ลูกเขยมังกร

บทที่ 757 สร้างวิทยายุทธ์



บทที่ 757 สร้างวิทยายุทธ์

การสร้างวิทยายุทธ์ต้องเข้าใจกระบวนท่าโจมตีและกระบวนท่า ป้องกันอย่างถ่องแท้ แบบนี้จะสามารถหาช่องทางสร้างวิทยา ยุทธ์ขึ้นมา ดังนั้นจากบางจุดความรู้เรื่องวิทยายุทธ์ก็ถือว่าสำคัญ มาก

“โยมจีพูดมีเหตุผล การสร้างวิทยายุทธ์เฉพาะตัวเป็นเรื่องที่ ยากลำบากมาก ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ที่ฉลาดมีพรสวรรค์มากแค่ ไหนก็ต้องใช้ทั้งเวลาและสมองอย่างมาก!

หลังจากเงียบไปนาน ท่านอาจารย์ฟางเจิ้งพูดขึ้น

“งั้นการแข่งครั้งนี้เฉินเฟิงจะเอาชนะอาเธอร์ได้ไหมล่ะ? แล้ว ถ้าเฉินเฟิงคิดกระบวนท่าที่สามไม่ได้ เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะเอาชนะ อาเธอร์ได้จะมีมากแค่ไหน?”

จียนคิ้วขมวด ถามคำถามที่สงสัยออกมา เขากลัวเฉินเพิ่งจะ แพ้ และยิ่งไม่อยากให้เฉินเฟิงแพ้ให้กับอาเธอร์แห่งคูเรียด้วย

การมาร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่วาติกัน ครั้งนี้ พวกเขา สี่คนมาในฐานะตัวแทนประเทศจีน ตอนนี้เหลือแค่เฉินเฟิงคน เดียวแล้ว จียุ่นแพ้ไปนานแล้ว ศีลสามเจ็บหนักปางตาย เทียนอิง ขาขาดไปข้างหนึ่ง

เรียกได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ตอนนี้ความหวังทั้งหมดไป รวมอยู่ที่เฉินเฟิง ถ้าเฉินเพิ่งแพ้ขึ้นมาล่ะก็ เท่ากับว่า ประเทศจีนแพ้หมดเลย

ที่จริงที่จียุ่นกังวลมากที่สุดไม่ใช่ชื่อเสียงแต่เป็นความ ปลอดภัยของเฉินเฟิง ถ้าเงินเฟิงแพ้การแข่งขัน มันเป็นไปได้ มากว่าจะเสียชีวิตด้วย หรืออาจจะพูดได้เลยว่าตายแน่ นี่ต่าง หากปัญหาที่ทุกคนกังวลกันอยู่ตอนนี้

พอจีนพูดออกมา สายตาทุกคนหันไปมองอู่จื่อโจวโดยพร้อม เพรียง อู่จื่อโจวเป็นผู้อาวุโสของสหพันธ์บูโด ฝีมือแกร่งกว่าทุก คนในที่นี้ด้วย

“อืม น่าจะประมาณสามสิบเปอร์เซ็นต์

อู่จื่อโจวลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา

“สามสิบเปอร์เซ็นต์? ผมว่าเป็นเพราะท่านเห็นประสบการณ์ การต่อสู้ที่โชกโชนของเฉินเฟิงล่ะสิ!”

พออู่จื่อ โจวพูดจบ เสียงฉางก็พูดขึ้นเศร้าๆว่า “เวลาจอม ยุทธ์ปะทะกัน ถ้าฝีมือทั้งคู่สูสีกัน ประสบการณ์การต่อสู้ถือว่า สำคัญมาก พูดได้ว่าสามารถเป็นตัวแปรในการตัดสินผลแพ้ชนะ ได้เลย แต่ถ้าฝีมือห่างกันมาก ก็มีประโยชน์ไม่มาก เหมือนตอน เฉินเฟิงสู้กับจั่วจู้ของญี่ปุ่น ถึงจะบอกอีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากยา ยืน แต่เฉินเฟิงตอนนั้นไม่เก่งเลย ผมนึกว่าเขาน่าจะมีเปอร์เซ็นต์ ชนะแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นี่ยังเป็นแค่การป้องกันด้วยนะ!”

พอได้ยินคำพูดของอู่จื่อโจว ทุกคนพากันถอนหายใจเป็น ทอดๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ตอนนี้คงได้แต่ให้เฉินเฟิงจัดการเอา เองแล้วล่ะ
“การแข่งขันรอบนี้ดูไม่เป็นผลดีนัก โอกาสที่เฉินเพิ่งจะแพ้สูง มาก เฉินเฟิงเองก็คงรู้ถึงจุดนี้เหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่เข้าฌาน แต่ ว่าจะสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ได้ไหม นี่ก็ยังไม่รู้เลย!!

ซาง โป๊ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดความคิดเห็นที่มีต่อการ แข่งขันออกมา

“อามิตตาพุทธ ขอให้พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองเฉินเฟิงให้ แคล้วคลาดด้วยเถิด!!

ท่านอาวุโสฟางเจิ้งประนมมือทั้งสอง สวดมนต์ภาวนาให้ เฉินเฟิง

“เฮ้อ เพื่อนเอ้ย นายต้องไม่เป็นไรนะ ถ้านายเป็นอะไรไปแล้ว ฉันจะทํายังไงล่ะ!”

ศีลสามสีหน้าเคร่งเครียดและกังวล หลังจากเขาโดนหงหย ทําร้ายอาการสาหัส เฉินเพิ่งออกหน้าให้เขา จัดการหงหยซะ พิการเลย น้ำใจครั้งนี้เขาจำไว้ในใจเสมอมา

ศีลสามสนิทกับเฉินเฟิงดีมาตลอด เฉินเฟิงสามารถบุกน้ำลุย ไฟเพื่อศีลสามได้ แต่ตอนนี้ศีลสามกลับช่วยอะไรเฉินเฟิงไม่ได้ เลย ทำให้เขาไม่สบายใจมาก

ศีลสามลองคิดดูว่า ถ้าเฉินเฟิงไม่ได้ช่วยแก้แค้นให้เขา จะ สามารถรอดพ้นอันตรายครั้งนี้ไหม น่าเสียดายที่มันเป็นแค่ความ คิด เพราะโลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า

“สารเลว อาเธอร์แห่งดูเรียเด็กหาอะไร จู่ๆก็ประกาศจะฆ่าเฉินเฟิง งั้นต่อแพ้การแข่งก็ไม่ไรหรอก!จีฮุนเองเก็บ อารมณ์อยู่โพล่งคารั่ว ในสายเขา อาเธอร์ถือว่าเป็นถิ่น ตัวเองเลยพูดกดดันอื่น

เทียนอิงเอาแต่เงียบ ไม่ยอมพูดอะไร เพียงแต่เขากำหมัดสายส่อแววกังวลนายปลอดรอดพ้นอันตรายครั้งนะ นายไม่ได้เลย”

ทุกคนกันนะ ผมไปรับคนสนามบิน!

อู่จื่อ ห้อง ครึ่งต่อมา อู่

โรม

เวลาค่อยไหลไป ผ่านไปอีกสิบนาที คนหนึ่งทำสงครามรุ่นเก่านั่งรถเข็นค่อยๆออกจากช่องเย่หนานเทียนนั่นเอง

การปรากฏตัวของเขาดึงดูดสายตาคนข้าง เจ้าหน้าที่

สนามบินรวมถึงผู้คนจิตใจเทียน แต่โดนเย่หนานเทียนปฏิเสธหมด ในนายมา ว่านายมีเสน่ห์ขนาดนี้ ต่อให้เป็น

แพนด้าถึงขนาดนี้เลยนะ อู่จื่อโจวหัวเราะกระเช้าก่อนหนึ่งประโยค และต่อ“เฉินเฟิงศิษย์น้องนายเมื่อวานพึ่งเข้าฌาน จนถึงตอนนี้ยังไม่ออก มาเลย นายจะไปดูหน่อยไหม

เย่หนานเทียนกลอกสายตาไปมา ครุ่นคิดครู่หนึ่งถึงพูด ว่า “ไม่ต้องหรอก ให้เขาเข้าฌานฝึกยุทธไปแหละ และขอร้องให้ พวกอาวุโสไม่ต้องรบกวนเขาด้วย และอย่าให้เขารู้ว่าผมมา

“อืม ได้!”

อู่จื่อโจวพยักหน้า ไม่คัดค้านอะไร จากนั้นก็เดินมาข้างเย หนานเทียนช่วยเอาเป้เขามาแบกเอง

“เป้อันนี้ทำไมมันดูคุ้นๆ ของสหพันธ์โดใช่ไหม?” อู่จื่อ โจวคิดๆดู ก่อนจะถามสิ่งที่สงสัยออกมา

“อืม ใช่!”

เย่หนานเทียนตอบรับยิ้มๆ

“ถ้านายมาเร็วกว่านี้ก็ดีนะ แบบนั้นนายจะได้เห็นชัยชนะของ เฉินเฟิงที่ซัดพวกเย่อหยิ่งไปหลายนัด แถมยังกลายเป็นคนที่ ภูมิใจที่สุดบนสนามแข่งอันสว่างไสวนั่นด้วย!

อู่จื่อโจวสะพายเป้ให้ตัวเอง และเข็นรถเข็นเยี่หนาน เทียน พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้เขาฟังด้วย

ทั้งคู่ออกไปจากสนามบิน อู่จื่อ โจวอุ้มเย่หนานเทียนขึ้นรถ จาก

นั้นเก็บรถเข็นเข้าท้ายรถ

“เมื่อก่อนเฉินเฟิงเป็นความภูมิใจของผม ตอนนี้ก็ด้วย และเป็นมาโดยตลอด!

สายตาเย่หนานเทียนจับจ้องมองไปที่แสนไกล ไม่รู้ว่ากำลังคิด

อะไรอยู่ *สําหรับการแข่งของเฉินเฟิงกับอาเธอร์ นายคิดว่าไง!!

อู่จื่อ โจวลังเลนิดหน่อย และถามสิ่งที่สงสัยออกมา

“อาเธอร์เป็นหัวหน้าองครักษ์แห่งคูเรีย อายุยังน้อยก็ขึ้นมาถึง ตำแหน่งนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพระสันตะปาปา ให้ความสำคัญ กับเขา อีกส่วนเพราะเห็นฝีมือแกร่งมากของเขา การแข่งครั้ง ก่อนผมก็พอเข้าใจบ้าง ครั้งนี้ท่าจะลำบากหน่อย!

เย่หนานเทียนคิ้วขมวด พลางพูดต่อ: “ผมรู้จักฝีมือเฉินเฟิง การแข่งครั้งนี้ไม่รู้ว่าเฉินเพิ่งจะพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นไปอีกระดับ เพื่อผ่านศึกครั้งนี้ไปได้ไหม!

“นายกลัวเขาจะถูกฆ่าหรอ?” อู่จื่อโจวถอนหายใจยาวก่อนพูด

“ไม่กลัวได้หรอ!”

เย่หนานเทียนยิ้มเศร้า “ถึงจะบอกว่ากลัว แต่ผมก็หวังว่า เฉินเฟิงจะเซอร์ไพร์สพวกเรา และทำเรื่องที่ทุกคนตกตะลึงออก มา ผมยิ่งหวังว่าเขาจะสามารถเอาชนะอาเธอร์หัวหน้าองครักษ์ เรียไปได้!”

“อืม!”
อู่จื่อ โจวแอบพยักหน้าพลางมองไปด้านนอกด้วยสีหน้า ครุ่นคิด

ที่โรงแรมเฉินเฟิงนั่งขัดสมาธิ ไม่รู้เรื่องอะไรภายนอ ยนอกเลย เขา ในตอนนี้หมกมุ่นอยู่ในศิลปะการต่อสู้ทุ่มเททั้งกายใจศึกษา กระบวนท่า เพื่อรับมือการแข่งที่กำลังจะมาถึง

สมองของเฉินเฟิงครุ่นคิดถึงกระบวนท่าฟันเทพเจ้าแห่ง สงครามของอาเธอร์ไม่หยุด ตั้งแต่อาเธอร์ออกท่าจัดการอาวุธ ลับรัสเซียในเสี้ยววินาที เฉินเฟิงเก็บรายละเอียดท่วงท่าทั้งหมด ไว้ในสายตา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ