บทที่ 517 การเดิมพันประลองฝีมือได้เริ่มขึ้นแล้ว

เติมทีเขายังคิดว่าการเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้ จะสามารถ หาช่องโหว่ ในการทำให้จอมยุทธ์ทางฝั่งของญี่ปุ่นพ่ายแพ้ไปสัก หนึ่งสอนคน ต่อไปจะได้กลับไปอยู่ในสำนักสิงอี้ เขาจะได้ไปโม้ ต่อถึงความเก่งกาจของตนเองได้ แต่ไม่คิดเลยว่า เริ่มต้นก็มา เจอกับจายเถิงจนเข้าให้เขาเป็นถึงนักแข่งขันระดับสูงตัว ฉกาจของสมาคมการค้าเซีย ย

ฉีเฟยได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ชิง ตัวฉลากก็ได้ส่งคืนไปแล้ว แทบไม่มีทางในการเปลี่ยนได้เลย…

“แต่แกก็อย่ากดดันเกินไป เดี๋ยวขึ้นไปบนเวทีแล้ว ทำได้แค่ชุด ความสามารถของตนเองออกมา ทําให้พลังและกำลังภายใน ของจายเถิงจนเสียพลังไปส่วนหนึ่ง ในการสู้กันครั้งนี้ ก็ถือว่า แกก็ชนะแล้ว”

คําพูดของยี่เฟยเป็นการปลอบประโลมได้ดีทีเดียว ซึ่ง ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจายเถิงจวั่น เพราะมันเป็นเรื่องตามความจริง ดังนั้น หูฉ่ซิงต้องใช้ประโยชน์ในการทำให้พลังของจายเถึงวัน ลดน้อยถึงถือว่ามีประโยชน์สูงสุดแล้ว

ทางที่ดีที่สุดคือทำให้เขาเสียพลังงานมากที่สุด หลังจากที่จาย เก๋งจวั่นชนะหูฉ่ซิงแล้ว ก็ให้ลงจากเวทีทัน จากนั้นก็ให้จอมยุทธ์ หมายเลข 2 ของสมาคมการค้าเซียสุ่ยขึ้นเวทีเพื่อทำการแข่งขัน ต่อไป
แน่นอนว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่คิดเองที่ดีที่สุดแล้ว

ส่วนผลลัพธ์ที่ยอดแย่นั้นคืองายเก๋งจนไม่ได้เสียพลังหลัง จากที่ชนะหู ชิง แต่ยังคงต้อนรับจอมยุทธ์ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 2 อยู่

จอมยุทธ์หมายเลข 2 ของทางสมาคมการค้าจงให้นั้นเป็น ศิษย์น้องตั้ง คนคนนี้ความสามารถนั้นเก่งกล้ากว่า ซึ่งอยู่นิด หน่อย แต่ความเก่งก็อยู่ในขีดจํากัดเช่นกัน

ถ้าจายเถิงจวั่นไม่หมดแรงแถมสามารถใช้พลังในการสู้ ซึ่งได้สำเร็จ งั้นสถานการณ์ที่จอมยุทธ์ตั้งคนนั้นจะขึ้นเวทีไป ต่อสู้กับจายเถิงจวั่น เกรงว่าก็คงจะแพ้ราบคาบเช่นกัน

ถ้าเป็นแบบนี้ ทางสมาคมจงได้ก็คงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ เอามากๆ

“ได้ ตอนบ่ายฉันจะพยายามให้ดีที่สุด” หูชิงกัดฟันพูด เฟยซะหมดเปลือกซะขนาดนี้ ในการประลองฝีมือในตอนบ่าย เขาก็สู้สุดชีวิตเท่านั้น ถึงจะแพ้ เขาก็แพ้ได้อย่างสวยงาม

เพราะว่าเวลาตลอดการแข่งขันนั้นเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอน ดังนั้นทุกเคยเลยไม่ได้ตกลงพูด คุยกันนาน

หลังจากที่มีการวางแผนการอย่างคร่าวๆ แล้ว ทุกคนต่างแยก ย้ายไปที่ห้องพักของตนเอง

เฟยเอาวิลล่าของตนเอง ให้เงินเพิ่งได้เข้าพัก
ดังนั้นเงินเฟิงเลยไม่จำเป็นต้องไปอยู่ด้านนอก

“หยุดอยู่ตรงนั้น!”

ตอนที่เฉินเฟิงกำลังเตรียมตัวเดินกลับเข้าห้องนั้น หาเหวิน เขียนก็เดินเข้ามาหา

“เราเจอกันอีกแล้วนะ” หวู่เหวินเซียนยังคงแต่งตัวเหมือนเคย เฉกเช่นหลายวันก่อน กระโปรงยาวสีฟ้าอ่อน และมีดาบยาวหนึ่ง เล่ม คล้ายคลึงกับอัศวินสาวในยุคโบราณ

“มีธุระหรือเปล่า?” หวู่เหวินเซียนจองตนเองตามถมึงทึง เงินเฟิงเลยเลิกคิ้วถาม

“มี ต้องมีธุระอยู่แล้ว!”

บัญชีที่แกมาทำร้ายน้องชายฉัน ฉันยังไม่คิดบัญชีกับแก เลย?” หวู่เหวินเซียนพูดอย่างหยิ่งจองหอง

เฉินเฟิงยิ้มให้ “แล้วแกวางแผนจะคิดบัญชียังไง?

“ฉัน…” หวู่เหวินเซี่ยนเริ่มตั้งท่าเอื้อมือ แต่รู้ทั้งรู้ว่าพลัง เฉินเฟิงไม่ได้ เธอก็เอาเงื้อมือลง พร้อมทั้งพูดอย่างโมโห “พอละ อาศัยที่แกอยู่ทีมเดียวกับคนอย่างฉัน ฉันจะปล่อยแกไปสักครั้ง

“ขอบพระคุณคุณหนูหวเป็นอย่างสูง” เฉินเฟิงยิ้มให้

“มาขอบคุณฉันไม่ต้องหรอก การประลองฝีมือในวันมะรืนนี้ แกก็แสดงผลงานให้ดีก็พอ” หวู่เหวินเซี่ยนสีหน้าไร้อารมณ์ พูด มาได้ครึ่ง ก็หยุดพูดซะงั้น” ก็ไม่แน่ บางทีก็ไม่ต้องถึงวันมะรืนพรุ่งนี้ศิษย์พี่ของฉันคนเดียวก็เป็นตัวแทนของสมาคมการค้าเซีย สุ่ยจัดการกวาดเรียบ

“หวังว่าก็เป็นแบบนั้นนะ” เฉินเฟิงยิ้มให้ปากที่พูดถึงศิษย์พี่ ของหวู่เหวินเซียนนั้นย่อมหมายถึงมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่คน นั้น หวังเงียบ

หวังเรียนอยู่หมายเลข 6 ก็หมายถึง เขาจะลงแข่งต่อสู้ในวัน

พรุ่งนี้ก่อนหน้าฉันเอง

ถ้าพลังของเขาแข็งแกร่งพอตัว งั้นก็สามารถกวาดคนของ สมาคมการค้าเซียฮุยได้

แต่ว่า ความเป็นไปได้นี่ก็ไม่ได้เยอะมากนัก จอมยุทธ์สมาคม การค้าเซียฮุย ที่ลองมาประลองฝีมือนั้นมีสิบคน เฉินเฟิงกวาด ตามองดูแล้ว พลังแข็งแกร่งของคนในนั้นมีหลายคน ก็ไม่ได้ อ่อนแอกว่าหวังเฉียนเลย

พลังแก่กล้าหลายคนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นไพ่ใบสุดท้ายของ สมาคมการค้าเซียฮุย ถ้าพวกเขาใช้เงินอื่น นั่นย่อมหมายถึงเป็น ลูกศิษย์ของนักบุญมีด

ถึงแม้ว่าหวังเฉียนมีพรสวรรค์นักล่า ทว่าอายุของเขาเมื่อ เทียบกับหลายคน ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นจุดเด่น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงเวลาบ่าย

ตอนที่เฉินเฟิงและคนอื่นๆ มาถึงเวที คนที่อยู่ในหอประชุม ด้านล่างเวทีก็เนื่องแน่นถนัด
แถวหน้าสุด เป็นตำแหน่งที่แขกผู้เกียรติสองแถว

ที่นั่งอยู่แถวแรก เฉินเฟิงเห็นตั้งแรกแล้วนั่นคือท่านผู้อาวุโสก วนและจอมยุทธ์หัวจิ้งทั้งหกคน

สถานะตอนนี้ของคนทั้งหกคนนั้นคือเจ้าหน้าที่อย่างเป็น ทางการของหวาเซียและญี่ปุ่น

พลังวิทยายุทธ์ของพวกเขาก็อยู่บนนั้น การที่มีพวกเขาอยู่นั้น ย่อมไม่มีคนกล้าเล่นตุกติกการประลอง ในครั้งนี้แน่ ด้านหลังทั้งหกคน ยังมีคนมีตำแหน่งอยู่อีกหนึ่งแถว

นั่งอยู่ตำแหน่งแถวแรก ส่วนใหญ่คือคนที่มีอายุหน่อย การ แต่งกายของคนมีอายุเหล่านี้มีหลากหลายครบครันทุกอย่างมี ทั้งไต้ซือที่ใส่ชุดเสื้อคลุมเต๋า ทั้งพระที่ใส่ชุดจีวรคลุมทั้งตัว ยังมี คนมีอายุที่ใส่ชุดกิโมโนแบบญี่ปุ่นอีก

นอกจากนั้นแล้ว คนมีอายุเหล่านี้ต่างเป็นจอมยุทธ์ขั้นหัวจิ้งกัน ทั้งสิ้น!

ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวจิ้งชั้นต้น แต่มองจากคนภายนอกแล้ว คน มีอายุเหล่านี้เป็นบุคคลอันทรงเกียรติของสำนักต่างๆ ทั้งสิ้น

“นั่นคืออาจารย์เมียวดงของเขาเส้าซาน ลูกศิษย์ของเขาก็อยู่ ในทีมของพวกเรา เวลานั้นเอง หมู่เหวินเซี่ยนก็พูดโพล่งขึ้นมา พร้อมทั้งชี้ไปทางพระชราภาพที่นั่งอยู่ในที่นั่งแขกผู้มีเกียรติเพื่อ แนะนำให้เห็นเพิ่งฟัง

เงินเฟิงยื่นหน้าออกไปเล็กน้อย ลูกศิษย์ของอาจารย์เมี่ยวคงเขาจําได้ว่า เป็นคนวัยรุ่นที่หัวโล้น หนุ่มหัวโล้นนั่นหมายเลข ฉลากที่ 4 เขาจะทำการลงแข่งขันในวันพรุ่งนี้ในคู่ที่สอง

“ส่วนนั่นคือท่านเต๋าซิงเย็นมาจากเขาตั้ง ลูกศิษย์ของเขาก็ คือห้องหมายเลข 2 ตอนบ่ายจะชนะจายเถึงวันได้ไหม ก็ ต้องดูเขาแล้วแหละ” หวู่เหวินเซี่ยนชี้ไปทางคนมีอายุที่ใส่ชุดเสื้อ คลุมเต๋าอยู่

เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชายชราที่ใส่ชุดคลุมเต๋า ก็เห็น ว่านัยน์ตาของชายชราชุดเต่าเงียบขรึมอยู่บ้าง ดูจากอารมณ์ แล้วช่างสุขุมอย่างมาก

เห็นได้ว่า เขารู้เรื่องที่เห้องจะต้องลงแข่งกับจ่ายเถิงจนอีก อย่าง เขาก็ไม่มองโลกในแง่ดีกับเห้องไว้ก่อน

เมื่อเห็นว่าคนมาครบกันแล้ว เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดคนเมื่อ เช้าที่มาประกาศเรื่องกฎเกณฑ์การแข่งขันก็เดินมาด้านข้างของ วนหนานเทียน “ท่านผู้อาวุโสกวน ทุกคนมากันครบแล้ว

“มากันครบแล้วก็เริ่มเลย” กวนหนานเทียนกล่าวเปิดพิธี

“ครับ”

เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดขานรับ จากนั้นก็เดินขึ้นเวที

“พี่น้องทุกท่าน การเดิมพันประลองฝีมือเริ่มเปิดพิธี ณ บัดนี้

“ก่อนที่เริ่มการแข่งขันนั้น ศิษย์น้องขออนุญาตแจ้งราย ละเอียดกฎเกณฑ์ในการแข่งขันให้ศิษย์พี่ทุกท่านได้ทราบกันสัก เล็กน้อย
“กฎข้อแรก อย่าลงมือจนเลือดตกยางออก การแข่งขันเดิมพัน ในครั้งนี้ ถึงแม้ชื่อจะบอกว่าเป็นการเดิมพัน แท้จริงแล้ว การเติม พันในครั้งนี้เป็นการกระชับมิตรความสัมพันธ์ระหว่างสมาคม การค้าจงให้กับสมาคมการค้าเซียสุ่ย ดังนั้น ขอให้ศิษย์พี่ทุกท่าน พยายามยับยั้งพลังเอาไว้ ทางที่ดีที่สุดก็พยายามอย่าทำให้ต้อง มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น

ทางที่ดีที่สุดอย่าให้ต้องมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น?

มุมปากเฉินเฟิงกระตุกรอยยิ้มหยอกล้อขึ้น เจ้าหน้าที่สหพันธ์ โด ใช้คำได้มีความหมายจริง ทางที่ดีที่สุดอย่าให้ต้องมีการเสีย ชีวิตเกิดขึ้น ก็หมายความว่า ถ้าเผลอจริงๆ ก็สามารถทำให้เสีย ชีวิตได้

“กฎข้อสอง ถ้าอีกฝ่ายรู้สึกว่าตนเองไม่ไหว ก็สามารถยอมแพ้ ในเวลานั้นได้ หลังจากที่ยอมแพ้แล้ว อีกฝ่ายก็ห้ามลงมืออีก ถ้า อีก ในไม่ฟังคําสั่ง แต่ยังคงหาเรื่องอีกฝ่าย เพื่อต้องการลงมือต่อ ทางท่านผู้อาวุโสกวนและท่านผู้อาวุโสกงเป็นกับพวกจะลงโทษ ตามสถานการณ์ทันที…

“โอเค มีกฎสองข้อเท่านี้แหละ

“ถ้าทุกท่านไม่มีความเห็นใดๆ การเดิมพันประลองฝีมือก็จะ เริ่มขึ้น