ลูกเขยมังกร

บทที่ 747 พลิกวิกฤตเป็นโอกาส



บทที่ 747 พลิกวิกฤตเป็นโอกาส

ทว่าเฉินเฟิงประกาศแล้วว่าจั่วจะต้องชดใช้ดังนั้นจะปล่อยไป แบบนี้ก็ไม่ได้ จิ๋วจอาจจะรอดชีวิตทว่าต้องได้รับบทเรียน

ตอนเพิ่งเริ่มการแข่งขัน ความสามารถของคั่วเกินความคาด หมายของเฉินเฟิงไปมาก อีกฝ่ายอาศัยพลังของตัวเองในการใช้ ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นซึ่งอานุภาพก็ส่งผลต่อความปลอดภัยของ เฉินเฟิงได้พอสมควร ตอนหลังอีกฝ่ายกระตุ้นยาพันธุกรรมใน ร่างกายให้ออกฤทธิ์จนทำให้พลังการต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นอย่างก้าว กระโดด

เฉินเฟิงไม่ใช่คนโง่ที่จะพุ่งชนอย่างเดียว ทว่าเขาเลือกที่จะลด ทอนกำลังของอีกฝ่าย รอจนกระทั่งพลังภายในของจั่ว ค่อยๆ อ่อนแอลง เฉินเฟิงจึงใช้โอกาสนั้นในการโจมตีอย่างดุร้าย ราวกับสัตว์ป่า เพียงชั่วครู่ก็พลิกสถานการณ์ในสนามได้

“ตายซะเถอะ!”

ขณะนั้นเองคั่วก็ตะโกนขึ้นพลางพุ่งเข้ามาหาเงินเฟิง เขายก ดาบในมือขึ้นแล้วใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นอีกครั้ง

ถึงแม้เมื่อสักครู่เขาจะถูกหมัดของเฉินเฟิงชกจนถอยหลัง อีก ทั้งพลังลมปราณ ในร่างกายก็ไม่คงที่ ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เขาไม่สนใจอะไรแล้ว

การแข่งขันดำเนินมาจนถึงตอนนี้เขาเสียสติไปแล้ว ตอนเพิ่งเริ่มการแข่งขันเขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม คิดว่าผ่าคลื่นลมจะฆ่า เฉินเฟิงได้ ทว่าคิดไม่ถึงว่าแม้แต่ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นก็ยังไม่ สามารถฆ่าอีกฝ่ายไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ทําให้อีกฝ่ายได้รับบาด เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น

เช่นนี้เขาจะยอมรับได้อย่างไร สิ่งที่น่าโมโหกว่าก็คือหลังจาก ที่เขากระตุ้นยาพันธุกรรมในร่างกายให้ออกฤทธิ์เพื่อเพิ่มพลัง การต่อสู้ให้สูงที่สุดแล้วเฉินเฟิงก็ยังคงหลบหลีกได้

การต่อสู้ของทั้งสองคนดำเนินมาถึงตอนนี้วจัดท่าไม้ตาย ทั้งหมดที่มีออกมาใช้แล้วก็ยังคงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ นี่เป็นการ ทําลายความมั่นใจของเขาอย่างสาหัส ตอนนี้พลังการต่อสู้ของ เขาค่อยๆลดลงเรื่อยๆ

ดังนั้นตอนนี้เขาลืมสิ้นทักษะทั้งหมด คิดเพียงแค่ว่าต้องฆ่าอีก ฝ่ายโดยเร็วที่สุดเท่านั้น เขาจึงใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นอีกครั้ง โดย ไม่ได้สนใจพลังภายในของตน

เมื่อต้องเผชิญกับท่าไม้ตายแบ่งคลื่นของจั่วในครั้งนี้ เฉินเฟิง ไม่ได้หลบหลีกแล้วทว่าเขากำหมัดแน่นดึงหมัดกลับเตรียมตัวที่ จะตอบโต้

เห็นได้ชัดว่าเฉินเฟิงสัมผัสได้ถึงพลังที่ลดลงไปกว่าครึ่งจากจุด สูงสุดของจั่ว อีกทั้งพลังก็ยังคงลดลงเรื่อยๆ และจะตกอยู่ใน สภาพความสามารถเดิมในไม่ช้า

สําหรับเฉินเฟิงแล้ว ความสามารถขนาดนั้นไม่มีผลอะไรกับ เขามากนัก
กระบวนท่าของทั้งสองคนปะทะกันอีกครั้ง จั่วหลุดเสียงอู้อี้ ร่างของเขาถูกดันถอยหลัง มีเลือดไหลออกมาจากปาก แขนชา จนแทบจะสูญเสียการรับรู้

ด้านเฉินเฟิง เขายืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่มีการขยับเขยื้อนแม้แต่ น้อย ซึ่งแตกต่างจากจั่วที่กำลังล่าถอยอย่างเห็นได้ชัด

ความแตกต่างนี้คนในวงการล้วนดูออก ทว่าคนระดับสูงนอก วงการเหล่านั้นกลับดูไม่ออก พวกเขาไม่เข้าใจว่าการแข่งขัน ดำเนินมาถึงขั้นนี้ได้อย่างไร ทำไมบทบาทของทั้งสองจึงสลับกัน กลับกลายเป็นเฉินเฟิงที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ

“อืม เฉินเฟิงสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ ดูจาก สถานการณ์ในตอนนี้ชัยชนะคงตกเป็นของเฉินเฟิงแล้วล่ะ!”

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างวิลเลียม อาเธอร์หรือเต็ง

ล้วนมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมา

พลังภายในของจั่วไม่คงที่ ความสามารถกำลังถดถอย อีก ทั้งไม่มีท่าทีจะหยุดยั้งได้ เช่นนั้นการแข่งขันในรอบนี้เฉินเฟิงคือ ผู้ชนะแน่นอน ถือว่าจั่วแพ้อย่างราบคาบแล้ว

ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ทุกคนล้วนอยากเห็น การแข่งขันที่น่าตื่นตาตื่นใจ

การแข่งขันในช่วงแรกพูดกันตามความจริงแล้วไม่มีอะไรน่า สนใจ เนื่องจากความสามารถของผู้อ่อนแอมีจำกัด สิ่งที่ผู้ แข็งแกร่งต้องการคือการท้าทายความสามารถ ดังนั้นการ แข่งขันจึงมักจะจบลงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับที่อาเธอร์และวิลเลียมกำจัดคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ พวกเขา สะใจแล้วทว่าผู้ชมยังดูไม่สะใจ ดังนั้นการแข่งขันรอบก่อนหน้า จึงมีผู้ชมน้อยมาก กระทั่งถึงรอบการแข่งขันระหว่างเฉินเฟิงและ หลี่ซางถึงพลิกสถานการณ์กลับมาได้

ต้องรู้ก่อนว่าการแข่งขันระดับโลกนั้นหากไม่มีคนดูจะเป็นยัง ไง? มันคือเรื่องตลกดีๆนี่เอง ซึ่งในตอนนั้นเองหลี่ซางซีก็ประกาศ ว่าจะฆ่าเฉินเฟิง ฉับพลันก็สามารถดึงดูดสายตาของทุกคนมาได้

เดิมทีวีรกรรมของเฉินเฟิงก็เป็นที่คาดหวังจากทุกคนอยู่แล้ว บททีดวลกับหลี่ซางซีการแข่งขันของพวกเขานั้นเรียกได้ว่าเป็นที่ น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เพราะเป็นการแข่งขันที่ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่าย หนึ่งต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

การแข่งขันในครั้งนั้นทำให้ทุกคนรู้จักเฉินเฟิงใหม่ และการ แข่งขันรอบที่สองเฉินเฟิงก็ได้เผชิญหน้ากับรอน รอนนั้น แข็งแกร่งกว่าหลีชาง ทว่าสุดท้ายก็ยังพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถ

และการแข่งขันรอบที่สามเฉินเฟิงก็ได้เผชิญหน้ากับหงอี้ หง

คนนี้คือความหวัง ในการลบล้างความอัปยศ ในอดีตของหงเทียน

ป้า ซึ่งการแข่งขันของทั้งสองคนนั้นก็น่าตื่นตาตื่นใจมากไม่แพ้

กัน เพียงแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเฉินเฟิงและถูกเฉินเฟิงกำจัด

อยู่ดี จากการแข่งขันในรอบนั้นสายตาของทุกคนล้วนจับจ้องอยู่

ที่เฉินเฟิง คนที่เคยมองเฉินเฟิงในแง่ร้ายก็เปลี่ยนความคิดเพราะ

การแข่งขันในรอบนั้น

เรียกได้ว่าเฉินเฟิงกลายเป็นจุดเด่นของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ความสามารถของอาเธอร์และ

วิลเลียมจะแข็งแกร่งมาก ทว่ารูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาไม่มี

ความน่าสนใจสําหรับผู้ชม นี่คือความแตกต่างระหว่างเฉินเฟิง

และพวกเขาทั้งสองคน

และผู้ชมจำนวนมากของการแข่งขันในครั้งนี้คือผู้ชมที่ชมการ แข่งขันรอบก่อนหน้าและที่มาในวันนี้ก็เพื่อชมการแข่งขันที่น่าตื่น เต้นในรอบนี้

เดิมที่ประเทศหวาและประเทศญี่ปุ่นไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว และ ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงก็บุกประเทศญี่ปุ่นตัวคนเดียวเพื่อช่วยคนรัก ของตน แถมยังฆ่าจอมยุทธ์ไปมากมาย เรียกได้ว่าสร้างความ อลหม่านให้แก่ประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ ผู้แข็งแกร่งอันดับเทพลงมือ เองก็ไม่มีประโยชน์ จนสุดท้ายต้องถึงมือของสำนักจ้านถึง

โดยคิดว่าอาศัยอานาจและหน่วยข่าวกรองของสำนักจํานถึง แล้วเฉินเฟิงจะไม่สามารถหลบหนีไปได้ ทว่าใครจะไปคิดว่า เฉินเพิ่งจะสามารถออกจากประเทศญี่ปุ่นไปได้อย่างไร้ร่องรอย

เรื่องปาฏิหาริย์เหล่านี้จึงถูกบอกเล่าต่อกันมา จอมยุทธ์รุ่น เยาว์บางส่วนจึงมีเฉินเฟิงเป็นมาตรฐานในการฝึกฝนการต่อสู้

บทที่อัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาตัวจับยากของประเทศญี่ปุ่น อย่างจั่วจมาร่วมการแข่งขันที่นี่ ทุกคนจึงรู้ดีว่าจั่วไม่มีทาง ปล่อยเงินเฟิง ให้รอดไปได้

บทที่การแข่งขันเพิ่งเริ่ม ทั้งสองฝ่ายยังดูสูสีกัน ทว่าตอนช่วง กลางของการแข่งขันที่จั่วใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นทุกคนต่างก็คิดว่าครั้งเฟิงคงต้องไปเยือนยมโลกแล้ว

ทว่าคิดถึงเหตุการณ์จะกลับตาลปัตร เงินเฟิงอาศัย ความสามารถและประสบการณ์การของตัวเองพลิก สถานการณ์กลับได้

เรื่องทั้งหมดทั้งมวลไม่มีใครไม่นับถือ พูดกันตามความจริง ในชั่วพริบตาแม้แต่เองยังใจหนึ่งมา

“แพ้แล้ว แย่แล้ว”

กงปั่นเหยื่อที่อยู่เกิดอาการหน้าซีดราวสูญเสียพลัง ทั้งหมดแล้วนั่งเปลี่ยอยู่บนเก้าอี้ จากความสามารถของ เขาเขาดูออกนี้ไม่ไหวแล้วแค่กัดฟันฝืนทนอยู่

อีกทั้งเขารู้จักตายแบ่งคลื่นจำนวนครั้งการใช้ท่าน ขึ้นอยู่ความแข็งแกร่งพลังภายในของผู้ใช้ จากพลังจั่วจสามารถท่าได้แค่ครั้งเท่านั้น

และใช้สี่ครั้งแล้ว โดยใช้ครั้งสุดท้ายลมปราณ ไม่ที่ อานุภาพก็ไม่เท่าครั้งหน้าท่าไม้ตายแบ่งคลื่นตายของตอนไปหมดแล้วทว่ายังตาย เช่นนั้นเดาจุดจบของเขาได้เลย

“…….มันเป็นไปได้ยังไง

กงปนเหย่อฉะนั้นคนอยู่บนเวทีอย่างยั่วนั้นดีกว่า ตอนเขาไม่เหลือพลังภายในเลยแม้แต่น้อย ณ ตอนนี้แม้แต่จอมยุทธ์ขั้นหัวจิ้งชั้นต้นก็สามารถฆ่าเขาได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ