บทที่ 616 สํานึกผิด
วินาทีนี้เขาลืมไปแล้วว่าหลังจากที่เขาแข่งชนะหมู่เหวินโป๊เขา บ้าระห่ำขนาดนั้น ถึงกับเร่งให้หวี่เหวินโปทำตามที่พนันกันไว้
วินาทีนี้เขายิ่งลืมไปแล้วว่าตอนที่เขาเผชิญหน้ากับเฉินเฟิงเขา
นั้นทำตัวสูงส่งขนาดไหน!
วินาทีนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความกลัว กลัวที่ต้องเผชิญหน้า กับความตาย!
ชั่วอึดใจต่อมา ขณะที่ใบหน้าของหลียงซึ่งเต็มไปด้วยความ กลัว ไม่เส็งก็ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก่อนจะย่อตัวลงใช้มือ แทนมีดแล้วฟันคอหลี่ตงท่ามกลางสายตาของคนดู
“กรอบ–”
เสียงกร๊อบดังขึ้นครั้งหนึ่ง คอของหลี่ยงชิงหักในพริบตาก่อนที่ ร่างทั้งร่างจะล้มลงกับพื้น ร่างกายชักเกร็งอย่างรุนแรง เลือดสี แดงสดพุ่งออกมาจากปาก
สักพักร่างกายของเขาก็หยุดกระตุก ศีรษะหักงอแล้วสิ้นลม
หายใจ
“ซี้ด~”
เมื่อเห็นภาพนี้ พวกนักแข่งรถของกาวก็ตกใจจนสีหน้าเปลี่ยนพลางพากันสูดปาก สีหน้าปกคลุมไปด้วยความกลัว
ส่วนผู้ซางจวนตัวแข็งค้างยืนมองศพของหลวงชิงอยู่ที่เดิม
ก่อนที่จะมาหวาเซีย เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้หลายทาง ทว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลวงชิงจะตาย อีกทั้งยังตายคามือของ บอดี้การ์ดตัวเอง แถมยังเป็นคำสั่งจากพ่อแท้ๆของตัวเอง
หากเขาไม่ได้ยินเสียงหายใจ จากความกลัวของนักแข่งรถ กาวลีที่อยู่ข้างๆ หากเขาไม่เห็นสภาพการณ์ตายอย่างอนาถของ หลวงชิง เขาคงสงสัยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้านี้ เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น!
ภาพลวงตาหรือ?
“ต่อได้”
ในขณะที่ผูชางจวิ้นไม่เชื่อและไม่สามารถยอมรับเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นตรงหน้าได้จนคิดว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น เฉินเฟิงก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง
เขาพูดเพียงแค่สองคำ เสียงไม่ดังนักทว่ากังวานราวกับ ฟ้าร้องจนสามารถสั่นคลอนจิตใจของทุกคน
พูดแล้วต้องทำให้ได้
เขาไม่เคยเมตตาต่อศัตรู
ต่อได้
คำพูดสั้นๆเพียงสองคำทว่าราวกับมีเวทมนตร์ ชั่วพริบตาก็ทำให้ผูชางจนหลุดออกจากภวังค์ รวมถึงทำให้ความกลัวบน ใบหน้าของพวกนักแข่งรถกาวหนักมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น คือทําให้นักแข่งรถหวาเซียและคนดูที่อยู่ในสนามตื่นเต้นจนลืม หายใจ
“คุณเฉิน เรื่องต่อจากนี้ไม่ทำได้ไหม?
ขณะนั้นเอง เหวินจีที่อยู่ในวิดีโอก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง เขารู้ถึง ผลลัพธ์ของเรื่องนี้ทว่าก็อยากลองพยายามเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน” เฉินเฟิงเอ่ยเป็นนัยด้วยสีหน้าได้ อารมณ์
เหวินจีพูดไม่ออก สีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ก่อนจะ ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด “ไม่ได้เรื่อง ยังยืนซื้ออยู่ทำไม? ยังไม่ รีบพาคนไปขอโทษคุณเฉินอีก?”
“คุณพ่อ……
ผู้ชางจนมองหน้าเหวินผ่านวิดีโอด้วยสีหน้าใกล้ร้องไห้ เต็มที่ เขาไม่เต็มใจที่จะพานักแข่งรถกาวที่อยู่ข้างกายไปขอ โทษเฉินเฟิงเลยสักนิด
ยิ่งไปกว่านั้นตามที่เฉินเฟิงบอก พวกเขาจะต้องคุกเข่ากับพื้น แล้วก้มหัวชิดพื้นเพื่อขอโทษ
“หากแกยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อล่ะก็ ทำตามที่ฉันบอกซะ!”
เหวินจีตัดบท บางจนอย่างไร้เยื่อใย “หากแกอยากตายก็ กดวางสายวิดีโอคอลนี้ได้เลย!
“คุณชาย ทําตามที่นายท่านบอกเถอะครับ
เมื่อได้ยินคำสั่งของผู้เหวินจี ยูซางจานยังนิ่งอยู่ทว่าไม่เสิ่งที่ อยู่ข้างๆกลับเอ่ยปากขึ้น
ท่าที่ดุดันของเฉินเพิ่งทำให้เขารู้สึกกลัว ขณะเดียวกันก็ทำให้ เขาเชื่อว่าหากผู้เหวินจนไม่ทำตามที่ผู้เหวินจีบอก ทำจนกว่า เฉินเฟิงจะพอใจ ก็ไม่อาจมีชีวิตเดินออกไปจากหวาเซียได้ แน่นอน!
“ใช่ครับคุณชาย อย่าเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นเลย” ขณะนั้น เองบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งก็หยัดตัวขึ้นเดินมาหยุดอยู่ข้างผู้ชางจ นพลางเอ่ยกล่อม
เขาดูจากท่าทีแล้วหากผูชางจนไม่ก้มหัวรับผิด ไม่เพียงปลิด ชีวิตของผูชางจวู้เท่านั้น เขาและพวกก็จะโดนหางเลขไปด้วย
เพราะว่าหากเฉินเฟิงจะลงมือจัดการผูชางจวิ้น พวกเขาเข้าไป ห้ามก็ตาย พวกเขาไม่เข้าไปห้ามกลับไปก็ตายอยู่ดี หากผู้ชางจ วันตาย พวกเขาก็ต้องตายอยู่ดี
“ก็ได้”
ผู้ชางจานพยักหน้าอย่างอดสู จากนั้นก็กวาดสายตาไปหยุด อยู่ที่เฉินเฟิง คนที่เขาเคยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสุนัขตัวหนึ่งของหมู่ เหวินโป๊ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและไม่พอใจรวมถึงมีความกลัวแฝงอยู่ลึกๆ
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันไม่ขอโทษ!”
ขณะนั้นเองนักแข่งรถกาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างผู้ชางจานก็เอ่ย ปากขึ้น เขาเป็นถึงทายาทเศรษฐีท่านหนึ่งของกาว เขาไม่ยอม ก้มหัวยอมรับผิดให้เป็นความอัปยศแก่วงศ์ตระกูลเด็ดขาด
“ฉันก็ไม่ขอโทษ!
หลังจากที่นักแข่งรถกาวสี่คนนั้นเอ่ยปาก ก็มีนักแข่งรถกาวลี่ อีกหลายคนที่เอ่ยขึ้นมาเช่นกัน พวกเขาล้วนไม่ยอมรับความ อัปยศในครั้งนี้
“เสียใจด้วย ลูกชายคุณคงไม่มีชีวิตรอดกลับไปแล้วล่ะ” เมื่อได้ยินคำพูดของนักแข่งรถกาวเหล่านั้น เฉินเฟิงไม่ได้มี ท่าทีโมโหเพียงแค่เอ่ยกับผู้เหวินผ่านวิดีโอเท่านั้น
ผูเหวินจีโมโหจนสูดหายใจครั้งหนึ่งจากนั้นก็เอ่ยอย่างเกรี้ยว กราด “ผูไห่เส็ง!”
“ครับ ท่านประธาน!”
ผูไห่เส็งรับค้าอย่างรวดเร็ว
“ใครที่มันไม่ยอมขอโทษพร้อมกับเสี่ยวชวนก็ตัดขามันซะ!”
ผูเหวินจีใช้ไม้แข็ง ถึงแม้การทำแบบนี้จะทำให้มีคนไม่พอใจ ทว่าเรื่องมาจนถึงขั้นนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว
“ครับ!”
ดูไห่เส็งรับคำสั่งจากนั้นก็กวาดสายตามองนักแข่งรถการ พวกนั้นด้วยสายตาเย็นยะเยือก “ฉันขอเตือนว่าพวกแกอย่าทำ อะไรโง่ๆ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำตามที่นายท่านสั่ง ตัดขาพวกแกซะ จะได้ช่วยพวกแกคุกเข่าได้ง่ายขึ้น!
ขวบ!
เมื่อได้ยินคำพูดของทั้งผเหวินจีและตูไห่เส็งแล้ว นักแข่งรถ กาวลี่พวกที่ไม่ยอมทําตามก็สีหน้าเปลี่ยนทันที จากนั้นต่างก็เห็น ความกลัวจากใบหน้าของอีกฝ่าย
เพราะว่าพวกเขารู้ดีว่าคำพูดของผู้หวนคือคำสั่งสูงสุด สำหรับผูไห่เส็ง ผูไห่เส็งจะต้องทำตามอย่างไม่มีข้อแม้แน่นอน!
ถ้าเป็นอย่างนั้นสุดท้ายยังไงพวกเขาก็ต้องคุกเข่าแถมยังต้อง โดนตัดขา อีกทั้งเมื่อกลับถึงกาวแล้วก็ไม่มีทางคิดบัญชีกับผู้เห วินจีได้แน่นอน!
“คุณชาย……
ในขณะที่นักแข่งรถกาวลี่เหล่านั้นกำลังตกอยู่ในความกลัว บอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งของผู้ชางจานก็เอ่ยปากเตือนอีกครั้ง
วินาทีต่อมาก็มีเสียงตบดังขึ้น
ผู้ชางจนหลับตาก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความคับข้องใจเข่าทั้งสองข้างกระแทกลงกับพื้นจนเกิดเสียง
คุกเข่าแล้ว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความตาย สุดท้าย ซางจานก็โยน ศักดิ์ศรีทิ้งไป แล้วยอมคุกเข่าลงตรงหน้าของเฉินเฟิง
“แชะ! แชะ! แชะ!”
เมื่อเห็นภาพนี้ก็มีนักแข่งรถหวาเซียและผู้ชมจำนวนไม่น้อยรีบ ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพที่ผู้ชางจนคุกเข่าอยู่
และยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย วิดีโอเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“พวกแกยังยืนซื้ออยู่ทำไม? จะต้องให้พวกฉันลงมือใช่มั้ย?”
เมื่อเห็นว่าผูชางจนคุกเข่าแล้ว ผูไห่เส็งก็กวาดสายตามองนัก แข่งรถกาวลีที่อยู่ด้านหลังผู้ชางจนด้วยสายตาเย็นยะเยือก พลางตะโกนออกมาอย่างดุดัน
“ตุบ! ตบ! ตบ!”
ตอบรับคำถามของผูไห่เส็งด้วยเสียงคุกเข่าอีกครั้งและอีกครั้ง หนึ่งคน สองคน สามคน………
ภายใต้สายตาที่จับจ้องของทุกคนในค่ำคืนนี้ นักแข่งรถกาวลี่ เหล่านั้นคุกเข่าลงกับพื้นทีละคนๆ
ชั่วอึดใจก็เหลือนักแข่งรถกาวลี่อีกสองคนเท่านั้นที่ไม่ยอม คุกเข่า หนึ่งในนั้นคือทายาทเศรษฐีคนหนึ่งของกาวลีที่เอ่ยปากขึ้นมาในตอนแรก
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ