บทที่ 415 ความคิดของหลี่เล่อตอนที่เป็นนักเรียน
หวาง อหยวนซักสีหน้าให้เฉินเฟิง แน่นอนว่าเงินเฟิงเองก็ทํา หน้าไม่พอใจให้กับหวาง อหยวน
ทั้งสองเดินผ่านกันไปด้วยสีหน้าเย็นชา หลังจากเดินไปถึงโซนออฟฟิศ เฉินเฟิงก็ได้เจอกับหลี่เล่อ ท่าทีของหลี่เล่อในวันนี้แปลกมาก คล้ายว่ามีบางอย่างผิด ปกติ
โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เจอกับเฉินเฟิง ความผิดปกติที่ชัดเจน ยิ่งขึ้น
เดิมทีเฉินเฟิงคิดว่าหลี่เล่อมีเรื่องจะพูดกับตน แต่รออยู่นาน
ครึ่งวัน หลี่เล่อกลับพูดออกมาแค่คำเดียว : “พี่เฟิง อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์” เฉินเฟิงยิ้ม เห็นได้ชัดว่าหลี่เล่อมีเรื่องอะไรบาง อย่าง แต่เขากลับไม่พูด ตนก็ไม่ควรถามออกไปตรงๆ
เป็นแบบนี้ ช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนเที่ยงหลังจากเลิกงาน หลี่เล่อเดินมาตรงหน้าเฉินเฟิงด้วย ท่าทีกระอักกระอ่วน : “พี่เฟิง คือ……..ผมอยากเลี้ยงข้าว
“มีเรื่องอะไรนายก็พูดออกมาตรงๆเถอะ พวกเราสองคนไม่ ต้องเกรงใจกันหรอก” เฉินเฟิงหลายยิ้มบางๆ เห็นได้ชัดว่าหล เธอมีเรื่องอะไรบางอย่างต้องการให้เขาช่วย แต่ไม่กล้าพูดออกมาตามตรง ดังนั้นจึงเอาเรื่องเลี้ยงข้าวมาเป็นข้ออ้าง
เฉินเฟิงรู้จุดประสงค์แล้ว หลี่เล่อประหม่ามากกว่าเดิม แต่ใน เวลาเดียวกัน ภายในใจรู้สึกตื้นตัน สิ่งที่ตื้นตันก็คือ เฉินเฟิงไม่ ได้มองเขาเป็นคนนอก
“คือ…..เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ พี่เฟิง วันนี้ผมมีนัดกินเลี้ยง กับเพื่อน ผมไม่กล้าขับโฟล์คสวาเก้นซานตาน่าคันนั้นของผม
ที่แท้ก็จะยืมรถนี่เอง เฉินเฟิงเข้าใจทันที
ไม่รอให้หลี่เล่อมีโอกาสพูดจบ เฉินเพิ่งหยิบกุญแจรถออกมา จากกระเป๋า ยิ้มแล้วยื่นไปตรงหน้าหลี่เล่อ : “เอาไป
“ขอบคุณครับพี่เฟิง! “หลี่เล่อซึ้งใจ เฉินเฟิงไว้หน้าเขามาก เรื่องยืมรถเพื่อไปแกล้งเป็นคนรวยในต่อหน้าเพื่อนๆ ไม่ใช่เรื่อง ที่ดีเท่าไหร่ ถ้าเขาพูดออกมาเอง ก็จะดูน่ากระอักกระอ่วนไม่มาก ก็น้อย
เห็นได้ชัดว่าเงินเฟิงมองจุดนี้ออก ดังนั้นยังไม่รอให้เขาพูดจบ เขาก็ยื่นกุญแจรถให้ตน เป็นวิธีการคลายความกระอักกระอ่วน ของเขาได้อย่างแยบยล
“เรื่องแค่นี้ไม่ต้องขอบคุณหรอก ถ้านายยังเกรงใจฉันอีก คราวหน้าไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่เฟิงแล้ว” เฉินเฟิงยิ้ม ถึงแม้หลี่เล่อ จะออกมาในสังคมหลายปีแล้ว แต่ความคิดของเขายังคงหยุด อยู่ในสมัยนักเรียน
หน้าบาง เกรงใจที่จะรบกวนคนอื่น
ความคิดแบบนี้ อยู่ในสังคม ความเป็นจริงจะทำให้เสียเปรียบ
“แฮะๆๆ พี่เฟิงสอนถูกแล้วครับ คราวหน้าผมจะไม่เกรงใจพี่ เฟิงแบบนี้แล้ว” หลี่เล่อมแห้งๆ เขาเกรงใจเล็กน้อย เฉินเฟิงไม่ เคยมองเขาเป็นคนนอก แต่เขากลับระมัดระวังเวลาอยู่กับ เงินเฟิงตลอด
แต่ว่าบางครั้งการคอยระมัดระวังเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ไม่ผิด รถ อาวตี้ A6ของเฉินเฟิง เพิ่งถอยออกมาได้ไม่กี่วัน อีกทั้งรถยนต์ถือ เป็นภรรยาคนที่สองของผู้ชาย เขายืน ภรรยาของเฉินเฟิง ควร จะมีท่าทีถ่อมตนเสียหน่อย
ตอนเที่ยงหลังจากเลิกงาน เฉินเฟิงมาที่โรงพยาบาล
เดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยเขาก็เพิ่งเห็นว่า หลินหวั่นชีวฟื้นขึ้นมา จากการหมดสติแล้ว เวลานี้เธอนั่งอยู่ตรงเตียงผู้ป่วยด้วยความ เหม่อลอย ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
เฉินเฟิงถอนหายใจเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าของเขากลับมามี รอยยิ้มอีกครั้ง : “หวั่นว รู้สึกยังไงบ้าง?
“หือๆ พี่เฉินเฟิง ฉันกลัวค่ะ…….
เมื่อเห็นเฉินเฟิง หญิงสาวไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของ ตนเองได้ เธอโผเข้ากอดเฉินเฟิง แล้วร้องไห้เสียงเบา
“ไม่ต้องกลัว เรื่องมันผ่านไปแล้ว” เฉินเฟิงยื่นมือออกไป ตบ ไหล่ที่ส้นเทาของหญิงสาวเบาๆ ไม่ว่าเมื่อคืนหลินหวั่นชีวจะกล้าหาญมากแค่ไหน แต่เรื่องที่เธอเดินผ่านประตูนรกนั้นเป็นความ จริง ไม่ทิ้งปมไว้ในใจเธอก็ถือเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
“พี่เงินเฟิง ฉัน……..นคิดว่าฉันจะไม่ได้เจอพี่อีกแล้ว” น้ำตา เม็ดโตไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยของหลินหวั่นว มือที่กอด เงินเฟิงเอาไว้ กระชับแรงมากขึ้น เธอไม่ได้กลัวตาย ความตาย เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่เธอกลัวก็คือ หลังจากที่ตายแล้ว จะไม่ได้เจอเฉินเฟิงอีก
“ไม่มีทางหรอก พี่รับปากเรา หลังจากนี้เราไม่มีทางไม่ได้เจอ พี่” นัยน์ตาของเฉินเฟิงฉายความสับสน จากนั้นเขาก็ฝืนยิ้ม
นี่ถือเป็นคำสัญญาไหม?
หลินหวั่น วอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองเฉินเฟิง เธออยาก ถามเฉินเพิ่งว่าคำพูดนี้ถือเป็นสัญญาไหม แต่พอคำพูดมาถึงที่ ปาก เธอกลับกลืนมันลงไป
เธอดูออก ในใจของเฉินเฟิงยังมีเสี้ยเพิ่งเหยา อีกทั้งเสียเพิ่ง เหยาที่อยู่ในใจเฉินเฟิงนั้น กินพื้นที่ขนาดใหญ่
เวลานี้ ถ้าเธอถามเฉินเฟิงคำนี้ จะเป็นการบีบบังคับให้ เฉินเฟิงต้องเลือก
เธอไม่อยากบีบบังคับเฉินเฟิง เธออยากให้เงินเฟิงเลือกเอง
“คราวหน้าห้ามทำอะไรโง่ๆแบบนี้อีก เข้าใจไหม? เวลาเจอ อันตราย ต้องหาวิธีปกป้องตนเอง” เฉินเฟิงพูดกำชับ ความเป็น จริงเมื่อคืน ต่อให้รถแลนด์โรเวอร์คันนั้นพุ่งเข้าชนเขา อย่างมากเขาก็แค่ได้รับบาดเจ็บภายในเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีวันบาดเจ็บ
สาหัส
แต่เจ้าเด็กโง่หลินหวั่น ว กลับไม่รู้ข้อนี้ เผชิญหน้ากับอันตราย เธอเลือกที่จะใช้วิธีที่โง่ที่สุดในการเผชิญกับมัน
เงินเฟิงไม่กล้าคิด ถ้าเมื่อคืนหลินหวั่นวตามเพราะรถชน เขา จะตัดสินใจทำเรื่องที่บ้าคลั่งแค่ไหน
มีความเป็นไปได้สูง ที่เขาจะฆ่าจีนเจี่ยจง ฆ่าทั้งตระกูลของจีน เจียจงเอาเลือดมาล้างให้สะอาด แล้วตายไปพร้อมกับคนที่อยู่ เบื้องหลัง
เขาไม่ใช่คนที่มีสติ เวลาส่วนมาก ที่เขาสตินั้น เป็นเพราะศัตรู ไม่ได้แตะต้องสิ่งสำคัญของเท่านั้น
ถ้ามีคนแตะต้องสิ่งที่สำคัญของเขา ต่อให้เขาต้องตาย เขาก็ จะทําให้คนคนนั้นต้องอาบเลือด
“ค่ะ” หลินหวั่น วพยักหน้า ใบหน้างดงามแดงระเรื่อ นี่เป็น ครั้งแรกที่เฉินเฟิงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ถึงแม้จะ เคร่งขรึม แต่ในความเคร่งขรึมนี้ เห็นได้ชัดว่าเคล้าไปด้วยความ เป็นห่วงเธอ
เฉินเฟิงไม่ได้สังเกตเห็นความคิดที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว เขา ยังคงพูดกำชับอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย “สองสามวันนี้ไม่ต้องไป โรงเรียนแล้ว รักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน ไว้รอให้หายแล้ว ค่อย กลับโรงเรียน”
“ค่ะ หนูจะเชื่อฟัง ”
หลินหวั่น วพยักหน้าด้วยความเชื่อฟัง ความเป็นจริงบาดแผล ของเธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว แต่การอยู่ที่โรงพยาบาล ทำให้ เธอสามารถอยู่กับเงินเฟิงสองต่อสองได้
หลังจากออกมาจากโรงพยาบาล เฉินเฟิงกำลังจะกดโทรหา เขียวรั่ว ให้เขียวรั่วซวยลาหยุด ให้หลินหวั่นวหน่อย ทว่าคิดไม่ ถึง เซียวรั่วกลับโทรมาหาเขาก่อน
“พี่เฟิง หวั่นชีวอยู่กับพี่ไหม? ฉันติดต่อเธอไม่ได้” ปลายสาย เซียว วถามด้วยความเป็นห่วง ที่จริงเมื่อคืนเธอจะไปหาเงินเฟิง แล้ว แต่สุดท้าย เธอก็ล้มเลิกความคิดนี้ เพราะมีความเป็นไปได้ ว่าหลินหวั่นจะค้างคืนกับเฉินเฟิง ถ้าเธอโทรไป เกรงว่าจะ รบกวนเรื่องดีๆของทั้งสอง
แต่จนถึงเที่ยงวันนี้ เซียวรั่วยังคงติดต่อหลินหวั่นวไม่ได้ ทําให้เธอกระวนกระวายใจ
“หวั่น ว….ไม่ได้อยู่กับพี่ เมื่อวานเธอกลับไปเมืองหางโจว แล้ว” เฉินเฟิงนิ่งค้างไปพักหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจโกหก เซียวรั่ว เห็นได้ชัดว่า ในตัวของหลินหวั่นชีวมีความลับยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะสืบรู้ความลับนี้ เรื่องของเธอ ไม่สะดวกให้คนรู้เยอะ
ขอแค่มีคนรู้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุ แต่กลับรักษาหายในระยะ เวลาสั้นๆ คนคนนั้นก็จะพุ่งเป้ามาที่หลินหวั่นชีว
ถึงเวลานั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้น อยู่เหนือการควบคุมของเขา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ