ลูกเขยมังกร

บทที่ 789 ออกัสตัส



บทที่ 789 ออกัสตัส

อย่างรวดเร็ว เฉินเฟิงมาถึงเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างวาติกันและ โรม นี่เป็นตอนที่เฉินเฟิงมาร่วมงานเลี้ยง ได้ตรวจสอบแผนที่เอา ไว้ก่อน จึงรู้สถานที่แห่งนี้

ที่นี่ไม่มีทางเข้าและทางออก ทั้งสี่ด้านมีกำแพงสูงประมาณห้า หกเมตร บนกำแพงมีราชองครักษ์ยืนประจำการ ด้านล่างมีทหาร ในชุดเกราะคอยลาดตระเวนเป็นระยะๆ

ตอนที่เดินออกมาจากห้องจัดงานเลี้ยงแล้วเห็นรถม้าที่จอดอยู่ ไม่ไกล เฉินเฟิงตัดสินใจซ่อนตัว ล่อเสือออกจากถ้ำ เขาจะออก จากเมืองวาติกันจากที่ที่ไม่มีทางเข้าออก จากนั้นใช้รถมาซื้อ เวลาให้เขา กลับไปโรงแรมวาติกันให้เร็วที่สุด

ขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะเตรียมตัวใช้วิชาเคลื่อนตัวไปจากที่นี่ นั้น เขาสัมผัสได้ถึงลมปราณแปลกๆ ลมปราณนี้ปรากฏตัวครู่ หนึ่งแล้วหายไป ตั้งแต่เขาออกมาจากห้องจัดงานเลี้ยง เขาก็ สัมผัสได้ถึงมัน

ด้วยเหตุนี้เฉินเฟิงจึงหันหลัง มายังมุมลับๆซ่อนตัวเอาไว้ รวบรวมจิตวิญญาณ ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน

แต่ว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ลมปราณแปลกๆนั้นก็หายไปด้วย โดยรอบยังคงปกคลุมด้วยความมืด และเสียงของทหารลาด ตระเวน
“ฉันรู้สึกไปเองรึเปล่า? หรือเป็นลมปราณของประวัติศาสตร์ที่ แผ่ซ่านออกมาจากสิ่งปลูกสร้างโบราณ?”

เฉินเฟิงไม่ได้รับข้อสรุป

รถม้าเคลื่อนตัวไประยะหนึ่งแล้ว เวลาที่เหลืออยู่ไม่มากแล้ว เฉินเฟิงตัดสินที่จะไม่ลังเลอีกต่อไป ใช้วิชาด้วยความชาญฉลาด ผ่านทหารรักษาการณ์มากมายไปอย่างง่ายดาย กระโดดข้าม กําแพงที่ถูกเฝ้าเอาไว้ หายไปในความมืด

สิบนาทีหลังจากนั้น เขาออกมาจากเส้นแบ่งเขตระหว่างเมือง วาติกันและโรมได้สำเร็จ เดินไปยังทางเดินบนท้องถนนเส้นหนึ่ง ของโรม

ถนนเส้นนี้ครึกครื้นมาก มีแสงไฟส่องสว่างทั่วทุกที่ รถขับ เคลื่อนไปมาไม่หยุด สินค้ามากมายที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้คน ตาลายไปหมด ละลานตา เสียงร้องขายของ ดังไม่หยุด

เฉินเฟิงอาศัยผู้คนพลุกพล่านเป็นกำบัง โบกรถได้อย่าง รวดเร็ว หลังจากยื่นเงินให้คนขับรถ รถก็ขับมุ่งหน้าไปยังโรงแรม วาติกัน

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเฉินเฟิงก็มาถึงโรงแรมวาติกัน

หลังจากลงจากรถ เฉินเฟิงมองไปรอบๆ โรงแรม ไม่เห็นสิ่งผิด ปกติ ใจที่แขวนอยู่บนอากาศของเขา โล่งอกลงมาเล็กน้อย

ถึงแม้จะปลอดภัยแล้ว แต่เฉินเฟิงยังคงรู้สึกผิดปกติ ตลอด ทางกลับมานี้มันราบรื่นเกินไป เพราะเหตุนี้ ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนเรื่องที่อันตรายยิ่งกว่ากำลังรอเขาอยู่

เต็มไปด้วยความรู้สึกสงสัย เฉินเฟิงไม่ได้รีบกลับไปที่ห้องของ

ตนเอง แต่ไปเคาะประตูห้องของศิษย์พี่เยี่หนานเทียน เย่หนานเทียนเปิดประตูห้อง เฉินเพิ่งเห็นว่าอู่จื่อโจวก็อยู่ด้วย จึงกล่าวทักทาย จากนั้นก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ให้

พวกเขาฟัง

“พระสันตะปาปาโจ้ส์ลงทุนจริงๆ ไม่เพียงแต่ยกธิดาเทพแห่ง พรรคให้แต่งงานกับนาย แต่ยังสัญญาว่าจะยกตำแหน่งพระ สันตะปาปาให้นายในอนาคตอีกด้วย”

อู่จื่อ โจวอดทอนหายใจไม่ได้ “วีรบุรุษหนุ่มอ้า จากนั้นอู่จื่อโจวก็พูดเสริม : “ไม่รู้ว่าพระสันตะปาปากำลังคิด อะไรอยู่ เสี่ยวเฟิงนายต้องระวังตัวหน่อย”

” ใช่ เสี่ยวเฟิง อู่จื่อโจวพูดถูก” เวลานี้เย่หนานเทียนพูดเห็น ด้วย : “คืนนี้ถึงแม้นายจะมีไหวพริบใช้คูเรียในการกำบังให้กับ นาย แต่นายกลับมาได้ราบรื่นเกินไปแล้ว ราบรื่นจนทำให้ฉัน รู้สึกไม่สบายใจ”

เย่หนานเทียนขมวดคิ้ว มองเฉินเฟิงด้วยความเป็นห่วง เขาไม่ อยากให้เฉินเฟิงเดินตามรอยเขา

“ราบรื่นก็ดี ไม่ราบรื่นก็ช่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้เสี่ยวเฟิงก ลับมาอย่างปลอดภัย” อู่จื่อโจวพูดด้วยสีหน้าผ่อนคลาย : “อีก อย่าง พรุ่งนี้เช้า ประมุขหลัวเห้าเทียนก็จะบินมาถึงวาติกัน ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติหรืออันตรายมากมายเท่าไหร่ก็ไม่ สามารถวิ่งอ้อมได้”

หลัวเห้าเทียน! ผู้ชายที่แค่ได้ยินชื่อก็เพียงพอให้คนหลบ เลี่ยง แววตาของเย่หนานเทียนมีความเศร้าที่ยากจะสังเกตเห็น แต่ว่า เขาก็วางใจลงแล้ว

แต่เฉินเฟิงยังคงจมดิ่งในความคิด ความรู้สึกไม่สบายใจ มา จากที่ไหนกันแน่?

สถานที่แห่งหนึ่งในวาติกัน ห้องทำงานของพระสันตะปาปา แซครายงานอย่างละเอียดตั้งแต่เฉินเฟิงออกจากห้องจัดงาน เลี้ยง ไปจนถึงใช้คูเรียในการหลบซ่อนต่อพระสันตะปาปาโจ้ส

“ฮ่าๆๆ เป็นคนที่รู้จักใช้เล่ห์กล ” พระสันตะปาปาหัวเราะ

เสียงเบา แล้วเอ่ยถามแซค : “เรื่องนี้ นายมองยังไง?”

“เรียนพระสันตะปาปา พูดตามความจริง เจ้าเด็กเฉินเฟิงคนนี้

ฉลาดมากครับ รู้จักประสานเวลาสถานที่และคนเพื่อสร้างโอกาส

ให้ตน เขาคิดถูกว่าพวกกงปั่นเหย่อทั้งสามคนหวาดกลัวพวกเรา

คูเรียเล็กน้อย จึงใช้รถม้าในการกลบเกลื่อนก่อน จากนั้นไปยัง

เส้นแบ่งเขตแดนที่ไม่ทางเข้าออก สร้างความแตกต่างของเวลา

อย่างมีไหวพริบ ทำให้เขารอดพ้นจากอันตราย ถอยออกไปได้อย่างแยบยล”

แซคหยุดชะงัก พูด : “แต่ว่า ทางด้านรถม้า สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ไม่มีอะไรมาขัดขวางเหมือนกัน ด้วยเหตุนี้ผมจึง คิดว่า พวกกงปั่นเหย่ ไม่ได้มีความคิดที่จะลงมือ”

พระสันตะปาปาโจ้พยักหน้าเห็นด้วย “แต่ว่า พวกกงปูนเห ย่อทั้งสามคนเกลียดเฉินเพิ่งเข้ากระดูก อีกทั้งก่อนหน้านี้นาย บอกว่า ตอนที่นายไปรับเงินเฟิง พวกกงปูนเหยสามคนเฝ้าอยู่ ด้านนอก โรงแรม ขอแค่เฉินเฟิงกล้าออกจากโรงแรม คิดว่าคงจะ ถูกพวกเขาทําให้กลายเป็นผุยผง”

“แล้วเหตุผลที่คืนนี้พวกเขาไม่ลงมือคืออะไร?” พระสันตะปา ปาโจ้ ไม่เข้าใจ

แซคส่ายหน้า เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาเองก็ไม่รู้เหตุผลที่แน่ชัด

“หรือเป็นเพราะพวกกงปั่นเหย่รู้ว่าพรุ่งนี้หลัวเห้าเทียนจะมา ดังนั้นจึงไม่กล้าทำอะไรบ่มบ่าม? หรือว่า หลัวเห้าเทียนมาถึง แล้ว?” นัยน์ตาพระสันตะปาปาโจ้ส์มีแสงแวววับเคลื่อนผ่าน

“เรียนพระสันตะปาปา ผมคิดว่าโอกาสที่หลัวเห้าเทียนจะมา ถึงก่อนนั้นไม่สูงมาก ถึงขั้นสามารถพูดได้ว่าเกือบจะเป็นศูนย์ ด้วยนิสัยชายชาตรีของหลัวเห้าเทียน เขาดูถูกการเดินทางหลบ ซ่อนๆของพวกคนต่ำทราม” แซคปฏิเสธการคาดเดาของพระ สันตะปาปา จากนั้นพูดหนึ่งประโยคที่ทำให้พระสันตะปาปาตก ตะลึง

“หรือว่าออกัสตัสจะมาแล้วครับ?”

คำพูดของแซคทำให้สีหน้าของพระสันตะปาปาโจ้ส์แปร เปลี่ยนเป็นแย่มาก
ออกัส สงั้นหรอ? ผู้ชายผู้ที่แสดงพรสวรรค์ด้านศิลปะการ ต่อสู้ที่น่ากลัวมากๆตั้งแต่ยุคแรกของวงการศิลปะการต่อสู้ ใน ตอนนั้นเขาได้รับการยอมรับจากวงการศิลปะการต่อสู้ เป็นคนที่ มีโอกาสก้าวสู่แดนในตำนาน

เป็นเพียงหนึ่งเดียว!

แค่คิดก็รู้แล้วว่าพรสวรรค์ของออกัสตัสนั้นเหี้ยมโหดมากแค่ ไหน

ยิ่งอย่าพูดถึงออกัสตัส ในตอนนี้ที่เข้าสู่แดนเทพแล้ว

ก่อนที่จะเข้าสู่แดนเทพ มีแค่เย่หนานเทียนเท่านั้นที่สูสีกับออก สตัส น่าเสียดายที่ในตอนหลังเก่หนานเทียนถูกคนวางแผน รุม ทําร้ายจนพิการ

แต่ว่า ออกัสตัสกลับยิ่งเก่งมากขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่เขาเข้าสู่ แดนเทพ ไม่ได้ไปตามแก้แค้นศัตรู ในทางตรงกันข้ามเขากลับ หายตัวไปหลายปี จากนั้นปรากฏตัวขึ้นในการประลองแดนเทพ สงครามครั้งหนึ่งที่มีผู้คนมากมาย การปรากฏตัวของเขา เอาชนะแดนสงครามหลายคนด้วยตัวคนเดียว

อีกทั้ง วรยุทธ์ที่ออกัสตัส ใช้ในตอนนั้นคือวรยุทธ์ที่เขาฝึกฝน มาหลายปี (หมัดเจ้านรก) (หมัดเจ้านรก) ที่แต่ละ กระบวนท่าเก่งกาจกว่าแต่ละกระบวนท่าทำให้วงการศิลปะการ ต่อสู้ตกตะลึง ในขณะเดียวกันเขาก็สร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง ใน โลกใต้ดิน ควบคุมสภามืดต่างๆด้วยมือเดียว สถาปนาตนเอง เป็น—เจ้าแรก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ