บทที่ 389 เดี่ยวเปียโน
งานฉลองจัดขึ้นที่ศูนย์กลางการแสดงของมหาลัยจงให้
จะว่าเป็นศูนย์กลางการแสดง ที่จริงเป็นโรงยิมที่ใหญ่มากที่ หนึ่งต่างหาก ดูจากพื้นที่แล้ว น่าจะจุดนราวสองหมื่นคนได้
ตรงกลางมีเวทีรูปทรงกลมที่จัดทำขึ้น และสามารถดึงดูด สายตาทุกคนมาไว้ที่มันได้
ตำแหน่งที่เฉินเฟิงนั่งอยู่ไม่ห่างจากเวทีทรงกลมนัก และนั่ง ใกล้กลุ่มนักศึกษาแถวหน้าด้วย
ด้านหน้าแถวนักศึกษา ยังมีแถวศิษย์เก่า และแขกวีไอพี แถววีไอพีเป็นตำแหน่งที่มองเห็นเวทีดีที่สุด
คนที่สามารถนั่งแถววีไอพีได้ โดยมากเป็นคนใหญ่คนโตทั้ง นั้น หยางเจี้ยนโสงและจูซึ่งเพิ่งที่เซียวรั่วแนะนำให้เงินเฟิงก็นั่ง อยู่แถวนี้ แถมตำแหน่งที่นั่งของทั้งคู่ยังใกล้เวทีด้วย แทบจะเป็น ตำแหน่งที่ดีที่สุดของแถววีไอพี
ส่วนเรื่องคนที่นั่งแถววีไอพีเป็นใคร เฉินเฟิงไม่สนใจ เขาเลย ปรายตามองหนึ่งทีและหลับตาลงพักผ่อน
แต่เฉินเฟิงไม่คิดเลยว่า เขาไม่สนใจคนที่นั่งแถววีไอพี แต่คน ทางนั้นกลับสนใจเขาขึ้นมา
เฉินเฟิงพึ่งนั่งได้ไม่นาน ไปเหวินชั่วก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแถววีไอพีเดินตามหลังรุ่นน้องสองคนมายืนหน้าเงินเฟิง
“นายชื่อเงินเฟิง?” ไปเหวินชั่วมองเฉินเพิ่งอย่างดูแคลน สายตาส่อประกายเย่อหยิ่ง
“อืม คุณคือ?” เฉินเฟิงพยักหน้า มองไปเหวินชั่วอย่างสงสัย เมื่อก่อนเขาไม่เคยเจอชายหนุ่มคนนี้นี่นา
“นายไม่มีสิทธิ์ได้รู้จักชื่อฉันหรอก” ไปเหวินชั่วส่ายหัว มอง อย่างดูแคลน จากนั้นเขามองเฉินเฟิงพลางว่า “ฉันมาเพื่อบอกนายเรื่อง
หนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” เฉินเฟิงหรี่ตามอง ที่แท้ก็มาหาเรื่องน่าสนุกนี้
“ไปจากหวั่น วซะ” ไปเหวินชั่วพูดออกมาสั้นๆ
“นายไม่คู่ควรกับหวั่นวหรอก” ไม่รอเฉินเฟิงเอ่ยคำ ไปเหวิน ชั่วกลับออกมาอีกค
เฉินเฟิงหัวเราะ “คุณรู้ได้ไงว่าผมไม่คู่ควรกับหวั่นชีว? เพราะ ผมขับรถซานตานํา?”
ไปเหวินชั่วแทบสะอึก เขาไม่คิดว่าเฉินเพิ่งจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้
“ใช่ เพราะนายขับรถซานตาน่า ฉันไม่คิดว่า ผู้ชายที่ขับรถ ซานตาน่าจะมีปัญญาทำให้หวั่นชีวมีความสุขได้” หลังสูดลม หายใจเข้าปอด ไปเหวินชั่วก็พูดออกมาเสียงขรึม
เงินเฟิงพยักหน้า ก่อนยิ้มเบนสายตามาที่ไปเหวินชั่ว: “คุณขับ รถอะไรล่ะ?”
“Deephouse” ถึงไม่เข้าใจว่าทำไมเงินเฟิงถามแบบนี้ แต่ไป เหวินชั่วก็ตอบอย่างเย่อหยิ่งออกมา
“Deephouse?”
เฉินเฟิงหัวเราะบอก: “ก็ไม่เลวนะ น่าจะราคาประมาณห้าล้าน กว่าล่ะมั้ง”
ใช่ ราคาประมาณห้าล้านกว่าแหละ ไอ้กระจอกอย่างแก เข้าใจเรื่องรถเหมือนกันนี่” ไปเหวินชั่วแสยะยิ้ม สายตาที่มอง เฉินเฟิงเต็มไปด้วยความประชด เขาไม่เข้าใจว่า ไอ้กระจอกขับ ซานตาน่าอย่างเฉินเพิ่งจะเข้าใจราคารถDeephouseไปทำไม เขาคิดว่าตัวเองจะซื้อไหวหรือไง?
เงินเฟิงยิ้มบาง ไม่ได้สนใจการประชดประชันของไปเหวินชั่ว แต่ยิ้มถามกลับว่า “นายซื้อรถเอง หรือพ่อนายซื้อให้ล่ะ?”
“เกี่ยวกับนายหรือไง?” สีหน้าไปเหวินชั่วเปลี่ยนเล็กน้อย เหมือนโดนเฉินเฟิง ใจดี
“ไม่เป็นไร” เฉินเฟิงส่ายหน้า: “ผมแค่อยากบอกคุณว่า ซาน ตาน่าของผมน่ะต่อให้เก่าหรือพังแค่ไหน ผมก็ซื้อมาเอง
“ส่วนDeephouseของคุณน่ะ ต่อให้หรูทันสมัยแค่ไหน คุณก็ ไม่ได้ซื้อมาเอง ไม่มีพ่อคุณ อย่าว่าแต่ Deephouse แค่ตัวล้อรถ คุณก็ไม่มีปัญญาซื้อได้หรอก”
“ดังนั้น รอวันไหนที่คุณสามารถซื้อ Deephousel ด้วยน้ำพัก
น้ำแรงของคุณเองแล้ว ค่อยมาบอกว่าคุณสามารถให้ความสุข กับหวั่น วได้ ดีไหม?
สีหน้าไปเหวินชั่นเริ่มบิดเบี้ยว ต้องยอมรับเลยว่า คำพูดของ เงินเฟิงแทงใจเขาอย่างแรง ลูกคนรวยอย่างเขา ถ้าไม่มีพ่อแม่ แล้ว ก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น
ถ้าไม่มีพ่อแม่ เขาไม่มีปัญญาซื้อ Deephouseได้เลย และเขาก็ ไม่มีปัญญามาโอ้อวดต่อหน้าเงินเฟิงด้วย
“คารมนายไม่เลวนี่” ไปเหวินชั่วมองเฉินเฟิงอย่างมาดร้าย
“ขอบคุณที่ชมครับ” เฉินเฟิงยิ้มบาง
“ขอบคุณ?” ไปเหวินชั่วยิ้มเย็น: “หวังว่าอีกเดี๋ยวพอฉันขึ้น แสดงแล้ว นายยังจะขอบคุณออกมาได้อยู่!” พูดจบ ไปเหวินชั่วก็ สะบัดหน้ากลับไป
แต่ว่าเฉินเฟิงกลับขมวดคิ้วออกมา ทำไมฟังไปเหวินชั่วพูด เหมือนจะขึ้นเวทีไปทำอะไรสักอย่าง?
หลายนาทีผ่านไป งานฉลองเริ่มต้นขึ้น
พิธีกรชายหญิงสองคู่ขึ้นเวที พวกเขาพูดตามสคริปต์ และ ประกาศข่าวหนึ่งออกมา หลังจากรายการคืนนี้จะมีแขกพิเศษมา ที่นี่ เพื่อร้องเพลงเนื่องในงานฉลองครบรอบร้อยปีของมหาลัยจง
ทุกคนต่างพากันอยากรู้ และเริ่มเมาท์มอยกันอย่างบ้าคลั่งในฐานะของแขกพิเศษคนนี้
แต่คุยกันอยู่นานก็เดาไม่ออก
สำหรับเรื่องนี้ เฉินเฟิงไม่ได้เสียใจอะไร เขามาที่นี่ก็เพราะมาดู การแสดงของหลินหวั่น ว ส่วนเรื่องแขกพิเศษอะไร ไม่เกี่ยวข้อง
อะไรกับเขา
รายการแรกของงานฉลองคือการแสดงวิทยายุทธ์ ผู้แสดงเป็น ชายหนุ่งร่างสูงใหญ่ใส่ชุดฝึกยุทธ์สีขาว ร่างใหญ่ตัดกับสีผิวบร อนด์ทําให้สาวน้อยสาวใหญ่ด้านล่างเวทีตาเป็นประกายระยิบ
ระยับ
ตามด้วยการกระโดดเตะขนไม้กระดานหักเป็นสองท่อนของ ชายหนุ่ม ยิ่งทำให้บรรยากาศตื่นเต้นถึงขีดสุด มีสาวน้อยหลาย คนกรีดร้องลุกขึ้นเซียร์ชายหนุ่ม
เฉินเฟิงที่อยู่ท่ามกลางคนมากมาย รู้สึกเหมือนที่เขากำลัง
เต้นระบา
หลังการแสดงวิทยายุทธ์ของชายหนุ่มเสร็จสิ้นลง เสียงกรี๊ด ร้องข้างหูเริ่มเบาบางลง เฉินเพิ่งถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ ยิ่งรอคอยการแสดงของหลินหวั่นชีวมากขึ้น
หนึ่งชม.ผ่านไป งานเลี้ยงดำเนินมาถึงช่วงท้าย รายการที่ขึ้น แสดง คุณภาพเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ของคนดูก็ตื่นเต้นจนถึง
ขีดสุด
หลังจากการแสดงเดี่ยวกู่เจิงจบลง เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วงาน
หลังจากเสียงปรบมือจบลง พิธีกรหญิงในชุดราตรีสีแดงยิ้ม พลางเดินขึ้นเวที
“ในบรรดาเครื่องดนตรีโบราณของแต่ละประเทศ ในโลกนี้ เปียโนปัจจุบันได้รับการยกย่องจากนักดนตรีชื่อดังมากมายว่า เป็นราชาของเครื่องดนตรี เสียงเปียโนดุจเสียงสวรรค์ สามารถ ดีดเสียงอ่อนโยนที่สุดในใจเราออกมา เสียงเปียโนสะท้อนไปมา ร้อยครั้งพันครั้ง ไพเราะดังเสียงสวรรค์….
“ใช่ ต่อมาไปเหวินชั่วเดือนคณะการจัดการจะเป็นผู้แสดง เดี่ยวเปียโน..”
พอคำว่าไปเหวินซิ่วสามคำออกมา ทั่วทั้งงานก็มีเสียงกรี๊ดดัง สนั่นจากทุกทิศ ดังจนกลบเสียงพิธีกรไปเลยด้วยซ้ำ
สาวน้อยมากมายทําหน้าลอย เหมือนเห็นดาราที่รักมาก
เงินเฟิงขมวดคิ้ว ทำไมเขารู้สึกสังหรณ์ใจว่า ไปเหวินชั่วที่ พิธีกรคนนี้พูด จะเป็นชายหนุ่มที่เข้ามาหาเรื่องเขาเมื่อกี้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ