บทที่ 385 สาวงามเมืองเหนือ
“ประธานเสี้ย ดนตระกูลหลิวไปกันแล้ว
ค่ะ”
ฟางหย่าถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อ เห็นขบวนรถของคนบ้านหลิวจากไปกัน และก็ ภาวนาในใจ ขอให้คนที่ลักพาหลิวเส้าไปพา เขาไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับมาอีกตลอดชาติ เลย
“ฟางหย่า เธอไม่เห็นหน้าตาคนที่เข้าไป ในลิฟท์กับเธอหรอ?” เสียเมิ่งเหยาอดถามขึ้น มาไม่ได้ ตอนได้ยินว่าหลิวเส้าจะขึ้นมาหา เดิมเธอคิดจะขอความช่วยเหลือจากฉันเส วียนหรั่ว แต่ไม่คิดว่า จะเกิดเรื่องราวพวกนั้น ขึ้นซะก่อน
จู่ๆหลิวเส้าฝ้ก็หายตัวไปดื้อๆ เรื่องแปลก ประหลาดแบบนี้เธอเคยเห็นแต่บนตัวเฉินเฟิง เท่านั้น แต่เรื่องนี้จะเป็นฝีมือเฉินเฟิงจริงหรอ?
“ประธานเสี้ย คนนั้นเขาลอบทำร้ายฉัน จากทางด้านหลังนะคะ ฉันไม่มีโอกาสแม้แต่ จะเหลียวไปมองเลย ก็โดนเขา สลบแล้ว ฉัน จะเห็นหน้าตาเขาได้ยังไงล่ะคะ” ฟางหย่ายิ้ม เศร้า เธอเข้าใจความรู้สึกเสียเมิ่งเหยาตอนนี้ ไม่ว่าคนนั้นจะลักพาตัวหลิวเส้าผู้ด้วยสาเหตุ อะไรก็ตาม เขาก็ช่วยเสี้ยเมิ่งเหยาแก้ไขเหตุ ร้ายได้จริงๆ เสี้ยเมิ่งเหยาอยากรู้เรื่องราวของ เขาก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“อืม” เสี้ยเมิ่งเยหาพยักหน้าอย่างเหม่อ ลอย เธอมีลางสังหรณ์ชอบกลว่า เฉินเพิงคอย วนเวียนอยู่รอบตัวเธอ เขาไม่ได้จากเธอไป ไหนเลย
แต่เธอก็เข้าใจว่า ความรู้สึกแบบนี้ความ เป็นไปได้มันน้อยมาก ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ตอนนี้เฉินเฟิงน่าจะอยู่ที่ชางโจว ไม่ใช่จงไห่
“ประธานเลย คุณแม่คุณโทรหาคุณอีก แล้วค่ะ เธอบอกว่าพรุ่งนี้เธอจะแวะมา คุณ “ฟางหย่ามองเสียเมิ่งเหยาอย่างขอความ เห็น ตั้งแต่เสียเมิ่งเหยากลายเป็นประธานเสี้ย โทรศัพท์สายที่รับเยอะที่สุดทุกวันไม่ใช่หุ้น ส่วนการค้าของบริษัท แต่เป็นของหลินหลั หลินหลันโทรมาแต่ละวันหลายสิบสาย เอาแต่ ถามว่าเสียเมิ่งเหยาอยู่ที่ไหน
“ให้มาพรุ่งนี้ละกัน” พอพูดถึงหลินหลัน เสียเมิ่งเหยาก็เริ่มปวดหัว หลินหลันไม่รู้ว่าเธอ มาจงไห่ครั้งนี้คือมารับตำแหน่งประธานบริษัท คางเหม่ยกรุ๊ป เธอบอกหลินหล่นไปว่า เธอมา จงไห่ครั้งนี้ คือมาพักผ่อนหย่อนใจ และหา งานทำที่จงไห่ซะหน่อย
แต่ตอนนี้หลินหลันดูเริ่มสงสัยเธอแล้ว ไม่งั้นคงไม่โทรจิกเธอทุกวันเพื่อถามว่าเธออยู่ ที่ไหนแบบนี้ ตอนนี้ยังมาจงไห่ด้วยตัวเองเพื่อ มาหาเธออีก
พอหลินหลันถึงจงไห่ เรื่องที่เธอรับ ตำแหน่งประธานบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป คงปิด หลินหลันต่อไปไม่ได้แล้ว ตกกลางคืน เฉินเพิ่งได้รับโทรศัพท์สาย
หนึ่ง
เซียวรั้วโทรมาน่ะเอง
“พี่เฟิง คืนนี้พี่ว่างไหมคะ?” เขียว วถาม ด้วยน้ำเสียงสดใส เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีไม่
น้อย
“มีสิ ทําไมหรอ?”
“ทํๆ คืนนี้มีเทพธิดาคนหนึ่งจะขึ้นเวที แสดง อยากเชิญ มาดูน่ะคะ” เซียว วบอก เสียงเริงร่า
เฉินเฟิง มชา: “เทพธิดา? นี่หมายถึงตัว เองหรอ?”
ที่ไหนกันล่ะคะ หน้าฉันหนาขนาดนั้น เลยหรือไง เทพธิดาที่ฉันพูด หมายถึงหวั่นชีว ค่ะ”
“คืนนี้เป็นงานฉลองวันเกิดครบรอบร้อย ปีของมหาลัยจงไห่ การแสดงชุดเจ็ดนางฟ้า ลงมายังโลกมนุษย์ที่หวั่น วร่วมแสดงด้วย โดนเลือกมาเป็นรายการแรกค่ะ นี่เป็นครั้งแรก ที่เธอได้ขึ้นเวทีแสดงต่อหน้าคนมากมาย ขนาดนี้ ฉันกลัวเธอจะตื่นเต้นเกินไป ในฐานะ แฟนของหวั่นชีว พี่จะไม่มาให้กำลังใจหวั่น ว หน่อยเหรอคะ?” เซียวริ้วกระเป๋า หลังจาก กลับจากฮงเยคลับครั้งก่อน เธอก็กลายเป็น เพื่อนสนิทกับหลิวหวั่นชีว ในฐานะเพื่อนสนิท เรื่องแรกที่เซียวรั่วต้องเข้าใจคือสถานภาพ ความรักของหลินหวั่นชีวก่อน
และการจะเข้าใจความรู้สึกในใจหล่น หวั่น ว ก็หนีไม่พ้นเฉินเฟิง
แต่ทุกครั้งที่ถามถึงความสัมพันธ์ของ หลิวหวั่น วกับเฉินเฟิง หลินหวั่นชีวกลับ เอาแต่พูดหน้าแดงว่าเฉินเฟิงเป็นพี่ชายเธอ ไม่ใช่แฟน
คำพูดแบบนี้ เซียวรั่วไม่เชื่อแน่นอนอยู่ แล้ว
เฉินเฟิงจะชอบหลินหวั่น วไหม เขียว ว
ไม่รู้ แต่เขียว วรู้ว่า หลินหวั่น วชอบเฉินเฟิง
แน่ๆ
เพราะทุกครั้งที่เอ่ยถึงเฉินเฟิง หลินหวั่น ชีวจะหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกเลยทีเดียว
การขึ้นแสดงในครั้งนี้ ตามหลักแล้วหลิน หวั่นชีวจะต้องเชิญเฉินเฟิงมา แต่เมื่อครึ่ง ชม.ก่อน ตอนเขียว วถามหลินหวั่นชีวว่าเชิญ เฉินเฟิงมาไหม หลินหวั่นชีวกลับส่ายหน้าทั้งๆ หน้าแดง
ดอนนั้นเซียวรั่วแอบมองบน ไม่ต้องถาม เลยว่า เป็นเพราะหลินหวั่นวไม่กล้า แล้วยัง กลัวอีกด้วย กลัวว่าคนอื่นจะรู้ความสัมพันธ์ ของเธอกับเฉินเพิง
ในฐานะเพื่อนสนิทของหลิวหวั่นชีว เซียวรั่วไม่มีทางยอมนิ่งเฉยอยู่แน่
เธอเลยอาศัยช่วงที่หลินหวั่น วไม่อยู่ แอบโทรหาเงินเฟิง
“รายการของหวั่น วกี่โมงล่ะ? ” เฉินเฟิง ชะงักก่อนถาม เขียวรั่วเข้าใจผิดเรื่องความ สัมพันธ์ของเขากับหลินหวั่นชีว แต่เรื่องแบบนี้ ก็อธิบายล่ามาก ยิ่งอธิบายยิ่งแย่ เขากับหลิน หวั่น วรู้อยู่แก่ใจกันก็พอแล้ว
“เจ็ดโมงค่ะ พี่มาก่อนดีกว่านะคะ เกิดมา ช้าจะไม่ได้เห็นหวั่น วเอานา” เขียวรั่วยิ้มบอก
“ได้” เฉินเฟิงยิ้มเศร้าก่อนวางสาย ก่อน หันไปมองนาฬิกา พบว่าจะหกโมงแล้ว ถ้า รายการของหลินหวั่น วคือเจ็ดโมง เขาควรจะ ไปตอนนี้เลย
รถใหม่ถูกหลี่เล่อเอาไปลงโปรแกรมอัด คลิปหน้ารถ เฉินเฟิงเลยได้แต่ขับซานตาน่า มือสองของหลี่เล่อไป
ถึงซานตาน่าคันนี้จะเป็นมือสอง แต่หลี่ เลือดูแลดีมาตลอด ขับขึ้นมาเลยสบาย
ตอนนี้ที่ด้านหลังเวทีแสดงของมหาลัย
จงไห่
เขียวรั่ว งวางสายลง ร่างงามแต่งหน้า เบาบางในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็โผล่ออกมา
สู่สายตาทุกคน
วินาทีที่ร่างงามปรากฏตัวออกมา ทีมงาน และนักศึกษาต่างพากันกลั้นหายใจ
สวย!
สวยมาก!
ในสมองทุกคนโผล่บทกลอนออกมาบท หนึ่ง สาวงามเมืองเหนือ ทั้งโดดเดี่ยวและ อิสระ เพียงเหลียวหลังท่าคนทั้งเมืองสะท้าน พอหันกลับมาก็ทําคนทั้งประเทศศิโรราบให้
หลินหวั่นชีวที่อยู่เบื้องหน้า งามล่มชาติ ล่มเมืองจริงๆ !
กระโปรงยาวสีขาวช่วยขับเรือนร่างอรชร ของเธอให้ดูบอบบาง การแต่งหน้าบางเบา ช่วยสะท้อนความงามอันใสสะอาดของเธอ ออกมา
ฟันขาวสะอาดใส ดวงหน้ากระจ่าง เกลี้ยงเกลา ค่าที่สรรเสริญความงามทั้งหมดตอนนี้ ถูกเอามาใช้ที่ตัวเธอ
เธอเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สายตาทุก คนก็พุ่งไปหาเธอโดยพร้อมเพียงกัน
เธอเหมือนมกราตรีเม็ดงามที่สอง ประกายในความมืด!
เซียวรั่วเป็นคนแรกที่หลุดจากภวังค์ หลินหวั่นชีววันนี้สวยมากเลย ขนาดดาวมหา ลัยอย่างเธอยังดูไร้สีสันต่อหน้าหวั่นชิวเลย
“พี่เซียวรั่ว”
เห็นเขียว วมองตัวเองอย่างตะลึง หลิน หวั่น วอคเข็นอายไม่ได้
“หวั่น ว วันนี้เธอสวยมากเกินไปแล้ว เนี่ย เดี๋ยวบางคนได้เห็นเธอนะ ต้องตะลึงจน ดาทะลุออกมานอกเบ้าแน่ ” เซียวรั่วเดินมายืน ยิ้มอย่างมีเลศนัยต่อหน้าหลินหวั่น ว
“บางคน? ” หลินหวั่น วมองเขียว ว อย่างสงสัย บางคนที่เขียวรั้วพูดถึงใครกัน? “ฉันพูดผิด ไม่ใช่บางคน แต่เป็นเจ้าพวก นั่นไง” เหมือนรู้สึกตัวว่าตัวเองเผยไต๋ เซียวรั่ว รีบแก้ตัว เธออยากเซอร์ไพร์สหลินหวั่น ว ถ้า ตอนนี้หลินหวั่นชีว อีกเดี๋ยวเฉินเฟิงมา ก็ไม่ เซอร์ไพร์สส
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ