ลูกเขยมังกร

บทที่ 634 ตระกูลจิ่งที่ยิ่งใหญ่



บทที่ 634 ตระกูลจิ่งที่ยิ่งใหญ่

เปียนตู้ไท่อีได้ฟังจึงลุกขึ้น เขาโค้งทำความเคารพทุกคนในที่ ประชุมเป็นอันดับแรก จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม : “จาก ข้อมูลที่ผมได้มา ตระกูลซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ซ่อนตัวเอาของ ศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ สืบทอดกันมายาวนานกว่าพันปี แม้ว่าตระกูลจึงจะไม่ได้มีลูกศิษย์มากมายเหมือนหวาเซี่ยเส้า หลินและสำนักอู่ตั้ง แต่ความลับของหมัดหยินหยางที่ไม่มีการ สืบทอดนั้นกลับน่ากลัวมาก เคยแสดงแสนยานุภาพในบูโดหวา เซียโบราณ อาศัยแค่วรยุทธ์นี้ ยอดฝีมือของตระกูลจิ้ง ในหนึ่ง พันปี ตระกูลนี้น่าจะมีมหาปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ประมาณสาม คนแล้ว!

“ครั้งหนึ่ง คนที่แข็งแกร่งที่สุดในทุกยุคทุกสมัยของบูโดแทบ จะเป็นคนของตระกูลนี้ แม้แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีข้อยกเว้น หัวหน้า ตระกูลจึงคนปัจจุบันจึงหยุนเฟิงต้องเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโด คนต่อไปของหวาเซียอย่างแน่นอน!

“ซี๊ด”

หลังจากฟังคำพูดของเปียนไม่จนจบ คนในที่ประชุม จำนวนไม่น้อยต่างสูดลมหายใจเข้า

หนึ่งพันปีที่ผ่านมา ตระกูลจึงมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดถึง สามคน!

นี่มันแนวความคิดอะไรกัน?
สำหรับความตื่นตกใจของทุกคน เปียนไทไม่ได้แปลกใจ เขากวาดตามองทุกคนหนึ่งรอบ แล้วพูดต่อ : สำหรับวิ่งเถิงซึ่ง เป็นผู้สืบทอดตระกูลจึงคนปัจจุบัน แม้ว่าผมจะไม่เคยเจอมาก่อน และไม่รู้ว่าความสามารถของเขาอยู่ในระดับไหน แต่ในเมื่อ ตระกูลจึงให้เขามาท้าประลองจัดการไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง แน่นอนว่าต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเขา อีกทั้ง ผมคิดว่า สาเหตุที่ จิ่งเถิงต้องการประลองกับไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง เป็นเพราะ ตระกูลจึงต้องการประกาศให้บูโดทั่วโลกรู้ว่าตระกูลจึงกลับมา แล้ว!

เปียนตู้ จากที่นายพูด การต่อสู้กันในครั้งนี้ จึงเถิงผู้สืบทอด ตระกูลจึงสามารถฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงได้แน่นอน?” หนึ่ง ในผู้อาวุโสของเงินอิ่นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

“ผมคิดว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน ไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิง สามารถฆ่าท่านใหญ่เทียนจ้าวและท่านกงปั่นได้เป็นเพราะมันใช้ อาวุธ ความสามารถที่แท้จริงของมัน ต้องไม่สามารถเทียบ เท่ากับอัจฉริยะที่ตระกูลจึงฝึกสอนมาเป็นอย่างดีแน่นอน! “เปีย นทอีพูดเสียงเย็นยะเยือก

” ในเมื่อเป็นแบบนี้ แผนการของพวกเราสามารถยกเลิกได้ แล้ว” ผู้อาวุโสอีกคนของเงินอื่นพูดขึ้น เดิมทีก่อนหน้านี้พวกเขา ได้วางแผนเอาไว้ส่งนินจาชั้นสูงสามคนไปหวาเซียเพื่อฆ่า เฉินเฟิง!

ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ แผนการนี้สามารถยกเลิกได้แล้ว
“ยกเลิกแผนการ? ผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่” อย่าง รวดเร็ว ก็มีคนไม่เห็นด้วย

“ถึงแม้ผมจะเชื่อในสิ่งที่เปียนตู้พูด แต่ไอ้สัตว์เดรัจฉาน เฉินเฟิงชั่วร้ายมาก มันทำเรื่องที่ทุกคนไม่คาดฝันมาหลายต่อ หลายครั้ง เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ผมคิดว่าไม่ควรยกเลิก แผนการ เพียงแค่ชะลอไว้ก่อนก็พอ”

คนที่ไม่เห็นด้วยคือหัวหน้าคนใหม่ของสำนักขวัญนินจา กงปั่น ซานนี หลานชายของกงปั่นบ้านฉาง คือหนึ่งในคนที่อยากเห็น เฉินเฟิงตายที่สุด และเป็นคนที่กลัวเฉินเฟิงที่สุด

เขากลัวว่าถ้าวันไหนเฉินเฟิงเกิดโมโหขึ้นมาแล้วออกจาก ประเทศ มาถึงประเทศญี่ปุ่น ฆ่าทำลายเชื้อสายสุดท้ายของ ครอบครัวกงปุน

“ซาน พูดถูก แผนการชะลอเอาไว้ก่อน รอดูผลการประลอง ในครั้งนี้” เป่ยจายเจ้าเอ๋อซึ่งเป็นผู้ดูแลเงินอื่นได้ฟัง จึงครุ่นคิด อยู่ครู่หนึ่ง แล้วตัดสินใจแบบนี้

“เปียจายเท้าเอ้อ ความเป็นจริงไม่จำเป็นเลย”

เปียนไทอีสายหน้า พูด : “พวกนายไม่รู้จักตระกูลจิ้ง ไม่ สามารถคิดจินตนาการถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลจิ่ง และไม่รู้ ว่าบูโดของตระกูลจึงในหวาเซียมีนัยยังไง คอยดูเถอะ การต่อสู้ กันในครั้งนี้ ผู้แข็งแกร่งทั่วทั้งโดของหวาเซียต้องไปดูอย่าง แน่นอน ส่วนไอ้สัตว์เดรัจฉานเฉินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้อง สงสัย!
“ทางที่ดีที่สุดขอให้เป็นแบบนี้”

นอกจากเงินถิ่นที่อยู่ไกลออกไปในญี่ปุ่นให้ความสนใจเกี่ยว กับเฉินเฟิงแล้ว เวลานี้ ซึ่งถือที่อยู่ในจงไพ่ซึ่งตั้งอยู่ในหวาเซีย เป็นกังวลเรื่องนี้มาก

“คุณปู่โจว หนูได้ยินข่าวมาว่า ผู้สืบทอดตระกูลจึงคนปัจจุบัน ส่งหนังสือท้าประลองไปให้เฉินเฟิง คุณรู้เรื่องนี้ไหมคะ?” ฉู่ ซึ่งถือถามชายชราไปตามตรง ชายชราคนนี้ชื่อว่า โจวเชิง เป็น หัวจิ้งจอมยุทธ์ที่มีไม่มากของตระกูล

“ปู่รู้เรื่องนี้แล้ว” โจวอู่เชิงพยักหน้า สีหน้าของเขาดูเป็น เคร่งขรึม

“คุณปู่โจว คุณรู้จักตระกูลจึงไหม? การต่อสู้ของเฉินเฟิงใน

ครั้งนี้จะเป็นอันตรายรึเปล่า?” ซึ่งถือถามด้วยความกังวล

โจวเชิงปรายตามอง ซึ่งฉือ ถอนหายใจแล้วพูด : “ตระกูล จึงคือหนึ่งในตระกูลบูโดหวาเซียที่ซ่อนตัวเอาไว้ของศิลปะการ ต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ มีการสืบทอดกันมานาน ชื่อเสียงโด่งดัง ตั้งแต่อดีตหัวหน้าตระกูลจึงล้วนเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุด ของบูโดหวาเซีย ในทางเดียวกัน ในอดีตที่ผ่านมาผู้สืบทอด ตระกูลจิ่งล้วนเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของบูโดหวา เชี่ย

“ถ้าหากเป็นผู้สืบทอดที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเส้าหลิน สำนักอู่ยังเหล่านี้มาท้าประลองกับเฉินเฟิง เฉินเฟิงไม่มีวันเป็นอันตราย แต่เขาได้เจอกับผู้สืบทอดตรงะกูลจึงจึงยากที่จะพูด ตระกูลจึงไม่ยุ่งกับทางโลกมานานแล้ว วันนี้เข้ามายุ่งทางโลก โดยใช้จึงเถิงประกาศท้าประลองกับเฉินเฟิง แสดงว่ามีความ มั่นใจที่จะเอาชนะเงินเฟิงได้! มีโอกาสเป็นไปได้ว่าเขาบรรลุหัว จิ้งชั้นต้นแล้ว”

“แบบนี้หรอคะ”

คิ้วของฉ่งฉือขมวดเป็นปม ภายในใจเต็มไปด้วยความกังวล เธอรู้เหตุผลแล้วว่าทำไมผู้สืบทอดตระกูลจึงถึงต้องการทํา ประลองกับเฉินเฟิง แล้วจากที่เธอรู้จักเฉินเฟิง เธอคิดว่าเงินเฟิง ต้องรับคําท้าแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์

เวลานี้ เธอรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าตอนที่รู้ว่าเฉินเพิ่งจะไปช่วย หลินหวั่นชีวที่ประเทศญี่ปุ่นเสียอีก

เพราะว่า….ตอนที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น เฉินเฟิงไม่จำเป็นต้อง สนใจกฎระเบียบ ใช้อาวุธในปัจจุบันในการสู้ได้ แต่ครั้งนี้ เฉินเฟิงทำได้เพียงสู้มือเปล่า สู้กันด้วยวรยุทธ์ที่แท้

จริง

เดิมที เธอคิดว่าจึงเถิงไม่กล้าท้าประลองกับเฉินเฟิงแน่นอน หลังจากรู้เรื่องที่เฉินเฟิงทำให้ทุกคนตื่นตกใจ

แต่วันนี้ จึงเถิงกลับท้าประลองแล้ว

ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า จึงเถิงมั่นใจว่าตนเองจะชนะ!

“คุณปู่โจวคะ พวกเราคิดหาวิธีหยุดการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ไหมคะ?” ซึ่งฉืออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น

โจวเชิงส่ายหน้า: ไม่สามารถหยุดได้ ทางด้านจึงเถิงได้

ตัดสินใจอย่างชัดเจนแล้ว ส่วนทางด้านเงินเฟิง…..นอกจาก หลานจะสามารถเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขารับคำท้า

“เกลี้ยกล่อมไม่ให้เขารับคำท้า?” ซึ่งถือซะงัก เธอรู้จักนิสัย ของเฉินเฟิงเป็นอย่างดี เรื่องแบบนี้ เฉินเฟิงไม่มีวันถอยแน่นอน อยากจะเกลี้ยกล่อมเงินเฟิงไม่ให้รับคำท้า คงยากกว่าขึ้น สวรรค์

“หนูจะไปหาเฉินเฟิง ไม่ว่ายังไง หนูก็จะลองดู” ซึ่งฉือตัดสิน ใจอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เฉินเฟิงไม่ รับคําท้า เธอก็จะอยู่เคียงข้างเฉินเฟิงแล้วช่วงเวลาที่ยากลำบาก นี้ไปให้ได้

ขณะที่ซึ่งถือกำลังรีบไปยันเจียง หมู่เหวินเซียนและหวังเฉีย นก็เดินทางออกมาจากมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่ มาถึงยันเจียง ตอนที่มาถึงยันเจียง สิ่งแรกที่พวกเธอทำก็คือโทรหาเงินเฟิง จากนั้น พวกเขากลับพบว่า คนที่รับสายคือหมู่เหวินโป๊ หลังจากได้ยินเสียงหวู่เหวินโป๊ หมู่เหวินเซียนจึงถามออกไป ตามตรง “เฉินเฟิงละ? ทำไมเขาไม่รับโทรศัพท์?”

“พี่ พี่เฟิงเก็บตัวถือศีลแล้ว” หวู่เหวินโป๊ยิ้มเศร้า

หวี่เหวินเชี่ยนซะงัก “เก็บตัวถือศีลแล้ว? นี่มันเกิดอะไรขึ้น?เขาเก็บตัวถือศีลเวลานี้?”

“ฉันจะรู้ได้ยังไง เมื่อหลายวันก่อนหลังจากที่เฉินเฟิงส่งองค์

หญิงแอนนี่แล้ว เขาก็ยังตัวเองอยู่ในห้อง บอกว่าจู่ๆก็มีความ รู้สึกอะไรบางอย่าง ก็เลยเก็บตัวถือศีลไม่กี่วัน

“ก่อนจะเก็บตัวถือศีล เขาเอาโทรศัพท์มาให้ฉัน บอกว่าถ้ามี ธุระเร่งด่วนและเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นสามารถไปหาเขาได้”

“ฉันกำลังคิดอยู่ ควรจะบอกเรื่องที่จึงเถิงส่งหนังสือท้า ประลองให้เฉินเฟิงไหม?” หวู่เหวินโป๊พูด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ