ลูกเขยมังกร

บทที่ 821 มหาปรมาจารย์ลงเขา



บทที่ 821 มหาปรมาจารย์ลงเขา

พวกเขารับปากด้วยตัวเองกับเจียตง ตอนนี้กลับกลับมาโดย มือเปล่า พวกเขาจะกล้าไปเจอเจียงได้ยังไง

แต่สิ่งแรกที่เจี่ยตงพูดกับพวกเขาก็คือ

“สหายทั้งสอง การพ่ายแพ้มันเป็นเรื่องธรรมดา”

แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น พวกเขาก็ยังรู้สึกไม่กล้าเผชิญหน้าอยู่

“สหายทั้งสองทุ่มสุดความสามารถแล้ว ถ้าจะโทษก็คงต้อง โทษไอ้เจ้าเฉินเฟิงมันเจ้าเล่ห์เกินไป เขาจะต้องใช้วิธีสกปรกอะไร สักอย่างถึงสามารถเอาชนะทั้งสองลงได้

ราวกับในที่สุดก็ได้ยินคนที่รู้ใจ หลังจากที่พี่น้องตระกูลเน่พ่าย แพ้ก็เริ่มหาเหตุผลมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็แค่รู้สึกว่าวิชามาร ที่เฉินเฟิง ใช้มันแข็งแกร่งเกินไป ก็เพราะพวกเขาวิชากังฟูที่ฝึก มาเป็นตามธรรมดา เลยพ่ายแพ้

แต่ต่อให้อธิบายแบบนี้ก็แค่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีเล็กน้อยก็ เท่านั้นเอง แพ้ก็คือแพ้ พวกเขาก็ยังไม่มีหน้าไปเผชิญหน้ากับคน อื่นอยู่ดี

ตอนนี้พอเจียตงพูดแบบนี้ พวกเขาถึงได้รู้สึกว่าเจียตงเข้าใจ พวกเขา

“ทั้งสองท่าน ฉันได้เตรียมโต๊ะอาหารให้ทั้งสองท่านเรียบร้อยแล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คงไม่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเราพัง ทลายลงถูกไหม ฉันยังหวังว่าอนาคตพวกท่านจะยังสามารถช่วย ฉันสั่งสอนไอ้เจ้าคนชั่วนั้น

คำพูดของเขาดูจริงใจมาก ราวกับเพื่อนแท้ที่กำลังปลอบโยน เพื่อนด้วยความจริงใจ

หลายวันมานี้พี่น้องตระกูลเน่คิดหนักมาโดยตลอด จนกระทั่ง รู้สึกว่าไม่มีหน้ากลับไปยังสำนักเทียนซาน และพอถูกเฉียงพูด แบบนี้ ก็ไม่กล้าพูดปฏิเสธ ทำได้แค่ตามเงี่ยตงไปร้านอาหาร

ด้วยอำนาจของเจียตงในตะวันออกเฉียงเหนือ สถานที่ที่ใช้ ต้อนรับพวกเขาแน่นอนว่าจะต้องไม่ธรรมดา

นั่นเป็นหนึ่งในสถานที่หรูหราที่สุดของตะวันออกเฉียงเหนือ

แต่ทั้งห้องโถงมีเพียงแค่พวกเขาสามคน

“ที่นี่ฉันเหมาเอาไว้แล้ว วันนี้ไม่มีใครที่จะมารบกวนพวกคุณ สองพี่น้อง พวกคุณจะทำอะไรก็ได้ ผู้หญิงพวกนั้นเพิ่งมาไม่กี่วันนี้ เอง”

“ท่านเจีย พวกเราไม่ใช่คนแบบนั้น”

เน่เฉันเข้าใจความหมายของเจียตง จึงพูดปฏิเสธ

“ได้ ฉันจะเรียกให้คนมาพาพวกเธอลงไป

เจี่ยตงพูดด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็ไม่ได้ดื้อรั้ง นิสัยของทั้งสอง เป็นแบบนี้ คงไม่สามารถฝืนใจได้ แบบนั้นมันจะเป็นผลเสีย แต่ท่าทางของเน่เพิ่งค่อนข้างดูคาดหวังเล็กน้อย

อาหารและเหล้าถูกยกมาอย่างไว มันดูหรูหราและสวยงามซะ จงทำให้รู้สึกดูมีคุณค่าตั้งแต่แวบแรกที่เห็น นี่เป็นครั้งแรกที่พี่ น้องตระกูลเน่เห็นแบบนี้ การสั่งสอนที่ได้รับมาตั้งแต่เด็กทำให้ พวกเขาไม่สามารถรับของพวกนี้

“ท่านเจี่ย ของแบบนี้พวกเรารับเอาไว้ไม่ได้จริงๆ เดิมทีพวก เราก็ยังไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านเจียไหว้วางเอาไว้ได้สำเร็จ และ ตอนนี้ยังให้ลิ้มรสของหรูหราแบบนี้ ไม่กล้ารับเอาไว้จริงๆ แต่เจี่ยตงก็รีบพูดด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า

ของพวกนี้สำหรับฉันมันก็ไม่ได้มากมายอะไร หรือว่าพวก

ท่านจะรู้สึกว่าฉันเจี่ยตงไม่มีปัญญาแม้แต่จะเลี้ยงข้าวรึไง?” พี่น้องตระกูลเน่ยังคิดจะพูดอะไรอีก เจียตงก็ชิงเปลี่ยนคำพูด

จากความโกรธเป็นความยิ่งดี

“พวกท่านลิ้มรสให้เต็มที่ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องพึ่งพาพวกท่านทั้ง สองอีก หวังว่าถึงตอนนั้นพวกท่านจะไม่รังเกียจฉันก็พอแล้ว”

ทั้งสองต่างก็จ้องมองซึ่งกันและกัน ในเมื่อเจี่ยตงพูดถึงขนาดนี้ พวกเขาจึงมีแต่ต้องรับเอาไว้

และเดิมที่สำหรับพวกเขาแล้วอาหารที่หรูหราพวกนี้ก็ทำให้ พวกเขาสนใจเป็นอย่างมาก

เจียงมองดูพวกเขา แล้วรินไวน์ให้กับตัวเอง เขาขยับมัน เบาๆ แล้วค่อยๆลิ้มรสของมัน
และตอนที่ข่าวร้ายไปถึงสำนักเทียนซาน ทั้งสำนักเรียนชาน สั่นไหวขึ้นมา

ผู้หญิงที่ตกเก้าอี้แม้แต่การหายใจก็ยังผิดปรกติ เธอร้องไห้ เรียกชื่อของเน่เจิ้ง มันจะไม่เจ็บปวดได้ยังไง ตั้งท้องลูกมาสิบเดือนจู่ๆก็หายไป

แบบนี้ เธอร้องไห้พร้อมร้องเรียกชื่อ หวังให้ฟ้าได้ยิน

และผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆมีสีหน้าที่จริงจัง ผู้หญิงร้องไห้พร้อมกับ บอกว่าหัวใจของเขาแข็งกระด้างมาก แต่ว่าข้างในจิตใจของเขา ไม่สามารถแสดงออกมาเหมือนกับภรรยาของตัวเองได้ ความ จริงข้างในใจของเขาแทบจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ แล้ว

เขาซักถามคนที่มาส่งข่าวคนนั้นว่า

“สิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นความจริงงั้นเหรอ?”

“ไม่กล้าพูดโกหกคุณท่านเน่แม้แต่น้อย ตอนที่คุณชายของ พวกเราเจอกับคุณชายตระกูลเน่ทั้งสอง ตามร่างของพวกเขาก็ เต็มไปด้วยบาดแผลสาหัส หลังจากที่ส่งไปโรงบาล เพียงไม่นาน ก็ไม่สามารถช่วยเอาไว้ได้แล้ว”

เน่หวาเชิงพูดอะไรไม่ออก ภรรยาที่อยู่ข้างๆร้องไห้หนักมาก เขายังต้องปลอบใจอีก

“เจ้าไม่ต้องร้องแล้ว ข้าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับลูกของ พวกเรา”

“ยังจะคืนความเป็นธรรมอะไรอีก พอเจ้าคืนความเป็นธรรมแล้วลูกของเราจะกลับมาได้ไหม? ลูกชายที่น่าสงสารของแม่ ถึงแม้ภรรยาจะพูดแบบนี้ แต่เน่หวาเชิงจะปล่อยให้เรื่องนี้จบ แบบนี้ไม่ได้

ตอนนี้ทางด้านพ่อแม่ของเนเจ๋งก็มีสถานการณ์คล้ายๆกัน พวกเขาคงนึกไม่ถึงว่าลูกชายสิบกว่าขวบของพวกเขาจะหายไป แบบนี้ พวกเขามีลูกชายแค่คนเดียว ความเจ็บปวดจากการสูญ เสียลูกมันมากยิ่งกว่า ทางด้านพ่อแม่ของเนเฉิน พวกเขายังมี ลูกสาวอีกหนึ่งคน

แต่มันไม่สามารถเทียบได้ว่าใครเจ็บปวดกว่ากัน

แต่ว่าความเจ็บปวด ทุบอยู่ในอกของมหาปรมาจารย์ทั้งสอง ตอนให้จะฝึกฝนมาถึงขนาดนี้ พวกเขาก็ยังไม่สามารถรับมันได้ ค่อยๆปลอบภรรยาของตัวเอง หลังจากที่พวกเธอเหนื่อยจน

นอนสลบไป ในที่สุดตอนนี้ก็มีเวลาให้พูดคุยกัน

“น้องเฟิง เจ้ามีความคิดเห็นยังไง

ข้างในศาลาหลังสำนักเทียบซาน เน่หวาเชิงพูดกับน้องชาย แท้ๆอย่างเน่หวาเฟิง

“ยังจะมีความคิดอะไรอีก ไอ้เจ้านั่นข้าจะต้องหั่นมันเป็นหมื่นๆ

ชิ้น เอาหัวของเขาไปไหว้หลุมศพของลูก”

เนหวาเชิงมองน้องชายตัวเองที่กำลังโกรธอยู่ เดาไว้แต่แรก แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
แต่เขาก็ยังถามด้วยความสงสัย

“ข่าวที่ได้มาจากตระกูลเจีย พวกเราเองก็จะเชื่อแบบนี้ไม่ได้ รอพรุ่งนี้พวกเราไปตรวจสอบศพเด็กทั้งสองคนก่อนแล้วค่อยว่า กันอีกที”

“ข้าเองก็รู้ แต่มันจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้เฉินเฟิงอย่าง แน่นอน เขาประลองกับเด็กทั้งสองคน ทุกคนต่างก็รู้เรื่องนี้ และ บนโลกนี้คนที่สามารถทำร้ายเงินเอ๋อร์ได้มีเพียงไม่กี่คน

เนหวาเพิ่งเข้าใจความหมายของเน่หวาเฟิง ตอนนี้เน่เฉินถึง ขั้นหัวจิ้งชั้นสูงสุดแล้ว คนธรรมดาไม่สามารถเข้าใกล้ได้ด้วยซ้ำ และข่าวที่ทุกคนต่างก็พูดว่าเงินเฟิงสามารถเอาชนะพี่น้องทั้ง สองได้ก็เป็นการยืนยันแล้วว่าเงินเฟิงสามารถฆ่าพี่น้องทั้งสอง คนได้

แต่เน่หวาเชิงก็ยังมีความลังเล

“ทางด้านซินเอ๋อเป็นยังไงบ้าง?

ซินเอ๋อเป็นภรรยาของเน่หวาเฟิง เนหวาเชิงพอนึกถึงความ เจ็บปวดของภรรยาตัวเองแล้ว ก็คิดว่าทางด้านเน่หวาเฟิงก็คงไม่ ต่างกัน

“ร้องไห้จนเหนื่อย จากนั้นก็หลับไป แต่จิตใจไม่ปกติ คิดว่า พรุ่งนี้ก็ยังเหมือนเดิม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าถ้าเกิดข้าออกไป นางอาจจะ คิดสั้นก็ได้”

เน่หวาเชิงเองก็ถอนหายใจ ทางด้านของเขาเองก็เหมือนกันแต่ก็ยังต้องพูดออกไปอยู่ดี

“ให้เสี่ยวหยู่ไปอยู่เป็นเพื่อนในเอ๋อเถอะ เดิมทีนางก็สนิทกับซิ

นเอ๋ออยู่แล้ว”

“ช่างเถอะ พี่สะใภ้เองก็คงไม่ต่างกัน ทางด้านซินเอ๋อข้าจะคิด หาวิธีก็แล้วกัน”

“งั้นก็ได้ แต่ว่า ข้าคิดไปคิดมา พวกเราสองพี่น้องอยู่ที่ภูเขา คนนึงเถอะ พวกเราไม่สามารถออกไปพร้อมกันได้

เนหวาเพิ่งอึ้งไปสักพัก เขาไม่ได้ปฏิเสธ เขารู้ดีว่าสิ่งที่พี่ของ เขาพูดออกมาก็ถูก ที่นี่ต้องมีคนคอยดูแล ผู้หญิงทั้งสองคนก็ต้อง มีคนให้พึ่งพา แต่เขาก็พูดอย่างหนักแน่นว่า

“ข้าจะเป็นคนลงไปเอง ข้าจะต้องเป็นคนจับคนร้ายที่ฆ่าเด็กทั้ง สองด้วยมือตัวเอง เอาเลือดของพวกมันไปไหว้หลุมศพของเด็ก ทั้งสอง ล้างแค้นแทนพวกเขา”

เดิมที่เน่หวาเชิงอยากให้เน่หวาเฟิงอยู่ที่นี่ แล้วเขาจะเป็นคน ลงไปเอง แต่พอเห็นความร้อนรนของน้องชายตัวเอง เขาจึงมีแต่ ต้องยกเลิกความคิดของตัวเอง ทำได้แค่บอกว่า

“เจ้าระวังให้ดี ถึงแม้วรยุทธ์ของเจ้าจะอยู่ในระดับมหา ปรมาจารย์ แต่ว่าโลกด้านล่างวรยุทธ์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ