมาได้ ในสมองของเฉินเฟิงก็ได้เพิ่มเติมเสริม แต่งรายละเอียดให้เรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งยังวาดลายเส้นที่พลิ้วไหวละเอียดในการแต่งเติมส่วน เว้าส่วนนูนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกิน ไป ช่างพอเหมาะพอเจาะเป็นที่สุด
แต่ว่าเพียงแค่กะพริบตาสองที ประตูนั้นก็ปิดไปแล้ว
ไม่มีเสียงทะเลาะอะไรเกิดขึ้นเลย และก็ไม่มีเสียงร้องโวยวาย อย่างที่คิดไว้ มีแต่ความเงียบสงบนานไปสักพักใหญ่
เฉินเฟิงรู้ดีว่าไม่สามารถแก้ตัวได้เลย ก็ไม่กล้าพูดจาอะไร มอง
ไปยังเงาที่สะท้อนบนกระจก คนที่อยู่ด้านนอกคนนั้นก็ยังคงอยู่
เพียงแค่ชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ เฉินเฟิงยังไม่ทันได้แยกแยะออก เลยว่าเป็นพี่สาวหรือน้องสาวกันแน่
แต่เวลาผ่านไปนาทีเดียวหรือจะมากกว่านั้น คนข้างนอกก็พูด ขึ้นว่า
“คุณเห็นแล้วเหรอ?”
ถูกถามขึ้นอย่างกะทันหัน เฉินเฟิงยังไม่ทันได้ตอบโต้เลย ชะงักไปสักครู่ จึงตอบว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่นอนหลับอยู่ ในอ่างอาบน้ำ ตอนที่คุณเข้ามา ฉัน……….
ในใจของหลงหลินตอนนี้ก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ แต่ชั่วแวบเดียว หลังจากที่เลื่อนประตูฉากกั้นออกไปแล้ว ก็ได้มองเห็นเฉินเฟิง แล้ว ด้วยนิสัยที่สุขุมเยือกเย็นเช่นนั้น ทำให้เธอไม่ได้โต้ตอบด้วย ท่าทีที่รุนแรงเกินเหตุออกไป
เธอรู้ว่าต่อให้ตัวเองตะโกนออกไป ก็จะทำให้น้องสาวตัวเอง แตกตื่นตกใจ หนําซ้ำถ้าเพิ่งมาแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะจัดการอะไร ได้ทั้งนั้น รังแต่จะทำให้ทั้งสามคนต่างก็เคอะเขินต่อกันเท่านั้น เอง
แต่ว่านอกเหนือไปจากการที่มีสติยั้งคิดแล้ว เธอก็ยังคงเป็น หญิงสาวคนหนึ่ง ส่วนที่สงวนที่สุด ในร่างกายของตัวเองให้คน อื่นเห็นแล้ว ก็ย่อมต้องรู้สึกอัดอั้นตันใจและเสียใจเป็นธรรมดา
“แล้วทำไมคุณไม่ส่งเสียง………..หรือว่ามีเจตนาจะทำอย่างนี้
น้ำเสียงเยือกเย็นลงมาอีกครั้งหนึ่ง เฉินเฟิงก็เดาออกแล้วว่า คนที่ยืนอยู่ข้างนอกประตูคือพี่สาวหลงหลิน แต่นี่กลับทำให้ เฉินเฟิงปวดหัวมากขึ้น เขามักจะรู้สึกว่าหลงหลินไม่ค่อยชอบ หน้าเขาเท่าไรนัก
“ฉันเปล่านะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะอาบน้ำเสร็จแล้วก็คงออกไป ดังนั้นจึงไม่อยากให้เจอหน้ากันด้วยความเขินอายอย่างนั้น แต่
“แต่คุณคิดไม่ถึงว่าฉันจะเข้ามา ใช่ไหม?” หลงหลินแย่งพูด แทนเฉินเฟิง
เฉินเฟิงก็ได้แต่พยักหน้า แล้วพูด “อืม ฉันนึกไม่ถึงจริงๆ
“แล้วคุณคิดจะทํายังไงต่อไป?” ขณะที่เฉินเฟิงกำลังนึกถึงท่าที ของหลงหลินอยู่นั้น ก็กลับได้ยินคำถามขึ้นมาทันทีทันใด
“เออ ฉัน……..ถ้าหากพี่สาว…… เขาแตกตื่นตกใจขึ้นมาอย่าง เฉียบพลัน ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์อย่างนี้ยังไงดี
พี่น้องสองสาวคู่นี้อาศัยอยู่ในป่าตั้งแต่เด็ก นิสัยใจคอค่อน ข้างรักนวลสงวนตัว หากเป็นหญิงสาวคนอื่น ก็อาจจะคิดว่าเห็น แล้วก็แล้วกันไป นี่ก็เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุเท่านั้น อย่างมากก็ด่า ไปสักสองสามค่า
แต่ว่าตอนนี้เขาไม่รู้จริงๆว่าจะจัดการยังไงดี
กลับเป็นว่าหลงหลินพูดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “คุณไม่ต้องพูดอะไร อีกแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นก็แล้วกัน คุณก็ไม่ได้เห็นอะไร ทั้งนั้น รอให้ฉันออกไปก่อน แล้วคุณค่อยออกไปทีหลัง
เธอพูดจบ เงาร่าง ทอดลงบนประตูกระจกก็เลือนหายไป เธอ ก็จะได้เดินออกไปแล้ว
เฉินเฟิงรออยู่ข้างในสักพักหนึ่ง หลังจากได้ยินประตูห้องน้ำ เปิดออกแล้ว เขาจึงลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น เมื่อสักครู่ที่ผ่านมานั้น ดูเหมือนว่าก็ยังคงรู้สึกฉงนมึนงงไม่หาย
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ