บทที่ 805 เจอชิงชิวอีกแล้ว
ออกมาด้านหน้าห้อง ก็เป็นสะพานจิ๋วไซ สามารถมองเห็น ภูเขาชิงซานมาแต่ไกล ท่ามกลางความสบายได้ยินเสียงนก
ในสระบัวใบบัวชูสลอน บดบังทะเลสาป
“ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนนะ ถ้าคุณชายเฉินชอบ ผมแนะนำให้ คุณชายเงินสมัครสมาชิก
ชายอ้วนแนะนํา
“สถานที่ไม่เลว แต่บางคนกลับส่งกลิ่นอับชื้น ผมว่าช่างเถอะ ผมออกไปเดินข้างนอกคนเดียวดีกว่า”
“คุณชายเฉินไม่เหมือนใครจริงๆ “ชายอ้วนชื่นชม
ไม่นานคนไม่กี่คนก็มาถึงตีนเขา ตรงนั้นเป็นที่โล่งว่าง
สถานที่โล่งว่างนั้นมีบ้านหลังหนึ่ง ไกลออกไป เฉินเฟิงมอง ออกไปทางระเบียงเห็นคนมองมาทางพวกเขา
รอจนเขาเข้าใกล้ เป็นกลุ่มหวางลั่วปิง
แต่หนึ่งในนั้นมีคนหนึ่งทำให้เงินเฟิงประหลาดใจ
“นักพรตชิงชิว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
วันนั้นเป็นเพียงแค่เจอครั้งเดียว วันนี้กลับเจอชิงชิวที่นี่
“ที่แท้เป็นท่านนักพรต!
คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเจอกันที่นี่”
ชิง ว านับเฉินเฟิง เฉินเฟิงจึงได้แต่คํานับกลับ
“สองวันก่อนเจอคุณท่านหวังที่ริมน้ำ ผมเห็นท่านวิทยายุทธ์ สุดยอดเลย ก็เลยอยากศีกษาด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าสองวันนี้มีการ ประลอง ผมใจคันๆ ก็เลยขอคุณท่านหวังมาดูการประลอง แค่ คิดไม่ถึงว่าผู้ประลองจะเป็นสหายนักพรตเช่นนี้”
เขาเองก็ยังสวมชุดนักพรต ด้านหลังมีกระบี่สองด้าม
“ท่านนักพรตฝีมือดีจริงๆ
“น้องชายรู้จักท่านนักพรตชิงชิวเหรอ” หวางลัวปิงถาม
เฉินเฟิงพยักหน้า แต่การมาถึงของชิงชิวไม่ได้เปลี่ยนแปลง การประลองของพวกเขา
“ของๆคุณท่านหวังผมเอามาด้วย ไม่ทราบว่าหินชิงสือนั้นวาง
อยู่ที่ไหน”
รอจนเฉินเฟิงพูดจบ หวางลั่วปิงตบมือ ชายสามสี่คนก็ยกลัง
เข้ามา
“น้องชายพิสูจน์ของได้ แล้ว (เต้าเจินเจีย) เล่มนั้น? ” เฉินเฟิงไม่ลังเล ควักคัมภีร์ขอบเย็นด้ายออกมาจากแขนเสื้อ กว้าง
“เล่มนี้แหละ”
เขาวางไว้ในมือ หวางลั่วปิงรู้สึกโลภอยากฉกไป ดีที่เฉินเฟิง ว่องไว ถอยหลัง ยิ้มพูด
“คุณท่านหวังอย่าเพิ่งรีบร้อนไป รอให้ชนะก่อนท่านก็จะได้ ( เต๋าเงินเจีย) ไป”
หวางลั่วปิงลบหัวล้านของตัวเอง ฝืนยิ้ม
“เป็นธรรมดา”
ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นของดวลกันแล้ว จากนั้นการประลองเริ่ม ขึ้น
“คุณชายเฉิน แม้ว่าจะท้าดวล แต่ไม่ใช่การดวลตาย ดังนั้น ต้องมีเส้นหยุด ในสนามประลอง ขอเพียงแค่ใครมือเท้าลงพื้น ก่อน หรือถูกออกจากเส้น ถือว่าแพ้การประลอง เห็นว่าเป็นไง
ชายอ้วนพูดกับเฉินเฟิง เฉินเฟิงรู้สึกไม่มีปัญหา ได้แต่พยัก หน้า
ในตอนที่เฉินเฟิงเตรียมจะเดินไปสนาม ชิงชิวพูดกับเฉินเฟิง
ค่าหนึ่ง
“นักพรต โปรดออมมือ”
พูดจบ แม้แต่เฉินเฟิงยังรู้สึกแปลกๆ นี่ยังไม่ทันประลอง ก็ขอ ให้ออมมือแล้ว หรือเขาเห็นว่าหวางทั่วถึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ หรือว่าพูด อะไรกับฝ่ายตรงข้าม
แต่ว่าเฉินเฟิงไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามอ่อนข นาดนี้ เขาอาจจะพิจารณาออมมือ
จากนั้น สนามใหญ่ทรงวงรีก็เหลือเพียงเฉินเฟิงกับหวางลั่วปิงสองคน
สองคนก้าวเท้าเจ็ดแปดเก้า ต่างมองซึ่งกันและกัน แม้ว่าต่าง คนต่างไม่มีการเคลื่อนไหว แต่ต่างก็เริ่มเตรียมตัว รอเพียงเสียง นกหวีด พวกเขาก็แย่งกันขึ้น
จากนั้นสิ้นเสียงนกหวีด เงาสองคนจึงขยับ
ทั้งคู่ต่างออกหมัดมวย ดังนั้นจึงไม่ต้องพูดถึงอาวุธเลย แต่ ความว่องไว ความเร็วฝีเท้า มีแต่ชิงชิวเท่านั้นที่รู้จังหวะ คนอื่นๆ แค่ยืนดูครื้นเครงเท่านั้น
สองคนชนกัน ปะทะกันไม่กี่ทีแต่สองฝ่ายกำลังพอๆกัน เฉินเฟิงแค่ลองดู ส่วนหวางลั่วปิงเองก็ลองเหมือนกัน ทั้งคู่ต่าง กำลังจับจุดฝ่ายตรงข้าม
พลังทั้งสองฝ่ายถึงจุดหัวจึงขั้นสูงสุด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ ต่างฝ่ายต่างกดกำลังกัน ดังนั้นการพุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนจึงเป็นสิ่ง สำคัญที่สุด
และก็เป็นการปูพื้นฐานชัยชนะ
ตอนนี้เองเฉินเฟิงถีบหวางถั่ววิ่งออกไปหน้าประตู หวางลั่วปิง เองก็แลกหมัดกลับโดยเร็ว
กระบวนท่าเดียวลงพื้น หวางทั่วถึงคว้าข้อเท้าเขา อีกมือจะ ขยุ้มหัวใจ
นี่เป็นท่าไม้ตาย
เงินเฟิงอาศัยกำลังหวางลิ่วชิงพุ่งขึ้นฟ้า ทำให้ท่าไม้ตายเขา ว่างเปล่า
แต่ท่าไม้ตายฝ่ายตรงข้ามดุเดือดมาก ได้คิดที่จะสังหารเขา
แล้ว
แน่นอนว่าเงินเฟิงย่อมกันไว้ไม่ได้ เขาเพิ่มความเร็วของตัวเอง เห็นทั้งคู่ออกมือ ความเร็วจึงเห็นไม่ชัด
ชิงชิวที่อยู่ขมวดคิ้ว เขาเห็นกระบวนท่าค่อยๆเริ่มห่างไปจาก ตอนเริ่มต้น
“มีฝีมือจริงๆ ข้าไม่ได้ประลองสนุกแบบนี้มานานแล้ว หวางลั่วปิงถอยหลังสองก้าว เครายาวที่พันเป็นปมพริ้วไหว เฉินเฟิงก็อยากแสดงลีลาบ้าง เลยไม่ยอมตามไป
กระบวนท่าไม่กี่นาทีอยู่ชั่วพริบตาเดียว
ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริง ต่างแค่ลอง ดู แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็ดุดันมากแล้ว ไม่มีใครยอมใคร
“เอาอีก! ”
พอสูดลมหายใจลึก หวางลั่วปิงก็ระเบิดเสียง แล้วพุ่งเข้ามา ไม่เหมือนการประลองเมื่อครู่ ทั้งสองคนจะประลองจริงจังแล้ว หมัดที่พุ่งเข้ามาราวกับหนักเป็นต้น
นี่คือพลังของระดับหิ้วจิ้ง แต่หัวจิ้งที่แท้จริงไม่มีการพิสูจน์ กระบวนท่าแล้ว สำหรับกระบวนท่า ในชุดหัว ไม่มีใครที่สามารถจะสัมผัสกับหมัดได้อย่างแท้จริง
เมื่อผ่านการหลี่เลี่ยง อาศัยพลังมาประกาศศักดาก้องโลก ระดับนี้ การล่มสลายสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด ดังนั้นเฉินเฟิงจึงหลบไปได้ง่าย
วิชาของเขาจริงๆแล้วเข้าใกล้ปรมาจารย์ไปทุกที และก็เป็นไป ตามที่เขาเข้าใจ
ดังนั้นตอนที่ประจันหน้ากับหวางทั่วถึง ไม่ว่าหมัดฝ่ายตรงข้าม
จะแรงแค่ไหน ดุเดือดแค่ไหน เขาก็หลบไปได้โดยง่าย
การสัมผัสคราวนี้ ทั้งคู่สู้กันไปนาน หลังจากปะทะกันแล้ว ก็ เห็นความต่างได้ชัด
อย่างน้อยหวางลั่วปิงตอนนี้ก็สามารถทะลุการป้องกันของ
เฉินเฟิง
รอจนเฉินเฟิงเป็นฝ่ายจู่โจมบ้าง เขาก็เกิดแรงกดดัน
ในตอนที่เฉินเฟิงจะได้ชัยชนะ จู่ๆหวางทั่วปิงก็ใช้กระบวนท่า เจ้าเล่ห์ขึ้นมา
ความดุเดือดเมื่อครู่หายไป
การเปลี่ยนกะทันหันทำให้เงินเฟิงตกตะลึงพลัน
นี่ไม่สมเหตุสมผล อย่างไรเสียคนฝึกวิทยายุทธ์ไม่มีทาง เปลี่ยนง่ายๆแน่
ดังนั้นการตกตะลึงชั่วครู่ แขนเสื้อเขาก็ถูกหวางลั่วปิงฉีกขาด แล้วชวนไปถึงเนื้อ เผยให้เห็นปากแผล
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ