ลูกเขยมังกร

บทที่ 828 คอนโดหนึ่งหลังและคอนโดสองหลัง



บทที่ 828 คอนโดหนึ่งหลังและคอนโดสองหลัง

ชายร่างใหญ่จึงตอบด้วยเสียงเบาๆ

“อันที่จริงแล้วเด็กสาวคนนั้นเป็นลูกสาวของผมเอง เธอบอก กับผมว่าเธออยากพบกับเทพธิดา อืม ความจริงแล้วลูกสาวของ ผมเธอมองว่าคุณเป็นเทพธิดามาตลอด ดังนั้นเธอเลยอยากจะ พบกับคุณ

“แค่นี้หรอ? ฉันจะหาเวลาไปที่นั่นอีกครั้ง คุณวางใจได้เลย” ชิงจ๋อตอบรับอย่างง่ายดาย

แต่ดูเหมือนว่าชายร่างใหญ่ยังมีบางอย่างที่อยากจะพูดออก มา

ชิงจ่อขมวคิ้วแน่น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่คำขอที่ยากลำบากอะไร แต่สำหรับตัวเธอแล้ว เธอไม่ได้ชื่นชอบเรื่องราวที่ดูไร้สาระพวกนี้ ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เหมือนว่าชายร่างใหญ่ยังไม่พึงพอใจซะเท่า ไหร่

“คุณยังมีปัญหาอะไรอีกหรอ? ” ชิงจือถามอีกครั้ง

ชายร่างใหญ่ตอบกลับด้วยความอึดอัดใจ “คุณสามารถไป กับผมตอนนี้เลยได้หรือเปล่า?

“ทำไม? คุณรีบร้อนงั้นหรอ?

ชิงจือถามอย่างสงสัย
ชายร่างใหญ่ก้มหน้าลงด้วยอารมณ์ที่ตกต่ำ

“ที่จริงแล้วเวลาของเด็กคนนั้นเหลือไม่มากแล้ว คราวที่แล้ว ที่มาตามหาแล้วไม่พบกับคุณ ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากแล้ว แต่ถึง อย่างนั้นผมก็ยังคงกลับมาตามหาคุณอีกครั้ง และคิดไม่ถึงว่าจะ ได้เจอกับคุณเข้าจริงๆ ”

เหลือเวลาไม่มากแล้ว อย่างนั้นก็แสดงว่าชีวิตของเด็กคนนี้ เหลืออยู่อีกไม่นานแล้วสินะ

ชิงฉือนิ่งเงียบ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น

แต่ถึงยังไงก็เป็นเรื่องที่เธอเคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้ จะช้าจะ เร็วมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไร เสียงรถไฟดังตึกตักๆ เฉินเฟิงที่นั่งอยู่ทอดสายออกไปด้าน

นอกหน้าต่างด้วยความคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะกลับออกมาด้าน

นอก พร้อมกับต้องเผชิญกับความจริงเช่นนี้อีกครั้ง

“ผมจะบอกให้เลยนะ แค่คุณฟังผม ผมสัญญาเลยว่าคุณจะ สามารถทำเงินได้เลย ไม่ต้องพูดให้มากความ ในหนึ่งปีคุณ สามารถทำได้เงินจำนวนขนาดนี้เลยล่ะ”

ชายที่นั่งตรงข้ามกับเฉินเฟิงซูมือขึ้นมาทำตัวเลขให้กับเด็ก หนุ่มที่อยู่ข้างๆ ดู

“สามแสน? ” อีกฝ่ายถามด้วยความตกใจ

“สามแสนอะไรกัน สามล้านต่างหากเล่า อย่าหาว่าผมขี้โม้เลย คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ผมเปิดบริษัทใหญ่ขนาดไหน ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเราสองคนมีวาสนาต่อกัน ผมไม่มีทางบอกเรื่องแบบนี้ ให้กับคุณหรอก เป็นยังไง คุณฟังที่ผมพูดรับรองได้เลยว่าคุณจะ ร่ำรวยแน่นอน”

เฉินเฟิงไม่ได้มีความสนใจที่จะไปฟังเรื่องฉ้อโกงแบบนี้เลย เขาเพียงแต่รู้สึกตลกกับการแสดงของเจ้าหมอนี่เท่านั้น

แต่โชคดีที่คนที่อยู่ข้างๆ ชายนักต้มตุ๋นรับว่าตัวเองกำลังถูก หลอก สุดท้ายเขาจึงส่ายหน้าไม่ได้ตอบรับใดๆ

จากนั้นชายนักต้มตุ๋นที่กำลังเสแสร้งอยู่ได้ยินเสียงหัวเราะของ

เฉินเฟิง เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังเฉินเฟิงแทน

“เป็นไงน้องชาย คิดอย่างไร? ” เขาหันไปพูดกับเฉินเฟิง ทว่าเฉินเฟิงกลับส่ายหน้าปฏิเสธไป

นักต้มตุ๋นที่เห็นว่าไม่มีความหวังแล้วจึงเดินออกไปยังที่อื่น

“คนสวย สนใจจะเพิ่มเพื่อนวีแชทกันหน่อยไหม ! ”

หลังจากที่นักต้มตุ๋นเพิ่งเดินจากไป อีกฝั่งก็มีชายหนุ่มแต่งตัว เว่อร์วังเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของชิงจือ

แต่ชิงจือกลับไม่มองเขาเลยแม้แต่น้อย

“คนสวยไว้หน้ากันหน่อยสิ พี่มีเงินนะ ถ้าหากคนสวยยอมมา เป็นหวานใจของพี่ พี่จะซื้อคอนโดในยันเจียงให้เลย เป็นยังไง

เขาพูดอีกครั้ง

เฉินเฟิงถึงกับคิดว่าหากแค่คอนโดหลังเดียวสามารถซื้อชิงจือได้ เขาคงจะยอมใช้สวนชวนหยวนเพื่อแลกเปลี่ยนกันแล้ว

แต่ชิงจือยังคงไม่สนใจเขาดังเช่นเคย เฉินเฟิงเริ่มรำคาญใจที่ เขามาสร้างความวุ่นวายอยู่ข้างๆ จึงเสนอตัวเข้าไปหวังจะกำจัด เขาออกไป

“คุณไม่เห็นหรอว่าเธอไม่ยินยอม? ” เฉินเฟิงพูดกับเขาด้วย

ความเกรงใจ

แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่แต่งตัวทันสมัยคนนั้นจะต่อว่าเงินเฟ้ งกลับ

“ไอ้ยาจก นี่ใช่เรื่องที่แกจะเข้ามายุ่งหรือไง ? แค่ดูก็รู้ว่าเป็น คนที่ยังไม่เคยแม้แต่จะเดินทางเข้าเมืองมาก่อน ยังมีหน้าจะมา พูดอีก”

เฉินเฟิงไม่ได้โกรธอะไรทั้งยังยิ้มออกมา

“ผมแค่คิดว่าคุณเสนอราคาได้ต่ำเกินไปก็เท่านั้น ผู้หญิงสวย ขนาดนี้มีค่าแค่คอนโดหลังเดียวในยันเจียง ผมว่าถ้าคุณเสนอ ราคาสูงกว่านี้เธออาจจะยอมก็ได้นะ”

พูดไปเฉินเฟิงก็พลันหยิบเอานาฬิกาที่หลินหวั่นชีวเคยเอาให้ เขาออกมา

“คุณดูนาฬิกาเรือนนี้ของผมสิ มันสามารถใช้ซื้อคอนโดสอง หลัง ในTomson Rivieraได้เลย ผมคิดว่าบางทีแบบนี้ถึงจะ เหมาะสมกับผู้หญิงที่สวยแบบนี้มากกว่า”

ชายหนุ่มจ้องมองไปยังนาฬิกาในมือของเฉินเฟิง ซึ่งมันดูมีระดับจริงๆ แต่เมื่อได้ยินเฉินเฟิงบอกว่ามันสามารถแลกได้กับคอน โคสองหลังใน Tomson Rivieraได้ เขาก็ไม่เชื่อ เพราะนั่นเป็นที่ที่ แพงที่สุดในหยางเจียงแล้ว

“แกนี่ขี้โม้ได้สุดจัดเลยหว่า แค่นาฬิกาเกอันเดียวมีค่าเท่ากับ คอนโดสองหลัง ทำไมแกถึงไม่ขึ้นสวรรค์เลยล่ะ!!

เฉินเฟิงหัวเราะ บางครั้งช่องว่างมันก็มากเกินไป เพราะแม้แต่ โอกาสในการแสดงยังไม่มีเลย แต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็ดูไม่เข้าใจ เพราะสำหรับเขาแล้วบางทีนาฬิกาเรือนนี้ก็คงจะไม่ต่างอะไรกับ ของทีวางขายตามแผงขายของ

“ในเมื่อคุณไม่รู้ก็ช่างมันเถอะ แต่ว่าคอนโดหลังเดียวมันไม่ คุ้มราคาจริงๆ ผมว่าคุณกลับบ้านไปหาเงินเพิ่ม ดูว่าพอจะซื้อเพิ่ม อีกหลังได้หรือเปล่า แบบนั้นอาจทำให้สาวสวยคนนี้ยอมเปิด ปากพูดก็ได้”

ในขณะที่เฉินเฟิงกำลังแสดงท่าทีโอ้อวด เขาก็รับรู้ถึงสายตา เย็นชาที่จ้องมองมายังตัวเขา แน่นอนว่าชิงจือไม่ชื่นชอบให้คน อื่นมาล้อมมุงดูเธอเหมือนกับลิงแบบนี้ ดังนั้นหลังจากที่เขาพูด จบ เขาก็หุบปากเงียบทันที เพราะเขาไม่อยากจะไปยั่วโมโห หญิงนิสัยประหลาดคนนี้

“รออยู่ตรงนี้แหละ แค่นาฬิกาเกอันเดียวยังกล้าจะมาข่มคน อื่น เพื่อนของฉันเป็นคนชอบเล่นนาฬิกาพอดี ถึงเวลาอย่าหาว่า ฉันไม่เตือนแล้วกัน ถ้าขายหน้าอย่าวิ่งหางจุกตูดไปแล้วกัน”

เฉินเฟิงคิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะเอาจริงเอาจังขึ้นมา และหลังจากที่เขาจากไปไม่นาน เขาก็กลับมาที่ขบวนรถนี้อีกครั้ง พร้อมกับชายหนุ่มที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาที่เดินตาม มาด้วย แต่คนนี้ดูจะมีความเป็นผู้ดีมากกว่า

“ว่ายังไง แน่จริงก็เอานาฬิกาเกอันนั้นออกมา ฉันอยากจะดู หน่อยว่ามันจะมีค่าขนาดไหนเชียว ถึงขนาดสามารถซื้อคอนโด ใน Tomson Rivieraได้” ใบหน้าของเขาแสดงออกมาราวกับตน ได้รับชัยชนะแล้วเสียอย่างนั้น

เฉินเฟิงมองไปยังชิงจือที่หลับตาไม่สนใจอะไร เขาจึงคิดว่า หากยังสร้างเรื่องแบบนี้ต่อไป เขาคงจะไม่ได้ลงจากรถไฟแน่ๆ

แต่เจ้าหมอนั่นที่เห็นเฉินเฟิงเกิดความลังเลก็ยิ่งโอหังยิ่งขึ้น

“เป็นอะไรไป กลัวแล้วหรอ เมื่อกี้ยังอวดดีอยู่ไม่ใช่หรือไง ? ทำไมพอฉันไปพาคนมา แกถึงได้สงบเสงี่ยมซะงั้น แกสุดยอดนัก ไม่ใช่หรือไง ? ”

เฉินเฟิงครุ่นคิดก่อนจะหยิบเอานาฬิกาออกมาให้พวกเขาดู ถ้าหากยังปล่อยให้เขายโสโอหังแบบนี้ต่อไป ตัวเขาเองคงจะไม่ ได้ลงจากรถไฟแน่ๆ เขาปลดนาฬิกาออกจากข้อมืออย่างไม่ ใส่ใจ จากนั้นก็โยนให้กับชายหนุ่มผู้ดีคนนั้น

“ค่อยๆ ดู ขอแค่อย่ารบกวนพวกเราก็พอแล้ว ดูเสร็จเมื่อไหร่ ค่อยส่งคืนมาก็ได้”

ชายหนุ่มที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาถึงกับมือไม้พันกันไปหมด กว่าจะรับนาฬิกาเอาไว้ได้
เมื่อมองดูท่าทีที่เฉินเฟิงปฏิบัติต่อนาฬิกาแล้ว ชายหนุ่มผู้ดีที่ เมื่อกี้ยังมีความสนใจถึงกับแสดงสีหน้าผิดหวังออกมา

“ซี จะตายอยู่แล้วยังจะมีหน้ามาโม้อีก ถ้าหากมันมีค่าขนาด นั้น แกจะกล้าทำแบบนี้หรอ ถ้าเป็นของดีจริงคงจะเจ็บใจหากมัน มีรอยขีดข่วนแค่นิดเดียว”

เฉินเฟิงขี้เกียจที่จะไปสนใจพวกเขาแล้ว จึงหันไปมองนอก หน้าต่างอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าด้านนอกหน้าต่างจะวุ่นวายกว่า ด้านในอีก

ในตอนที่เฉินเฟิงไม่ได้สนใจชายหนุ่มผู้ดีคนนั้นที่กำลังมองดู

นาฬิกาของเฉินเฟิงอย่างจริงจัง เขาเกือบจะทำนาฬิกาข้อมือนั้น

ตกลงบนพื้นด้วยความตกใจ เขาโอบนาฬิกาเอาไว้ในมือแน่นอีก ครั้งด้วยความตื่นตระหนก ชายคนนั้นก็ถามด้วยความสงสัยทันทีเมื่อเห็นคนของตัวเอง

แสดงสีหน้าแบบนั้น

“เป็นยังไง นาฬิกาอันนี้ได้ราคาบ้างไหม ? “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ