ลูกเขยมังกร

บทที่ 844 โปรยเงิน



บทที่ 844 โปรยเงิน

เมื่อกลับมาถึงรถ เฉินเพิ่งเห็นว่าน้ำมันยังเต็มไม่เต็มถัง เขาจึง หยิบหัวจ่ายน้ำมันมาเติมน้ำมันเอง

ก่อนจะหันไปคุยกับชิงจือ “การพาเด็กคนนี้ไปด้วยจะต้องเจอ

ปัญหาแบบนี้แน่นอน”

ชิงจือเปิดประตูพลันตอบเขา “ฉันรู้

ในเมื่อเธอคิดว่าจะเกิดอะไรก็ช่างมัน เฉินเฟิงจึงได้เพียงแค่นิ่ง เงียบยอมรับเท่านั้น

พวกเขาขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน เหลือเพียงสถานการณ์ วุ่นวายไว้ข้างหลัง ส่วนเยว่เอ๋อก็ดูหวาดกลัวจนเอาแต่หลบอยู่ ด้านหลัง ดูจากสีหน้าของเธอในตอนนี้แล้วเหมือนว่าเธอกำลัง

นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวหนีออกจากบ้าน จึงทำให้เธอยังมี ความลังเล

เฉินเฟิงหันไปมองเธอเพียงแวบเดียวโดยไม่สนใจว่าเธอจะ ตัดสินใจอย่างไรต่อ

หลังจากขับรถมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเยว่เอ๋อก็ยอมเอ่ยปาก พูดออกมา

“หนูทำอะไรผิดไปหรือเปล่า หนูไม่ควรจะทำแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ

ไม่รู้ว่าเธอกำลังถามใครอยู่ แต่ชิงจือที่กำลังมองดูบรรยากาศ นอกหน้าต่างก็ตอบกลับ: เรื่องแบบนี้ไม่มีถูกหรือผิด เธอโต แล้ว มีความคิดของตัวเอง ไม่ใช่ทุกสิ่งหรอกนะที่จะสามารถ ยับยั้งเธอเอาไว้ได้

เฉินเฟิงได้แต่เหลียวมองไปยังชิงฉือ คำพูดแบบนี้ดูจะไม่ เหมาะกับนิสัยของซิงฉือสักเท่าไหร่

“แต่ที่จริงแล้วคุณปู่ก็ดีกับหนูมาก……

“เธออยากกลับไปงั้นหรอ? ” ชิงจือขัดคำของเธออย่างเย็นชา เยว่เอ๋อที่โดนถามแบบนี้ก็เงียบลงทันที เธออาจจะมีความ ลังเลอยู่ในใจ

ในขณะที่กำลังขับรถไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งลอย มาติดอยู่หน้ากระจกรถ เฉินเฟิงมองอย่างละเอียดก็พบว่านั่นคือ แบงก์หนึ่งร้อยหยวน ซึ่งในตอนที่เขากำลังแปลกใจอยู่นั้น เงิน อีกใบก็ลอยผ่านหน้ากระจกข้างไปก่อนจะเห็นเป็นธนบัตรเงินที่ โปรยปรายลงมาราวกับสายฝน

แบงก์ธนบัตรสีแดงปลิวว่อนไปด้านหลัง เขาจึงมองไปยัง ต้นทางที่แบงก์เงินนั้นลอยมาก็เห็นว่ามีคนอยู่ในรถมาเซราติคัน สีเหลืองกำลังโปรยเงินออกมา

“ผมมีเงินยังไม่กล้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้เลย คนสมัยนี้ไม่มีจิต สาธารณะเลยสักนิด” เฉินเฟิงพูดด้วยความหงุดหงิด
แต่ในขณะที่ขับรถตามหลังไปเรื่อยๆ รถคันนั้นที่อยู่ข้างหน้า เริ่มส่ายไปมาบนท้องถนน รถตวาดซ้ายตลาดขวาราวกับว่าคน ขับกำลังเมาเหล้าซะอย่างนั้น

เฉินเฟิงที่ขับรถตามหลังไม่กล้าที่จะเร่งความเร็วเพื่อแซงพวก เขาไปเพราะกลัวว่าจะไปโดนอีกฝ่ายชนเข้า

แต่ผ่านไปได้ไม่นาน รถคันหน้าก็เลี้ยวเข้าไปจอดข้างทาง เฉินเฟิงที่กำลังจะขับรถแซงพวกเขาไป แต่ดันมีชายหญิงคู่หนึ่ง พุ่งออกมาทำเอาเงินเฟิงต้องเหยียบเบรคจนสุดเท้าถึงไม่ไปชน เข้ากับพวกเขา

ถึงแม้ว่ารถจะหยุดทันแต่นั่นทำให้เงินเฟิงรู้สึกหงุดหงิดอย่าง มาก จะว่าไปใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครดีใจหรอก

เขาได้แต่จอดรถอย่างไม่เต็มใจ ในขณะที่ชายหญิงคู่นั้นกำลัง

เดินมายังทางของพวกเขา

เฉินเฟิงหันไปบอกกับหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ในรถ ลงไปดูสักหน่อย” เมื่อพูดจบเขาก็เดินลงรถไป

“ผมจะ

เขาเดินไปยังหลังรถ อีกฝ่ายเป็นชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่ง ฝ่าย ชายแต่งกายอย่างหรูหรา ทั้งตัวของเขาสวมชุดสูทแบรนด์เนม พร้อมด้วยนาฬิการาคาแพง และคาดเข็มขัดที่ประดับหมุดทอง

ทางฝั่งหญิงสาวก็เหมือนกันเธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย เมื่อ ดูจากการแต่งตัวแล้ว เธอสวมใส่ชุดเดรสรัดรูปที่เผยให้เห็น สัดส่วนเว้าโค้งของร่างกาย พร้อมเติมแต่งด้วยสร้อยคอและ เครื่องประดับ เธอถือกระเป๋าหนังใบหนึ่งซึ่งดูก็รู้ได้เลยว่าเป็นแท้แน่นอน

แต่ว่าเฉินเฟิงได้สนใจเรื่องนี้ เขาเดินตรงไปตรง หน้าของพวกเขาก่อนตะคอก

“รนหาที่ตายหรือไง ทำไมไม่หน่อยว่าที่นี่ที่ไหน

เฉินเฟิง โดยไม่ได้มีความรู้สึกผิดต่อความผิดที่ตัวเองได้ทำลง ไปสักนิด ทั้งยังตะคอกเฉินเพิ่งกลับอีกด้วย

“แกนี่ชอบแสอยากจะทําอะไรมันเรื่องของฉัน แกรีบหัวไปซะ

เฉินเฟิงไม่สนใจอะไรทั้งนั้นก่อนจะเดินเข้าไปต่อยเขาที หนุ่มถึงผู้ชายของตัวเองถูกทำร้ายเกิดอาการโมโหเลือดขึ้นหน้าทันที

เฉินเฟิง ทำไมถึงต้องทําร้ายอื่นด้วย บ้าไปแล้วหรือไง”

พูดไป เดินเข้าไปประคองชายหนุ่มที่คนนั้น ราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้นี้ใครเป็นคนผลักเธอลงมา จากรถ

เองไม่อยากจะสนใจพวกเขา เตรียมจะ

ไปขึ้นรถ

แต่แล้วหญิงสาวนั้นกลับเข้ามาจับเฉินเฟิงเอาก่อนจะ

ตะโกนหน้าเขา : อย่าเพิ่งไป
เฉินเฟิงใช้แรงเบาๆ ผลักหญิงสาวออกไปข้างทาง

ซึ่งเรื่องของพวกเขาทำให้เกิดจราจรติดขัด ทําให้มีรถหลาย คันที่ตามหลังมาค่อยๆ แล่นมาจอด ส่วนหญิงสาวที่ถูกผลักออก ไปอีกทางก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง

และในที่สุดชายหนุ่มคนนั้นก็ลุกขึ้นมาเสียที เขาจ้องมอง

เฉินเฟิงก่อนจะพูดใส่อารมณ์ทันที

“แกกล้าต่อยฉันงั้นหรอ แกรู้หรือเปล่าว่าฉันคือใคร ฉันจะ บอกอะไรให้เลย แกตายแน่”

ต่อให้เขาจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังคงถอยหลังออกไปอยู่ห่าง จากเฉินเฟิง ซึ่งคงเป็นเพราะเมื่อกี้นี้ที่ถูกเฉินเฟิงต่อยเลยทำให้ เขาหวาดกลัว

เฉินเฟิงเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที พลางมองไปหาเขาพร้อม

คําถาม

“แล้วผมจําเป็นต้องรู้ด้วยหรือเปล่าว่าคุณคือใคร? ”

“หึ แกรู้หรือเปล่าว่านั่นมันรถอะไร? ” อีกฝ่ายไม่ได้ตอบ คำถามของเขา แต่กลับถามเฉินเฟิงพร้อมกับชี้ไปยังรถแลมโบกี นีของตัวเอง

เฉินเฟิงส่ายหน้า: “ไม่รู้

ชายคนนั้นถึงกับเปล่งเสียงเยาะเย้ยออกมา

“ไอ้บ้านนอก แกรู้หรือเปล่าว่าชุดสูทอาร์มานี่ของฉันมีราคาเท่าไร? และนาฬิกาอันนี้ เมื่อกี้นี้ฉันว่าจะให้แกชดใช้เอาให้ แกล้มละลายไปเลย”

จากนั้นกลุ่มคนที่อยู่ข้างทางก็เริ่มซุบซิบกัน ดูเหมือนว่าใน กลุ่มพวกเขาจะมีคนรู้ว่าชายคนนี้คือทายาทเศรษฐี จึงมีคนเดิน เข้าไปหวังจะสนทนาด้วย

ชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินเข้าไปพร้อมกับเรียกชายหนุ่มคนนั้น อย่างประจบสอพลอ

“คุณชายหลัว เกิดอะไรขึ้นหรอครับ? ”

คุณชายหลัวคนนั้นหันไปมองเขาก่อนจะตอบกลับอย่างไม่สบ อารมณ์

“ไม่รู้ว่าไอ้บ้านนอกจากไหน กล้าเข้ามาแต่เรื่องของฉัน แล้ว

ยังกล้าทําร้ายฉันด้วย”

ชายคนนั้นที่ได้ยินว่าคุณชายหลัวถูกทำร้าย สีหน้าของเขาจึง เปลี่ยนไปทันที พร้อมกับรีบถามด้วยความห่วงใย

“คุณชายหลัว ไม่ได้รับบาดเจ็บมากใช่ไหมครับ เป็นอะไรหรือ เปล่า ให้ผมพาไปส่งโรงพยาบาลไหมครับ”

ณชายหลัวตอบกลับอย่างไม่สนใจ “ไม่เป็นไร แต่ว่าเจ้า หมอนยังไงซะฉันจะเอามันเข้าคุกให้ได้ นายรู้จักคนนั้นหรือเปล่า ช่วยโทรหาเขาให้ฉันหน่อย

หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตวาดเสียงออกมาเช่นกัน : “ใช่ ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด จะต้องให้เขาได้รู้รสชาติของการติดคุกซะบ้าง

เฉินเพิ่งที่เห็นทั้งหมดนี้ได้แต่รู้สึกเยาะเย้ยเท่านั้น จากนั้นชาย หนุ่มที่ดูเหมือนจะเข้ามาช่วยเหลือสองคนนั้นก็เดินเข้ามาหา เฉินเฟิง ก่อนจะแสร้งปั้นสีหน้าอ่อนโยนพูดคุยกับเฉินเฟิง

“คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังหาเรื่องกับใคร?”

เฉินเฟิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยความแปลกใจ

“เมื่อกี้ผมถามเขาแล้ว แต่เขาไม่ตอบ”

เมื่อได้ยินคําตอบนี้ของเฉินเฟิง ชายคนนั้นก็แสดงท่าทีเหมือน กำลังทุกข์ใจออกมา

“คุณไปมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรหาเรื่องด้วย คุณแย่แน่ๆ ”

แล้วคุณชายหลัวคนนั้นก็หันมาตะคอกใส่ทางฝั่งเฉินเฟิง “นายจะพูดอะไรกับมันนักหนา รีบเรียกคนมา ฉันจะเอามันให้ ตาย จะให้มันต้องชดใช้จนล้มละลายไปเลย

ชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาหันมาพูดกับเฉินเฟิงอีกครั้ง

“คุณก้มหน้ารับผิดกับคุณชายหลัว ผมจะช่วยหาทางช่วยเกลี้ย กล่อมแทนคุณ ให้คุณชดใช้น้อยลง

เฉินเฟิงหัวเราะอยู่ในใจ พลางถามด้วยความสงสัย

“ถ้าผมไม่ยอมรับผิดจะเป็นยังไง? ”

ชายคนนั้นได้แต่ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง : “อย่างนั้นก็ไม่มีทาง ช่วยแล้ว คุณอาจจะต้องติดคุกไปด้วย พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหาย”

เงินเฟิงตอบกลับ

แล้ว”

“แค่นี้หรอ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมก็จะไป

“ทำไมคุณถึงไม่ฟังนะ สิ่งที่ผมพูดคุณไม่เข้าใจหรือไง คุณมี เรื่องกับใคร เขาคนนั้นคือคุณชายหลัวเชียวนะ คุณคิดว่าคุณจะ หนีพ้นงั้นหรอ ให้คุณยอมรับผิดคุณกลับไม่ยอมทำอย่างนั้นคุณ ก็รอให้ถูกจับไปแล้วกัน”

ชายคนนั้นพูดไปพลางแสดงสีหน้าเอือมระอา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ