บทที่ 760 เย่หนานเทียนมาแล้ว
ที่โรงแรมอีกแห่งที่ทางวาติกันจัดไว้ให้กับผู้แข่งขัน
ตอนนี้พวกอู่จื่อ โจว จีอู๋ฉาง ชางโป๋ อาจารย์ฟางเจิ้ง จีน เทียนอิงและเย่หนานเทียนต่างรอเฉินเพิ่งออกจากฌานอย่าง เงียบๆ
เย่หนานเทียนนั่งรถเข็นสายตามองไปข้างหน้า สายตาเขาเต็ม
ไปด้วยความมุ่งมั่น
“สถานการณ์ดูไม่สู้ดีนะ เหลืออีกไม่ถึงหนึ่งชม.จะเริ่มแข่งขัน แล้ว จะไม่ทันแล้วนะ? ไปเรียกเขาดีไหม?” อู่จื่อ โจวมองนาฬิกา ข้อมือ ในใจเริ่มร้อนรน
“ไม่ต้องหรอก ผมเชื่อเขา เขาต้องออกมาทันแน่!” เย่หนาน
เทียนพูดอย่างมั่นใจ เขารู้จักเฉินเฟิง
เย่หนานเทียนพูดจบปุ๊บ ประตูห้องก็เปิดออก นั่นไงเฉินเฟิง เดินออกมาจากในห้องแล้ว
“ศิษย์พี่ มาได้ไงครับเนี่ย!!
เฉินเฟิงมองปราดเดียวก็เห็นเย่หนานเทียนที่อยู่หน้าสุด เขามี สีหน้าตะลึงเล็กน้อย เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเย่หนานเทียนมาที่ วาติกัน
นี่เป็นความคิดของเย่หนานเทียน เฉินเฟิงกำลังเข้าฌาน ถ้าได้ยินว่าเย่หนานเทียนมา คงจะทําใจสงบลำบาก มันไม่เป็นผลดีกับ การวิจัยศิลปะการต่อสู้เลย ดังนั้นเรื่องนี้ต้องปิดบังเฉินเฟิงไว้
เฉินเพิ่งรู้สึกไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถ้าไม่ใช่เห็นพวกอู่จื่อโจว จี ฉาง ชาง โป๊ อาจารย์ฟางเจิ้ง จียุ่นและเทียนอิงมองเขายิ้มๆ เขา ยังนึกว่าฝันไปเลย
“ศิษย์…ศิษย์พี่มาถึงที่นี่ได้ไงเนี่ย!”
เฉินเฟิงคิดไม่ตกว่าศิษย์พี่มาทำไม
“อืม ดูนายพูดเข้าสิ ศิษย์พี่นายมาที่นี่ก็ต้องมาเชียร์นายอยู่ แล้วสิ!”
ไม่รอเย่หนานเทียนตอบ อู่จื่อโจวแย่งตอบเลย “การแข่งจะ เริ่มแล้ว ถ้านายยังไม่ออกมาอีก พวกเรากะจะบุกเข้าไปแล้วนะ!
อู่จื่อ โจวพูดจบปุ๊บ ทุกคนก็หัวเราะออกมาทันที
“เฉินเฟิง เข้าฌานเป็นไงบ้าง? คิดกระบวนท่าของตัวเองออก มาได้ไหม? คิดว่าจะชนะการแข่งครั้งนี้ไหม?
จีนรีบถามรัวๆ พอจีนถามใบ พวกอู่จื่อโจว จีอู๋ฉาง ชางโป สายตาพุ่งไปที่เฉินเฟิงทันที
เพราะเงินเฟิงเข้าฌานเพื่อหาทางรับมือการแข่งกับอาเธอร์ นี่ เป็นเรื่องที่สำคัญสุดๆ
ถึงอู่จื่อ โจวกับจีอู๋ฉางจะพูดไว้ก่อนแล้วว่า การคิดค้นวิทยา ยุทธ์เป็นเรื่องยากลำบากมาก แถมเวลาก็ไม่พอ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้คาดหวังไว้มาก แต่ในใจก็อดรอฟังคำตอบจากเฉินเฟิงไม่ ได้
“ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหาหรอก!! เฉินเฟิงยิ้มบางตอบคําถามทุกคน
พอได้ยินคําตอบของเฉินเฟิง แต่ละคนถอนหายใจโล่งอกไป ตามๆกัน
อู่จื่อโจว ชางโป๋ อาจารย์ฟางเจิ้งกับจีอู๋ฉางพบว่าพลังในร่าง เฉินเฟิงไม่ได้อัพระดับขึ้นเท่าไหร่ แต่ด้วยนิสัยและสไตล์การ จัดการของเฉินเฟิง คนอย่างเขาไม่มีทางพูดแบบนี้ออกมาง่ายๆ แน่
สรุปได้เลยว่า บางทีเฉินเฟิงอาจจะคิดกระบวนท่าเฉพาะตัว ออกมาได้จริงๆ หรือไม่ก็หาวิธีรับมืออาเธอร์ได้
“ฮะฮะ ดี ดี ดี ดีมากเลย คราวนี้ต้องได้สั่งสอนเจ้าหัวหน้า องครักษ์คูเรียจอมเก๊กนั่นให้ได้เลยนะ ซัดมันให้หมอบเป็นหมา ตายเลย ให้มันรู้ไปว่าใครเก่งกว่ากันแน่!
จีนพูดคำว่าดีรัวๆ เหมือนกับว่า ดีใจกับการที่ฝีมือเฉินเฟิง พัฒนาขึ้น ซะยิ่งกว่าฝีมือตัวเองพัฒนาขึ้นซะอีก
ทุกคนไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ต่างพากันมองหน้าเฉินเฟิงยิ้มๆ
เย่หนานเทียนไม่ได้พูดอะไรเลย เขาเชื่อใจศิษย์น้องตัวเอง ศิษย์น้องที่เป็นความภูมิใจของเขา ถึงเขาจะกังวลอยู่บ้าง แต่เขา ก็มั่นใจว่าเฉินเฟิงต้องชนะอาเธอร์ในการแข่งได้แน่
“เอาล่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ การแข่งใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ถ้า เกิดการแข่งเริ่มตอนพวกเรายังไม่ถึง จะโดนตัดสิทธิ์นะ!”
อู่จื่อโจวดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง ก่อนเร่งเร้า
ทุกคนเดินออกจากโรงแรม ที่หน้าประตูมีรถบัสขนาดกลาง จอดอยู่หนึ่งคัน เพราะพวกเขาคนเยอะ อู่จื่อโจวเลยติดต่อองค์กร ศิลปะการต่อสู้ให้ส่งรถบัสมาให้พวกเขาเลย
เฉินเฟิงเป็นเยี่หนานเทียนขึ้นรถก่อน จากนั้นทุกคนก็พากันขึ้น
รถ
พอทุกคนขึ้นรถเสร็จ รถก็ค่อยๆเคลื่อนตัวพาพวกเขาไปยัง สนามแข่งวาติกัน
โรงแรมอยู่ใกล้กับสนามแข่งมาก แค่สิบกว่านาทีก็ถึงสนาม
แข่ง ทุกคนลงจากรถเข้ารับการตรวจ
“นี่เป็นตัวเข้างานของนาย!”
อู่จื่อโจวหยิบออกมาจากในเสื้อยื่นให้เย่หนานเทียน
ตั๋วเข้างาน ใบนี้อู่จื่อ โจวจัดการเอามาจากองค์กรศิลปะการ ต่อสู้นานแล้ว แต่การแข่งช่วงแรกเย่หนานเทียนยังไม่มา จวบ จนถึงวันนี้เขาถึงปรากฏตัว
พอตรวจเสร็จ ทั้งหมดก็ขึ้นรถ รถค่อยๆขับเคลื่อนไปอีกระยะ หนึ่ง ก่อนจะจอดลง นี่เป็นห้องพักผู้เข้าแข่งขัน
เฉินเฟิงกำลังเตรียมลงจากรถ อู่จื่อโจวรั้งเขาไว้ พูดยาวเหยียดว่า: “เฉินเฟิง อย่าประมาทคู่ต่อสู้นะ อาเธอร์นั่นน่ะระดับ ฝีมือขึ้นถึงสุดระดับกลางหัวจึงแล้ว แตะๆขอบระดับปลายแล้ว และท่าไม้ตายฟันเทพเจ้าแห่งสงครามของเขาก็ร้ายกาจมาก ถ้า นายสู้ไม่ไหว อย่าฝืนนะ นี่มันแค่การแข่งขันเท่านั้น!
เฉินเฟิงพยักหน้าสีหน้าจริงจัง อู่จื่อโจวตบบ่าเฉินเพิ่งเบาๆ ด้วยรอยยิ้มน้อยๆ สายตาให้กำลังใจ
นอกจากว่าจะกังวลแล้ว อู่จื่อโจวก็นึกถึงคำพูดของเฉินเพิ่งขึ้น มาได้ ในเมื่อเฉินเฟิงมั่นใจว่าจะเอาชนะอาเธอร์ได้ งั้นก็คงไม่ โกหกแหละ
และเป้าหมายของเฉินเฟิงไม่ใช่อาเธอร์ แต่เป็นวิลเลียมที่ยัง ไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาเลย เฉินเพิ่งจะฆ่าวิลเลียมล้าง แค้น
ในสถานการณ์อย่างนี้ เฉินเฟิงไม่มีทางแพ้ให้กับอาเธอร์แน่ พูดได้อีกอย่างว่าจะแพ้ให้กับอีกฝ่ายไม่ได้
ก่อนลงจากรถ เฉินเฟิงทักทายทุกคน จากนั้นก็มองศิษย์พี่เย หนานเทียนหนึ่งที่เขาพยักหน้าด้วยสายตามั่นใจ ก่อนหมุนตัว เดินในไปในห้องพักผู้เข้าแข่ง
พวกอู่จื่อโจวและเย่หนานเทียนเข้ารับการตรวจร่างกายอีก ครั้งก่อนเข้าสนามแข่ง
การแข่งใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว พระสันตะปาปาโจ้ส์ ธิดาเทพแห่ง พรรคทิฟฟานี่กับโมดริชซึ่งเป็นหัวหน้าเลขาองค์กรศิลปะการ ต่อสู้ระดับโลกพากันเข้าสู่สนามแข่ง
“อาเธอร์มาแล้ว!”
อาเธอร์เข้าสนามก่อนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เส้นผมสีทองพลิ้ว ไสว ดูสบายมาก การปรากฏตัวของเขาสร้างเสียงฮือฮาจากผู้ชม
“การแข่งขัน ครึกครื้นนะ พระสันตะปาปาโจสกับธิดาเทพทิฟ ฟานี่ยังมาเลย!”
“ได้ยินว่าหัวหน้าทหารองครักษ์อาเธอร์กำลังตามจีบธิดาเทพ ทิฟฟานี่อยู่นี่นา ดูท่าจะจริงแฮะ!”
“งั้นก็แปลกละสิ การแข่งนัดก่อนของอาเธอร์ ทําไมธิดาเทพ ทิฟฟานี่ไม่มาล่ะ?”
“หรือว่าธิดาเทพคิดว่าอาเธอร์ต้องชนะแน่!”
พอพระสันตะปาปาโจ้กับธิดาเทพทิฟฟานี่ปรากฏตัว ผู้ชมก็ เริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่
คำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชมลอยไปเข้าหูธิดาเทพทิฟฟานี่ มัน ทำให้เธอขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินอย่างนั้น
เธอไม่ชอบมีอะไรเกี่ยวพันกับอาเธอร์ และไม่อยากให้คนเอา เธอกับเขาสองคนไปพูดโยงกันด้วย เพราะเธอมาดูการแข่งนี้เพื่อ
เฉินเฟิงต่างหาก
อาเธอร์ได้ยินคำพูดพวกนั้นด้วยเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้แสดง ท่าทีอะไรออกมา แต่พอสายตาเขาปราดไปที่ธิดาเทพทิฟฟานี่ และพบว่าอีกฝ่ายไม่ชอบใจจนคิ้วขมวดมุ่น การค้นพบนี้ยิ่งทำให้ ไฟโกรธ ในใจอาเธอร์ลูกโซน
ตอนนีอาเธอร์หมดหวังแล้ว เติมเขาคิดว่าบทที่ธิดาเทพทิฟ ฟานี่มาขอร้องเขาเรื่องเงินเฟิงเป็นเหตุบังเอิญ บางทีการมาดู การแข่งนัดนี้ของธิดาเทพคงอยากเห็นการแข่งของเขา แต่ความ หวังทั้งหมดสลายลงในตอนนี้แล้ว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ