ลูกเขยมังกร

บทที่ 848 ถูกรังแก



บทที่ 848 ถูกรังแก

หลี่จื่อเยว่ลองใส่ชุดกระโปรงยาวตัวหนึ่งเดินมาตรงหน้า เฉินเฟิงพร้อมกับถามด้วยความตื่นเต้น : “คุณว่าชุดกระโปรง ตัวนี้สวยหรือเปล่า?

นั่นเป็นชุดกระโปรงยาวสีแดงลายดอก ซึ่งด้วยเติมทีหุ่นของ หลี่จื่อเยวนั้นดีอยู่แล้ว เมื่อมาสวมใส่เสื้อผ้าที่สะท้อนรูปร่างของ เธอแบบนี้ จึงทำให้ดูดีเป็นอย่างมาก

แต่ว่าเธอยังไม่รอให้เฉินเหิงได้ตอบอะไร ก็รีบเดินกลับเข้าไป ในห้องลองเสื้อผ้าแล้ว

และครั้งนี้เธอก็ออกมาพร้อมกับเสื้อยืดเปิดไหล่สีแดง ยิ่งดู

เซ็กซี่กว่าชุดกระโปรงลายดอกเมื่อสักครู่นี้

เธอถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ เฝ้ารอคําตอบจากเฉินเฟิงเลย

การที่นั่งอยู่ตรงนั้นคอยมองดูหลี่จื่อเยว่เดินเข้าๆ ออกๆ หลาย ครั้ง สุดท้ายเฉินเฟิงจึงถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ : “นี่เธอจะดู จนถึงเมื่อไหร่กัน? ”

จากนั้นหลี่จื่อเยว่จึงรู้ตัวพร้อมกับหยุดการกระทำของตัวเอง เธอเลือกเอาเสื้อผ้าไม่กี่ตัวที่ตัวเองดูแล้วไม่เลวมา ก่อนจะเดินไป ยังเคาน์เตอร์เพื่อชำระเงิน

หญิงสาวเซ็กซี่คนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ อยู่ก็พูดลอยๆ ออกมา“พวกผู้หญิงสําส่อนสมัยนี้แต่ละคนแข่งกันโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชาย อย่างไม่ยอมกันซะเลย แม้แต่ในสถานที่แบบนี้ยังทำลงไปได้ แถมยังไม่รู้จักกลัวเลยว่าเดือนหน้าตัวเองจะไม่มีกินแล้ว”

เฉินเฟิงไม่รู้ตัวว่าเป็นตัวเอง แต่หลี่จื่อเยว่กลับถามทันที “คุณกำลังว่าใคร? ”

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นทำเป็นไม่สนใจ ราวกับว่าหากทำแบบ นั้นแล้วจะเป็นการลดตัวเองลงไป จึงได้เพียงเดินไปยังเคาน์เตอร์ ก่อนจะวางเอาเสื้อผ้าที่ตัวเองเลือกเอาไว้วางลงไป

เธอหันไปพูดกับพนักงาน : “คอลเลคชั่นใหม่ในเดือนนี้ไม่ ค่อยจะถูกใจเลยจริงๆ ฉันไม่มีความอยากซื้อเลยสักเท่าไหร่”

พนักงานคนนั้นตอบกลับหญิงสาวคนนั้นด้วยรอยยิ้ม “พี่

เหมย ต้องขอโทษจริงๆ ด้วยนะคะ เดือนหน้าหากคอลเลกชั่น

ใหม่เข้าแล้วสัญญาเลยว่าจะแจ้งให้กับคุณเป็นคนแรกเลยค่ะ”

หญิงสาวคนนั้นตอบกลับอย่างหมดความสนใจ “เอาเถอะๆ ฉันไม่ได้ว่าอะไรพวกเธอสักหน่อย ฉันก็แค่ถูกคนบางคนทำลาย ความรู้สึกสนใจก็เท่านั้น”

เดิมทีหลี่จื่อเยว่ไม่อยากที่จะทะเลาะกับเธออีก แต่เมื่อได้ยิน ประโยคนี้ทำให้เธอต้องเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง

“คุณกำลังว่าใครกันแน่? คุณเองนั่นแหละที่สำส่อน สําส่อน ทั้งตระกูล”

ทางด้านเฉินเฟิงเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อกี้ที่หญิงสาวคนนั้นพูดถึงคือตัวเองและหลี่จื่อเยว่ เขาจึงเดินเข้าไปด้วยความไม่พอใจเช่น กัน

แต่หญิงสาวคนนั้นกลับมองหลี่จื่อเยวด้วยท่าทีรังเกียจ ก่อนจะ พูดอย่างเยาะเย้ย “ไร้การสั่งสอนก็คือไร้การสั่งสอน อย่าคิด ว่าตัวเองสวยแล้วจะไม่มียางอาย เวลาซื้อของก็ต้องเกาะแกะ ผู้ชาย ไม่รู้จริงๆ ว่าใช้เงินของใคร

เมื่อพูดจบ เธอก็ยกถุงเสื้อผ้าพร้อมเดินออกไป

แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบบนี้หลี่จื่อเยวไม่มีทางปล่อยเธอไปอยู่ แล้ว ทั้งยังเดินเข้าไปขวางหน้าเธอคนนั้นทันที พร้อมกับพูดด้วย ความขุ่นเคือง : “ฉันใช้เงินของตัวเอง ทั้งหมดล้วนเป็นเงินของ ตัวเอง ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้นสักหน่อย คุณอย่ามากล่าวหากัน มั่วซั่วแบบนี้”

“หลีกไป อย่าให้ฉันต้องตบเธอ” หลังจากที่ถูกขวางทางเอาไว้ หญิงสาวที่แต่งตัวเซ็กซี่คนนั้นก็ดึงหลี่จื่อเยาหวังจะให้เธอหลีก ทางให้

แต่หลี่จื่อเยว่กลับยิ่งดึงดันที่จะขวางทางมากขึ้นกว่าเดิม

“ไม่หลีก นอกเสียจากว่าคุณจะขอโทษฉันก่อน ไม่อย่างนั้นฉัน ก็จะขวางคุณอยู่อย่างนี้แหละ

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นก็ยกมือขึ้นด้วยท่าที ที่จะตบหลี่จื่อเยวจริงๆ

หลี่จื่อเยว่กลัวจนปิดตาแน่นพร้อมกับจะหันหน้าหนี แต่ผ่านไปหนึ่งยังไม่การเคลื่อนไหวใดๆ เธอจึงลืมตามาแล้วได้ อยู่

“ยังคราวคุณจะมาสั่งสอนเธอ เฉินเฟิงพูดกับหญิงสาวคนนั้นอย่างเยือกเย็น

หญิงคนนั้นพยายามดิ้นรนอยู่พักหนึ่งปล่อยมือของเธอ

หลังหลุดพ้นมาได้ หญิงสาวคนนั้นหันไปตะคอกกับ เฉินเฟิงอย่างความเกลียดชังด้วยเสียงโมโหจัด กับแค่ คนจนอย่างนาย ยังมีหน้ากล้ามาปกป้องงั้นหรอ ไม่หัดลองส่องกระจกดูตัวเองสักหน่อยหล่ะ คิดตัว

เฉินเฟิงได้โกรธเคืองแต่กลับยิ้มตอบ คุณรวยมากนั้น สินะถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพนันกันดีไหม ถ้าเกิดว่าผมเงิน มากกว่า

หญิงสาวคนนั้นมองยังเฉินเฟิงความประหลาดใจ ราวกับไม่ว่าเฉินเฟิงจะพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้ นั้น เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะทั้งสองคนมันประสาทแดก”

เมื่อพูดเธอก็หวังแต่ทางด้านเฉินเฟิงไม่ยอมจะปล่อยผู้หญิงคนไปง่ายๆแบบนี้ เขาจึงเข้าไปขวางหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะยิ้มออกมา “ทําไม ไม่กล้าแล้วหรือไง? คุณบอกว่าผมมันไอ้คนจนไม่ใช่หรือ ไง นี่กับแค่ไอ้คนจนคนหนึ่งคุณก็สู้ด้วยไม่ได้งั้นหรอ”

“หลีกไป!” หญิงสาวคนนั้นตะโกน

เฉินเฟิงถูกเธอผลักออก จากนั้นพนักงานที่อยู่อีกด้านก็เดินเข้า มากล่าวเกลี้ยกล่อม

“คุณผู้ชายค่ะ ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ คุณผู้ชายได้โปรดอย่า ก่อความวุ่นวายแบบนี้อีกเลยนะคะ

หลี่จื่อเยวที่ได้ยินพนักงานพูดแบบนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา “เมื่อ กี้ที่เธอว่าพวกเราทำไมไม่เห็นว่าพวกคุณจะพูดอะไรเลย ทำไม ตอนนี้ถึงได้ออกหน้ามาช่วยพูดแทนหล่อนด้วย”

พนักงานคนนั้นรีบแย้งขึ้นมา : “คุณผู้ชายค่ะ คุณอย่าได้ไป ถือความกับสุภาพสตรีคนหนึ่งเลยนะคะ ? แบบนี้มันจะดูไม่มี ความเป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ”

เฉินเฟิงยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดต่อ : “สุภาพบุรุษ ? ผมไม่ ต้องการ ผมก็แค่อยากรู้ว่าที่จริงแล้วผู้หญิงคนนี้มีเงินเยอะกว่า ผมหรือเปล่า”

พนักงานตะเบ็งเสียงดังขึ้น : “คุณผู้ชายค่ะ ถ้าหากคุณยังทำ แบบนี้ฉันคงจะต้องเรียก รปภ.แล้วนะคะ”

เห็นได้ชัดเลยว่าพนักงานคนนี้ไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับลูกค้าที่ชื่อ พี่เหมยคนนี้ จึงทำให้เธอเลือกที่จะอยู่ข้างหญิงสาวเพื่อต่อกรกับเฉินเฟิง

เฉินเฟิงกวาดสายตาไปมองยังเสื้อผ้าทั้งหมดในร้านก่อนจะ พูดแนะนำ “แค่เงินไม่ใช่หรือไง ผมซื้อเสื้อผ้าพวกคุณเลย คุณหยุดพูดได้ล่ะ ?”

พนักงานคนนั้นคิดไม่ว่าเฉินพูดแบบนั้นออกมา แต่ สิ่งทำให้เธอหรือเปล่า ทั้งยังคิดอีกว่าหากกว้านจนหมดจริงอย่างเธอจะสามารถค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่

ทำให้ตอนในแววตาเธอเต็มไปด้วยเงินจํานวนมาก หญิงสาวเซ็กซี่คนหันไปตะคอกใส่เฉินเฟิงอีกครั้ง คน บ้า เป็นคนบ้าเกินจะเยียวยาจริง”

เฟิงไม่อยากที่จะต่อล้อต่อเถียงกับเธอ เพราะเขาไม่ได้

ความสนใจพวกนี้

หลี่จื่อเยวเห็นเรื่องกำลังดึงดันกันแบบนี้ต่อไป เธอเลยเดินข้างเฉินเฟิงด้วยเบาๆ เอาเป็นว่าเราช่างมันเถอะ ยังไงซะพวกเราไม่อะไรเสียหาย

เฟิงมองตกใจกลัวของก่อนพูดด้วยเสียงอ่อนๆ “ตอนออกมาเธอว่าจะเชื่อฟังฉัน เปลี่ยนใจแล้ว?

หลี่จื่อเยวส่ายหน้า แต่เธอแค่รู้สึกไม่อยากให้เป็นแบบต่อไป ทว่าเธอกลับลังเลจนไม่รู้จะพูดยังไง

เมื่อเห็นว่าหลี่จื่อเยว่ไม่พูดอะไรอีก เฉินเฟิงจึงหันกลับไปมอง หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้น พร้อมกับพูดย้ำอีกครั้ง ถ้าหากว่าคุณ ไม่กล้าพนัน ก็รีบขอโทษเธอซะว่าคุณแค่พูดจาเหลวไหล เท่านั้น ไม่อย่างนั้นผมสัญญาเลยว่าจะลงมือถอดเสื้อผ้าคุณออก ด้วยมือของตัวเอง”

เมื่อพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ น้ำเสียงของเฉินเฟิงกลาย เป็นเย็นชามากกว่าเดิมราวกับว่าเขากล้าทำอย่างที่ได้พูดไป จริงๆ

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นกำลังในมืออย่างแน่น ราวกับกำลัง ครุ่นคิดถึงคำแนะนำของเฉินเฟิงอยู่ เพียงแต่เรื่องนี้สำหรับเธอ แล้วมันจะทําให้ต้องขายหน้าอย่างมาก

แต่การเฉินเฟิงที่ยังคงแสดงสีหน้าดุดันยืนอยู่ตรงนั้น จึงทำให้

เธอรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย

เฉินเฟิงเขี่ยจมูกของตัวเองด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ก่อนที่เขา จะพูดอีกครั้ง : “ว่ายังไง ผมไม่ได้มีเวลามากนักหรอกนะ”

สุดท้ายหญิงสาวคนนั้นก็ไม่อาจที่จะคัดค้านได้อีก เธอแสดง สีหน้าที่กำลังหวาดหวั่นจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วหันไปมอง เฉินเฟิงพร้อมกับเสียงครวญ : “ขอ …….โทษ

แต่เฉินเฟิงกลับตอบด้วยเสียงอันเรียบเฉย : “อะไรนะ ผมไม่ ได้ยิน”
หญิงสาวคนนั้นแทบอยากจะขาดใจตายซะตรงนั้น ก่อนจะเพิ่ม

ระดับเสียงขึ้น : “ขอโทษ”

“ผมให้คุณพูดขอโทษกับหล่อน คุณกำลังทำอะไรกัน ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ