ลูกเขยมังกร

บทที่ 445 การตายของจ้าวชิง



บทที่ 445 การตายของจ้าวชิง

พรสวรรค์ในการทำธุรกิจของคุณน้าซูน่ากลัวมาก จากที่ได้ยิน คุณพ่อพูด ตอนนั้นคุณน้าซูเคยจัดตั้งพันธมิตรการค้า และตอน พันธมิตรการค้านี้พุ่งขึ้นขีดสุด จนได้รับฉายานามว่าพันธมิตร อันดับหนึ่งของหวาเซีย ทรัพย์สินของสมาชิกทุกคนของพันธมิตร รวมกันขึ้นมา สามารถสะเทือนเศรษฐกิจของประเทศเล็กๆของ ชาติตะวันตกได้เลย แม้แต่ผู้มีอำนาจในประเทศเองยังเกรงเลย

“ปีนั้นตระกูลหูของเราเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรการค้านี้ แต่ ต่อมาพันธมิตรการค้านี้ถูกยุบเพราะตระกูลเฉิน

“ตระกูลเฉิน?” เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้นมา ตระกูลเฉินมาเกี่ยว

อะไรด้วย?

“ตอนนั้นคุณน้าชูตกหลุมรักพ่ออย่างจัง อยากแต่งเข้าตระ กูลเฉิน”

แต่คุณปู่พี่กับผู้มีอำนาจในตระกูลเฉินหลายคนกลับยื่น เงื่อนไขหนึ่งให้คุณน้า

“อยากแต่งเข้าตระกูลเฉินได้ แต่ต้องเอาพันธมิตรการค้ามา เป็นสินสมรสติดตัวเจ้าสาว!” เซอร์หยวนพูดอย่างสงบนิ่ง

“ตระกูลเฉินหัวหมอนะ!” เฉินเฟิงขมวดคิ้วมั่น พอหูเซอร์ หยวนพูดมาถึงตรงนี้ เรื่องราวตอนนั้นเขาพอเดาได้คร่าวๆแล้ว แม่สร้างพันธมิตรการค้าที่มีมูลค่าสูงมาก ต่อมาตระกูลเฉินอยากได้พันธมิตรนี้ อยากให้แม่ยกพันธมิตรนี้ให้ตระกูลเฉิน ทำให้ตระกูลเฉินแกร่งยิ่งขึ้น แต่แม่ไม่ยอม และยังไม่แคร์จนยุบ พันธมิตรการค้าทิ้งเลย

บอกได้เลยว่า การกระทําของแม่ทำให้ตระกูลเฉินโมโหแต่ ไหน เรื่องอยากแต่งเข้าตระกูลเฉินก็เลยตกไป

“ถึงพันธมิตรการค้านั่นจะสร้างจากมือคุณน้า แต่ใน พันธมิตรก็มีเพื่อนร่วมงาน คู่คิดทางการค้าของคุณน้ามากมาย พวกเขาร่วมงานกับคุณน้ามานาน แทบจะไม่ต่างกับพี่น้อง ถ้า คุณน้ายกพันธมิตรการค้าให้ตระกูลเฉินจริง งั้นสิ่งแรกที่ตระกูล เฉินจะทำคือไล่คนของคุณน้าออกหมด เพื่อปกป้องเพื่อนเหล่า นั้น คุณน้าชูเลยยุบพันธมิตรการค้าซะ”

“การยุบพันธมิตรการค้าของคุณน้า ทำให้ตระกูลเฉินไม่ พอใจมาก วันต่อมาหลังคุณน้ายุบพันธมิตร ก็ตกลงการ แต่งงานกับตระกูลฉินเป็นที่เรียบร้อย ให้ฉันเสงี่ยนครัวแต่งกับ พ่อพี่” หูเซอร์หยวนบอก

เฉินเพิ่งพยักหน้าเล็กน้อย เรื่องตอนนั้นบิดเบี้ยวไปเยอะมาก ถ้าไม่ได้ยินหูเซอร์หยวนพูดในวันนี้ เขาคงไม่มีวันได้รู้ว่า แม่เคย ทําเรื่องแบบนี้ด้วย

ความสามารถในการสร้างพันธมิตรการค้า จนตระกูลเฉินเอง ยังหวั่นไหวและอยากอุบ

“พี่เฟิง ตอนนั้นถ้าไม่มีคุณน้าซู ก็ไม่มีตระกูลหูของพวกเรา ตอนนี้ถึงคุณน้าจะไม่อยู่แล้ว แต่พวกเราตระกูลหูยังถือพี่เฟิงเป็นหัวหน้า ต่อไปหากพี่เฟิงต้องการความช่วยเหลืออะไร ขอ เพียงสั่งการมาได้เลยค่ะ” หูเซอร์หยวนพูดอย่างนอบน้อม ถึง ตระกูลหูในตอนนี้จะเริ่มเสื่อมถอย ไม่เท่ากับตอนนั้น แต่ไม่ว่ายัง ไงก็ตาม ลาที่ผอมมากก็ยังใหญ่กว่าม้า สิ่งที่ตระกูลหูจะช่วย เงินเฟิงได้ยังเกินกว่าที่ตระกูลเฉินจะคาดคิดได้อยู่มากนัก

“ได้ ถ้ามีเรื่องอะไรผมจะติดต่อพวกคุณไปเอง” เฉินเฟิงนิ่ง เงียบได้สักครู่ก็พยักหน้า ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว การที่คน ตระกูลหูมาหาเขาเป็นเพราะแม่แน่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อคำพูด เซอร์หยวนทั้งหมด เพราะจิตใจคนเรามันซับซ้อน ใครจะรู้ว่า เรื่องมันผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ตระกูลหูยังจะจบุญคุณของ แม่เขาได้หรือเปล่า ยังเต็มใจจะช่วยเขาแค่ไหน

พอยกกุญแจให้เฉินเฟิง หูเซอร์หยวนก็ขอตัวกลับ ทั่วคฤหาสน์ใหญ่ เหลือแค่เจ้าสามหวง เฉินจื่อหลีกับเฉินเฟิง สามคน

“จื้อหลี่ พรุ่งนี้ไปบริษัทจัดหาคนหาคนรับใช้มาซะหลายคน เฉินเฟิงสั่งการลงไป คฤหาสน์ที่แม่เขาเหลือไว้ให้เป็นคฤหาสน์ที่ ใหญ่ที่สุดของในบรรดาคฤหาสน์ทั้งหมดของ Tianshan Living Area พื้นที่ของคฤหาสน์อื่นประมาณสามพันกว่าตารางเมตร พื้นที่ใหญ่ขนาดนี้เอาแค่กวาดถูทําความสะอาดทุกวัน ก็ถือเป็น งานหนักมากแล้ว ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องจ้างแม่บ้าน

“ครับ อาจารย์อาเฉิน พรุ่งนี้ผมจะไปจัดการแต่เช้า เฉินจื่อหลีพยักหน้าอย่างตื่นเต้น โตจนป่านนี้เขาพึ่งเคยใต้อยู่คฤหาสน์หรูขนาดนี้เป็นครั้งแรก

“เจ้าหนู แม่ของนายนะไม่ธรรมดาเลยนะ” พอเดินจือหลออก ไป เจ้าสามห่วงก็มองมาที่เงินเฟิง และพูดขึ้น “ไม่ธรรมดาเอามากๆเลย” เฉินเพิ่งพยักหน้า แววตาสับสน เล็กน้อย พูดได้เลยว่า คำพูดที่เขาได้ยินหูเซอร์หยวนบอกมาวันนี้

ล้างความเข้าใจเกี่ยวกับตัวแม่เขาไปหมดสิ้น

ในความทรงจําขอเขา แม่เป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่ง นอกจากจะมีความสามารถเล็กน้อย ก็ไม่มีอะไรพิเศษอีก แต่วันนี้ จากปากของหูเซอ หยวน แม่ของเขากลับเป็นผู้หญิงแกร่งที่ สามารถใช้การค้าสะเทือนเศรษฐกิจประเทศหนึ่งได้เลยทีเดียว แม้แต่อดีตคนรวยอันดับหนึ่งของซูโจวยังเป็นแม่เขาที่สร้างเสริม ออกมา

ยังมีอีกอย่าง ถึงหูเซอร์หยวนจะไม่ได้พูดชัดเจน แต่เฉินเฟิงก็ เดาได้ว่า ตระกูลเฉินคงหวั่นเกรงแม่เขาแน่ ไม่งั้นคงไม่หน้าด้าน เอาเรื่องแต่งงานมาข่มขู่แม่เขา

“นายว่าตอนนี้แม่นายตายยังไงนะ?” เจ้าสามหางอดไม่อยู่ ถามขึ้นมาอีก วันนี้หลังจากฟังหูเซอร์หยวนพูดจบ เขามักรู้สึกว่า ผู้หญิงแกร่งขนาดนี้อย่างซูจ้าวซึ่งไม่น่าตายง่ายขนาดนั้น แต่ เฉินเฟิงกลับบอกว่า เขาเห็นแม่ตายกับตาตัวเอง

“ป่วยตาย…” เฉินเฟิงขมวดคิ้วบอก “ตอนนั้นแม่เป็นโรค ประหลาด โรคนั้นจะกำเริบทุกวันพระจันทร์เต็มดวง กำเริบ แทบเอาชีวิตแม่ไปเลย
การกำเริบครั้งสุดท้ายคือเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้ตนในตระกูล เงินอยู่กันหมด ตอนแม่อาการกำเริบ ฉันขอร้องเฉินเจิ้นหนานให้ ช่วยแม่ แต่เขากลับส่ายหน้าปฏิเสธและบอกว่า โรคของแม่เขา ช่วยไม่ได้ สุดท้ายแม่ก็อาการกำเริบจนตาย

“ไม่ได้ไปโรงพยาบาลตรวจหรอว่าเป็นโรคอะไร?” สีหน้าเจ้า สามหวงดูพิกล เฉินเจิ้นหนานเป็นมหารปรมาจารย์เพียงคนเดียว ของตระกูลเฉินตอนนี้ จะมีโรคที่เขารักษาไม่ได้ได้ยังไง

“ไม่ได้ไป” เฉินเฟิงส่ายหน้า “แม่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล แม่ บอกว่า โรคของแม่ โรงพยาบาลตรวจไม่เจอ

“แปลก ยังมีโรคอะไรที่โรงพยาบาลตรวจไม่ได้อีก?” คิ้วเจ้า สามหวงขมวดแน่นขึ้น ทำไม เขารู้สึกว่า ซูจ้าวซึ่งยังไม่ตาย

เขาไม่รู้สึกว่า ผู้หญิงแกร่งที่สร้างพันธมิตรการค้าที่สามารถ สะเทือนเศรษฐกิจประเทศได้จะตายง่ายแบบนั้น

“นายคิดว่าแม่ฉันยังไม่ตาย?” เห็นสีหน้าเจ้าสามหาง เฉินเพ งอดถามไม่ได้ ที่จริงเขาเองก็สงสัย แต่เขายังไม่แน่ใจ พอมาวันนี้ ได้ยินหูเซอร์หยวนพูดถึงอดีตของแม่ ทำให้เขาฉุกคิดถึงข้อ สงสัยข้อนี้ขึ้นมา

“ฉันคิดว่าแม่นายอาจจะแกล้งตาย” เจ้าสามห่วงพูดเสียงขรึม ถึงจะมีหลายจุดน่าสงสัยในตอนนี้ ก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจ้าว ซึ่งยังไม่ตาย แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้เหมือนกันว่า ซูจ้าวชิงตายแล้ว จริงๆ

“แกล้งตาย?”
เงินเฟิงขมวดคิ้ว มันมีความเป็นไปได้แบบที่เจ้าสามห่วงพูด จริงๆ การตายของแม่ในตอนนั้นมันกะทันหันไปหน่อย แต่แม่จะ แกล้งตายทําไมล่ะ?

เพื่อหนีจากตระกูลเฉิน

หรือว่า…

“จริงสิ เจ้าตัวแสบ เปียโนตัวเมื่อกี้เป็นของแม่นายทิ้งไว้ให้ละ สิ?” เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เจ้าสามห่วงพูดขึ้นเอาดื้อๆ

“ใช่” เฉินเฟิงพยักหน้า

นายเคยคิดไหมว่า ทําไมแม่นายต้องทิ้งเปียโนไว้ให้นาย?” เจ้าสามหวงถาม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ