บทที่ 501 เรือสำราญ
สิบนาทีต่อมา เงินจื่อเหวินและเจ้าสามห่วงก็รีบมา
“ผ่านแล้วหรือ?”เฉินเพ่งมองเฉินจื้อเหวนด้วยความตกตะลึง เมื่อเทียบกับครึ่งเดือนที่แล้วตอนนี้พลังของเฉินจื้อเหวิน แข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ผ่านแล้วครับอาจารย์อาเฉิน ตอนนี้ถึงบ้านจึงขั้นสุดแล้ว เฉินจือเหวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม เขาหยุดอยู่ที่บ้านจิ้งชั้นกลางนาน ถึงแปดปี ในที่สุดตอนนี้เขาก็ก้าวผ่านอุปสรรคนั้นมาได้
“ไม่เลว”
เงินเฟิงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ความสามารถของเฉินจื่อเห วินยังคงแข็งแกร่งมาก ช่วงแรก ในสมัยวงแรกกลุ่มแก๊งมาเลเซีย เพิ่งก่อกำเนิด สถานการณ์ยังคงวุ่นวายอยู่นั้นเฉินจื้อเหวินต้องรบ ราฆ่าฟันกับผู้คนอยู่แทบทุกวัน คนที่ต้องเอาชีวิตมาแขวนอยู่บน เส้นด้ายอย่างเขา สิ่งที่ไม่เคยขาดแคลนเลยก็คือประสบการณ์ ในการต่อสู้จริง
ในวันนี้เขาผ่านมาจนถึงด้านจิ้งชั้นสุดแล้ว ถึงแม้จะเพิ่งเริ่มต้น แต่ฝีมือของเขาก็ไม่แพ้ผู้อาวุโสขั้นบ้านจึงชั้นสุดอย่างแน่นอน
“ในช่วงที่ฉันไม่อยู่ ฝากแกดูแลเมิ่งเหยาด้วยก็แล้วกัน” เฉินเฟิงเอ่ยขึ้น อ้านจิ้งชั้นสุดเพียงพอที่จะปกป้องเสียเพิ่งเหยา แล้ว จอมยุทธ์ในขั้นนี้สามารถใช้วิทยายุทธ์อันแข็งแกร่งจัดการกับกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยได้ไม่ยาก ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นรับกระสุนด้วย มือเปล่าแต่ก็ไม่ได้แย่ไปกว่านี้เท่าไหร่
“อาจารย่อาเงินวางใจเถอะ ผมจะปกป้องอาจารย์แม่เอง หาก มีคนจะทําร้ายอาจารย์แม่นอกเสียจากว่าจะข้ามศพผมไปก่อน เงินจอเหวินตบอกรับปาก ความสำคัญของเสียเพิ่งเหยาที่มีต่อ เงินเฟิงนั้นอยู่ในจุดที่ไม่ต้องบอกก็รู้ๆกันอยู่ เฉินเฟิงยกเรื่องที่ สำคัญขนาดนี้ให้เขาเป็นคนดูแล นั่นหมายถึงเชื่อมั่นในตัวเขา ดังนั้นเขาไม่มีทางทำให้เงินเฟิงต้องผิดหวังอย่างแน่นอน
“แกวาง ใจเถอะ เจ้าเด็กอเหวินนี่เรื่องอื่นอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องปกป้องคนอื่นนี่ถือว่ามีชั้นเชิงทีเดียว รอแกต่อสู้กลับมา รับรองว่าเจ้าเด็กนี่จะคืนเมียแกให้โดยไร้รอยขีดข่วนแน่นอน เจ้าสามหวงเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน
เฉินเฟิงหัวเราะ “เช่นนั้นไม่พูดมากแล้ว เราไปที่คฤหาสน์กัน เถอะ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เฉินเฟิงก็มาถึงคฤหาสน์อีกครั้ง คฤหาสน์ ในวันนี้ดูเงียบเหงากว่าเมื่อสามวันที่แล้วไม่น้อย
บริเวณหน้าประตูนอกจากรถหรูสองสามคันที่จอดอยู่แล้วก็ แทบไม่เห็นใครเลย
“พี่เฉิน “คนที่ยืนต้อนรับเงินเฟิงอยู่หน้าประตูก็คือ ซึ่งถือ
ไม่เจอกันไม่กี่วัน ซึ่งฉือดูดีขึ้นไม่น้อย
หลังจากเดินยิ้มหวานจนมาหยุดอยู่หน้าของเฉินเฟิงแล้วซึ่งฉือก็ย้ายสายตาไปหยุดอยู่ที่เจ้าสามห่วง “พี่เฉิน ท่านผู้นี้
เมื่อได้ยินคำว่าท่านปู่เจ้าสามห่วงก็สลดใจทันที
“เธอเรียกเขาว่าเจ้าสามหวงก็ได้ เฉินเฟิงเอยอย่างขำขัน เขา ไม่คิดจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้าสามหวงแก่ ซึ่งฉือ เพราะ ตอนนี้เจ้าสามหวงคือไพ่ใบสำคัญของเขา
“เจ้าสามหวง….. ซึ่งถือกลั้นขำพลางหันไปมองเจ้าสามห่วง แวบหนึ่งก่อนเอ่ย “ฉันเรียกเขาว่าหวงดีกว่า”
“สวัสดีค่ะปูหวง”
“สวัสดี เจ้าสามหวงตอบรับด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
“พี่เฉิน หวงก็จะไปกับพี่ด้วยหรือ?” ซึ่งถือเอ่ยถาม แน่นอน ว่าคนฉลาดอย่างเธอสามารถเดาเหตุผลแท้จริงที่เฉินเพิ่งพาเจ้า สามห่วงมาด้วยได้อยู่แล้ว เจ้าสามหวงคงไม่ได้ธรรมดาอย่างที่ เห็น มีความเป็นไปได้มากว่าเขาคือจอมยุทธ์
“อืม เขาบอกว่าอยากไปดูฝีมือจอมยุทธ์ของประเทศญี่ปุ่นเสีย หน่อย เธอจัดการตัวตนง่ายๆ ให้เขาก็ได้” เฉินเฟิงเอ่ยยิ้มๆ ใน เมื่อจะใช้เจ้าสามห่วงเป็นไพ่ใบสำคัญคงไม่สามารถให้เจ้าสาม หวงไปแบบเปิดเผยตัวตนได้ ยังไงก็ต้องให้เจ้าสามหางปลอมตัว เสียหน่อย
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”อู่ซึ่งฉือยิ้มหวานก่อนจะหันไปทางเจ้าสาม หวงพลางเอ่ยขึ้น “ปู่หวง หากมีคนถามท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นพ่อบ้านตระกูลก็แล้วกัน”
“ตกลง”เจ้าสามหางพยักหน้ารับ ตัวตนพ่อบ้านนี้ดูน่าเชื่อถือ
พอสมควร คนธรรมดาไม่มีทางสงสัยแน่ “เช่นนั้นหวง เฉิน เรารีบไปกันเถอะ คาดว่าเรือสำราญคง ใกล้ออกแล้ว” ซึ่งฉือยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาพลางเอ่ยขึ้น
เกาะมุ ยลายตั้งอยู่บนทะเลสากลแต่ห่างจากน่านน้ำหวาเซีย ไม่มากนัก
หลายปีก่อน ทางการของหวาเซียได้เปิดเส้นทางเดินเรือ ระหว่างหวาเซียและเกาะมุยลาย
แน่นอนว่าการออกทะเลในครั้งนี้ก็ต้องไปตามเส้นทางนี้เช่น
เมื่อตามซึ่งถือมาถึงท่าเรือก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว
ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดมิดไปแล้วทว่าบริเวณท่าเรือก็สว่างไสวไป ด้วยแสงไฟ
เงินเฟิงเหลือบมองท่าเทียบเรือก็พบว่าบริเวณท่าเรือมีคนอยู่ นับร้อยคน คนส่วนใหญ่ในนั้นล้วนสวมแว่นกันแดดอันใหญ่และ สะพายเป้อยู่บนหลัง แต่งตัวราวกับนักท่องเที่ยว
ในตอนนั้นเอง ผู้คนที่แต่งตัวราวกับนักท่องเที่ยวเหล่านั้น กําลังทยอยต่อแถวตรวจตั๋วเพื่อรอที่จะขึ้นเรือ
“คนพวกนั้นล้วนเป็นจอมยุทธ์หรือ? “เฉินเฟิงอดที่จะเอ่ยถามออกมาไม่ได้ ถึงแม้คนพวกนั้นจะดูเหมือนนักท่องเที่ยวทว่าก็ยาก ที่จะรับประกันได้ว่าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวแบบนั้น
“ไม่ใช่หรอก” ซึ่งถือส่ายหน้าก่อนเอ่ยแกมหัวเราะ “เฉิน คน พวกนั้นล้วนเป็นนักท่องเที่ยว พวกเขาจะไปเที่ยวที่เกาะขยาย ปลายทางของพวกเขาเหมือนกันกับพวกเรา ดังนั้นเราจะต้อง โดยสารเรือสําราญลำเดียวกัน
“แบบนี้นี่เอง…… “เฉินเพิ่งพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาลืมไปว่า เกาะมุ ยลายคือเกาะสำหรับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะ และใน ตอนนี้ก็เป็นช่วงเทศกาลการท่องเที่ยว คนไปเที่ยวกันเยอะขนาด นี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“พี่เฉิน พวกเราไปทางนี้กันเถอะ พวกเราไม่จําเป็นต้องตรวจ ตัว”
ซึ่งถือเอ่ยขึ้น ด้วยอำนาจเงินและเส้นสายของตระกูลตัว ของพวกเขาจึงเป็นตัววีไอพีที่ถูกจองไว้ก่อนแล้ว ซึ่งคนที่มีตัววีไอ พี่ไม่จําเป็นต้องต่อแถว
เมื่อมาถึงอีกด้านของท่าเรือเฉินเฟิงจึงได้เห็นหน้าตาของเรือ สำราญที่ต้องโดยสารในครั้งนี้อย่างเต็มตา
เรือสำราญล่านี้เป็นเรือขนาดใหญ่มีความยาวประมาณหนึ่ง ร้อยแปดสิบเมตรกว่า กว้างสี่สิบเมตรกว่า
เรือลำนี้มีทั้งหมดห้าชั้นแต่ละชั้นสูงประมาณสามเมตรกว่า
ในตอนนี้บริเวณสามชั้นล่างของเรือเต็มไปด้วยคนมากมาย
แสงไฟสว่างไสว คึกคักไม่น้อย
“คุณจู๋ เชิญทางนี้ครับ”
ใช้เวลาไม่นาน พนักงานที่สวมชุดยูนิฟอร์มก็เดินเข้ามาเพื่อ พาซึ่งถือไปยังทางผ่านสำหรับแขกวีไอพี โดยเฉพาะ
เมื่อขึ้นมาบนเรือแล้ว ซึ่งถือก็ตรงไปยังชั้นบนสุดของเรือ เมื่อเทียบกับชั้นล่างๆแล้ว ชั้นบนสุดดูหรูหรากว่าอย่างเห็นได้
ชั้นนี้มีห้องพักเพียงสิบกว่าห้องเท่านั้นแต่ภายในห้องถูก ตกแต่งอย่างประณีตเทียบเท่ากับมาตรฐานของโรงแรมห้าดาว
นอกจากห้องพักที่หรูหราแล้ว วิวของชั้นบนสุดที่ดีที่สุด ยืนอยู่
บนนี้สามารถมองเห็นทะเลด้านนอกได้อย่างสุดลูกหูลูกตาและยัง
สามารถมองลงไปเห็นคนที่อยู่ชั้นล่างได้อีกด้วย
ฉียบพลันก็เกิดความรู้สึกเหนือชั้นขึ้นมาทันที
“พี่เฉิน พี่และหวงรออยู่ตรงนี้ก่อนสักครู่ ฉันจะลงไปรับพวก พี่ชายของฉัน” ซึ่งถือเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“อืม ไปเถอะ”
เฉินเฟิงพยักหน้ารับ
เมื่อชิงฉือจากไป เจ้าสามหวงก็หรี่ตามองไปทางเฉินเฟิง แม่สาวน้อยคนนี้ชอบแกหรือ?”
“คุณคิดมากไปแล้ว”เฉินเพิ่งมองออกไปยังทะเลด้านนอกด้วยหน้าเรียบเฉย
“หึๆ เจ้าสามหางหัวเราะห์แต่ไม่ได้ต่อบทสนทนาแต่อย่างใด ณ เวลานี้ บริเวณทางเข้าวีไอพีที่เฉินเฟิงและผู้ซึ่งถือเข้ามาก็
ปรากฏเงาคนสิบกว่าคน คนแรกเป็นชายหน้าตาคมคายอายุราวสามสิบกว่าๆ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ