บทที่ 513 เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์โด

“ไม่ละอาหวาง ฉันกินข้าวเย็นมาแล้ว พวกคุณทานกันเถอะ เฉินเฟิงยิ้มให้ พร้อมทั้งปฏิเสธคำเชื้อเชิญของหวางหงอย่างมี มารยาท เพราะว่าตอนนี้เขามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปตามหัวตัววัง โฉงหยาง ส่วนเรื่องที่ต้องกินข้าวกับหวามหายนั้น ต่อไปมีเวลามี เวลาไหนก็กินได้

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงเอาแต่ปฏิเสธ หวางหาก็ไม่กดดันต่อ เขา ยิ้มให้ แล้วพูดว่า “งั้นดี คราวหน้าพวกเราค่อยมากินข้าวด้วย กัน”

ใช่ คราวหน้า เราค่อยหาเวลามากินข้าวด้วยกัน”

หลี่ซื้อผิวรีบพูดเสริม ในเวลานี้หวางซื่อหยวนอยู่ในสภาวะ ใกล้จะระเบิดเต็มทนแล้ว สายตาที่เธอมองมาทางเฉินเพิ่งคือการ มองอย่างกินเลือดกินเนื้อต้องการที่จะฆ่าคน ถ้าให้เธอต้องมานั่ง กินข้าวกับเฉินเฟิงด้วย งั้นไม่แน่เธอก็ทำเรื่องอะไรบางอย่าง……

หลังจากที่บ้านของหวางหงไปแล้ว หัวคิ้วของเฉินเฟิงก็ขมวด ไว้แน่นไม่คลายลง

เมื่อครู่หวางซื่อหยวนจ้องเขาด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อนั้น เขาก็เห็นชัด

แต่ว่า…

หวาง อหยวนจําเป็นต้องมาเกลียดเขาขนาดนี้ไหม?
ครั้งที่แล้วที่คฤหาสน์ ตนเองก็ไม่ได้ทําอะไรกับเธอ หลังจากส่ายหน้าไปมา เงินเฟิงก็ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ต่อ พลัน เริ่มสนใจตามหาร่องรอยเบาะแสของวังโจงหยางบนชายหาด ต่อไป

จนเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เงินเฟิงก็ยังไม่เห็นวังโจงหยางเลย

หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ เฉินเฟิงก็ยอมล้มเลิก ในการ ตามหา จากนั้นก็หันตัวมุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรม

คืนหนึ่งคืนเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเฟิงตื่นนอนแต่เช้าตรู่ หลังจากที่อาบน้ำล้าง หน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินเฟิงกับเสี่ยวและบรรดาบอดี้ การ์ดก็มีที่เขตชุมชนวิลล่า

วันนี้เขตชุมชนวิลล่านั้นมีการตรวจตราที่เข้มงวดมาก เห็นได้

ชัดว่าเข้มงวดกว่าเมื่อวานหลายขั้นตอนมาก

เมื่อวานนี้พนักงานที่เข้ามาตรวจตราเป็นพนักงานรักษาความ ปลอดภัยที่เป็นคนทั่วไป แต่วันนี้ ยามรปภ.เหล่านั้นเปลี่ยนเป็น จอมยุทธ์ทั้งหมด

บนตัวของจอมยุทธ์เหล่านี้ต่างใส่ชุดเครื่องกายของสหพันธ์ โด เห็นได้ชัดว่า ทางสหพันธ์บูโดจัดการให้พวกเขาเข้ามาคุ้มกัน ผู้บริหารชั้นสูงทั่วไปตามที่สื่อโพนพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้มา

ตำแหน่งภายในของทางสหพันธ์โดตั้งแต่ระดับล่างจนถึง ระดับสูงมีทั้งหมดห้าระดับ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับทั่วไปเป็นตำแหน่งสุดท้าย จากนั้นก็เป็นผู้บริหารชั้นสูง

ตำแหน่งผู้บริหารชั้นสูงต่อมาก็เป็น ท่านผู้อาวุโส หัวหน้า พิธีกรรม ประมุข…..

ในตำแหน่งพวกนี้ หัวหน้าพิธีกรรมกับประมุขก็มือตำแหน่งไล่ ลงมา.

สหพันธ์บูโดอยู่ที่เมืองหวาเซียเป็นฐานใหญ่ มีทั้งหมด 36 สหพันธ์

ทั้ง 36 สหพันธ์นี้ เอามารวมจอมยุทธ์ในหวาเซียทั้งหมด ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว นั่นย่อมรวมจอมยุทธ์ในอาณาสำนักและจอม ยุทธ์ที่ฝึกเองด้วย

ไม่ว่าจอมยุทธ์อาณาสำนักจะมีอำนาจเป็นของตนเองอยู่ ภายในสำนักของตนเอง แต่ว่าที่หวาเซียเมืองหลักนั้น จอมยุทธ์ อาณาสํานักก็ต้องฟังคำสั่งของสหพันธ์เช่นกัน

ในเวลานี้เอง การดูแลรักษาความสงบบริเวณด้านหน้าประตู วิลล่า โดยส่วนใหญ่เป็นบุคคลทั่วไปในสหพันธ์เป็นคนทำ

วิทยายุทธ์ของพวกเขา ธรรมดานั่นหมายความอยู่ในขั้นหนึ่ง จิ้งชั้นกลาง

ถึงแม้ว่าไม่สูง แต่ว่าการตรวจสอบพนักงานที่เข้ามาในวิลล่า ทว่าเป็นดำเนินการได้อย่างเต็มที่

เป็นเพราะว่าเฉินเฟิงได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมการเดิมพัน ดังนั้นยังไม่ได้ตรวจสอบด้วยซ้ำ ก็ถูกปล่อยตัวไปเลย
แต่เกี่ยวกับบรรดาบอดี้การ์ดนั้น กลับถูกตรวจตามร่างกาย เพื่อมั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนของตระกูลฉู่แล้ว ยังได้ปล่อยตัวให้เข้า มาด้านในได้

หลังจากที่เงินเฟิงเข้าไปด้านในไม่นาน บริเวณด้านนอกของ วิลล่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

ถ้าเงินเฟิงอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ต้องตกใจจนหัวใจตกไปอยู่ที่

ตาตุ่มแน่

เพราะว่า กลุ่มคนที่มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านนอกวิลล่านั้น กลับ กลายเป็นครอบครัวของหวางหง

นอกจากครอบครัวของหวางหงแล้ว ยังมีคนคนหนึ่งที่มีผิว คว่ำหน่อย ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ใส่เครื่องแต่งกายของสหพันธ์ บูโด

ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดเครื่องแต่งกายของสห พันธ์บูโดอยู่นั่นเป็นคนเดินนำหน้า ครอบครัวของหวางหงอยู่ ด้านหลังของชายวัยกลางคน

ตอนที่ใกล้เข้าวิลล่านั้น ชายวัยกลางคนหันกลับไปหาครอบ ครัวหวางหงอี้ แล้วพูดว่า “ไม่ได้เอาโทรศัพท์กับกล้องมาใช้ ไหม?”

“ไม่…ไม่ได้เอามา” เพิ่งเย็นฟางส่ายหน้าไปมา

“ไม่ได้เอามาก็ดีแล้ว” ชายวัยกลางคนพยักหน้าให้ ในเวลา นั้น เขาก็หันไปมองหวางหงอี้ พร้อมทั้งพูดกำชับ “หงอี้ นิสัยของคุณค่อนข้างหนักแน่น เดี๋ยวตอนที่เข้าไป คุณต้องคอยจับตามอง เย็นฟางกับข้อหยวนและสื้อผงพวกเขาเอาไว้ อย่าให้พวกเขาเดิน ไปทั่ว

“คนที่เข้ามาเข้าร่วมการเดิมพันในวันนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ของวงการศิลปะการต่อสู้ทั้งสิ้น นอกจากจอมยุทธ์หวาเชียของ พวกเราแล้ว ยังมีจอมยุทธ์ของประเทศญี่ปุ่นอีก มีจอมยุทธ์หลาย คนที่นิสัยแปลกประหลาดอยู่ ถ้าพวกคุณเดินมั่วซั่วไปเรื่อย แล้วไปเดินชนกับพวกเขาเข้า พวกเขาอาจจะฟาดพวกคุณให้ ตายตรงนั้นเลยก็ได้

“ต๊ะ?” เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนแล้ว สีหน้าของ เพิ่งเส้นฟางซีดเผือด ในทันที ก็เพราะว่าแค่เดินชน ถึงก็ต้องถูก ฟาดให้ตายเลยเหรอ?

“พี่ใหญ่ หรือว่าพวกเราไม่เอาแล้ว ไม่เข้าไปดูแล้วไหม” เพิ่งเข้

นฟางหดคอ แล้วถาม

ความจริงแล้ว การที่ครอบครัวของพวกเขามาเที่ยวเกาะ ยลายในครั้งนี้ ไม่ใช่มาเที่ยว แต่มาเพื่อดูโลกอีกใบให้เห็นกับ ตา

ด้วยเพราะว่าเพิ่งจื้อหลินมีตำแหน่งในสหพันธ์อยู่แล้ว ดังนั้น ตั้งแต่แรกแล้ว ครอบครัวของพวกเขาเลยรู้เรื่องการมีตัวตนอยู่ ของพวกจอมยุทธ์

หลายวันก่อน เพิ่งจื้อหลินเกิดพูดเรื่องการเดิมพันประลองฝีมือ ของจอมยุทธ์ทบนเกาะมุยลายขึ้นมา ในเวลานั้น เพิ่งเส้นฟางเกิดรู้สึกสนใจขึ้นมา เธอกับเผิงจื้อหลินเลยคิดว่า อยากจะมาชม การประลองฝีมือของจอมยุทธ์

เพราะว่าเธออายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยจอมยุทธ์ลงมือเลยสักครั้ง การเผชิญหน้ากับการร้องขอของเพิ่งเส้นฟางแล้ว เพิ่งจื้อหลิน ไม่มีทางปฏิเสธได้อยู่แล้ว

ถึงแม้ว่าทางการหวาเซียจะยังปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับไม่มี การแพร่งพรายแต่อย่างใด ทว่าคนที่ทํางานกับพวกสหพันธ์โด นั้น เรื่องของจอมยุทธ์ย่อมไม่ได้แปลกใจกันมากนัก ครอบครัว ของพวกเขา โดยส่วนใหญ่ต่างรู้เรื่องการมีตัวตนอยู่ของจอม ยุทธ์

ดังนั้นเพิ่งเส้นฟางจะมาเข้าดูการประลองฝีมือการเดิมพันนั้น ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ขอแค่เพิ่งเส้นฟางไม่อัดวิดีโอ ไม่ถ่ายรูป ไม่เอาเรื่องการ ประลองฝีมือป่าวประกาศออกไป ทางด้านสหพันธ์บูโดก็ทำได้ แค่เอามือปิดตาไว้ข้างหนึ่งเท่านั้นเอง

เพิ่งจื้อหลินคิดว่าตนเองจะเอาครอบครัวของเพิ่งเส้นฟาง เข้าไปอย่างง่ายดาย แต่ใครจะคิดเล่า มาถึงตรงนี้แล้ว เพิ่งเย็น ฟางดันตกใจกับคำพูดของเขาจนยอมถอยกลับซะงั้น

“เส้นฟาง พี่ใหญ่พูดก็แค่จะทำให้แกตกใจเท่านั้นเอง จอม ยุทธ์ไม่สามารถจะฟาด ใครตายได้ตามสบายใจ” หวางหงอี้ยม ให้อย่างขมขึ้น เมื่อเห็นว่าโดยปกติเพิ่งเส้นฟางจะเป็นใครใจ กล้ากว่าใครๆ เสียอีก แต่เมื่อพูดถึงเรื่องที่เอาชีวิตตนเองไปเกี่ยวข้องแล้ว ความกล้าบ้าบิ่นของเธอมันหดลงยิ่งกว่าตัวหนูซะ อีก

“หงอี้พูดถูกแล้ว จอมยุทธไม่สามารถที่จะเที่ยวไปฟาดใครให้ สายได้ แต่ว่า ต้องเตือนเอาไว้ว่าแกอย่าไปก่อเรื่องให้เขา เพิ่งจื้อหลินพูดอย่างเบื่อหน่าย เมื่อครู่ที่เขาพูดออกมานั้นย่อม เป็นการเพิ่งเส้นฟางให้ตกใจไว้ก่อน ไม่คิดเลยว่า เพิ่งเส้นฟาง จะเอาเรื่องนั้นมาคิดเป็นจริง

“ฉันจะไม่ไปยุ่มย่ามแน่นอน ฉันจะไม่ไปก่อเรื่อง!” เพิ่งเส้นฟาง รีบทําท่าทางรับประกันกับเรื่องนี้

“พอแล้ว เข้าไปด้านในกันเถอะ”

เผิงจื่อหลินส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็เดินเข้าไปเป็นคนแรก พอมาหน้าประตูวิลล่า คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบหลายคนนั้นก็ โค้งตัวทําความเคารพทันที “พี่เพิ่ง

“มีคนที่น่าสงสัยไหม?” เพิ่งจื้อหลินเอามือไพล่หลังกวาดตา มองพวกเขาอยู่แวบหนึ่ง แล้วถามกลับ เขาทำงานอยู่ในตำแหน่ง ผู้บริหารระดับสูงของสหพันธ์บูโดจงไห่ ด้วยตำแหน่งหน้าที่ เขา ตำแหน่งยังสูงกว่าเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่รับผิดชอบตรวจตราที่อยู่ตรง หน้าหลายคนนี้อยู่อีกขั้น

“ตอนนี้ยังไม่พบ” เจ้าหน้าที่สามัญทั่วไปมองมาที่เพิ่งจื้อหลิน แล้วตอบคําถาม

งั้นดี” เพิ่งจื้อหลินพยักหน้าให้ พร้อมทั้งชี้มาทางพวกของเพิ่งเย็นฟางและหวางหงอี้ แล้วพูดว่า “พวกเขาเป็นน้องสาวและ น้องเขย และ หลานสะใภ้กับหลานเขยของฉัน ก่อนหน้านี้ ฉันได้ ให้พวกเขาเอาโทรศัพท์และกล้องออกจากตัวก่อน แต่ว่า เพื่อ ความปลอดภัยกันไว้ก่อน พวกแกก็ต้องตรวจสอบใช่หรือไม่

คนที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่สามัญทั่วไปนั้นมองมาที่เพิ่งเย็น ฟางแวบหนึ่ง ยิ้มให้แล้วพูดว่า “ไม่ต้องตรวจแล้ว พี่เพิ่งเป็นคนที่ ให้ฉันเชื่อถือได้ พวกคุณเข้าไปด้านในเถอะ”