บทที่ 745 ตัวต่อตัว
สีหน้าของอู่จื่อโจวเปลี่ยนทันที รูม่านตาหดแคบลง การแข่งขัน ดำเนินมาจนถึงตอนนี้ล้วนเหนือความคาดหมายของทุกคนไป แล้ว เดิมทีอู่จื่อโจวคิดว่าคู่ต่อสู้ของเฉินเฟิงคืออาเธอร์หรือวิล เลียม ทว่าคิดไม่ถึงว่าเมื่อมาเจอจั่วก็ส่อแววว่าจะแพ้แล้ว
อีกทั้งคู่จื่อโจวรู้ดีว่าจั่วจฉีดยาพันธุกรรมแต่เห็นได้ชัดว่าอีก ฝ่ายยังไม่ได้เรียกใช้งาน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ยังสามารถ ทำให้เฉินเฟิงบาดเจ็บได้ หากจั่วใช้ยาพันธุกรรมในร่างกาย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้จะน่ากลัวขนาดไหน อู่จื่อโจวไม่ อาจจินตนาการได้เลยและไม่กล้าที่จะจินตนาการด้วย
ที่พระสันตะปาปาเอ่ยเมื่อสักครู่ก็เพราะสาเหตุนี้ ถึงแม้ อานุภาพของท่าไม้ตายแบ่งคลื่นจะแข็งแกร่งขนาดไหนทว่าก็แค่ สามารถทำให้เฉินเฟิงบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น
“จั่วไม่ใช้แรงอย่างเต็มที่ตอนนี้จะรอใช้ตอนไหน อย่า ประมาทศัตรู!”
และในช่วงวินาทีนี้เอง กงปั่นเหย่ ผู้เป็นอาจารย์ของจั่วที่ดู อยู่ก็หยัดตัวขึ้นยืนอย่างฉับพลันก่อนจะตะโกนออกมาจนเสียงดัง ก้องไปทั่วทุกมุมของสนาม
จั่วที่กำลังนิ่งอึ้งอยู่ก็รู้สึกตัวราวตื่นจากฝัน ถึงแม้เขาจะคิดว่า ไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมด แต่เมื่อผู้เป็นอาจารย์เอ่ยปากแล้ว เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง พลังภายในพลุ่งพล่านกระตุ้นยาพันธุกรรมความจริงแล้วจั่วจูรู้ตัวเองไม่มีทางจะเฟิงได้ ก่อนการแข่งขันคิดอาศัย ความสามารถของตัวเองเพียงพอกระทั่งเมื่อครู่ที่ เฉินเฟิงตั้งรับท่าไม้ตายแบ่งคลื่นของเขา เขาเปลี่ยนความ
เมื่อกระตุ้นยาพันธุกรรมในร่างกายให้ออกฤทธิ์เพื่อเพิ่ม ศักยภาพในการต่อสู้แล้ว เขาต้องฆ่าเฟิงโดยเร็ว
“โอเวอร์เกินแล้ว นี่จั่วเก็บความสามารถไว้หรือ
พลังของกำลังพุ่งสูงขึ้นแล้ว สิ่งรอคอยเฉินเฟิงอยู่จะ เป็นอะไร
เฟิงเป็นคนที่ชื่อเสียง คิดเลยว่าเอา
มาทิ้งไว้นี่
พูดของปั่นเหย่เมื่อครู่ทุกล้วนเมื่อเห็นท่าที่เกรงกลัวของจั่วในตอนก็อดจะวิจารณ์
เห้อ น่าเสียดายที่อย่างเฟิง ไม่ถึงเลย ว่าวันเขาจะเอาไม่รอดแล้ว”
ตอนนี้ไม่มีแค่ทั่วไปจอมยุทธ์ระดับต่ำเท่านั้นที่ แต่วันเฟิงคงรอดแล้ว เนื่องจากเมื่อสักครู่เห็นว่าเฉินเฟิงฝืนตั้ง รับกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ ยิ่งตอนนี้พลังการต่อสู้ของจิ๋วกำลังสูงขึ้น เฉินเฟิงต้องตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
“สถานการณ์ไม่ดีนัก เฉินเฟิงระวัง!”
จีอู๋ฉางเอ่ยขึ้น โดยจิตใต้สำนึก โดยซาง โป๊และปรมาจารย์ ฟางเจิ้งที่อยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับคำพูด ของจีอู๋ฉาง
“หี ความสามารถแค่นี้ยังกล้ามาโชว์โง่ ไม่รู้ว่าฝ่าบาทและ ธิดาเทพชอบมันที่ตรงไหน ความสามารถแค่นี้ใช้แค่ท่าเดียวก็ ฆ่ามันได้แล้ว!”
อาเธอร์ที่ยืนดูอยู่ในกลุ่มผู้ชมเผยยิ้มเยือกเย็น เขาพึมพำกับ ตัวเองคําพูดของเขาอาจจะเกินจริงไปบ้าง ทว่าเขาก็คิดว่า เฉินเฟิงต้องตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนวิลเลียมที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไร ทว่าส่ายหน้าไปมา เห็นได้ว่าไม่พึงพอใจกับความสามารถของเฉินเฟิง อีกทั้ง เสียดายที่ไม่ได้ฆ่าอีกฝ่ายด้วยตัวเอง
“ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมไอ้ญี่ปุ่นนี่โรคจิตขนาดนี้!” จียุ่นที่ดูอยู่เริ่มนั่ง ไม่ติดเก้าอี้และอดที่จะด่าไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่าเฉินเพิ่งจะข่มขู่ ต่อสู้เหมือนอย่างที่ผ่านมา ทว่าคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะตกอยู่ใน สถานการณ์เสียเปรียบ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บอีก
“ฉันเชื่อว่าเฉินเฟิงจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้!” และในตอน นั้นเองเทียนอิงก็เอ่ยปากขึ้น ที่เขามีความเชื่อแบบนี้ก็เพราะว่า เขาเห็นท่าทีและสีหน้าที่สงบนิ่งของเฉินเฟิง
เฉินเฟิงยืนอยู่บนเวทีด้วยสีหน้าสงบนิ่งพลางใช้ลมปราณ ใน ร่างกายฟื้นฟูบาดแผลบนแขนอยู่เงียบๆ ไม่นานแขนของเราก็ กลับมามีความรู้สึกเหมือนเดิม พลังการต่อสู้ก็ไม่ได้รับผลกระทบ มากนัก
“ไอ้สวะ แกตื่นได้แล้ว ต่อจากนี้แกจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!
จั่วคราม พลังของเขาพุ่งสูงจนถึงขีดสุดในพริบตาจนให้ ความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ตอนนี้พลังของจั่วเข้า ใกล้ขั้นหัวจิ้งชั้นสุดแล้ว
เรียกได้ว่าหากจั่วจอาศัยความสามารถของตัวเองจนมาถึงขั้น นี้ได้ เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นหัวจิ้งชั้นสุดคนแรกเลยก็ว่าได้
เห็นร่างของจั่วจี้เคลื่อนไหวแวบหนึ่งก่อนจะหายไปในเสี้ยว
วินาที เรียกได้ว่าเร็วกว่ากระพริบตาเสียอีก ร่างของเขาพุ่งไปทาง
ที่เฉินเฟิงอยู่
จั่วจี้รู้ดีว่าการใช้ยาพันธุกรรมในการเพิ่มพลังการต่อสู้นั้นมี เวลาที่จำกัด ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลา แค่ลงมือที่ใช้ท่า ไม้ตายเลย
ชั่วพริบตาร่างของจั่วก็ปรากฏอยู่ข้างกายเฉินเฟิง เมื่อมาถึง ก็ตวัดดาบใช้ผ่าคลื่นลมอย่างไม่รีรอ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่เสียแรงที่จั่วเป็นถึงอัจฉริยะที่หาตัวจับ ยากของประเทศญี่ปุ่น เขาแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะด้านการต่อสู้ อย่างหลิ่วชวนเหยื่นอยู่มาก ไม่เพียงแต่ความสามารถที่ แข็งแกร่งของจั่ว อีกทั้งยังรอบคอบ มีประสบการณ์การในการวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้ เขาว่าท่าตายแบ่งคลื่นลด ทอนในร่างกายมาก หากไม่ช่วงเวลาสำคัญจริงเขาจะ ไม่เด็ดขาด
เพราะแบ่งคลื่นทว่าคิดไม่เลยว่าเฉินเพิ่งจะตั้งรับอีกทั้งยังเพียงเล็กน้อย ดังนั้นหากเขาไม่มั่นใจจริงๆเขาไม่ใช้ท่า ไม้นี้
หลังจากพลังของจั่วเทียบอานุภาพของจะได้หลังจาก พลังการต่อสู้สูงขึ้นนั้นน่ากลัวขนาดไหน
มีเสียงตะโกนจากทางดังเป็นระยะ ถึงพวกเขาเข้าใจทักษะของศิลปะต่อสู้ ทว่าพลังของจิ๋วที่แผ่ซ่านออก มาในตอนนี้
วิลเลียมหรี่แววปรากฏความชอบใจ เห็นได้ว่าพลังการ ต่อสู้ของจั่วที่แสดงออกมานั้นแต่เขาประหลาดใจ
เมื่อเผชิญเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่าเลือกจะหลบการโจมตีของ จั่วจ้อย่างคล่องแคล่ว
สวะ ฉันจะคอยดูแกจะหลบสักครั้ง
ระหว่างแสยะยิ้มเริ่มโจมตี ทุกครั้งดาบจะพลัง อันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมา เฉินเฟิงเลือกหลบส่วนตามเฟิงไม่ปล่อย
เฉินเฟิงยังไม่ยอมลงมือทว่าใช้ทักษะหลบหลีกไปเรื่อยๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสบการณ์ในการต่อสู้ของเฉินเฟิงนั้นแตะชั้น สูงสุดแล้ว ทุกครั้งที่จั่วลงมือเขาก็มักจะคาดเดาได้เสมอจากนั้น ก็ค่อยขยับหลบ
คนหนึ่งไปคนหนึ่งมา คนหนึ่งโจมตี อีกคนหลบหลีก เป็นแบบ นี้อยู่สิบกว่ารอบ ทว่าจั่วก็ยังโจมตีไม่โดนเฉินเฟิง แม้แต่ปลาย ผมของเฉินเฟิงเขาก็แตะไม่โดน
“ไอ้สวะ ไอ้ขยะ แกกล้ามาสู้กับฉันตัวต่อตัวหรือเปล่า?” เมื่อ
โจมตีไม่โดนเฉินเฟิงสักที จั่วก็เริ่มมีน้ำโห
“ฮี ในรุ่นเดียวกัน ฆ่าแกนั่นง่ายเหมือนฆ่ามดตัวหนึ่ง!
เฉินเฟิงยังคงหลบหลีกไม่หยุด การต่อสู้ไม่ใช่การพุ่งชนอย่าง เดียวแต่ต้องอาศัยทักษะ หากระดับชั้นไม่ต่างกันมากเช่นนั้นล่ะก็ ทักษะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตอนนี้เฉินเพิ่งจะใช้คำพูดในการยั่ว โมโหจั่วเพื่อทำให้อีกฝ่ายขาดสติและลดทอนพลังของอีกฝ่าย
“ไปตายซะ!”
เฉินเฟิงยังพูดไม่ทันจบชั่วก็โมโหจนครามออกมา เขาขยับ เข้าใกล้เฉินเฟิงพลังภายในพลุ่งพล่านก่อนจะตวัดดาบออกไป เขาใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นอีกครั้ง
ฟีบ!
พลังแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งวาดผ่านอากาศตรงหน้าถูกแยกออก ในชั่วพริบตาซึ่งระยะห่างใกล้กับเฉินเฟิงเป็นอย่างมาก เขาจึงอาศัยทักษะการต่อสู้ในการหลบหลีกทายังดีทีพลังจากดาบวาด โดนเพียงชายเสื้อของเฉินเฟิง จนเสื้อของเขาฉีกออก ในพริบตา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ