ลูกเขยมังกร

บทที่ 871 คู่หมั้นสาว



บทที่ 871 คู่หมั้นสาว

ภายในสวนดอกไม้ของต้นตระกูลเซียน ถึงแม้จะอยู่ในความ มืด แสงสลัวที่สาดส่องออกมาจากพุ่มดอกไม้ เพิ่มสีสันความ เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลานี้ก็เป็นเวลาที่ดอกไม้พวกนั้น กำลังเบ่งบานเต็มที่ ทำให้ทิวทัศน์งดงามไปด้วยดอกไม้นานา ชนิดที่ต่างบานสะพรั่งไปทั่วสารทิศ

เซียนหนึ่งกำลังเข็นรถกับข้าวค่อยๆเดินมาตามข้างทาง ก้ม หน้าลง แต่ระหว่างทางก็คอยสอดส่องคนที่เดินข้างทางเป็นระ ยะๆ

แต่งตัวด้วยชุดฟอร์มของพนักงานบริการ ในสวนดอกไม้ เดิมทีก็ไม่ค่อยมีผู้คนอะไรมากนัก จึงไม่ได้เป็นจุดที่น่าสนใจ

แม้แต่เขียนหนิงเองก็ยังรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างแล้ว แต่ว่า เขาก็ต้องหยุดลง ปากทางข้างหน้ามีผู้ชายคนหนึ่งยืน ขวางอยู่ ดูเหมือนว่ากำลังรอเขาอยู่

คุณชายตระกูล แขกผู้มีเกียรติทุกคนในงานไม่มีใครที่ไม่รู้ จักเขาเลย เซียนหนิงรู้จักเขามานานมากกว่านั้นอีก

เขาก็ยังใส่ชุดสูทสีขาวนั้น ดูเหมือนเพื่อมารอเชียนหนึ่งแล้ว แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังไม่มีเวลาเปลี่ยนเลย

“คนที่แกจะพาหนีเป็นคู่หมั้นสาวของฉันเอง ฉันจึงต้องมาขัด ขวางแกไว้”
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ตาม ขณะที่เขากำลังพูดจาอยู่นั้นใบหน้า ก็ยังคงแฝงด้วยรอยยิ้ม

เป็นไปตามแผนที่เฉินเฟิงพวกเขาได้วางไว้เอาแล้ว ตอนนี้ หญิงสาวคนนั้นก็ได้หลบอยู่ภายในข้างล่างรถเข็นกับข้าว เธอยัง ไม่ได้ปฏิเสธคำขอร้องของเซียนหนึ่ง ที่จะหนีตามเขียนหนึ่งออก ไปจากที่นี่

เชียนหนึ่งมองดูผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าเขาเคร่งเครียด พูดอย่างเยือกเย็นว่า “เธอจะไม่ตามแกไป แล้วเธอก็จะไม่เป็น ของแกด้วย”

คุณชายตระกูลก็ชี้ไปยังรถเข็นกับข้าวในมือของเขียนหนัง แล้วพูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันไม่อยากจะขัดแย้งกับคนของตระ กูลเซียน วางรถเข็นลง แกก็ไปได้แล้ว”

แต่มือที่จับรถเข็นกับข้าวของเขียนหนิงก็ยังจับไว้แน่น ไม่มี

วี่แววที่จะปล่อยมือลงแม้แต่นิดเดียว

คุณชายตระกูลก็พูดอีกครั้งหนึ่งว่า “งั้นก็อย่ามาโทษว่าฉัน ลงมือล่ะ”

พูดจบ ชั่วพริบตาเดียวเขาก็มาถึงตรงหน้าเขียนหนิงแล้ว มือ ข้างหนึ่งก็ไปจับข้อมือของเขียนหนึ่งไว้ เพื่อจะให้เขาปล่อยมือ ออก

เชียนหนิงก็รีบยกมือขึ้นปกป้อง ด้วยท่าทางที่มีความไวเช่นกัน ปัดมือที่ยื่นเข้ามาของฝ่ายตงข้ามออกไป พร้อมกับเตะออกไป หนึ่งที คิดที่จะบีบให้ฝ่ายตรงข้ามถอยร่นออกไป
ทั้งสองคน ใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่อึดใจก็ปล่อยหมัดชกไปไม่ ต่ำกว่าสิบกระบวนท่าแล้ว ต่างฝ่ายต่าต่างทำอะไรอีกฝ่ายหนึ่งไม่ ได้เลย

พละกำลังของของคุณชายตระกูลอื่น่าจะอยู่เพียงแค่หัวจิ้งชั้น สุด ไม่แตกต่างอะไรกับเขียนหนึ่งไปมากนัก

เมื่อไม่ได้ดั่งที่คาดหมายเขาได้แต่ถอยหลังออกไปเอง หลัง จากถอยออกไปเจ็ดแปดก้าว แล้วพูดว่า “สมแล้วที่เป็นคนที่ตระ กูลเซียนหมายมั่นปั้นมือให้เป็นปรมาจารย์ในรอบร้อยปีที่ผ่าน มา ถึงแม้อายุเพียงเท่านี้ ก็สามารถเข้าถึงระดับชั้นสุดแล้ว ฉัน กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแกที่คิดจะพาคู่หมั้นสาวของฉันหนีไป

ฐานะของเซียนหญิงไม่ยากที่จะเดาออกมาได้ ด้วยพลังความ สามารถและอายุของเขา อีกทั้งฐานะของบ้านตระกูลซียน ก็ย่อม เดาออกได้อย่างง่ายดายว่าเป็นเขียนหนัง

แต่ตอนนี้เขียนหนิงก็ไม่สนใจอะไรแล้ว ขณะที่เขาคิดตัดสินใจ จะพาหญิงสาวหนีไปนั้น เขาก็ถูกกำหนดไว้ที่จะต้องถูกตระกูล เขียนและตระกูลอู่จ้องตามไล่ล่าแล้ว เพียงแต่ว่าผู้ชายที่อยู่ตรง หน้าคนนี้ ถ้าเขาไม่สามารถจะจัดการเขาได้ ก็ไม่มีทางที่จะหนี ออกไปจากที่นี่ได้

“ต่อให้แกจะแข็งแกร่งยังไง วันนี้แกก็ไม่มีทางที่จะออกไปจาก ที่นี่ได้หรอก” คุณชายตระกูล พูดย้ำอีกครั้งหนึ่ง เขาหัวเราะ อย่างดูถูก แต่กลับไม่ได้สนใจหญิงสาวที่อยู่ในรถเข็นกับข้าวเลย เขารู้สึกจะสนใจเชียนหนิงมากกว่าเสียอีก
เขียนหนิงในใจร้อนรนมาก เพียงแต่เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ไม่ งั้นก็ต้องลุยไปข้างหน้าอย่างเดียว หรือไม่งั้นก็จะต้องถูกตระกูล เซียนจับไปกักขังไว้ตลอดไป

เมื่อเขาวางมือออกจากรถเข็นกับข้าว เขาก็ก้มหน้าลงไป เปิด ผ้าคลุมออก หญิงสาวตอนนี้กำลังนั่งนิ่งๆอยู่ข้างใน เอามือกอด เขาไว้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น

ตอนนี้เขียนหนิงก็ยื่นหน้าเข้ามา เธอก็มองไปยังเขียนหนึ่งด้วย ความสงสัย ราวกับอยากจะถามว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น

เซียนหนิงไม่รอให้เธอถาม ก็พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า “ไม่มี อะไร คุณเชื่อใจฉันเถอะ”

สำหรับเธอแล้ว สายตาที่มุ่งมั่นของเซียนหนิงนั้น เธอไม่เคย เห็นมาก่อนเลย ก็คล้ายกับเพิ่มพลังให้กับเธอ เธอพยักหน้าตอบ รับเขียนหนิงไป

เขียนหนังหยิบกระบี่ที่อยู่ข้างตัวเธอนั้นออกมา ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะพกกระบี่ไว้ข้างกายเสมอ กระบี่ยาวเมื่อออกจากฝัก ส่อง แสงประกายที่เยือกเย็น เสียงดังแสบแก้วหู ราวกับเสียงที่ โหยหวนบาดใจ

เขียนหนังไม่ค่อยถนัดในการชกเตะต่อยนัก แต่ถนัดการใช้ กระบี่ยาวมากกว่า คุณชายตระกูลอุ้มองไปยังเขียนหนึ่งด้วยความตกใจ ตอนนี้

รังสีทั่วทั้งร่างของเขียนหนิงเปลี่ยนไปหมดแล้ว
ถ้าหากเมื่อครู่นี้เซียนหนึ่งยังคงเป็นแค่คนคนหนึ่ง ส่วนตอนนี้ กลับดูเหมือนเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งก้อนหนึ่ง เยือกเย็นจนได้ อารมณ์ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น ในโลกใบนี้ราวกับว่าเหลือเพียงแค่ กระบี่ในมือของเขาเท่านั้น

คุณชายตระกูล กลืนน้ำลายเชือก เขารับรู้สึกถึงความกดดัน แต่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะให้เขาคิดมากอีกแล้ว กระบี่ด้ามยาวของ เขียนหนึ่งได้พุ่งเข้ามาประชิดตัวเขาแล้ว

ฟาดกระบี่ไปหนึ่งครั้งแล้วซักกลับ ฟินต่อไปอีกหนึ่งที ต่อเนื่อง อย่างไม่หยุดหย่อน ไม่มีที่สิ้นสุด

เขาไม่เคยเห็นกระบี่ที่ว่องไวขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่เคยเห็นมือ ที่หนักแน่นขนาดนี้เช่นกัน

“แกคิดจะฆ่าฉันเหรอ?” คุณชายตระกูลอู่ตะโกนร้องด้วย

ความตกใจ

กระบี่เฉียวผ่านคอหอยของคุณชายตระกูล ถูกปาดเป็นรอย เลือดติดออกมา นี่คือกระบวนท่าสังหารไม้ตาย และก็เป็นจิต พิฆาตที่ไม่ยอมออมมือเลยแม้แต่นิดเดียว

เชียนหนิงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ก็ยังคงใช้กระบวนท่ากระบี่ฟัน ไปอีกสิบสองครั้ง แต่ละครั้งนั้นดุดันโหดเหี้ยม ไม่ยอมยังมือเลย แม้แต่นิดเดียว

คุณชายตระกูลอู๋เพิ่งจะหลบกระบี่กระบวนท่าที่แปดไปได้ แต่ เมื่อถึงท่าที่เก้ากระบี่ก็มาอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว เขาแทบจะหมด หนทางสู้แล้ว ในใจตะโกนร้องด้วยความตกใจ
“แย่แล้ว ฉันจะต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว

กระบี่ราวกับพยัคฆ์ร้ายที่แหกออกจากกรง กระโจนเข้าไปกัด อย่างดุร้าย

แต่ว่าขณะที่เขากำลังยอมจํานนต่อชะตากรรมอยู่นั้น ปลาย กระบี่ก็มาหยุดอยู่ตรงหัวใจของเขาเพียงเล็กน้อย ก็ไม่แทงเข้าไป

อีกต่อไป

คุณชายตระกูล ก็ยืนงงอยู่ที่นั่น ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองไปยัง เชียนหนิง ใบหน้าของเขียนหนึ่งก็ยังคงเหมือนเช่นเดิม ตั้งแต่ต้น จนจบก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

เขียนหนิงพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ฉันไม่ฆ่าแกหรอก” พูดเพียงแค่ประโยคเดียว เชียนหนิงก็ไม่พูดเหตุผลใดๆออก มาอีก เขาเก็บกระบี่เข้าฝักแล้วเดินกลับไปยังรถเข็นกับข้าว

หลังจากที่รอดตายจากชายขอบนรกแล้ว คุณชายตระกูล ตกใจจนเหงื่อท่วมตัวไปหมด เพียงแต่ล้มเลิกความคิดที่จะไปต่อ ต้านเซียนหนิงอีกแล้ว

ส่วนเซียนหนิงก็กลับไปเข็นรถกับข้าวเช่นเดิมอีกครั้ง มุ่งหน้า ออกไปยังประตูด้านหลัง

“ผู้หญิงคนนั้น ช่วยฉันดูแลเธอดีๆด้วย” คุณชายตระกูล พยายามที่จะตะโกนพูดคำพูดนี้ออกไป

แต่ว่าเชียนหนิงกลับดูเหมือนว่าจะไม่ได้ยิน
เมื่อกล่าวถึงอีกฝ่ายหนึ่ง เขียนหนิงก็แก้ปัญหายุ่งยากของเขา ได้แล้ว แต่ว่าเงินเฟิงกลับไม่ได้โชคดีเช่นนั้น

วรยุทธ์ของเซียนสวนนั้นอยู่เหนือเฉินเฟิงอย่างแน่นอน ถ้าไม่ ได้อาศัยเคล็ดวิชาพลังสวนกลับแล้ว เฉินเฟิงย่อมไม่สามารถที่จะ สู้กับอีกฝ่ายได้เลย

กระบวนท่าที่เขาใช้ไปเมื่อครู่นี้ก็ถูกเขียนสวนแก้ไขอย่าง ง่ายดายได้อีกครั้ง มิหนำซ้ำเซียนสวนก็ยังสวนฝ่ามือกลับคืน เพื่อบีบให้เขาลาถอยออกไป

“ตระกูลเซียนเก่งกาจจริงๆ”

เฉินเฟิงกล่าวชม

เชียนสวนก็ได้หยุดลง เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เฉินเฟิงหาเรื่อง หลี่ชื่อลือได้อีกก็พอแล้ว เขากลับรับคำชมจากเฉินเฟิงอย่างไม่ ถ่อมตัวเลย

“คุณเฉินหากยังอยากจะลิ้มลองวรยุทธ์ของตระกูลเชียนเราอีก ละก็ ฉันก็พร้อมที่จะน้อมรับคำท้าทุกเมื่อเสมอ เพียงแต่เรื่องใน วันนี้ ยังหวังให้คุณเฉินเห็นแก่หน้าตระกูลเชียนเราสักครั้ง ยุติ เพียงแค่นี้ก่อน สำหรับในวันหน้าพวกคุณจะจัดการอย่างไรนั้น ตระกูลเซียนเราจะไม่เข้าไปก้าวก่ายอย่างแน่นอน”

เฉินเฟิงคำนวณเวลาดูแล้ว คิดว่าเขียนหนึ่งน่าจะสามารถหลบ หนีออกไปได้แล้ว เพียงแต่เรื่องที่คิดอยากจะฆ่าหลี่ชื่อลือนั้นก็ถูก ขัดขวางไว้ได้ นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายบ้างเหมือนกัน
เขาก็ไม่ได้มุ่งมั่นเหมือนตอนแรกแล้ว จึงพูดอย่างไม่แยแสว่า “ในเมื่อคุณพูดเช่นนี้แล้ว ฉันก็จะไว้ชีวิตเขาชั่วคราวไปก่อน เพียงแต่อยากให้เขาจำไว้ว่า ชีวิตนี้เพียงแค่ฝากไว้กับตัวเขา เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ฉันจะมาเอาคืนเมื่อไหร่ก็ได้

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิงแล้ว เขียนสวนก็ได้แต่ยิ้มเล็ก น้อย ใครอยากจะเอาชีวิตใครกันแน่ เขาก็ไม่ไปสนใจอีกแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ