บทที่ 612 ตบหน้าฉาก
หนึ่งพันเมตร ห้าร้อยเมตร สามร้อยเมตร……..
ในที่สุด ท่ามกลางการรอคอยของฝูงชน ผู้ชางจนก็ขับรถเข้า มาใกล้จุดสิ้นสุด
แสงไฟ ทำให้เขาเห็นสีหน้าที่หดหูของเหล่านักแข่งกาวลีที่เห็น เขาเป็นราชา แล้วเขาก็เห็นนักแข่งหวาเซียล้อมวงเฉินเฟิงเอาไว้ แล้วยังเป็น ใบหน้าที่แปลกตาสองข้างทาง เต็มไปด้วยความเย้ย หยืนเขา!
“ผู้ชางจนราชารถกาวติดชาร์ตอันดับสองของรายการแข่ง รถใต้ดิน ทำการแข่งขันสำเร็จ ใช้เวลาไป32นาที ช้ากว่าเงินเฟิง นักแข่งหวาเซียไป นาที และช้ากว่าราชารถหวาเซียหวางหงที่ เคยทำสถิติการแข่งรถใต้ดินที่เขาคุนซานไว้ 3นาที!
สักพัก ขณะที่ผูชางจนขับบูกัตติ เวย์รอนสีขาวมาถึงจุดสิ้นสุด ราชินีพิธีกรในสนามแข่งรถใต้ดินก็ประกาศคะแนนของผู้ชางจ นในทันที จากนั้นก็ตะโกนเสียงดังว่า: “พวกเรามาส่งเสียง ต้อนรับ ยินดีกับหวาเซียเงินเฟิงที่ชนะการแข่งขันครั้งนี้ด้วย!”
“ราชารถเฉินเฟิง!”
พอสิ้นสุดเสียงของราชินีพิธีกรการแข่งขันรถใต้ดิน เสียงเฮ ตะโกนในสนามก็ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
เสียงนั้นดังคะนองไปทั่วท้องฟ้า เป็นเวลานาน
เสียงนั้นเหมือนมีพลังตอบโต้ ตอบสนองบรรดานักแข่งกาว เหล่านั้น
เสียงนั้นเหมือนเสียงพญามัจจุราชจากขุมนรก ผ่านตัวรถที่ปิด ผนึก เข้าสู่ตัวรถ พุ่งโจมตีจิตวิญญาณของผู้ชางจาน
ในบูกัตติ เวย์รอนสีขาว สีหน้าของผู้ชางจนซีดเผือด ตัวสั่น ไปทั้งตัว พอจอดรถข้างสนามเสร็จ ก็ไม่ได้เปิดประตูลงมาจากรถ แต่กลับพิงตัวอยู่ตรงที่นั่งในรถอย่างหมดแรง
“หึ เป็นถึงราชารถกาวแต่ไม่กล้าเผชิญความพ่ายแพ้ถึง ขนาดไม่กล้าลงจากรถ!”
“ก่อนหน้าเขาโห่ร้องว่าพวกเราว่าขี้ขลาดไม่ใช่เหรอ? เท่าที่
ฉันเห็น เขาต่างหากที่ขี้ขลาด!”
“ก่อนแข่งโห่ร้องอย่างกับหมาบ้า แข่งเสร็จแพ้อย่างกับหมา ตาย!”
พอเห็นว่าผูชางจนไม่กล้าลงจากรถ ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งหวา เซีย หรือผู้ชมในสนามก็ยิ้มเยาะกันขึ้นมา
ในเวลานี้เอง หลี่ยงชิงพานักแข่งกาวลี่ รีบเท้าไปที่บูกัตติ เวย์รอนสีขาว
พอเห็นหลงชิงพาคนมา ผูชางก็จนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็พยายามปรับอารมณ์ เปิดประตูรถ ท่ามกลางสายตาที่ จับจ้องของนักแข่งกาวที่สีหน้าดูซับซ้อน ลงจากรถมาอย่างช้าๆ
“ไอ้ขี้ข้ากาวลี่ นายเจ๋งนักไม่ใช่เหรอ? ทำไมแค่ลงจากรถก็ยัง ไม่กล้า?”
“นั่นสิ ไหนว่าจะกวาดล้างวงการแข่งรถใต้ดินหวาเซีย น่าขาย หน้าจริงๆ ! ฉันอับอายแทนนายเหลือเกิน!!
พอผู้ชางจนลงจากรถ ผู้ชมในสนามก็พากันตะโกนเยาะเย้ย
แม้ว่าผูชางจนฟังไม่ออกว่าบรรดาผู้ชมพูดว่าอะไร แต่พอได้ เห็นใบหน้าแต่ละใบที่เต็มไปด้วยการยิ้มเยาะ ใช้นิ้วเท้าคิดก็ยังรู้ เลยว่า ที่บรรดาผู้ชมตะโกนไม่ใช่คำพูดดีอะไร
ทั้งหมดนี้ ทำให้อารมณ์ที่เขาอุตส่าห์ปรับได้เกิดผันผวนอย่าง
รุนแรงอีกครั้ง ไปจากที่นี่ในทันทีจะดีกว่า
“อาจารย์ ไม่ต้องสนใจพวกเขา คิดซะว่าเป็นหมาหมู่เห่าก็แล้ว กัน!”
หลี่ยงชิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของผูชางจนเปลี่ยนไป จึงรีบเอ่ย ปากปลอบใจ
ไม่มีเสียงตอบกลับ ดวงตาของผู้ซางจนอยู่ๆก็เบิกโพลง รู้สึก หวาดกลัวมองไปยังด้านหน้า
ฉีบฉับๆ …… (เสียงเดิน)
ในเวลานี้เอง สายตาทุกสายมองไปยังด้านหน้าของผู้ชางจาน
ท่ามกลางสายตาของฝูงชนที่จับจ้อง เฉินเฟิงพาหวู่เหวินโป๊กับ
นักแข่งหวาเซียกลุ่มหนึ่ง เดินมายังผู้ชางจนนักแข่งกาว “อาจารย์ ผมติดต่อภายในประเทศแล้ว ให้พวกเขารีบส่งคน
มาคุ้มครองพวกเราไปจากที่นี่!”
หลวงชิงเห็นเฉินเฟิงพาคนเดินมา รู้ว่าซางจานกำลังกังวล อะไร จึงเอ่ยปากพูดอีกครั้ง: “จากฐานะของคุณ บวกกับแรง กดดันในประเทศ พวกหวาเซียไม่กล้าทำอะไรพวกเราแน่!!
“การแข่งขันจบลงแล้ว ได้เวลาชำระเดิมพันแล้ว!!
ราวกับให้หตงชิงตอบสนอง เฉินเฟิงพาหมู่เหวินโป๊กับคน อื่นๆ เดินยังไม่ทันถึง ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา
ฉีบฉับๆ …..
(เสียงเดิน)
พอเฉินเฟิงเอ่ยปาก เสียงจอแจในสนามก็เงียบสนิทลง ผู้คน เบนสายตาจากเฉินเฟิงไปยังผูชางจนโดยไม่ได้นัดหมาย รอ ซางจวันตอบสนอง
ส่วนด้านหลังของเฉินเฟิง หมู่เหวินโป๊เอามือถือ หันเลนส์ไปที่ผู ซางวัน เตรียมตัวถ่ายวิดีโอ
ทั้งหมดนี้ เพียงเพราะว่า เขาจำได้อย่างชัดเจน ตอนที่แพ้ให้ กับหลี่ตงชิง มีนักแข่งกาวลี่คิดจะใช้วิธีนี้สบประมาทเขา
ในเวลานี้ เขากำลังจะให้ดาบคืนสนอง
ท่ามกลางการจับจ้องของฝูงชน สายตาของผูซางจนส่อแวว ความไม่อุ่นใจ แต่พอนึกถึงคำพูดของหลี่ยงซิง ก็กลับมาตั้งมั่น ได้โดยเร็ว
เขาไม่ปริปากตอบกลับ แต่ส่งสายตาให้กับหลวงชิง เป็นนัย ให้คนข้างหลังออกหน้า
“การแข่งขันสิ้นสุดลง บุคคลที่จะโอนเงินเดิมพันเข้าบัญชี พวกนาย ไม่ให้ขาดแม้แต่แดงเดียว!” หลี่ตงชิงพูดอย่างไม่ ละอาย แต่ไม่พูดถึงเรื่องการเดิมพันชีวิต
“สัญญาเดิมพันไม่ได้มีแค่เงินพันล้านดอลลาร์ ยังรวมถึงชีวิต ของพวกนายสองคนด้วย
เฉินเพิ่งหยุดเดิน ยืนอยู่ไม่ไกลจากผู้ซางจวน หลี่ยงชิง ในระยะ
สองเมตร พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ชีวิตของพวกเราสองคน? หึ ขอโทษ ฉันไม่รู้ว่านายพูดเรื่อง อะไร?” หลี่ตงชิงเย้ยหยัน ทำเป็นโง่ เหมือนว่าไม่ยอมรับว่ามีการ เดิมพันเรื่องชีวิต
“เย็ดแม่ง ไอ้ขี้ข้ากาวลี เป็นคนอย่าให้อัปยศนัก!”
“เห็นชัดๆ ว่าก่อนแข่งพวกนายส่งเสียงโห่ร้องว่าจะเดิมพัน ชีวิต ทำไมตอนนี้พอแพ้การแข่ง ก็ไม่กล้า
ยอมรับล่ะ?”
พอได้ยินสิ่งที่หลี่ตงชิงพูด ไม่ทันได้เชิญให้พูด บรรดานักแข่ง หวาเซียที่อยู่ข้างหลังเขาก็เดือดดาลขึ้นมา แต่ละคนกระทืบเท้าด่าทอ
“ดูท่าพวกนายคิดจะแกล้งโง่ เบี้ยวเดิมพันสินะ?”
เฉินเฟิงยกมือขึ้น ห้ามปรามเหล่านักแข่งหวาเซียที่ด่าทอด้วย
ความโมโหแล้ว ขมวดคิ้วมองดู
ผูซางจนกับหลวงชิงทั้งสองคน
หม?
สัมผัสได้ถึงความหนาวเหน็บที่ระยับในดวงตาของเฉินเฟิง ผู ชางจานกับหลี่ยงชิงหวาดกลัวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ แม้พวกเขา ไม่รู้จักเฉินเฟิงเลย แต่ในเวลานี้ พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่า เฉินเฟิง ไม่ใช่คนที่จะไปแหยมได้
“นายคิดจะทำอะไร?” หลี่ตงชิงซ่อนความตื่นเต้นไว้ในใจ ไม่ ให้อารมร์ความตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้า แต่ทำเป็นโมโหพูด เสียงดังว่า: “ฉันขอเตือนนาย อาจารย์ของฉันผูซางจนเป็น หัวใจสำคัญของตระกูลผูแห่งกาวลี่ และตระกูลผู้เป็นหนึ่งใน ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของกาว……
“แล้วยังไง?”
เฉินเฟิงหัวเราะ เขาพูดตัดบทหลี่ตงชิง
“เอ่อ……
หลี่ยงชิงหยุดไปชั่วครู่ จากนั้นก็ทำเป็นไม่สะทกสะท้านพูดว่า “ที่ฉันบอกนายพวกนี้ เพื่อจะเตือนนายว่า ทางที่ดีอย่ามามั่วซั่วไม่เช่นนั้นจะรับผลที่ตามมาไม่ไหว!!
“เพียะ! —— ”
สิ่งที่ตอบกลับหลี่ยงชิงคือเสียงที่ดังข้างใบหู
เขาถูกเฉินเพิ่งตบหน้าฉาดลงไปกองกับพื้น ท่ามกลางสายตา ที่จ้องมอง เงื้อมฝ่ามือขึ้น ความเร็วเหมือนสายฟ้าฟาด หลียงชิง ไม่ทันที่จะได้โต้ตอบใดๆ
ตบฉาดนี้ แม้ว่าเฉินเฟิงจะไม่ได้ใช้กำลังภายใน อีกทั้งจงใจ ควบคุมพลังเอาไว้ แต่ก็ใช่ว่าหลี่ยงซึ่งจะรับไหวเขาไม่เพียง ถูกตบลงไปกองกับพื้น โหนกแก้มข้างซ้ายเหมือนจะแตก เป็น แผลเละ ชวนน่าตกใจ
นอกจากนี้ ดวงตาทั้งคู่ของเขาเป็นสีดำ มีเสียงอื้ออึงในหู ถูก ซ้อมจนสะลึมสะลือ นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ชักกระตุกไม่หยุด เหมือน ถูกไฟฟ้าช็อต
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ